เผยความเป็นไปได้กัปตัน MH370 ก่อวินาศกรรม หลังมีปัญหาครอบครัว
ทีมสืบสวน MH370 สันนิษฐานกัปตันชาห์อาจก่อวินาศกรรมบนเครื่อง ด้านเพื่อนสนิทเผยกัปตันเพิ่งแยกทางกับภรรยาก่อนบินและเครียดกับปัญหาชีวิต
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2557 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ รายงานความคืบหน้าการสืบสวนเหตุ MH370 ดิ่งมหาสมุทรอินเดียว่า ทีมสืบสวนกำลังพุ่งเป้าไปที่สภาพจิตใจของกัปตันซาฮารี อาหมัด ชาห์ หลังพบความเป็นไปได้ว่ากัปตันอาจควบคุมเครื่องบินไต่ระดับสูงถึง 45,000 ฟุต ระหว่างหายไปจากเรดาร์ ซึ่งนั่นเป็นระดับที่จะทำให้ขาดออกซิเจน สันนิษฐานกัปตันอาจจงใจก่อเหตุโดยวางแผนไว้ล่วงหน้า
รายงานระบุว่า ทีมสืบสวนเหตุเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส MH370 สูญหาย กำลังสืบสวนความเป็นไปได้เกี่ยวกับปัญหาสภาพจิตของกัปตันซาฮารี อาหมัด ชาห์ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนเส้นทางบินก่อนตกลงในมหาสมุทรอินเดีย หลังจากเรดาร์ของกองทัพอากาศมาเลเซียตรวจพบว่า MH370 บินที่ความสูงระหว่าง 43,000-45,000 ฟุต หลังระบบสื่อสารจากห้องนักบินถูกปิดไป และยังคงบินในระดับดังกล่าวอีก 23 นาที ก่อนเครื่องบินจะลดระดับลงมา
จากข้อมูลเรดาร์ดังกล่าว ทำให้ผู้เชี่ยวชาญในวงการการบินหลายคนเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกันว่า หากว่าตามข้อสันนิษฐานนี้ ผู้โดยสารบนเครื่องบินน่าจะหมดสติหลังจากเปลี่ยนเส้นทางการบินเพียงไม่นานนัก เพราะถ้าเครื่องบินบินในระดับ 43,000-45,000 ฟุต เพียง 12 นาที ออกซิเจนบนเครื่องก็น่าจะหมดแล้ว แต่ MH370 บินอยู่ในระดับดังกล่าวนานถึง 23 นาที ก่อนลดระดับการบินลง
สำหรับข้อสันนิษฐานดังกล่าว รอน บิชอป หัวหน้าการบินจากมหาวิทยาลัยเซ็นทรัล ควีนส์แลนด์ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า หลังจากนักบินเปลี่ยนเส้นทางบิน และไต่ระดับการบินสูงสุดถึง 45,000 ฟุตแล้ว นักบินเองก็น่าจะหมดสติเช่นกัน แต่ที่เครื่องบินลดระดับลงได้หลังจากนั้น อาจเป็นเพราะนักบินเปลี่ยนไปใช้ระบบการบินอัตโนมัติ หรือออโต้ ไพลอต ก่อนหมดสติ จึงทำให้เครื่องบินบินไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีจุดหมาย จนกระทั่งน้ำมันหมดและตกลงกลางมหาสมุทรอินเดีย
ขณะเดียวกัน ด้านเพื่อนนักบินของกัปตันชาห์ ที่คบหากันมานาน ได้ออกมาเปิดเผยว่า จริง ๆ แล้วกัปตันชาห์เป็นนักบินที่เยี่ยมยอด แต่ก่อนที่กัปตันชาห์จะบินเที่ยวบินดังกล่าว เขามีสภาพจิตใจที่ไม่ปกตินัก เพราะเพิ่งแยกทางกับภรรยา หลังภรรยาจับได้ว่ากัปตันชาห์แอบคบชู้ และเธอก็ได้ตัดสินใจหอบลูกหนีออกจากบ้านก่อนหน้านั้น 1 วัน อาจเป็นไปได้เหมือนกันว่า ด้วยสภาพจิตเช่นนี้ เขาอาจทำอะไรที่เลวร้ายลงไปอย่างไม่คาดคิดมาก่อน
อย่างไรก็ดี นี่เป็นเพียงข้อสันนิษฐานทฤษฎีหนึ่งในหลาย ๆ ทฤษฎีเท่านั้น ทีมสืบสวนยังคงทำงานกันอย่างต่อเนื่องเพื่อไขปริศนาการหายไปของเที่ยวบิน MH370 นี้ ขณะที่ทีมค้นหาเองก็เริ่มปฏิบัติการค้นหาซากเครื่องบินในมหาสมุทรอินเดียอีกครั้งในวันนี้ (26 มี.ค.) หลังจากที่วานนี้ได้ยุติการค้นหาชั่วคราว เพราะสภาพอากาศเลวร้าย
ขอบคุณที่มาจาก :
http://hilight.kapook.com/view/99841
คุณคิดว่า "เครื่องบิน MH370" โดน "กัปตันชาห์" ก่อวินาศกรรมบนเครื่อง เพราะ "ปัญหาครอบครัว" ตามข่าวจริงหรือไม่
ทีมสืบสวน MH370 สันนิษฐานกัปตันชาห์อาจก่อวินาศกรรมบนเครื่อง ด้านเพื่อนสนิทเผยกัปตันเพิ่งแยกทางกับภรรยาก่อนบินและเครียดกับปัญหาชีวิต
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2557 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ รายงานความคืบหน้าการสืบสวนเหตุ MH370 ดิ่งมหาสมุทรอินเดียว่า ทีมสืบสวนกำลังพุ่งเป้าไปที่สภาพจิตใจของกัปตันซาฮารี อาหมัด ชาห์ หลังพบความเป็นไปได้ว่ากัปตันอาจควบคุมเครื่องบินไต่ระดับสูงถึง 45,000 ฟุต ระหว่างหายไปจากเรดาร์ ซึ่งนั่นเป็นระดับที่จะทำให้ขาดออกซิเจน สันนิษฐานกัปตันอาจจงใจก่อเหตุโดยวางแผนไว้ล่วงหน้า
รายงานระบุว่า ทีมสืบสวนเหตุเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส MH370 สูญหาย กำลังสืบสวนความเป็นไปได้เกี่ยวกับปัญหาสภาพจิตของกัปตันซาฮารี อาหมัด ชาห์ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนเส้นทางบินก่อนตกลงในมหาสมุทรอินเดีย หลังจากเรดาร์ของกองทัพอากาศมาเลเซียตรวจพบว่า MH370 บินที่ความสูงระหว่าง 43,000-45,000 ฟุต หลังระบบสื่อสารจากห้องนักบินถูกปิดไป และยังคงบินในระดับดังกล่าวอีก 23 นาที ก่อนเครื่องบินจะลดระดับลงมา
จากข้อมูลเรดาร์ดังกล่าว ทำให้ผู้เชี่ยวชาญในวงการการบินหลายคนเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกันว่า หากว่าตามข้อสันนิษฐานนี้ ผู้โดยสารบนเครื่องบินน่าจะหมดสติหลังจากเปลี่ยนเส้นทางการบินเพียงไม่นานนัก เพราะถ้าเครื่องบินบินในระดับ 43,000-45,000 ฟุต เพียง 12 นาที ออกซิเจนบนเครื่องก็น่าจะหมดแล้ว แต่ MH370 บินอยู่ในระดับดังกล่าวนานถึง 23 นาที ก่อนลดระดับการบินลง
สำหรับข้อสันนิษฐานดังกล่าว รอน บิชอป หัวหน้าการบินจากมหาวิทยาลัยเซ็นทรัล ควีนส์แลนด์ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า หลังจากนักบินเปลี่ยนเส้นทางบิน และไต่ระดับการบินสูงสุดถึง 45,000 ฟุตแล้ว นักบินเองก็น่าจะหมดสติเช่นกัน แต่ที่เครื่องบินลดระดับลงได้หลังจากนั้น อาจเป็นเพราะนักบินเปลี่ยนไปใช้ระบบการบินอัตโนมัติ หรือออโต้ ไพลอต ก่อนหมดสติ จึงทำให้เครื่องบินบินไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีจุดหมาย จนกระทั่งน้ำมันหมดและตกลงกลางมหาสมุทรอินเดีย
ขณะเดียวกัน ด้านเพื่อนนักบินของกัปตันชาห์ ที่คบหากันมานาน ได้ออกมาเปิดเผยว่า จริง ๆ แล้วกัปตันชาห์เป็นนักบินที่เยี่ยมยอด แต่ก่อนที่กัปตันชาห์จะบินเที่ยวบินดังกล่าว เขามีสภาพจิตใจที่ไม่ปกตินัก เพราะเพิ่งแยกทางกับภรรยา หลังภรรยาจับได้ว่ากัปตันชาห์แอบคบชู้ และเธอก็ได้ตัดสินใจหอบลูกหนีออกจากบ้านก่อนหน้านั้น 1 วัน อาจเป็นไปได้เหมือนกันว่า ด้วยสภาพจิตเช่นนี้ เขาอาจทำอะไรที่เลวร้ายลงไปอย่างไม่คาดคิดมาก่อน
อย่างไรก็ดี นี่เป็นเพียงข้อสันนิษฐานทฤษฎีหนึ่งในหลาย ๆ ทฤษฎีเท่านั้น ทีมสืบสวนยังคงทำงานกันอย่างต่อเนื่องเพื่อไขปริศนาการหายไปของเที่ยวบิน MH370 นี้ ขณะที่ทีมค้นหาเองก็เริ่มปฏิบัติการค้นหาซากเครื่องบินในมหาสมุทรอินเดียอีกครั้งในวันนี้ (26 มี.ค.) หลังจากที่วานนี้ได้ยุติการค้นหาชั่วคราว เพราะสภาพอากาศเลวร้าย
ขอบคุณที่มาจาก : http://hilight.kapook.com/view/99841