ทู้ต่อเนื่องครับ ขอขอบคุณ คุณ "1289549" และคุณ "นิแรน" ขอสนทนาต่ออีกนิดครับ

จากกระทู้  http://pantip.com/topic/31820317

คุณ 1289549  ครับ


เรื่องทักษิณคิดถึงประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ของประชาชน
เรื่องนี้ผมเห็นว่า "มีความเป็นไปได้" ครับ    แต่หากบอกว่า "ใช่"   มันก็มองคนแบบอคติเกินไปครับ
อีกอย่าง  คุณสมบัตินักการเมืองนั้น  คิดถึงตัวเองก่อนประชาชนเสมอครับ  นักการเมืองทั้งโลก
ยกเว้นไม่กี่คนที่มีชื่อจารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์

จากที่ติดตามทักษิณมา
เริ่มต้น  ผมเห็นว่าทักษิณจริงจังและจริงใจครับ
ตอนนั้นใคร ๆ ก็เชื่อใจเขา  เพราะเบื่อ ปชป. และการเมืองแบบเก่า ๆ เต็มที
พอไทยรักไทยมา "คิดใหม่ ทำใหม่" ก็เลยเริ่มต้นได้สวยมาก ๆ

ทักษิณนั้น  พอเป็นนายกฯเมื่อ 2544  ก็มีการพบปะพูดคุยกับนักธุรกิจหลายคน  หลายกลุ่ม  หลายครั้งเป็นประจำครับ
ข่าวคราวบอกว่า  นักธุรกิจไว้ใจทักษิณถึงกล้าขนาดพูดกับทักษิณตรง ๆ ว่า มีคนในพรรค มีญาติ ๆ ไปไถพวกเขา
ทักษิณได้ยินได้รู้นี่  หูแดงเลยครับ  เพราะโมโหที่มีคนไปทำแบบนั้น

แต่กาลเวลาผ่านไปแค่สองปี   ทักษิณก็เปลี่ยนไป
แพ้อำนาจ  แพ้ "เศรษฐกิจการเมือง" ที่ต้องควักทุนมาก  ไม่งั้นเอาไม่อยู่

อย่างที่ผมเคยบอกเป็นประจำครับ
ทักษิณไม่ใช่เทวดาที่ไหน  เขาก็แค่ "ผลิตผลคนหนึ่ง" ของสังคมการเมืองธุรกิจแบบไทย ๆ
อาจตั้งใจจริงเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมือง  แต่พอเข้าสู่วังวนวงจรอุบาทว์แล้วก็เปลี่ยนไป

สิ่งที่ผมชอบทักษิณ  คือการทำงานครับ   กล้าตัดสินใจ  กล้าคิด  กล้าทำ  
ถึงเขาจะมีจุดด้อย  มีจุดบกพร่อง  มันก็เป็นเรื่องธรรมดา ๆ ของคน ๆ หนึ่งที่เป็นได้ไม่ว่าใคร
แต่ผมมองว่าเขาเหนือกว่านักการเมืองคนอื่น  ทำงานให้บ้านเมืองได้

คนมาทำงานให้บ้านเมืองนั้น  อย่าไปฝันเลยครับว่าจะได้ "คนดี" แบบที่โฆษณาชวนเชื่อกันอยู่นี่
ผมมองว่าในสังคมการเมืองและข้าราชการไทย  ล้วนเลว ๆ กันทั้งนั้นครับ
จะเลวน้อย  หรือเลวมากเท่านั้นเอง
โดยเฉพาะไอ้พวก "คนดี" ทั้งหลายน่ะ  ผมมองว่า "เลวบัดซบ" เลยครับ  เลวกว่านักการเมืองที่ว่าโกง ๆ ซะอีก

เรื่องที่โจมตีทักษิณว่าโกง  ว่างั้นว่างี้   ผมว่าบางทีมันก็ไม่เป็นธรรมกับเขานัก
เป็นการใช้ความเกลียดบวกความเชื่อเป็นหลัก
ดูได้เลยครับ   มีแต่คำกล่าวหา  ใส่ร้าย  แต่พอชวนถกเนื้อหา  ก็ไม่ถกสักที
มีแต่ด่ากลับว่า  ยิ้มไอ้แม้ว

เรื่องคำวินิจฉัย  คำตัดสินของศาลการเมือง
อันนี้ผมเห็นว่า "เชื่อได้" ครับ
แต่หมายถึงศาลการเมืองที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา  ทำงานเป็นไปตามตัวบทและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
ไม่ใช่ทำงานตามธงการเมือง   ยกตัวอย่างศาลรัฐธรรมนูญแหลหะครับ  ผิดเพี้ยนบิดเบี้ยวไปหมด
เรื่องนี้  เรื่องศาลรัฐธรรมนูญหลุดโลกนี่  ผมตั้งใจจะเขียนลงเพจพรุ่งนี้ครับ (ไม่ได้โคดสะนา  แค่บอกให้รู้ล่วงหน้า  หัวเราะ)

มันเลยทำให้องค์กรเสียหายครับ
เพราะ "คน" ไม่ใช่ตัวองค์กร
คนที่ตัดสินพิพากษาวินิจฉัยออกมาแบบไร้หลัก  มีเป้าหมาย มีวาระซ่อนเร้นทางการเมือง
มันเลยทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ



คุณนิแรน  ครับ


เรื่องนักการเมืองโอนกิจการให้นิติบุคคลบริหารแทน  ผมเห็นด้วยครับ
ก็คงเป็นอย่างคุณว่าครับ  คือวัฒนธรรมการเมืองไทยเรายังไม่มี  ไม่มีเพราะการเมืองเราต่างจากการเมืองต่างประเทศ
ต่างประเทศเขาเล่นกันแฟร์ ๆ ครับ  หาเงินบริจาคยังไง  ใช้เท่าไร  นักการเมืองแต่ละพรรคจะผูกพันกับประชาชนอย่างไร
แต่ของไทยเรา มันกลับมีแต่วัฒนธรรมใช้เงินเป็นหลัก
พรรคก็ต้องมีทุนลับ ๆ  ใช้เท่าไรบอกไม่ได้  นักการเมืองก็ต้องใช้เงินในการซื้อเสียงเลี้ยงดูหัวคะแนน
วัฒนธรรมการโอนกิจการให้นิติบุคคลทำแทนมันจึงเกิดไม่ได้

เรื่องนี้  ก็ต้องรอครับ   รอว่าจะมีใครกล้าทำเป็นตัวอย่างแบบเปิดเผย แฟร์ ๆ

แต่ก็อย่าลืมครับ  วัฒนธรรมการเมืองไทย   ถึงให้นิติบุคคลบริหารแทน
จะมีอะไรเป็นหลักประกันว่า  นักการเมืองจะไม่เข้าไปยุ่มย่าม

คิดแล้วเหนื่อยครับ

เรื่องทักษิณมีผลประโยชน์ทับซ้อน  ไม่ว่าจะเรื่องนโยบาย  เรื่องแก้กฎหมาย
เรื่องนี้ผมก็เห็นด้วย

แต่ที่ผมยังเถียงแทนทักษิณอยู่ทุกวันนี้  ก็เพราะผมเห็นว่า  การจะเล่นงานเขานั้น  ต้องใช้หลักอันถูกต้องครับ
เขาออกนโยบาย  ออกกฎหมายเอื้อธุรกิจตนเอง  
ตรงนี้ก็ต้องดูครับ  ว่าสิ่งที่เขาทำนี่  มัน "ผิดกฎหมาย" ไหม
หากไม่ผิด  ก็ต้องปล่อยเขาไปครับ  ไม่ใช่ไปบิดกฎหมายเอาผิดให้ได้  มันไม่แฟร์ครับ
ที่สำคัญ  มันทำให้หลักความเป็นธรรมของบ้านเมืองเสียหาย
ซึ่งเสียหายกว่าทักษิณออกกฎหมายออกนโยบายเป็นร้อยเป็นพันเท่า

นักการเมืองที่เข้าบริหารประเทศทุกคนในโลกที่มีธุรกิจ  ก็มักจะเป็นแบบนี้ครับ  คือออกกฎระเบียบเอื้อให้ตัวเองและพวก
ที่ไม่น่าเกลียดก็หยวน ๆ กันไป   ที่น่าเกลียดก็เล่นกันหนัก   ที่เกินเลยถึงขั้นผิดกฎหมายก็ถึงขั้นมีอันเป็นไป
กรณีทักษิณนี่  สิ่งที่เขาทำ  ผมมองว่าเขาได้ประโยชน์แน่ ๆ  แต่ราชการที่เป็นคู่สัญญากับเขา "เสียหายไหม"

อย่างการแปลงสัญญาจากสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต  ก็ด่าเขา  แต่ก็ก็ไม่เห็นแก้กลับ
เรื่องกฎหมายขายหุ้น  ที่เดิมให้ต่างชาติถือได้แค่ 25  เป็นถือได้ 49 (แล้วขายหุ้นให้เทมาเส็ก)
เขาก็ไม่ได้เป็นตัวตั้งตัวตีผลักดัน  มันเป็นความคิดของทีดีอาร์ไอที่ผลักดันมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลชวน
หรือเรื่องหวยบนดิน  ว่าราชการเสียหาย 36000 ล้าน
พอวันนี้  เลิกหวยบนดิน  อ้าวววววว...  ไม่เสียหายกว่าเหรอครับ ?

ส่วนเรื่องราคาหุ้นที่สูงขึ้น
ผมมองว่า  หุ้นชินคอร์ปยังไงมันก็สูงครับ    หลัง 19 ก.ย. 49  โจมตีหนัก  หุ้นมันก็ยังสูงอยู่ดี
หากจะมองว่า เขาใช้อำนาจหน้าที่ปั่นจนสูงแล้วขาย  มันก็เกินไปครับ
กรณีนี้  ผมมองว่าเขาแค่มีส่วนทำให้ "ความน่าเชื่อถือ" ของหุ้นมันสูง  เลยขายได้ราคาดีเท่านั้นครับ

บางทีมันก็ต้องมองอย่างเป็นธรรม
เขาอาจจะมีประโยชน์ทับซ้อน(ไอ้หน้าไหนไม่มีประโยชน์ทับซ้อน)  แต่ก็ต้องดูด้วยว่า  มันผิดกฎหมายไหม
และไม่ใช่การบิดเบือนกฎหมายเอาผิดกัน   มันไม่แฟร์

อย่างเรื่องที่ดินรัชดา  ผมเห็นด้วยครับ  ที่คุณว่าเขาไม่รู้จักพอ   โลภเกินเหตุ
แต่ความโลภ  ไม่ผิดกฎหมายนะครับ
ไม่ผิดกฎหมาย  แต่ใช้การบิดกฎหมายมาเอาผิดกัน   เละเทะสุด ๆ ครับ

ประโยคสุดท้ายของคุณนิแรนที่บอกว่า
"น่าเสียดายที่เขาต้องคำครหาเกี่ยวกับเรื่องการหาผลประโยชน์ใส่ตัวและพวกพ้องเมื่อดำรงตำแหน่งอยู่
ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะได้รับการยกย่องให้เป็นรัฐบุรุษของไทยอีกคนหนึ่ง"


ผมเห็นด้วยครับ  แต่ขอแก้เป็นว่า
"น่าเสียดายที่เขาหาผลประโยชน์ใส่ตัวและพวกพ้องเมื่อดำรงตำแหน่งอยู่
ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะได้รับการยกย่องให้เป็นรัฐบุรุษของไทยอีกคนหนึ่ง"


ขอบคุณ  คุณ 1289549  และคุณนิแรน อีกครั้งครับ   ยินดีที่ได้สนทนากันในเรื่องนี้และเรื่องต่อ ๆ ไป

....


ภาคผนวกบ้องหู


คุณผู้หญิงตัวสูง  ไม่น่าสูงแต่ตัวนะครับ  สติปัญญาควรจะสูงด้วย

เรื่องนี้  ผมไม่ได้บอกว่าผมเชื่ออะไรนะครับ  โดยเฉพาะการที่ว่าผมเชื่อทักษิณลืม เผอเรอ
ไปอ่านเนื้อหาในกระทู้ดูอีกครั้งนะครับ  ผมบอกเรื่อง "ซุก" ไว้ว่ายังไง

ประเด็นคือ  มีการพูดยอกย้อนเสมอว่า  คนเสื่อแดงเวลาศาลตัดสินถูกใจก็ว่าดี  แล้วยกตัวอย่างคดีซุกหุ้นทักษิณมาตลอด
ผมเลยยกรายละเอียดบางส่วนของเนื้อหาทางคดีมาชวนสนทนา  เพื่อให้สาธารณะได้ร่วมกันพิจารณาดูว่าคำตัดสินเป็นธรรมไหม

ก็ลองพิจารณาดูสิครับ  ว่าที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ทักษิณผิดเรื่องนี้น่ะ  มันเป็นธรรมไหม
หากว่าไม่เป็นธรรม  เพราะถือว่าซุกหุ้นคือซุกหุ้น  จะอ้างลืมไม่ได้  ต้องผิด
ถ้าคิดแบบนี้  นายชวนก็ไม่เหลือครับ
เพราะตอนนั้นนายชวนก็ลืมแจ้งเรื่องหุ้นของสภามหาลัย(ถ้าผมจำไม่ผิดว่าเป็นหุ้นของสภามหาลัย)
ไม่กี่บาทครับ  ของนายชวนนี่หลักพันบาท
แต่ถ้าถือตามที่บอกว่าจะอ้างลืมไม่ได้  จะอ้างบกพร่องโดยสุจริตไม่ได้
ตอนนั้น  ทั้งแม้วทั้งชวนไปด้วยกันครับ

ส่วนเรื่องขี้แกลบ  ที่บอกว่าผมว่าเป็นไข้  แล้วทำไมนั่งทู่ซี้เฝ้าทู้อยู่
ก็อยากบอกให้รู้ครับ  ผมเอาความเห็นของคุณ คุณพ่อของคุณลูก มาเป็นประเด็นกระทู้
ผมก็เลยต้องนั่งรอคุณ คุณพ่อของคุณลูก
พอคุณ คุณพ่อของคุณลูก  เข้ามาใน คห.18   เห็นว่าไม่มีประเด็นอะไรต้องถกต่อกัน  ผมก็บอกลาไปนอนใน คห.19

เรื่องยังงี้  หากมีสมอง  มีสติปัญญาหน่อย  ไม่ต้องยกมาเป็นประเด็นเหน็บแนมเสียดสีแสดงให้เห็นระดับสติปัญญาเลยครับ



สุดท้าย  ของคุณ คุณ Rational ครับ   แหม ถ้าสาว ๆ จมูกดีได้กลิ่นความหล่อผมเหมือนคุณ Rational ล่ะก็
ผมคงยอมเสียความบริสุทธิ์ไปนานแล้วครับ  ไม่ผุดผ่องมาจนถึงทุกวันนี้หร๊อก

อมยิ้ม16
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  การเมือง นักการเมือง
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่