ผมมีเรื่องส่วนตัว ที่จะเล่า
ตอนนี้ผมอายุ 23 เรียนจบ เกษตรศาสตร์ ม. ทางภาคเหนือ
ผมมีความฝัน ความตั้งใจที่จะเป็น ground ในสนามบิน ณ เวลานี้ผมจะเริ่มงาน วันที่ 3 เมษายน สายการบินหนึ่งในประเทศไทย
คำถามคือ
ก่อนที่จะได้งานนี้ที่ผมเป็นความฝัน ผมผ่านอะไรมาบ้าง
1. ผมเริ่มมีความฝันและความตั้งใจตั้งแต่ปี 1 เทอม 2 ซึ่งตอนนั้น ผลการเรียนผมตกต่ำอย่างถึงที่สุด ตกต่ำชนิดที่ว่า ผมติด f วิชา ที่คนทั้งคณะไม่ติดกัน
แล้วที่ซวยกว่านั้นคือ วิชานั้น เปลี่ยนรหัส ทำให้ต้องเปิดวิชารหัสเดิมเผื่อมาสอนผมคนเดียว -*-
2. ถึงแม้ว่าจะดั้งด้นจบมาได้ ในเวลา 4 ปีครึ่ง แต่เกรดเฉลี่ย เพียง 2.36 ทำให้หางานตรงสายได้ยาก บริษัทด้านการเกษตรชั่นนำ ปฏิเสธที่จะรับ
3. ผมเริ่มย้อนกลับมามองตัวเอง ตลอดเวลาที่คิดจะเดินตามความฝัน ผมมองทุกสิ่งทุกอย่างจากคนรอบข้างเสมอ มองด้วยสายตาเดียวกับที่เพื่อนๆมองผม
ดูถูก คิดว่ายังไงๆคงไม่มีทางทำได้ อาชีพนี้ต้องหน้าตาดี ภาษาต้องเก่ง
ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป ผมหันมามองตัวเองจากจุดที่ผมยืนอยู่ มองตัวเองให้ดีว่าผมมีอะไรที่จะช่วยให้ความฝันผมเป็นจริง มองตัวเองว่าผมยังขาดอะไร
ผมเริ่มรู้ว่า ผมมีภาษา ยังไม่ถึงกับเก่ง แต่นับว่าไม่น้อยหน้าเพื่อนในวัยเดียวกัน ผมเริ่มใช้จุดนี้ เป็นเชือกเส้นแรก ผมเริ่มที่จะพัฒนาจุดนี้อย่างจริงจัง
4. ผมสมัครงานโรงแรม ที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก รายได้ 7500 ต่อเดือนเข้างาน 2 กะ บ่าย เลิกเที่ยงคืน 3 วัน และเที่ยงคืนเลิกเช้า 3 วัน ไม่มีวันหยุด
ทุกคนดูถูกผม แน่นอนแม้แต่ลูกค้า บางคนคิดว่าผมจบ ม6 -*- ลูกค้าบางท่านไม่อยากคุยกับผม ผมเริ่มมองหาคนต่างชาติ หน้าด้านคุยมันเข้าไป
ผมทำงานโรงแรมอยู่เกือบ 9 เดือน แล้วก็ออกมา เพราะคิดว่า งานโรงแรม ผมยังได้ภาษาไม่มากพอ
5. ผมมาสมัครงานบริษัททัวร์ ทำงานได้ประมาณ 4 เดือน ในระหว่าง 4 เดือนนี้ผมได้อะไรมากมายจริงๆ ผมไม่เคยคิดอยากเป็น sale แต่เจ้า นายบังคับให้ ทำ จำเป็นครับ 555+
6. ผมไม่เคยทิ้งความฝัน ทางด้านสายการบิน ทุกครั้งที่มีข่าวการสมัครผมจะไปสอบถามถึงที่ หน้าด้านมันเข้าไป
ณ วันนี้ผมไม่เสียใจกับความหน้าด้านของผมเลย 555+ ถึงสิ่งที่ผมได้รับตอนนี้จะไม่ยิ่งใหญ่ในสายตาหลายๆคน แต่ผม happy มาก มันเป็นมากกว่าแค่งาน แต่มันคือความฝันที่ผมทุ่มเท อดทนมาตลอด 1 ปีเต็ม ผมแค่อยากเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ท้อแท้ เบื่อหน่ายกับความฝัน
อย่าทอดทิ้งมันครับ ถึงมันจะไกลแค่ไหน แต่ถ้าเราไม่หยุดเดินสักวันมันต้องถึง ผมไม่รู้ว่าอนาคตผมจะเป็นยังไง แต่ผมกล้าพูดเลยว่าผมจะเต็มที่กับมัน ทุ่มเท อดทนให้มากที่สุด
ขอบคุณครับ
ปล อาจเขียนไม่เก่งกระทู้สาระครั้งแรกครับ
ผมมีเรื่องเล่า เป็นความภูมิใจเล็กๆ และเป็นกำลังใจนิดๆ ให้คนท้อแท้
ตอนนี้ผมอายุ 23 เรียนจบ เกษตรศาสตร์ ม. ทางภาคเหนือ
ผมมีความฝัน ความตั้งใจที่จะเป็น ground ในสนามบิน ณ เวลานี้ผมจะเริ่มงาน วันที่ 3 เมษายน สายการบินหนึ่งในประเทศไทย
คำถามคือ
ก่อนที่จะได้งานนี้ที่ผมเป็นความฝัน ผมผ่านอะไรมาบ้าง
1. ผมเริ่มมีความฝันและความตั้งใจตั้งแต่ปี 1 เทอม 2 ซึ่งตอนนั้น ผลการเรียนผมตกต่ำอย่างถึงที่สุด ตกต่ำชนิดที่ว่า ผมติด f วิชา ที่คนทั้งคณะไม่ติดกัน
แล้วที่ซวยกว่านั้นคือ วิชานั้น เปลี่ยนรหัส ทำให้ต้องเปิดวิชารหัสเดิมเผื่อมาสอนผมคนเดียว -*-
2. ถึงแม้ว่าจะดั้งด้นจบมาได้ ในเวลา 4 ปีครึ่ง แต่เกรดเฉลี่ย เพียง 2.36 ทำให้หางานตรงสายได้ยาก บริษัทด้านการเกษตรชั่นนำ ปฏิเสธที่จะรับ
3. ผมเริ่มย้อนกลับมามองตัวเอง ตลอดเวลาที่คิดจะเดินตามความฝัน ผมมองทุกสิ่งทุกอย่างจากคนรอบข้างเสมอ มองด้วยสายตาเดียวกับที่เพื่อนๆมองผม
ดูถูก คิดว่ายังไงๆคงไม่มีทางทำได้ อาชีพนี้ต้องหน้าตาดี ภาษาต้องเก่ง
ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป ผมหันมามองตัวเองจากจุดที่ผมยืนอยู่ มองตัวเองให้ดีว่าผมมีอะไรที่จะช่วยให้ความฝันผมเป็นจริง มองตัวเองว่าผมยังขาดอะไร
ผมเริ่มรู้ว่า ผมมีภาษา ยังไม่ถึงกับเก่ง แต่นับว่าไม่น้อยหน้าเพื่อนในวัยเดียวกัน ผมเริ่มใช้จุดนี้ เป็นเชือกเส้นแรก ผมเริ่มที่จะพัฒนาจุดนี้อย่างจริงจัง
4. ผมสมัครงานโรงแรม ที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก รายได้ 7500 ต่อเดือนเข้างาน 2 กะ บ่าย เลิกเที่ยงคืน 3 วัน และเที่ยงคืนเลิกเช้า 3 วัน ไม่มีวันหยุด
ทุกคนดูถูกผม แน่นอนแม้แต่ลูกค้า บางคนคิดว่าผมจบ ม6 -*- ลูกค้าบางท่านไม่อยากคุยกับผม ผมเริ่มมองหาคนต่างชาติ หน้าด้านคุยมันเข้าไป
ผมทำงานโรงแรมอยู่เกือบ 9 เดือน แล้วก็ออกมา เพราะคิดว่า งานโรงแรม ผมยังได้ภาษาไม่มากพอ
5. ผมมาสมัครงานบริษัททัวร์ ทำงานได้ประมาณ 4 เดือน ในระหว่าง 4 เดือนนี้ผมได้อะไรมากมายจริงๆ ผมไม่เคยคิดอยากเป็น sale แต่เจ้า นายบังคับให้ ทำ จำเป็นครับ 555+
6. ผมไม่เคยทิ้งความฝัน ทางด้านสายการบิน ทุกครั้งที่มีข่าวการสมัครผมจะไปสอบถามถึงที่ หน้าด้านมันเข้าไป
ณ วันนี้ผมไม่เสียใจกับความหน้าด้านของผมเลย 555+ ถึงสิ่งที่ผมได้รับตอนนี้จะไม่ยิ่งใหญ่ในสายตาหลายๆคน แต่ผม happy มาก มันเป็นมากกว่าแค่งาน แต่มันคือความฝันที่ผมทุ่มเท อดทนมาตลอด 1 ปีเต็ม ผมแค่อยากเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ท้อแท้ เบื่อหน่ายกับความฝัน
อย่าทอดทิ้งมันครับ ถึงมันจะไกลแค่ไหน แต่ถ้าเราไม่หยุดเดินสักวันมันต้องถึง ผมไม่รู้ว่าอนาคตผมจะเป็นยังไง แต่ผมกล้าพูดเลยว่าผมจะเต็มที่กับมัน ทุ่มเท อดทนให้มากที่สุด
ขอบคุณครับ
ปล อาจเขียนไม่เก่งกระทู้สาระครั้งแรกครับ