Rollei เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์กล้องจากเยอรมันตั้งแต่ปี 1920 จริงๆแล้วผมเองก็ไม่รู้จักยี่ห้อนี้มาก่อน (กบในกะลาจริงๆ) แต่จากการหาข้อมูลเรื่องกล้องติดรถมาปีกว่าๆ ประกอบกับพอมั่วๆภาษาเยอรมันได้บ้าง เลยทำให้เริ่มหาข้อมูลได้มากขึ้น
CarDVR-110 เป็นกล้องที่มี หน้าจอในตัว (แต่สามารถตั้งเวลาให้ดับแต่หน้าจอขณะที่บันทึกภาพได้), GPS, Speed, FullHD 30 fps, Microphone, รับ microSDได้สูงสุด 32GB, รับประกัน 2 ปี บลาๆๆ
จริงๆแล้ว กล้องตัวนี้ผมจะซื้อไว้ติดรถแฟนผม แต่หลังจากที่ได้ดูรีวิวจากหลายๆที่แล้ว รู้สึกว่าอยากจะยึดมาใช้เองซะแล้ว เอิ้กๆๆ
ก่อนอื่น ขอออกตัวแบบล้อฟรีทิ้งก่อนเลยว่า รีวิวนี้แค่ลองแกะกล่องก่อนนะครับ ผมยังไม่มีโอกาสได้ไปลองกะรถจริงๆ ดังนั้น ดูคลิปจาก youtube ที่ฝรั่งเค้ารีวิวไปก่อนเด้อ
นอกจากนี้ผมขอรีวิวแบบบ้านๆนะครับ เพราะจากที่ใช้กล้องติดรถตัวเก่าของจีน (เป็นแบบแนบปะกับกระจกมองหลัง ซึ่งมีข้อดีคือ ถ้าไม่สังเกต จะไม่เห็นเลยว่ามีกล้องอยู่) ซึ่งใช้มาแล้วประมาณปีกว่าๆ เลยพอทำให้เห็นว่าเราต้องพิจารณาดูตรงไหนบ้าง อีกทั้งผมมองว่า พวกตัวเลขต่างๆมันไม่ค่อยสำคัญเท่า output ที่ได้มาเท่าไหร่นัก
เริ่มกันเลยดีกว่าว่า Rollei CarDVR-110 มีอะไรและเป็นไงบ้าง
กล่องด้านนอกจะมีด้วยกัน 2 ภาษา คือ Deutsch กะ English แต่ที่ก้นกล่องเค้าเขียนไว้อยู่ว่า ในคู่มือมีภาษาอะไรบ้าง แต่ที่แน่ๆ ไม่มีภาษาจากเอเซียเลย เอาเป็นว่า ใครถนัดภาษาไหนก็เลือกเอาได้ตามใจชอบ
พอแกะกล่องออก จะพบด้านในมีตัวกล้องวางโชว์ไว้ด้านบน ลองเทียบกับ SS Note 2 แล้วก็ได้ดังรูป ไม่เล็ก ไม่ใหญ่
ด้านข้าง มีพอร์ตหลายแบบ (ดูรูปเอาเองแล้วกันเด้อ แต่คงมีคนบ่นแน่เลยว่ารูปมืด ไม่เห็นอะไร)
พอแกะด้านล่างออกมาอีก จะพบตัวยึดกระจก, รีโมท, สายชาร์ต ใบรับประกัน และเล่มคู่มือ
เท่าที่อ่านคู่มือผ่านๆ พบว่าเขียนไว้ค่อนข้างละเอียดทีเดียว แต่ผมก็ยังไม่ได้ลองตามคู่มือจริงๆกะรถผม เอ้ย! รถแฟนผมนะครับ
ผมลองเอาตัวกล้องติดกะขายึดดูว่ามันแน่นหนา โยกคลอนมั้ย ปรากฏว่า บระเจ้า มันแน่นมาก มากซะจนผมเกือบจะปลดไม่ออก เพราะตอนแรกก็กลัวว่าสลักพลาสติกที่ขายึดมันจะหัก ผมต้องงมกับการถอดตัวกล้องอยู่เกือบ 10 นาที เพราะไม่กล้ากดสลักเพื่อปลดล็อกแรงเกินไป จนสุดท้ายออกแรงเต็มที่ถึงจะออก แต่พอถอดออกแล้วก็พบว่าสลักก็ไม่ได้มีร่องรอยการหักงอของพลาสติกให้เห็นเลย แสดงว่าเนื้อพลาสติกที่ใช้นั้น แข็งแต่เหนียวดีจริงๆ
ตัวขายึด สามารถประได้ 2 จุดคือ จุดแรก จะปรับการก้มเงยของตัวจุ๊บติดกระจก ซึ่งจะมีร่องฟันเล็กๆเพื่อกันการรูดตัว ส่วนอีกจุดคือ ปรับตำแหน่งของกล้องโดยใช้การยึดแบบ ball joint ซึ่งก็แน่นหนาดีเช่นกัน ข้อเสียอย่างนึงจากขายึดแบบนี้ใน คหสต. ของผมคือ เวลาติดกล้องที่กระจกแล้ว มันจะห้อยๆขวางหูขวางตาพอสมควร
ลองมาดู clip ที่ฝรั่งเค้าลองกัน
Clip เปิดกล่อง
http://youtu.be/vdX9HLoyMdU
clip แปะกล้องกับกระจกและเดินสายชาร์ต
http://youtu.be/y4-oV2YGDuM
clip ฟังชั่นคร่าวๆในกล้อง (รุ่นนี้ เป็น CarDVR-100 จะไม่มี GPS)
http://youtu.be/S6b6o_JBwtc
clip กลางวันบนถนนในฝันของหลายๆคน
http://youtu.be/yNSokE4vGxQ
clip กลางคืนบนถนนในฝันของหลายๆคน
http://youtu.be/7kbG4zowp4A
clip ครึ้มและมีฝน
http://youtu.be/maQjs1U9qcA
clip สว่างแล้วมืด มืดแล้วสว่าง
http://youtu.be/VNsoeBGXukU
clip กลางคืน + ฝนปรอยๆ
http://youtu.be/bvLuTl3BDXE
จะเห็นว่า ถ้าเปิดดูไฟล์ปกติ จะมีแค่วัน เวลา พิกัด กับความเร็ว ที่แสดงบนภาพเท่านั้น แต่ถ้าใช้ Software เสริม ซึ่งผมก็ยังหาข้อมูลอยู่ว่าใช้ตัวไหน ถึงมี G sensor, throttle, brake, altitude, route tracking ตามคลิป ซึ่งที่ดูๆแล้ว สามารถเอาไปประยุกต์ใช้ในการแข่งรถในสนามแข่งได้ดีทีเดียว ซึ่งผมว่ามาเจ๋งมาก
สนนราคาทั้งสิ้น 129 ยูโร หรือโดยประมาณ 5,500 บาท บวกลบตามเรตเงิน ผมซื้อจาก Saturn ครับ เค้าวางในกระบะกองของเหมือนเวลามีของ sale ตามห้างบ้านเราเลย
จบแล้วครับ รีวิวแรกแบบกากๆ ไว้พอมีเวลาแล้วเดี๋ยวจะมารีวิวต่อว่า พอมาเจอสภาพแสงตามถนนบ้านเรา และอากาศร้อนๆแล้วจะเป็นยังไงบ้าง
[CR] กล้องติดรถ Rollei
CarDVR-110 เป็นกล้องที่มี หน้าจอในตัว (แต่สามารถตั้งเวลาให้ดับแต่หน้าจอขณะที่บันทึกภาพได้), GPS, Speed, FullHD 30 fps, Microphone, รับ microSDได้สูงสุด 32GB, รับประกัน 2 ปี บลาๆๆ
จริงๆแล้ว กล้องตัวนี้ผมจะซื้อไว้ติดรถแฟนผม แต่หลังจากที่ได้ดูรีวิวจากหลายๆที่แล้ว รู้สึกว่าอยากจะยึดมาใช้เองซะแล้ว เอิ้กๆๆ
ก่อนอื่น ขอออกตัวแบบล้อฟรีทิ้งก่อนเลยว่า รีวิวนี้แค่ลองแกะกล่องก่อนนะครับ ผมยังไม่มีโอกาสได้ไปลองกะรถจริงๆ ดังนั้น ดูคลิปจาก youtube ที่ฝรั่งเค้ารีวิวไปก่อนเด้อ
นอกจากนี้ผมขอรีวิวแบบบ้านๆนะครับ เพราะจากที่ใช้กล้องติดรถตัวเก่าของจีน (เป็นแบบแนบปะกับกระจกมองหลัง ซึ่งมีข้อดีคือ ถ้าไม่สังเกต จะไม่เห็นเลยว่ามีกล้องอยู่) ซึ่งใช้มาแล้วประมาณปีกว่าๆ เลยพอทำให้เห็นว่าเราต้องพิจารณาดูตรงไหนบ้าง อีกทั้งผมมองว่า พวกตัวเลขต่างๆมันไม่ค่อยสำคัญเท่า output ที่ได้มาเท่าไหร่นัก
เริ่มกันเลยดีกว่าว่า Rollei CarDVR-110 มีอะไรและเป็นไงบ้าง
กล่องด้านนอกจะมีด้วยกัน 2 ภาษา คือ Deutsch กะ English แต่ที่ก้นกล่องเค้าเขียนไว้อยู่ว่า ในคู่มือมีภาษาอะไรบ้าง แต่ที่แน่ๆ ไม่มีภาษาจากเอเซียเลย เอาเป็นว่า ใครถนัดภาษาไหนก็เลือกเอาได้ตามใจชอบ
พอแกะกล่องออก จะพบด้านในมีตัวกล้องวางโชว์ไว้ด้านบน ลองเทียบกับ SS Note 2 แล้วก็ได้ดังรูป ไม่เล็ก ไม่ใหญ่
ด้านข้าง มีพอร์ตหลายแบบ (ดูรูปเอาเองแล้วกันเด้อ แต่คงมีคนบ่นแน่เลยว่ารูปมืด ไม่เห็นอะไร)
พอแกะด้านล่างออกมาอีก จะพบตัวยึดกระจก, รีโมท, สายชาร์ต ใบรับประกัน และเล่มคู่มือ
เท่าที่อ่านคู่มือผ่านๆ พบว่าเขียนไว้ค่อนข้างละเอียดทีเดียว แต่ผมก็ยังไม่ได้ลองตามคู่มือจริงๆกะรถผม เอ้ย! รถแฟนผมนะครับ
ผมลองเอาตัวกล้องติดกะขายึดดูว่ามันแน่นหนา โยกคลอนมั้ย ปรากฏว่า บระเจ้า มันแน่นมาก มากซะจนผมเกือบจะปลดไม่ออก เพราะตอนแรกก็กลัวว่าสลักพลาสติกที่ขายึดมันจะหัก ผมต้องงมกับการถอดตัวกล้องอยู่เกือบ 10 นาที เพราะไม่กล้ากดสลักเพื่อปลดล็อกแรงเกินไป จนสุดท้ายออกแรงเต็มที่ถึงจะออก แต่พอถอดออกแล้วก็พบว่าสลักก็ไม่ได้มีร่องรอยการหักงอของพลาสติกให้เห็นเลย แสดงว่าเนื้อพลาสติกที่ใช้นั้น แข็งแต่เหนียวดีจริงๆ
ตัวขายึด สามารถประได้ 2 จุดคือ จุดแรก จะปรับการก้มเงยของตัวจุ๊บติดกระจก ซึ่งจะมีร่องฟันเล็กๆเพื่อกันการรูดตัว ส่วนอีกจุดคือ ปรับตำแหน่งของกล้องโดยใช้การยึดแบบ ball joint ซึ่งก็แน่นหนาดีเช่นกัน ข้อเสียอย่างนึงจากขายึดแบบนี้ใน คหสต. ของผมคือ เวลาติดกล้องที่กระจกแล้ว มันจะห้อยๆขวางหูขวางตาพอสมควร
ลองมาดู clip ที่ฝรั่งเค้าลองกัน
Clip เปิดกล่อง
http://youtu.be/vdX9HLoyMdU
clip แปะกล้องกับกระจกและเดินสายชาร์ต
http://youtu.be/y4-oV2YGDuM
clip ฟังชั่นคร่าวๆในกล้อง (รุ่นนี้ เป็น CarDVR-100 จะไม่มี GPS)
http://youtu.be/S6b6o_JBwtc
clip กลางวันบนถนนในฝันของหลายๆคน
http://youtu.be/yNSokE4vGxQ
clip กลางคืนบนถนนในฝันของหลายๆคน
http://youtu.be/7kbG4zowp4A
clip ครึ้มและมีฝน
http://youtu.be/maQjs1U9qcA
clip สว่างแล้วมืด มืดแล้วสว่าง
http://youtu.be/VNsoeBGXukU
clip กลางคืน + ฝนปรอยๆ
http://youtu.be/bvLuTl3BDXE
จะเห็นว่า ถ้าเปิดดูไฟล์ปกติ จะมีแค่วัน เวลา พิกัด กับความเร็ว ที่แสดงบนภาพเท่านั้น แต่ถ้าใช้ Software เสริม ซึ่งผมก็ยังหาข้อมูลอยู่ว่าใช้ตัวไหน ถึงมี G sensor, throttle, brake, altitude, route tracking ตามคลิป ซึ่งที่ดูๆแล้ว สามารถเอาไปประยุกต์ใช้ในการแข่งรถในสนามแข่งได้ดีทีเดียว ซึ่งผมว่ามาเจ๋งมาก
สนนราคาทั้งสิ้น 129 ยูโร หรือโดยประมาณ 5,500 บาท บวกลบตามเรตเงิน ผมซื้อจาก Saturn ครับ เค้าวางในกระบะกองของเหมือนเวลามีของ sale ตามห้างบ้านเราเลย
จบแล้วครับ รีวิวแรกแบบกากๆ ไว้พอมีเวลาแล้วเดี๋ยวจะมารีวิวต่อว่า พอมาเจอสภาพแสงตามถนนบ้านเรา และอากาศร้อนๆแล้วจะเป็นยังไงบ้าง