[CR] ตะวัน ลับฟ้า ที่...บาหลี

กระเป๋าเดินทางพร้อม กล้องถ่ายรูปพร้อม ทุกอย่างพร้อม? ป่ะ เราไปเที่ยวบาหลีกันเถอะ



บาหลี เมืองที่ขับเคลื่อนด้วยแรงศรัทธาของผู้คน เมืองที่นักเดินทางหลาย ๆ คนใฝ่ฝันอยากไปเยือนซักครั้ง  รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม บวกกับกลิ่นอายของวัฒนธรรม ศาสนา และประเพณี บอกได้คำเดียวว่า ผมหลงรักบาหลีแล้วครับ
การเดินทางไปบาหลี คนไทยไปได้ง่ายมากไม่ต้องมีวีซ่า ก็สามารถอยู่ได้นาน 30วัน แต่! พาสปอรต์ต้องมีอายุ มากกว่า 6 เดือนนะครับ ขาดแค่วันเดียวก็ไม่ได้ครับ ไม่งั้นโดนส่งกลับแน่นอน  


การเดินทางในครั้งนี้ผมเลือกเดินทางกับสายการบินแอร์เอเชียครับ เพราะได้ตั๋วราคาที่ค่อนข้างถูก และเวลาค่อนค่างดีครับ แอร์เอเชียมีไฟท์บินตรงสู่บาหลีทุกวันครับ ตารางบินขาไป FD2970 DMK(06:05) – DPS(11:25)
ส่วนขากลับจะเป็น  FD2971 DPS(12:00) – DMK(15:15)  

ในวันเดินทาง ผมมาถึงสนามบินค่อนข้างสายเล็กน้อย แต่ไม่กังวลเพราะได้เชคอินออนไลน์มาเรียบร้อย ฮ่าๆ แต่เคาเตอร์ของไฟท์ที่ผมเดินทางใกล้จะปิด ผมจึงเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์สแตนบายปิดไฟท์บาหลีโดยเฉพะ เพื่อโหลดกระเป๋า รวดเร็วทันใจดีครับ พนักงานก็น่ารักและบริการดีมาก  จากนั้นก็ตรงไป ต.ม. และแวะ DUTY FREE ฮ่าๆ นี่ขนาดสายแล้ว


พอถึงเวลา Boarding ก็ขึ้นเครื่องตามปกติ ผมลองแอบส่องว่าวันนี้ บินกับเครื่องตัวไหน  วันนี้บินกับตัว HS-BBF ครับ เป็นเครื่องตัวใหม่แบบ sharkless ต่างจากตัวอื่นคือ ปลายปีกจะตั้งวงขึ้นมาครับ เครื่องใหม่บินสบายใจ ยิ้ม  

เนื่องจากเป็นไฟท์ที่ใช้เวลาบินนาน ผมจึงไม่ลืมที่จะสั่งอาหารล่วงหน้า เพราะราคาถูกกว่าซื้อบนเครื่อง วันนี้ลองชิม ข้าวกระเพราหม่อมหน่อย อร่อยดี ณ ความสูงระดับนี้   บินไปซักพักพนักงานสาวสวยก็เดินมาแจกแบบฟอร์มตรวจคนเข้าเมืองของอินโดนีเชียครับ
หลับๆตื่นๆ ซักพัก ใกล้ถึงแล้วครับ วันนี้มาถึงก่อนเวลาเล็กน้อย  เมื่อผ่านการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยก็ออกไปแลกเงินที่สนามบิน สำหรับค่าแท็กซี่

สำหรับการแลกเงินแนะนำให้ใช้เงินไทย แลกเป็น ดอลล่า แล้วค่อยนำเงินดอลล่าไปแลกเป็นเงินสกุล รูปี ครับ   เที่ยวบาหลีครั้งนี้ เมืองที่ผมเลือกสำหรับทริปคือ อูบุต ครับ  จากสนามบินไปอูบุต ค่าแท็กซี่อยู่ที่ราคา 250,000RP. ครับ โหหห ค่าแท็กซี่เป็นแสน ฮ่าๆ อย่าเพิ่งตกใจครับ ผมมีวิธีคิดเป็นเงินไทยง่ายๆ คือ ตัดเลขท้ายสามตัวทิ้ง ก็จะได้ 250 แล้วนำไปคูณ 3 จะได้ 250x3 = 750 บาท ครับ
นั่งรถเกือบชั่วโมงผ่านทางคดเคี้ยว ถนนแคบๆ พี่แท็กซี่ก็พาเรามาถึงซอยหน้าโรงแรมครับ ผมจองโรงแรมผ่าน agoda ทิ้งไว้ล่ะครับ ราคาค่อนค่างโอเค บวกกับโลเคชั่นที่เราอยู่
ก่อนลงแท็กซี่ ก็เจอรับน้องเลยครับ ให้ค่าแท็กซี่ไป สามแสนรูปี แต่แท็กซี่ไม่ยอมทอน บอกว่าเดี๋ยวจะยกกระเป๋าลงไปให้แทน ไอ้เราก็เงิบสิ !!  ตั้งสติซักพักก็บอกว่า ถ้าไม่ยอมทอนก็ไม่ยอมลงจากรถ ก็ทำเป็นไม่สนใจ ซักพักแท็กซี่ก็ยอมทอนให้ครับ ยังต่อรองจะขอทิปให้ได้ โอ้วว คุณพระ  

โรงแรมที่ผมพักชื่อ IGNA Bungalow  เป็นโรงแรมเล็กๆ มีห้องสิบกว่าห้อง มีสระว่ายน้ำเล็กๆพอให้ตัวเปียก  พอไปถึงบอก พนักงานว่าจองไว้สามคืน พร้อมกับเปิดเมล์ ยืนยันจากอโกดาให้ดู พนักงานทำหน้า งงๆเล็กน้อย แล้วก็พาไปยังห้องเตียงคู่ แต่เราจองเตียงเดี่ยวไป ไม่มีปัญหาครับ พนักงานเปลี่ยนให้เป็นห้องถัดไปข้างๆทันที  
พอเก็บของเสร็จเรียบร้อย เริ่มหิวครับ เลยเดินออกมาจากซอยโรงแรม ตรงข้ามซอยมีร้านอาหารชื่อดังของอูบุต ที่นักท่องเที่ยวต่างยกนิ้วให้ นั่นก็คือร้าน ibu rai ครับ เมนูแรกที่สั่ง บอกเลยว่ามาถึงนี่แล้วต้องกินนั่นคือ นั่นคือ …. ข้าวผัดครับ เอ๊ะ ข้าวผัดเนี่ยนะ ฮ่าๆๆ ข้าวผัดที่นี่เรียกกันว่า นาชิ โกเรงครับ (นาซิ =ข้าว, โกเรง = ผัด)

ดูสิ ว่าข้าวผัดของบาหลี น่ากินแค่ไหน

พอกินข้าวเสร็จเที่ยวต่อเลยครับ บริหารเวลาให้คุ้ม ผมเดินจากร้านอาหาร ไปสถานที่เที่ยวประมาณ หนึ่งกิโลกว่าๆ ถือว่าไม่ไกลนะครับ เดินไปชิวๆ ดูวิถีชีวิตของผู้คน ตลอดทางเดินคุณจะเหมือน ดาราเซเล็ปชื่อดัง คุณไม่แปลกใจเลยที่จะเจอกับคำถามว่า DO YOU NEED TAXI ?ตลอดเวลา  ฮ่าๆๆ
ที่แรกที่ผมไปคือ Monkey Forest ครับ


มังกี้ ฟอรเรส เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวทุกวันตั้งแต่เวลา 08:30 am. – 06:00 pm.เก็บค่าเข้าชมน้องลิง 20,000 Rp ครับ บรรยากาศร่มรื่นมาก อากาศดีสุดๆ ในสวนป่าก็จะมีวัด และน้องลิงเดินเป็นเจ้าถิ่นอยู่ตลอดเวลา


ใช้เวลาที่นี้เกือบหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ เดินดูไปเรื่อยๆไม่เบื่อครับ  แต่เริ่มหิวขึ้นมาอีกรอบ ระหว่างทางเดินกลับโรงแรม มีอีกหนึ่งร้านที่แนะนำ นั่นก็คือร้าน three monkeys ครับ

เป็นร้านอาหาร อยู่ติดกับทุ่งนาบรรยากาศดีมาก  ผมสั่งเครื่องดื่มมาดับกระหายเล็กน้อย นั่นคือ เบียร์ครับ ฮ่าๆ เบียร์ท้องถิ่นของที่นี่คือ BINTANG ครับ สำหรับคอเบียร์แล้วถือว่าใช้ได้เลยทีเดียวครับ  บอกไว้เลยว่าร้านอาหารที่นี่ ทุกร้าน ราคาต้อง +++ ครับ นั่นคือ เค้าบวก VAT 10 % ครับ โหดมาก และยังไม่พอ บวกกับ service charge อีกด้วย
ทานเสร็จกลับมาห้องพัก อาบน้ำแต่งตัวครับ เพราะคืนนี้ผมมีนัดกับนักแสดงที่นี้ไว้ หุหุ  

จากโรงแรมเดินไปไม่ไกล เราก็จะเจอกับ Ubud Palace ซึ่งคืนนี้จะมีการแสดง LEGONG TRANCE & PARADISE DANCE การแสดงที่นี้จะเริ่ม 07:30pm โดยประมาณ แต่แนะนำให้มาตั้งแต่ทุ่มครับ เพื่อมาจับจองพื้นที่ ส่วนราคาค่าเข้าชมการแสดงจะอยู่ที่ 80,000 Rp. การแสดงใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งครับ เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมาก


การแสดงชุดแรกเรียกว่า LEGONG TRANCE  เป็นเหมือนการอัญเชิญเทพให้มาประทับทรง ระหว่างการแสดงผู้แสดงจะหลับตาตลอดเวลา และเมื่อเทพใกล้ออกจากร่าง ก็จะลืมตาขึ้นมา ด้วยสายตาที่ดุดัน การแสดงชุดนี้ผมประทับใจมากครับ


การแสดงชุดที่สองชื่อว่า JAUK  เป็นการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับปีศาจ นักแสดงก็จะออกมาเต้นร่ายรำ แบบที่ว่า ผีเข้ากันเลยทีเดียว ก็จะมีการชักชวนเด็กๆ ออกมาเล่นด้วย พร้อมสอนท่าการเต้นแบบปีศาจ


การแสดงชุดนี้ชื่อว่า Lencana Agung Ubud  เป็นการบอกเล่าเรื่องราว ของเมืองอูบุต แสดงให้เห็นถึง วิถีชีวิต ความเป็นมาของชาวพื้นเมือง


การแสดงชุดที่สี่ ชื่อว่า Kebyar Trompong   Kebyar เป็นการเต้นที่เปรียบเสมือนการระเบิดออกมาของแสงไฟ ส่วนTrompong ก็คือชื่อของเครื่องดนตรีที่นักแสดงเล่นนั่นเองครับ


ส่วนการแสดงชุดสุดท้าย ชื่อ The Ballet of Bimaniu จะเป็นเหมือนการเล่าเรื่องราวของการกำเนิด บาหลี บอกเล่าเรื่องราวของการต่อสู้กับปีศาจ ครับ  


หลังจากโชว์จบเวลาสามทุ่มกว่าๆ ก็สองทุ่มบ้านเรา เริ่มหิวขึ้นมาอีกทันทีละสิ  ลองไปหาร้านอร่อยอีกร้าน ตามถนน เส้น Jalan Dewi Sita ดีกว่า ก็มาเจอร้านนี้เลยครับ “BOLLERO”  ร้านนี้เป็นร้านชื่อดังย่านนี้กันเลยทีเดียว การตกแต่งร้านสวยงามมากครับ อาหารแนะนำคือ Ayam Labu Kare Merah และ Nasi Campur ครับ ทานอาหารคาวเสร็จ ลองสั่งของหวานร้านนี้ดูนะครับ อร่อยไม่แพ้กัน


เช้าวันที่สอง วันนี้นัดแท็กซี่ให้มารับเก้าโมง ที่ปากซอยโรงแรม คนขับแท็กซี่เจอมาเมื่อวาน ตอนเดินไปแถวมังกี้  ฟอรเรส ผมบอกว่าจะไปเที่ยวสี่สถานที่ตามนี้ คือ ภูเขาไฟ kintamani , Besakih, Taman Ayun และ tanah lot รอดูพระอาทิตย์ตก  พี่แกก็บอกราคาต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 600,000 Rp. คุณพระ !! ไอ้เราก็ SAY NO แล้วเดินหนี พี่แกลดไห้ 500,000  เราก็ยังไม่เอา จนเราบอกว่า 450,000 เอาป่ะ ? พี่แกลังเลเล็กน้อย ก่อน SAY YES  ฮ่าๆ  รถเริ่มออกไปซักพักก็บอกพี่แท็กซี่ว่า อยากกินกาแฟหน่อย เพราะตอนเช้าแบบนี้ ง่วงนอนเล็กน้อย พี่แกก็จัดให้เลยครับ

ระหว่างทางไปสถานที่แรก พี่แท็กซี่พาเรามาที่ Cantik Agriculture ที่นี่เป็นสวนกาแฟเชิงนิเวศ ทางเข้าสวน ดูร่มรื่น เดินเข้าไปหน่อย เจอน้องชะมด ที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่ สงสัยตัวนี้ไม่ได้กินกาแฟแน่ๆเลย ที่นี่ก็จะมีการปลูกกาแฟสายพันธ์ของบาหลีเลยครับ และ ไฮไลท์ที่สำคัญที่นี่คือ กาแฟขี้ชะมดครับ

ที่นี่จะมีไกด์คอยแนะนำให้เรา ชื่อพี่ GUSTI  PUTU  DARASANA ชื่อพี่แกยาวมาก เราขอเรียกพี่เค้าว่า PUTU ซึ่งหมายถึงลูกคนแรกพอ  ที่บาหลีจะมีวัฒนธรรมในการตั้งชื่อของผู้ชายอยู่ ถ้าคุณเป็นลูกคนแรก คุณจะมีชื่อ Wayan, Putu, หรือ Gede  อยู่ในชื่อ ถ้าเป็นลูกชายคนที่สองจะมีชื่อ Made, Kadek, หรือ Nengah ถ้าคุณเป็นลูกคนที่สาม คุณจะมีชื่อ Nyoman, Komang  ถ้าคุณเป็นลูกคนที่สี่ คุณจะมีชื่อ  Ketut อยู่ในชื่อ และถ้าคุณเป็นลูกชายคนที่ห้าของครอบครัว คุณจะมีชื่อ Free Style ไม่ใช่ชื่อ ฟรีสไตล์นะครับ แต่ลูกคนที่ห้าจะตั้งชื่ออะไรก็ได้หรือจะวนมาใช้ชื่อแรกก็ได้ครับ  พี่เค้าอธิบายดีมากครับ และไกด์ของเราพูดภาษาไทยได้นิดหน่อย เมื่อบรรยายเสร็จสรรพ ไกด์ก็พาไปไปชิมกาแฟสายพันธ์ต่างๆ มีโกโก้ น้ำขิง และอีกหลายอย่างให้ลองชิม และที่สำคัญ “ชิมฟรี” และไม่เก็บค่าเข้าด้วย แต่ถ้าสนใจอยากลองกาแฟขี้ชะมด หรือ LUWAK COPI ก็มีให้ชิมในราคาแก้วละ 50,000 Rp.

หลังจากดื่มกาแฟเสร็จ เราตรงดิ่งไปที่ ภูเขาไฟ Batur กัน ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะรู้จักกันในชื่อ kintamani ซึ่งนั่นคือชื่อของหมู่บ้าน เมื่อไปถึงก็จะเจอกับภูเขาไฟที่ยังไม่ดับสนิท และจะมีร่องรอยของเถ้าลาวาที่ยังหลงเหลือให้เห็น ขับรถขึ้นไปอีกประมาณสองกิโลกว่า เราจะเจอกับวัด Pura Ulundanu Batur  วัดนี้ถือเป็นวัดสำคัญอันดับสองของบาหลี เก็บค่าเข้าชม  35,000 Rp. และต้องนุ่ง โสร่งเข้าวัดด้วย
วัดที่สอง

BESAKIH เป็นวัดที่สวยงามที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุด ในวัดใหญ่ยังมีวัดย่อยๆ เยอะแยะเต็มไปหมด มีฉากหลังคือ ภูเขาไฟกุนุงอากุง วัดนี้ เก็บค่าเข้าชมคนล่ะ 30,000 Rp. เที่ยววัดนี้ต้องระวัง ตรงที่ตรวจตั๋ว จะมีพนักงานบอกให้เราเขียนชื่อตรงสมุด เป็นสมุดเหมือน VISITOR แนะนำอย่าเขียน เพราะนั่นคือสมุดที่เค้าจะให้เราบริจาคเงินให้ ถ้าเผลอเขียนชื่อไปล่ะก็ มีหวังหมดไม่ต่ำกว่าพันแน่นอน  และทางเข้าวัดจะมีพวกมาเฟียเจ้าถิ่น นั่งดักตรงทางขึ้น พวกนี้จะคอยบอกว่านักท่องเที่ยวต้องจ่ายค่า Local guide จ้างพวกเขาเป็นไกด์ 10 ดอลล่าครับ อันนี้ไม่ต้องจ่ายครับ สามารถเดินขึ้นบันไดด้านซ้ายได้เลย
เดี๋ยวมาต่อครับ
ชื่อสินค้า:   เที่ยวบาหลี เที่ยวไปตามใจรัก
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่