ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าที่ได้มาอเมริกาดินแดนแห่งเสรีภาพและโอกาสเนื่องจากมาโครงการ Work and travel Program พึ่งมาได้สองอาทิตย์แต่ว่าก็มีเรื่องราวมากมายที่อยากจะแบ่งปัน ตอนแรกก็อัพในสเตตัสเฟสบุ๊คอยู่ดีๆแต่เพื่อนก็ทักแชทเฟสมาว่าทำไมไม่เอาลงเว็บอื่นบ้างล่ะ อะไรแบบนี้ เลยตัดสินใจลองลงที่พันทิปเป็นที่แรก ฮ่าๆๆ นอกจากนี้ยังจะได้บันทึกเรื่องต่างๆไม่ให้ตัวเองลืมอีกด้วย เพราะเป็นคนที่ขี้ลืมสุดๆ อันที่จริงไม่ใช่อะไรเห็นกระทู้ออแพร์เยอะมาก เลยคิดว่า WAT ต้องไม่ยอมแพ้ (หลอกๆ)
เรื่องดีดีเรื่องแรกในอเมริกา.
หลังจากที่ถึงเมืองที่ทำงานก็รอเพื่อนเพื่อไปวอลมาร์ทด้วยกัน กว่าจะได้ไปก็ทุ่มกว่าแล้ว กว่าจะซื้อของเสร็จก็เกือบห้าทุ่ม โทรหาแท็กซี่หลายสายก็ไม่ยอมรับ ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าจะทำไง แต่ก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองแพนิค คิดว่าเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นดี แล้วคราวนี้มีเพื่อนที่ไปด้วยกันที่พึ่งรู้จักคุยกะคนแปลกหน้า(คนเมกซิโก)(พี่เขาพูดสเปนได้นิดหน่อย) จะขอเขาติดรถไปด้วย ตอนแรกเขาก็จะส่งกลางทาง แต่ไปๆมาๆเขาก็ไปส่งถึงโรงแรม ซึ่งประเด็นคือ ของนี่เต็มรถเข็นสี่ห้าคันใหญ่ๆ แล้วเขาก็ช่วยขนขึ้นรถ ช่วยขนลงรถ ส่วนข้างหลังก็นั่งอัดกันเป็นปลากระป๋อง พวกเราเลยตัดสินใจว่าจะช่วยเขาออกเงินค่ามาส่งคนละ 5 ดอล แต่พอจะให้จริงๆเขาไม่เอาเงินสักดอล บอกว่าไม่เป็นไรๆ อย่างเดียว คือเอาจริงกล้าไปได้ไงไม่รู้ มีแต่ผู้หญิงล้วน ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำดีแท้ หวังว่าในอนาคตจะได้เจอแต่คนดีๆแบบนี้อีก.
ความโง่ของกะเหรี่ยงไทยในอเมริกา.
เมื่อวันก่อนที่ไปวอลมาร์ทก็ไปซื้อของใช้เข้าบ้านหนึ่งในนั้นคือน้ำยาล้างจาน ซื้อด้วยความมั่นใจเต็มที่เพราะเห็นรูปจานแล้วมันวิ้งๆ แถมซื้อขนาดใหญ่มหึมากะว่าใช้สามชาติก็ยังไม่หมด เช้าวันถัดมา จะใช้น้ำยาล้างจานเรื่องโง่เรื่องแรกคือแกยะยังไงก็แกะไม่ออก ลองทุกวิถีทางแล้วก็ยังไม่ออก สุดท้ายตัดสินใจกับเพื่อนว่าจะให้เคาเคอร์โรงแรมช่วยแกะให้ เคาเตอร์ก็สอนว่าเปิดยังไงๆ เสร็จปุป เขาก็พูดว่า ยูจะใช้ dish washer? หรอ นี่มันสำหรับ dish washer เท่านั้นนะ พร้อมกับชี้ให้อ่านฉลาก เรากับเพื่อนก็มองหน้ากันแล้วเออะ! เรื่องโง่เรื่องที่สอง = = เคาเตอร์เลยบอกว่า ยูเอาไปคืนได้นะ ภายในสามเดือนแล้วจะได้เงินคืนมา เรากับเพื่อนก็มองหน้ากันอีก เพราะว่าทางเดียวที่จะไปวอลมาร์ทได้คือต้องนั่งแทกซี่ มันไกลจากที่พักมากก เคาเตอร์เห็นแล้วคงสมเพช เลยเสนอตัวว่า ยูฝากไอไปก็ได้ เดี๋ยวจะไปเปลี่ยนให้เพราะเป็นทางผ่านอยู่แล้ว ส่วนวันนี้เอาของไอไปใช้ก่อน เราก็บอกว่าถ้าใช้เสร็จแล้วเดี๋ยวเอาไปคืนนะ เขาบอก ไม่เป็นไร เอาไปได้เลย
ป.ล. เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ควรอ่านฉลากให้ดีก่อนเลือกซื้อของ.
Saint Patrick's Day in my town.
วันสำคัญของเมื่อวานคือการที่เราใช้ชีวิตในเมืองนี้เป็นวันที่สอง (หลอกๆ) เป็นวัน saint Patrick's day เขาเป็นนักบุญของศาสนาคริสต์ที่สามารถชักชวนผู้คนมากมายให้หันมานับถือศาสนาคริสต์ได้ ตอนแรกเป็นวันสำคัญของชาวไอร์แลนด์เท่านั้น แต่หลังจากมีการแพร่กระจายทางวัฒนธรรมด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการอพยพย้ายถิ่นฐาน บลาๆ ประเทศต่างๆเช่น อังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลียก็รับเอาวันนี้เป็นวันสำคัญด้วย โดยในวันนี้จะมีขบวนพาเหรด ทุกคนจะใส่เสื้อผ้าสีเขียว ใครไม่ใส่นี่แปลกแยกมาก ใส่หมวกแชมร็อก(คนที่ดูหรออ่านแฮร์รี่ภาคสี่จะคุ้นเคย) ระหว่างพาเหรดเคลื่อนขบวน ผู้คนในขบวนจะโยนของแจกตามทาง เช่น ขนม ลูกอม สร้อยร้อยลูกปัด ยันของใช้ในครัวเรือน เช่น แปรงสีฟัน กระติกน้ำ แต่ส่วนใหญ่เขาจะแจกเด็กๆ เด็กๆจะไปนั่งข้างหน้าแล้วรอรับขนม ประมาณนั้น
ปล เราก็อยากได้บ้าง จะเก็บไว้เป็นที่ระทึก เอ้ย ระลึก แต่ก็ถูกเมินตลอด หันไปบ่นกับเพื่อนเป็นภาษาไทย จนฝรั่งข้างๆคงรำคาญ บอกว่า อะยูเอาของไอไปเหอะ เกรียนมาก555555 เราเป็นสายแมคเคีลยเวลลี่ คำนึงถึงเป้าหมายโดยไม่สนวิธีการ
มีอะไรสงสัยหรืออยากจะแบ่งปันก็คุยกันได้ ไม่กัดๆ ฉีดยาเรียบร้อยแล้ว ฮ่าาาาาา : ))))
เรื่องเล่าของกะเหรี่ยงไทยในอเมริกา Part 1
เรื่องดีดีเรื่องแรกในอเมริกา.
หลังจากที่ถึงเมืองที่ทำงานก็รอเพื่อนเพื่อไปวอลมาร์ทด้วยกัน กว่าจะได้ไปก็ทุ่มกว่าแล้ว กว่าจะซื้อของเสร็จก็เกือบห้าทุ่ม โทรหาแท็กซี่หลายสายก็ไม่ยอมรับ ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าจะทำไง แต่ก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองแพนิค คิดว่าเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นดี แล้วคราวนี้มีเพื่อนที่ไปด้วยกันที่พึ่งรู้จักคุยกะคนแปลกหน้า(คนเมกซิโก)(พี่เขาพูดสเปนได้นิดหน่อย) จะขอเขาติดรถไปด้วย ตอนแรกเขาก็จะส่งกลางทาง แต่ไปๆมาๆเขาก็ไปส่งถึงโรงแรม ซึ่งประเด็นคือ ของนี่เต็มรถเข็นสี่ห้าคันใหญ่ๆ แล้วเขาก็ช่วยขนขึ้นรถ ช่วยขนลงรถ ส่วนข้างหลังก็นั่งอัดกันเป็นปลากระป๋อง พวกเราเลยตัดสินใจว่าจะช่วยเขาออกเงินค่ามาส่งคนละ 5 ดอล แต่พอจะให้จริงๆเขาไม่เอาเงินสักดอล บอกว่าไม่เป็นไรๆ อย่างเดียว คือเอาจริงกล้าไปได้ไงไม่รู้ มีแต่ผู้หญิงล้วน ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำดีแท้ หวังว่าในอนาคตจะได้เจอแต่คนดีๆแบบนี้อีก.
ความโง่ของกะเหรี่ยงไทยในอเมริกา.
เมื่อวันก่อนที่ไปวอลมาร์ทก็ไปซื้อของใช้เข้าบ้านหนึ่งในนั้นคือน้ำยาล้างจาน ซื้อด้วยความมั่นใจเต็มที่เพราะเห็นรูปจานแล้วมันวิ้งๆ แถมซื้อขนาดใหญ่มหึมากะว่าใช้สามชาติก็ยังไม่หมด เช้าวันถัดมา จะใช้น้ำยาล้างจานเรื่องโง่เรื่องแรกคือแกยะยังไงก็แกะไม่ออก ลองทุกวิถีทางแล้วก็ยังไม่ออก สุดท้ายตัดสินใจกับเพื่อนว่าจะให้เคาเคอร์โรงแรมช่วยแกะให้ เคาเตอร์ก็สอนว่าเปิดยังไงๆ เสร็จปุป เขาก็พูดว่า ยูจะใช้ dish washer? หรอ นี่มันสำหรับ dish washer เท่านั้นนะ พร้อมกับชี้ให้อ่านฉลาก เรากับเพื่อนก็มองหน้ากันแล้วเออะ! เรื่องโง่เรื่องที่สอง = = เคาเตอร์เลยบอกว่า ยูเอาไปคืนได้นะ ภายในสามเดือนแล้วจะได้เงินคืนมา เรากับเพื่อนก็มองหน้ากันอีก เพราะว่าทางเดียวที่จะไปวอลมาร์ทได้คือต้องนั่งแทกซี่ มันไกลจากที่พักมากก เคาเตอร์เห็นแล้วคงสมเพช เลยเสนอตัวว่า ยูฝากไอไปก็ได้ เดี๋ยวจะไปเปลี่ยนให้เพราะเป็นทางผ่านอยู่แล้ว ส่วนวันนี้เอาของไอไปใช้ก่อน เราก็บอกว่าถ้าใช้เสร็จแล้วเดี๋ยวเอาไปคืนนะ เขาบอก ไม่เป็นไร เอาไปได้เลย
ป.ล. เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ควรอ่านฉลากให้ดีก่อนเลือกซื้อของ.
Saint Patrick's Day in my town.
วันสำคัญของเมื่อวานคือการที่เราใช้ชีวิตในเมืองนี้เป็นวันที่สอง (หลอกๆ) เป็นวัน saint Patrick's day เขาเป็นนักบุญของศาสนาคริสต์ที่สามารถชักชวนผู้คนมากมายให้หันมานับถือศาสนาคริสต์ได้ ตอนแรกเป็นวันสำคัญของชาวไอร์แลนด์เท่านั้น แต่หลังจากมีการแพร่กระจายทางวัฒนธรรมด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการอพยพย้ายถิ่นฐาน บลาๆ ประเทศต่างๆเช่น อังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลียก็รับเอาวันนี้เป็นวันสำคัญด้วย โดยในวันนี้จะมีขบวนพาเหรด ทุกคนจะใส่เสื้อผ้าสีเขียว ใครไม่ใส่นี่แปลกแยกมาก ใส่หมวกแชมร็อก(คนที่ดูหรออ่านแฮร์รี่ภาคสี่จะคุ้นเคย) ระหว่างพาเหรดเคลื่อนขบวน ผู้คนในขบวนจะโยนของแจกตามทาง เช่น ขนม ลูกอม สร้อยร้อยลูกปัด ยันของใช้ในครัวเรือน เช่น แปรงสีฟัน กระติกน้ำ แต่ส่วนใหญ่เขาจะแจกเด็กๆ เด็กๆจะไปนั่งข้างหน้าแล้วรอรับขนม ประมาณนั้น
ปล เราก็อยากได้บ้าง จะเก็บไว้เป็นที่ระทึก เอ้ย ระลึก แต่ก็ถูกเมินตลอด หันไปบ่นกับเพื่อนเป็นภาษาไทย จนฝรั่งข้างๆคงรำคาญ บอกว่า อะยูเอาของไอไปเหอะ เกรียนมาก555555 เราเป็นสายแมคเคีลยเวลลี่ คำนึงถึงเป้าหมายโดยไม่สนวิธีการ
มีอะไรสงสัยหรืออยากจะแบ่งปันก็คุยกันได้ ไม่กัดๆ ฉีดยาเรียบร้อยแล้ว ฮ่าาาาาา : ))))