อินโดฯ เปิดเมกะโปรเจคท์ 14 ล้านล้าน ลุยพัฒนาระบบขนส่งในประเทศ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม  
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ LAKORNHD Thaitv (Official) สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

            อินโดนีเซียประกาศเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 14 ล้านล้านบาท มากกว่า พ.ร.บ.กู้เงินของไทยที่พับแผนไปถึง 7 เท่า ดันรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง หวังก้าวขึ้นเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลก

            เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2557 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า ขณะนี้ประเทศไทยและประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศในกลุ่มประเทศอาเซียน กำลังเกิดประเด็นให้เปรียบเทียบกันในเรื่องของการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง เมื่อประเทศอินโดนีเซียประกาศเดินหน้าแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ด้วยงบประมาณถึง 4.68 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทย 14 ล้านล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ ประเทศไทยเพิ่งจะล้มแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ จำนวน 2 ล้านล้านบาท หรือที่เรียกติดปากว่า พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทไปเมื่อไม่นานมานี้ หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้โครงการนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

            ทั้งนี้ ในเว็บไซต์มติชนออนไลน์ ได้เปิดพิมพ์เขียวการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของอินโดนีเซีย มูลค่า 14 ล้านล้านบาท ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อก้าวสู่การเป็นประเทศชั้นนำทางเศรษฐกิจโลก ระบุว่า ปัญหาหนึ่งของกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของประเทศอินโดนีเซีย คือปัญหาการจราจรที่ติดขัดอย่างหนักตลอดทั้งวัน เนื่องจากมีประชากรถึง 26 ล้านคน แต่ยังขาดระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพ ทำให้ประชาชนเลือกที่จะใช้รถส่วนตัวในการเดินทาง และปัญหาการขนส่งที่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการยังได้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ที่เหลือของเกาะชวาซึ่งมีประชากรกว่า 135 ล้านคนด้วย

     ไม่ใช่แค่ที่กรุงจาการ์ตา แต่ปัญหาการจราจรยังเกิดขึ้นในเมืองใหญ่อื่น ๆ เช่น บันดุง เซมารัง และสุราบายา ด้วย ขณะที่โครงข่ายรถไฟระหว่างเมืองยังเป็นรถไฟทางเดี่ยวและระบบอาณัติสัญญาณที่ล้าสมัย การที่ระบบขนส่งไม่เอื้ออำนวยนี้ ส่งผลให้ต้นทุนด้านโลจิสติกส์เพิ่มสูงขึ้นเป็นร้อยละ 17 และยังส่งผลต่อราคาสินค้าภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้นด้วย ในขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วมีต้นทุนโลจิสติกส์เพียงร้อยละ 10 เท่านั้น

            ทั้งนี้ การที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก คือ 250 ล้านคน ประกาศเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ด้วยเม็ดเงินที่มากกว่าประเทศไทยถึง 7 เท่านั้น เป็นเพราะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเกาะ จึงต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลเพื่อที่จะพัฒนารถไฟในเกาะต่าง ๆ ภายในระยะเวลา 11 ปี ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งจากทางถนนมาเป็นระบบรางมากที่สุด เพื่อช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัด และช่วยในการขนส่งสินค้า นอกจากนี้ ในแผนแม่บทดังกล่าวยังจะมีการสร้างรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง อีกด้วย

            สำหรับในเรื่องของการลงทุนนั้น โดยปกติแล้วจะดำเนินการโดยภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจ แต่เนื่องจากโครงการนี้ต้องใช้งบประมาณมหาศาล จึงจะมีการเปิดให้รัฐบาลท้องถิ่นร่วมลงทุนกับรัฐบาลกลาง พร้อมกับดึงภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทด้วย ซึ่งรัฐบาลเตรียมจะส่งเสริมให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนด้วย 3 วิธีการ คือ

             1. การพิจารณาให้ภาครัฐร่วมลงทุนกับเอกชนในรูปแบบสัมปทาน โดยภาครัฐจะให้การสนับสนุนทางการเงินผ่านกองทุน หรืออาจค้ำประกันเงินกู้ผ่านกองทุนค้ำประกันให้

             2. จัดตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือเขตการค้าเสรี โดยมีมาตรการผ่อนปรนทางภาษีให้มากขึ้น และให้ความสะดวกเป็นพิเศษในการออกใบอนุญาตต่าง ๆ

             3. ออกใบอนุญาตพิเศษให้เอกชนในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

            อย่างไรก็ตาม ในแผนแม่บทดังกล่าวยังไม่ได้มีการระบุว่าจะกู้เงินจากแหล่งใดมาใช้ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ที่ใช้งบประมาณสูงถึง 14 ล้านล้านบาทนี้
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอที่มา kapook
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่