ออกตัวก่อนว่า ยังไม่เคยใช้สองแบรนด์นี้ แต่
อยากร่วมแสดงความคิดเห็นจากปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ของรถทั้งสองค่ายจนทำให้มีเคสหนักๆ หลายเคสในกระทู้ Pantip
ส่วนตัวเคยใช้แบรนด์จ้าวตลาด และแบรนด์ญี่ปุ่นทั่วๆ ไป จนมาถึงล่าสุด เล็กสุดอย่าง Suzuki
จากที่เคยใช้บริการศูนย์ต่างๆ มา ศูนย์ของแบรนด์ที่มีประสพการณ์มาก สามารถ
ซ่อมบำรุงรักษารถได้ดีและเร็วจริง แต่ก็ไม่ถึง 100% ส่วนตัวให้แค่ 60-70% และถ้าเป็นไปได้ จะขอให้เช็คระยะรถเท่านั้น
ล้างรถเช็ดรถนี่จะสั่งห้ามเลย เพราะมันมักจะได้ของแถมกลับมาเสมอ การพ่นสีห่วยเลอะ part ข้างเคียงกระจาย หรือการตรวจสอบ
เท่าไหร่ก็ไม่พบจุดที่เป็นปัญหาสักที อันนี้เป็นกันทุกค่าย
"แต่ยังดีที่ตัวรถยังไม่ค่อยมีปัญหา ให้ต้องเข้าศูนย์บริการ (ที่ทำให้สยองทุกครั้ง ว่าจะทำอะไรรถเราเจ๊งอีกรึเปล่า) บ่อย"
ปีนึงเข้าเช็คระยะครั้งสองครั้งเท่านั้น นี่คือรถญี่ปุ่น
พอมามองโลกแห่งความเป็นจริง
ศูนย์เหล่านั้นก็ไม่ใช่เซียนหรือเทวดาจากที่ไหน ที่จะมาแก้ปัญหาของตัวรถได้ทุกอย่าง ก็ต้องฝากความหวังไว้ที่
โรงงานว่า ออกแบบและประกอบมาดีพอ ที่ตัวรถจะไม่เกิดปัญหาอะไรนัก เพราะเมื่อมันมีปัญหาหนักๆ ขึ้นมาทีนึง ต่อให้เป็นรถตลาด
ก็ไม่รอด ศูนย์แก้ไขอะไรไม่ได้ ยกตัวอย่าง คุณโฮจุนไง
ทุกวันนี้ รถหลายๆ คันที่เกิดเป็นเคสปัญหาขึ้นมาของ Ford, Chevrolet ยิ่งทำให้เจ้าของรถ
ต้องเข้าศูนย์บ่อยแค่ไหน ยิ่งไม่เป็นผลดี เพราะถ้ามองจากตัวอย่างที่พูดมาข้างต้น ศูนย์รถไม่ใช่เทวดา มีซ่อมเป็น ซ่อมไม่เป็น
มีมั่วบ้าง มีทำให้รถเสียมากขึ้นบ้าง ถ้ายิ่งได้เข้าน้อยแค่ไหนก็ยิ่งดี ขอแค่เข้าตอนเช็คระยะแค่นั้นพอแล้ว (!)
พอมีปัญหากับศูนย์ Ford หรือ Chev ส่วนใหญ่ที่ comment กันคือ รถดี ศูนย์บริการห่วย
ที่จริงประโยคดังกล่าวอาจใช้ได้กับ Nissan Mitsu หรือ Mazda คือรถดี ไม่ค่อยเสีย แต่พอเข้าศูนย์บริการที บริการห่วยมาก
จนบางครั้งความเชื่อของยูซเซอร์กับคำว่ารถดี ศูนย์บริการห่วย ทำให้ โรงงาน Ford, Chev ย่ามใจมากไปรึเปล่า ?
ว่าผลงานจากโรงงานของฉันดี แต่ที่ไม่ดีคือศูนย์บริการ ดังนั้น ฝ่ายดังกล่าว ต้องรับผิดชอบไป ไม่เกี่ยวกับฉัน
เหมือนตัวเองเป็นผู้สร้างสินค้าที่มีปัญหา แต่กลับรอดตัว โยนความรับผิดชอบให้ศูนย์บริการเป็นจำเลยไปซะเต็มๆ
ยังไง ทุกวันนี้ คนก็ยังพูดว่า Ford, Chev คือรถดี
คำว่ารถดี ก็แล้วแต่คนนิยามอีก เช่น ขับสนุกช่วงล่างดีoption เยอะ นี่คือรถดี
แต่ปัญหาคือ ค่ายรถนั้นๆ อาจจะไม่มีวันไปถึงคำว่า "มีคุณภาพที่ดีน่าเชื่อถือและไว้ใจได้"
และปล่อยให้คนที่เจอเรื่องเดือดร้อนจาก defect สาปส่ง ส่วนคนที่ยังไม่เจอปัญหา ก็หลงอยู่ในภาพอีกภาพนึง
เหมือนเป็นเกราะป้องกันให้ฝ่ายโรงงานไม่มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ในการแก้ไขปัญหา part defect อย่างจริงจัง
จากประสพการณ์ส่วนตัวที่ใช้รถ Suzuki
เมื่อสัมผัสรถ และเมื่อใช้งานมาระยะนึง และเข้าศูนย์เช็คระยะตามกำหนด พบว่า มันไม่ใช่
รถที่ถึกทนเท่าจ้าวตลาดเลย และผมภาวนาว่าขอให้มันอย่ามีปัญหาจนต้องเข้าศูนย์
เพราะความมือใหม่นี่หละทำให้มันน่ากลัวกว่าปกติหลายเท่า และยังดีที่ สินค้าจากโรงงานคันนี้
ยังไม่สร้างปัญหา แต่ผมรู้สึกลึกๆ ว่า มันจะต้องมาแน่สักวัน น่าจะไปเร็วกว่าจ้าวตลาดแน่นอน
ดังนั้นสิ่งที่เราควรตระหนักคือ ศูนย์ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่ศูนย์จ้าวตลาด ก็ใช่ว่าจะดีเลิศเพอร์เฟ็คท์
แต่โชคดีที่ตัวรถตัวของมันเองไม่เสียง่าย ไม่ต้องเข้าศูนย์บ่อย ดังนั้น
ปัญหาที่สำคัญของ Ford และ Chev ผมว่า ปัญหาศูนย์บริการก็แค่ส่วนหนึ่ง
แต่ปัญหาหลักนั้นมาจากตัวรถ ที่ผลิตออกมาแล้ว ต้องกลับมาเข้าศูนย์ หรือถูกยกกลับเข้าศูนย์ ง่ายๆ บ่อยๆ เกินไป (สำหรับหลายๆ คนที่เจอปัญหา)
และถ้าจะมองลึกไปยิ่งกว่านั้น เราไม่รู้เลยว่า รถที่อัด option มามากมายขนาดนั้น
มีวัสดุชิ้นส่วนที่สัมผัสและมองด้วยตาดีขนาดนั้น อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์และเกียร์ขนาดนั้น
แต่ยังสามารถขายถูกกว่ารถญี่ปุ่นแทบทุกรุ่นได้
"มันไปลดต้นทุนกันส่วนไหน ???"
คุณต้องถอดชิ้นส่วนมันออกมาทีละชิ้น ถึงจะตอบได้
ผมจะยินดียิ่งกว่า ถ้า Ford และ Chev สร้างรถที่เหนือระดับมาตรฐาน มากกว่าเป็นรถที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยี
สินค้าโรงงานควรจะ มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ และไว้ใจได้ QC ต้องให้ถึง 100% หรือใกล้เคียง แต่ถ้าทำไม่ได้ก็เท่ากับ
เป็นโรงงานที่ล้มเหลว แล้วรถที่หลุด QC มามากมาย เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า ฝ่ายโรงงานต้องปรับปรุงมากมายขนาดไหน
แล้วคนซื้อที่เจอปัญหาไปทั้งที่เจอกับตัวเอง เจอกับคนรู้จัก หรือแค่เสพย์ข้อมูลทางเน็ต เข้าใจกับคำว่า "รถดี" แล้วหรือยัง ?
รถดีคงไม่ได้หมายถึงรถของจ้าวตลาด
แต่เป็นรถรุ่นหนึ่ง ที่อาจจะเป็นยี่ห้อไหนก็ได้ แต่มีทั้งสมรรถนะ มีทั้งความแข็งแรงทนทาน ไว้ใจได้ และปลอดภัย
ลองนึกว่าคุณเพิ่งมาเปิดศูนย์เพื่อขายรถ Ford หรือ Chev หลังจากที่เคยขายรถญี่ปุ่นทั่วๆ ไปมาก่อน
แล้วคุณมาเจอเคสหนักๆ ของลูกค้าที่ซื้อรถโรงงานมาเข้าศูนย์เพื่อให้ศูนย์แก้ตลอดไม่เว้นวาย
แถม defect เหล่านั้น ยังไม่เคยมีการแถลงไขปัญหาที่แท้จริงจากโรงงาน ได้แต่ให้แก้ ให้เปลี่ยน part กันไปวันๆ
ต้องคอยรับหน้าลูกค้าเป็นฝูง คอยรองรับอารมณ์ ผมว่า พนักงาน คงเข้าแล้วก็ลาออกกันไปเรื่อยๆ เพราะไม่มีใคร
อยากตกอยู่ในสภาพแบบนั้น "ต้นทาง" คือปัญหาที่ใหญ่ที่สุด และดูเหมือน "ต้นทาง" จะผลักภาระการรับหน้าไว้
ให้ "ปลายทาง" ซึ่งก็คือศูนย์บริการรับเละแต่เพียงผู้เดียว
"ผมว่าดีลเลอร์ถ้ามีทางไป หรือรู้แต่แรก เค้าก็คงไม่อยากขายรถที่มีแต่ปัญหามากมายหรอกครับ"
ทั้งหมดเป็น ความคิดเห็นส่วนตัว จากปัญหาที่เกิดขึ้นในกระทู้ต่างๆ ที่ผ่านมา
เราไม่พูดว่า 100 ทั้ง 100 มีปัญหา ไม่พูดว่า ศูนย์ทุกศูนย์จะเป็นแบบนั้น
แต่เราพูดถึงเฉพาะเคสที่เกิดขึ้นจริง เกิดขึ้นมาแล้ว และยังคงมีอะไรๆ แบบนี้วนเวียนกลับมาเรื่อยๆ
รถของ Ford หรือ Chevrolet เวลามีปัญหา ศูนย์บริการแย่คือจำเลยแต่เพียงผู้เดียว ผมว่าไม่ใช่
อยากร่วมแสดงความคิดเห็นจากปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ของรถทั้งสองค่ายจนทำให้มีเคสหนักๆ หลายเคสในกระทู้ Pantip
ส่วนตัวเคยใช้แบรนด์จ้าวตลาด และแบรนด์ญี่ปุ่นทั่วๆ ไป จนมาถึงล่าสุด เล็กสุดอย่าง Suzuki
จากที่เคยใช้บริการศูนย์ต่างๆ มา ศูนย์ของแบรนด์ที่มีประสพการณ์มาก สามารถ
ซ่อมบำรุงรักษารถได้ดีและเร็วจริง แต่ก็ไม่ถึง 100% ส่วนตัวให้แค่ 60-70% และถ้าเป็นไปได้ จะขอให้เช็คระยะรถเท่านั้น
ล้างรถเช็ดรถนี่จะสั่งห้ามเลย เพราะมันมักจะได้ของแถมกลับมาเสมอ การพ่นสีห่วยเลอะ part ข้างเคียงกระจาย หรือการตรวจสอบ
เท่าไหร่ก็ไม่พบจุดที่เป็นปัญหาสักที อันนี้เป็นกันทุกค่าย
"แต่ยังดีที่ตัวรถยังไม่ค่อยมีปัญหา ให้ต้องเข้าศูนย์บริการ (ที่ทำให้สยองทุกครั้ง ว่าจะทำอะไรรถเราเจ๊งอีกรึเปล่า) บ่อย"
ปีนึงเข้าเช็คระยะครั้งสองครั้งเท่านั้น นี่คือรถญี่ปุ่น
พอมามองโลกแห่งความเป็นจริง
ศูนย์เหล่านั้นก็ไม่ใช่เซียนหรือเทวดาจากที่ไหน ที่จะมาแก้ปัญหาของตัวรถได้ทุกอย่าง ก็ต้องฝากความหวังไว้ที่
โรงงานว่า ออกแบบและประกอบมาดีพอ ที่ตัวรถจะไม่เกิดปัญหาอะไรนัก เพราะเมื่อมันมีปัญหาหนักๆ ขึ้นมาทีนึง ต่อให้เป็นรถตลาด
ก็ไม่รอด ศูนย์แก้ไขอะไรไม่ได้ ยกตัวอย่าง คุณโฮจุนไง
ทุกวันนี้ รถหลายๆ คันที่เกิดเป็นเคสปัญหาขึ้นมาของ Ford, Chevrolet ยิ่งทำให้เจ้าของรถ
ต้องเข้าศูนย์บ่อยแค่ไหน ยิ่งไม่เป็นผลดี เพราะถ้ามองจากตัวอย่างที่พูดมาข้างต้น ศูนย์รถไม่ใช่เทวดา มีซ่อมเป็น ซ่อมไม่เป็น
มีมั่วบ้าง มีทำให้รถเสียมากขึ้นบ้าง ถ้ายิ่งได้เข้าน้อยแค่ไหนก็ยิ่งดี ขอแค่เข้าตอนเช็คระยะแค่นั้นพอแล้ว (!)
พอมีปัญหากับศูนย์ Ford หรือ Chev ส่วนใหญ่ที่ comment กันคือ รถดี ศูนย์บริการห่วย
ที่จริงประโยคดังกล่าวอาจใช้ได้กับ Nissan Mitsu หรือ Mazda คือรถดี ไม่ค่อยเสีย แต่พอเข้าศูนย์บริการที บริการห่วยมาก
จนบางครั้งความเชื่อของยูซเซอร์กับคำว่ารถดี ศูนย์บริการห่วย ทำให้ โรงงาน Ford, Chev ย่ามใจมากไปรึเปล่า ?
ว่าผลงานจากโรงงานของฉันดี แต่ที่ไม่ดีคือศูนย์บริการ ดังนั้น ฝ่ายดังกล่าว ต้องรับผิดชอบไป ไม่เกี่ยวกับฉัน
เหมือนตัวเองเป็นผู้สร้างสินค้าที่มีปัญหา แต่กลับรอดตัว โยนความรับผิดชอบให้ศูนย์บริการเป็นจำเลยไปซะเต็มๆ
ยังไง ทุกวันนี้ คนก็ยังพูดว่า Ford, Chev คือรถดี
คำว่ารถดี ก็แล้วแต่คนนิยามอีก เช่น ขับสนุกช่วงล่างดีoption เยอะ นี่คือรถดี
แต่ปัญหาคือ ค่ายรถนั้นๆ อาจจะไม่มีวันไปถึงคำว่า "มีคุณภาพที่ดีน่าเชื่อถือและไว้ใจได้"
และปล่อยให้คนที่เจอเรื่องเดือดร้อนจาก defect สาปส่ง ส่วนคนที่ยังไม่เจอปัญหา ก็หลงอยู่ในภาพอีกภาพนึง
เหมือนเป็นเกราะป้องกันให้ฝ่ายโรงงานไม่มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ในการแก้ไขปัญหา part defect อย่างจริงจัง
จากประสพการณ์ส่วนตัวที่ใช้รถ Suzuki
เมื่อสัมผัสรถ และเมื่อใช้งานมาระยะนึง และเข้าศูนย์เช็คระยะตามกำหนด พบว่า มันไม่ใช่
รถที่ถึกทนเท่าจ้าวตลาดเลย และผมภาวนาว่าขอให้มันอย่ามีปัญหาจนต้องเข้าศูนย์
เพราะความมือใหม่นี่หละทำให้มันน่ากลัวกว่าปกติหลายเท่า และยังดีที่ สินค้าจากโรงงานคันนี้
ยังไม่สร้างปัญหา แต่ผมรู้สึกลึกๆ ว่า มันจะต้องมาแน่สักวัน น่าจะไปเร็วกว่าจ้าวตลาดแน่นอน
ดังนั้นสิ่งที่เราควรตระหนักคือ ศูนย์ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่ศูนย์จ้าวตลาด ก็ใช่ว่าจะดีเลิศเพอร์เฟ็คท์
แต่โชคดีที่ตัวรถตัวของมันเองไม่เสียง่าย ไม่ต้องเข้าศูนย์บ่อย ดังนั้น
ปัญหาที่สำคัญของ Ford และ Chev ผมว่า ปัญหาศูนย์บริการก็แค่ส่วนหนึ่ง
แต่ปัญหาหลักนั้นมาจากตัวรถ ที่ผลิตออกมาแล้ว ต้องกลับมาเข้าศูนย์ หรือถูกยกกลับเข้าศูนย์ ง่ายๆ บ่อยๆ เกินไป (สำหรับหลายๆ คนที่เจอปัญหา)
และถ้าจะมองลึกไปยิ่งกว่านั้น เราไม่รู้เลยว่า รถที่อัด option มามากมายขนาดนั้น
มีวัสดุชิ้นส่วนที่สัมผัสและมองด้วยตาดีขนาดนั้น อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์และเกียร์ขนาดนั้น
แต่ยังสามารถขายถูกกว่ารถญี่ปุ่นแทบทุกรุ่นได้
"มันไปลดต้นทุนกันส่วนไหน ???"
คุณต้องถอดชิ้นส่วนมันออกมาทีละชิ้น ถึงจะตอบได้
ผมจะยินดียิ่งกว่า ถ้า Ford และ Chev สร้างรถที่เหนือระดับมาตรฐาน มากกว่าเป็นรถที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยี
สินค้าโรงงานควรจะ มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ และไว้ใจได้ QC ต้องให้ถึง 100% หรือใกล้เคียง แต่ถ้าทำไม่ได้ก็เท่ากับ
เป็นโรงงานที่ล้มเหลว แล้วรถที่หลุด QC มามากมาย เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า ฝ่ายโรงงานต้องปรับปรุงมากมายขนาดไหน
แล้วคนซื้อที่เจอปัญหาไปทั้งที่เจอกับตัวเอง เจอกับคนรู้จัก หรือแค่เสพย์ข้อมูลทางเน็ต เข้าใจกับคำว่า "รถดี" แล้วหรือยัง ?
รถดีคงไม่ได้หมายถึงรถของจ้าวตลาด
แต่เป็นรถรุ่นหนึ่ง ที่อาจจะเป็นยี่ห้อไหนก็ได้ แต่มีทั้งสมรรถนะ มีทั้งความแข็งแรงทนทาน ไว้ใจได้ และปลอดภัย
ลองนึกว่าคุณเพิ่งมาเปิดศูนย์เพื่อขายรถ Ford หรือ Chev หลังจากที่เคยขายรถญี่ปุ่นทั่วๆ ไปมาก่อน
แล้วคุณมาเจอเคสหนักๆ ของลูกค้าที่ซื้อรถโรงงานมาเข้าศูนย์เพื่อให้ศูนย์แก้ตลอดไม่เว้นวาย
แถม defect เหล่านั้น ยังไม่เคยมีการแถลงไขปัญหาที่แท้จริงจากโรงงาน ได้แต่ให้แก้ ให้เปลี่ยน part กันไปวันๆ
ต้องคอยรับหน้าลูกค้าเป็นฝูง คอยรองรับอารมณ์ ผมว่า พนักงาน คงเข้าแล้วก็ลาออกกันไปเรื่อยๆ เพราะไม่มีใคร
อยากตกอยู่ในสภาพแบบนั้น "ต้นทาง" คือปัญหาที่ใหญ่ที่สุด และดูเหมือน "ต้นทาง" จะผลักภาระการรับหน้าไว้
ให้ "ปลายทาง" ซึ่งก็คือศูนย์บริการรับเละแต่เพียงผู้เดียว
"ผมว่าดีลเลอร์ถ้ามีทางไป หรือรู้แต่แรก เค้าก็คงไม่อยากขายรถที่มีแต่ปัญหามากมายหรอกครับ"
ทั้งหมดเป็น ความคิดเห็นส่วนตัว จากปัญหาที่เกิดขึ้นในกระทู้ต่างๆ ที่ผ่านมา
เราไม่พูดว่า 100 ทั้ง 100 มีปัญหา ไม่พูดว่า ศูนย์ทุกศูนย์จะเป็นแบบนั้น
แต่เราพูดถึงเฉพาะเคสที่เกิดขึ้นจริง เกิดขึ้นมาแล้ว และยังคงมีอะไรๆ แบบนี้วนเวียนกลับมาเรื่อยๆ