..
.. สำหรับครอบครัวหมี ๆ ของฉัน
ภายใน 1 ปีจะมีทริปครอบครัว
แบบพร้อมหน้าพร้อมตากัน 1 - 2 ครั้ง
น้องชายเริ่มมีรีเควสท์มาว่าเราจะไปไหนกันดี
แต่ในใจฉันคิด ..
" ก็คงไม่พ้นทะเล "
ครอบครัวหมี ๆ ฉันมีลิงอยู่สองตัว
ที่เป็นแก้วตาดวงใจของคนทั้งบ้าน
"ข้าวปั้น" ปีนี้ 5 ขวบครึ่งแล้วออกแนวดื้อ
"ข้าวปุ้น" เพิ่งเต็ม 4 ขวบและโคตรซน
.. ฉันเริ่มมองหารีสอร์ทหลายที่
เพื่อตอบสนองความต้องการ
ของครอครัวหมี ๆ และสองลิง
มีงานไทยเที่ยวไทยเมื่อเดือนกุมภา
ฉันเห็นโปรของ Nisha Ville น่าสนใจ
เลยเริ่มหาข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ของที่นี่
จนตัดสินใจไปซื้อวอเชอร์จากงาน
เลือกเป็น Sand Villa with Loft
3 วัน 2 คืน หมี 5 ตัว + 2 ลิง ในราคา 13,000 บาท
ครอบครัวหมีต้องเดินทางมาจากเชียงใหม่
เพื่อจะมารับฉันที่กรุงเทพฯ และเดินทางกันต่อ
คืนแรกเราเลือกพักโรงแรมเล็ก ๆ ที่เพิ่งเปิดใหม่แถวชะอำ
" โรงแรมเพชชะอำ " อยู่ใกล้กับซานโตรินี่
คืนละ 1,100 สำหรับ 3 เตียงและอาหารเช้า
..
เช้าวันรุ่งขึ้นเราเริ่มออกเดินทางท่องเที่ยวแบบไม่มีแพลน
แม่หมีอยากไปไหว้หลวงปู่ทวดที่ ..
" วัดห้วยมงคล "
นั่นคือสถานที่แรกที่ครอบครัวหมีและสองลิงไปถึง
วัดห้วยมงคลนั้นเป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือน
หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก
ซึ่งมีขนาดหน้าตักกว้าง 9.9 เมตร
สูง 11.5 เมตร บนฐานสูง 3 ชั้น
ชั้นล่างกว้าง 70 เมตร ยาว 70 เมตร
..
หลังออกจากวัดห้วยมงคลก็มุ่งหน้าไปด่านสิงขร
ซึ่งเป็นชายเดนไทย - พม่ามีร้านขายสินค้ามากมาย
แต่โดยส่วนใหญ่จะเปิดในวันเสาร์ - อาทิตย์
ทางเข้าด่านสิงขรจะอยู่ห่างจากถนนเพชรเกษม
ประมาณ 12 กิโลเมตร และสองข้างทาง
เต็มไปด้วยต้นเหลืองปรีดียาธรซึ่งจะสวยมากในฤดูร้อน
..
เข้าไปเดินเล่นที่ด่านสิงขรอยู่ไม่นานเพราะอากาศร้อนมาก
ก็เดินทางกันต่อไปจนถึงหาดบ้านกรูด อำเภอบางสะพาน
ครอบครัวหมีตั้งใจมาแวะที่นี่ทั้ง ๆ ที่ต้องขับเลยจากรีสอร์ท
มาอีกเกือบ 40 ก.ม. เพราะว่าพ่อหมีมีนัดกับเกลอเก่าที่นี่
หาดบ้านกรูดเป็นหาดที่สงบเงียบ น้ำใส ทรายขาว ลมแรง
จากหาดบ้านดรูดมองเห็นไปถึง ..
" ยอดเขาธงชัย "
อันเป็นที่ประดิษฐานของ พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ
และ พระพุทธกิติสิริชัย ที่งามเด่นเป็นสง่า
เราตัดสินใจทานข้าวกลางวันที่กลายเป้นข้าวบ่ายกันที่นี่
ร้าน " ส้มตำน้ำเหนือ " ตามที่เจ้าถิ่นบ้านกรูดแนะนำว่าอร่อย
เริ่มต้นมื้อนี้กันด้วยเมนูส้มตำปูม้าและตำซั่วปูม้า
ครบรสอร่อยดีทีเดียว ปูม้าสดหวานมาก
กุ้งชุปแป้งทอดของสองลิง กรอบนอก นุ่มใน กุ้งสดหวาน
แกงส้มผักรวมปลากระพง ครบรสเปรี้ยวนำ หวานนิด ๆ เค็มน้อย ๆ ไม่เผ็ดมาก
ต่อด้วยของทอดอีกเมนูกับปลาหมึกลุบแป้งทอด กรอกนอก นุ่มใน ไม่เหนียว
ตามมาด้วยปลากระพงทอดน้ำปลายำมะม่วง ทอดได้กรอบกำลังดี น้ำยำอร่อย
กุ้งแช่น้ำปลา กุ้งสดน้ำราดอร่อยเผ็ดเปรี้ยวเค็มหวานกำลังดี
ปลาหมึกผัดพริกเผารสกลมกล่อมออกหวานนิด ๆ ของน้ำพริกเผา
.. จริง ๆ มีข้าวผัดทะเลรวมจานใหญ่อีกจาน
รวมทั้งหมดอาหาร 9 อย่างในราคา 1,400 กว่าบาท
โดยรวมสำหรับฉันร้าน
"ส้มตำน้ำเหนือ" อาหารหร่อยและราคาไม่แพง
..
จบมื้อบ่าย ๆ กันไปแบบพุงแทบแตกก็ขับรถย้อนกลับมาที่รีสอร์ท
" Nisha Ville Resort and Spa " ทางเข้าจากถนนเพชรเกษมไม่ลึกมาก
สิ่งแรกที่สัมผัสได้จากที่นี่คือ .. รีสอทร์ทที่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้สูงมาก
สวนมะพร้าวสีเขียว ๆ น้ำตาล ๆ ตัดกับท้องฟ้า .. ที่มองไปสุดลูกหูลูกตา
.. ความประทับใจกับสถานที่เริ่มมาเยือนฉันและครอบครัวหมี
และเริ่มประทับใจมากขึ้นกับสภาพแวดล้อมภายในรีสอร์ท
ณิชาวิลล์จัดเป็นรีสอร์ทที่เหมาะกับการพักผ่อนสงบ ๆ สบาย ๆ
มีรถกอล์ฟให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงระหว่างลานจอดรถกับวิลล่า
ทางเดินภายในรีสอร์ทร่วมครึ้มไปด้วยทิวมะพร้าว
ซึ่งที่นี่เลือกที่จะเก็บต้นมะพร้าวร่มครึ้มเอาไว้เพื่อให้ร่มเงา
ตัววิลล่าแต่ละหลังปลูกอยู่ห่างกันอย่างรักษาความเป็นส่วนตัว
สิ่งที่สะดุดตาสำหรับตัววิลล่าคือสีสันภายนอกของวิลล่าแต่ละหลัง
ที่ดูโดดเด่นอย่างแตกต่างกันไปแต่เมื่อมองโดยรวมแล้วกลับลงตัว
การตกแต่งภายในวิลล่าใช้โทนสีขาวและไฟดาวน์ไลท์
ให้ความรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย เหมือนพ้กผ่อนอยู่กับบ้าน
เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ภายในเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะเป็น ไม้ หรือหวาย ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ไม่แข็งกระด้าง
การตกแต่ง การจัดวาง ให้กลิ่นอายของทะเลอบอวลอยู่ภายในบ้าน
มีวัสดุอุปกรณ์เตรียมไว้ให้ครบทุกอย่างเท่าที่บ้านหลังหนึ่งจะต้องมี
ก้าวเท้าเข้าบ้านพร้อมกับไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศและกลิ่นจากเตาอโรม่า
.. ฉันหันไปมองทุกคนในครอบครัวหมี
และเห็นได้ถึงความสุขที่ฉายชัดจากแววตาของทุกคน
แล้วทุกคนก็เริ่มกิจกรรมที่ตัวเองสนใจ
ฉันกับสองลิงเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำทันทีที่เก็บของเสร็จ
ความประทับใจต่อมาของฉันคือผู้คนที่นี่ทุกคน
ฉันพาสองลิงมาว่ายน้ำที่สระริมทะเล เจอกับคุณแม่บ้าน คุณรปภ.
ส่งยิ้มมาให้พร้อมกับยกมือไหว้มาแต่ไกล พูดคุยทักทายถามไถ่
.. และไม่ได้เป็นแบบนี้แค่กับพนักงานบางคน
แต่กิริยาแบบนี้เกิดขึ้นกับพนักงานทุกคนของณิชาวิลล์
เป็นความประทับใจที่แม่หมีของฉันเอ่ยปากชมอยู่ตลอดเวลา
ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะเจอแต่รอยยิ้มและคำทักทายเสมอ
ซึ่งฉันเชื่อว่านี่แหละคือจุดเด่นของรีสอร์ทนี้ที่ทำให้ใครหลายคนต้องหวนกลับมา
บรรยากาศยามค่ำคืนของณิชาวิลล์ในคืนพระจันทร์เต็มดวง
ไม่ว่าจะเดินไปตรงส่วนไหนก็รู้สึกได้ถึงความปลอดภัย
บริเวณคลับเฮาส์ริมทะเลนอกจากสระว่ายน้ำแล้วก็ยังมีฟิตเนสรูม
อาคารชั้นสองมีโซฟาเบดไว้สำหรับนอนดูดาวในคืนที่ฟ้าเปิด
สุข สงบ สบาย และ โรแมนติก .. (ถ้าคุณมากับคู่รัก)
.. และสิ่งที่ฉันต้องทำทุกครั้งในตอนเช้าตรู่
คือการตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ชายหาด
พระอาทิตย์ดวงเดียวกัน แต่เมื่อต่างสถานที่กัน
ความรู้สึกที่ได้ย่อมแตกต่างกันเสมอ
.. อย่างน้อยพระอาทิตย์ยามเช้า ริมทะเล
ก็ช่วยสร้างพลังที่มันลดน้อยถอยลงไปให้มีพลังขึ้นมาใหม่
.. อาหารเช้าที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ให้นั้น
สามารถเลือกสั่งได้ทุกอย่างจากในเมนู
และสั่งมาทานได้จนกว่าจะอิ่ม ซึ่งจานใหญ่มาก
ที่อยากแนะนำมากคือ
"ครัวซองค์" ที่นี่อร่อยมาก
เราต่างละเลียดกับการใช้เวลาในกิจกรรมต่าง ๆ ของตัวเอง
ครอบครัวสองลิงส่วนมากอยู่ที่สระว่ายน้ำกับริมชายหาด
พ่อหมี แม่หมี นอนอ่านหนังสือ ดูทีวีอยู่ในวิลล่า
ส่วนฉันว่ายน้ำกับสองลิงที่สระบ้าง
นอนอ่านหนังสือ ฟังเพลงริมชายหาดบ้าง
และสิ่งที่ฉันชอบที่สุดคือ "สปา"
ฉันเลือกนวดอโรม่า 1 ชั่วโมง (600 บาท)
ที่ Spa One เป็นการนวดที่ผ่อนคลายและสบายตัวที่สุด
สามวันสองคืนสำหรับ Nisha Ville ซึ่งเป็นครั้งแรกของครอบครัว
ฉันกับครอบครัวหมีและสองลิงมีความสุขมาก ๆ
และจะต้องมีครั้งต่อไป และต่อไป ต่อไป อีกในไม่ช้านี้
..
[CR] ::::: กินอิ่ม นอนอุ่น ก้าวเท้าช้าช้า .. at Nisha Ville :::::
.. สำหรับครอบครัวหมี ๆ ของฉัน
ภายใน 1 ปีจะมีทริปครอบครัว
แบบพร้อมหน้าพร้อมตากัน 1 - 2 ครั้ง
น้องชายเริ่มมีรีเควสท์มาว่าเราจะไปไหนกันดี
แต่ในใจฉันคิด .. " ก็คงไม่พ้นทะเล "
ครอบครัวหมี ๆ ฉันมีลิงอยู่สองตัว
ที่เป็นแก้วตาดวงใจของคนทั้งบ้าน
"ข้าวปั้น" ปีนี้ 5 ขวบครึ่งแล้วออกแนวดื้อ
"ข้าวปุ้น" เพิ่งเต็ม 4 ขวบและโคตรซน
.. ฉันเริ่มมองหารีสอร์ทหลายที่
เพื่อตอบสนองความต้องการ
ของครอครัวหมี ๆ และสองลิง
มีงานไทยเที่ยวไทยเมื่อเดือนกุมภา
ฉันเห็นโปรของ Nisha Ville น่าสนใจ
เลยเริ่มหาข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ของที่นี่
จนตัดสินใจไปซื้อวอเชอร์จากงาน
เลือกเป็น Sand Villa with Loft
3 วัน 2 คืน หมี 5 ตัว + 2 ลิง ในราคา 13,000 บาท
ครอบครัวหมีต้องเดินทางมาจากเชียงใหม่
เพื่อจะมารับฉันที่กรุงเทพฯ และเดินทางกันต่อ
คืนแรกเราเลือกพักโรงแรมเล็ก ๆ ที่เพิ่งเปิดใหม่แถวชะอำ
" โรงแรมเพชชะอำ " อยู่ใกล้กับซานโตรินี่
คืนละ 1,100 สำหรับ 3 เตียงและอาหารเช้า
..
เช้าวันรุ่งขึ้นเราเริ่มออกเดินทางท่องเที่ยวแบบไม่มีแพลน
แม่หมีอยากไปไหว้หลวงปู่ทวดที่ .. " วัดห้วยมงคล "
นั่นคือสถานที่แรกที่ครอบครัวหมีและสองลิงไปถึง
วัดห้วยมงคลนั้นเป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือน
หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก
ซึ่งมีขนาดหน้าตักกว้าง 9.9 เมตร
สูง 11.5 เมตร บนฐานสูง 3 ชั้น
ชั้นล่างกว้าง 70 เมตร ยาว 70 เมตร
..
หลังออกจากวัดห้วยมงคลก็มุ่งหน้าไปด่านสิงขร
ซึ่งเป็นชายเดนไทย - พม่ามีร้านขายสินค้ามากมาย
แต่โดยส่วนใหญ่จะเปิดในวันเสาร์ - อาทิตย์
ทางเข้าด่านสิงขรจะอยู่ห่างจากถนนเพชรเกษม
ประมาณ 12 กิโลเมตร และสองข้างทาง
เต็มไปด้วยต้นเหลืองปรีดียาธรซึ่งจะสวยมากในฤดูร้อน
..
เข้าไปเดินเล่นที่ด่านสิงขรอยู่ไม่นานเพราะอากาศร้อนมาก
ก็เดินทางกันต่อไปจนถึงหาดบ้านกรูด อำเภอบางสะพาน
ครอบครัวหมีตั้งใจมาแวะที่นี่ทั้ง ๆ ที่ต้องขับเลยจากรีสอร์ท
มาอีกเกือบ 40 ก.ม. เพราะว่าพ่อหมีมีนัดกับเกลอเก่าที่นี่
หาดบ้านกรูดเป็นหาดที่สงบเงียบ น้ำใส ทรายขาว ลมแรง
จากหาดบ้านดรูดมองเห็นไปถึง .. " ยอดเขาธงชัย "
อันเป็นที่ประดิษฐานของ พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ
และ พระพุทธกิติสิริชัย ที่งามเด่นเป็นสง่า
เราตัดสินใจทานข้าวกลางวันที่กลายเป้นข้าวบ่ายกันที่นี่
ร้าน " ส้มตำน้ำเหนือ " ตามที่เจ้าถิ่นบ้านกรูดแนะนำว่าอร่อย
เริ่มต้นมื้อนี้กันด้วยเมนูส้มตำปูม้าและตำซั่วปูม้า
ครบรสอร่อยดีทีเดียว ปูม้าสดหวานมาก
กุ้งชุปแป้งทอดของสองลิง กรอบนอก นุ่มใน กุ้งสดหวาน
แกงส้มผักรวมปลากระพง ครบรสเปรี้ยวนำ หวานนิด ๆ เค็มน้อย ๆ ไม่เผ็ดมาก
ต่อด้วยของทอดอีกเมนูกับปลาหมึกลุบแป้งทอด กรอกนอก นุ่มใน ไม่เหนียว
ตามมาด้วยปลากระพงทอดน้ำปลายำมะม่วง ทอดได้กรอบกำลังดี น้ำยำอร่อย
กุ้งแช่น้ำปลา กุ้งสดน้ำราดอร่อยเผ็ดเปรี้ยวเค็มหวานกำลังดี
ปลาหมึกผัดพริกเผารสกลมกล่อมออกหวานนิด ๆ ของน้ำพริกเผา
.. จริง ๆ มีข้าวผัดทะเลรวมจานใหญ่อีกจาน
รวมทั้งหมดอาหาร 9 อย่างในราคา 1,400 กว่าบาท
โดยรวมสำหรับฉันร้าน "ส้มตำน้ำเหนือ" อาหารหร่อยและราคาไม่แพง
..
จบมื้อบ่าย ๆ กันไปแบบพุงแทบแตกก็ขับรถย้อนกลับมาที่รีสอร์ท
" Nisha Ville Resort and Spa " ทางเข้าจากถนนเพชรเกษมไม่ลึกมาก
สิ่งแรกที่สัมผัสได้จากที่นี่คือ .. รีสอทร์ทที่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้สูงมาก
สวนมะพร้าวสีเขียว ๆ น้ำตาล ๆ ตัดกับท้องฟ้า .. ที่มองไปสุดลูกหูลูกตา
.. ความประทับใจกับสถานที่เริ่มมาเยือนฉันและครอบครัวหมี
และเริ่มประทับใจมากขึ้นกับสภาพแวดล้อมภายในรีสอร์ท
ณิชาวิลล์จัดเป็นรีสอร์ทที่เหมาะกับการพักผ่อนสงบ ๆ สบาย ๆ
มีรถกอล์ฟให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงระหว่างลานจอดรถกับวิลล่า
ทางเดินภายในรีสอร์ทร่วมครึ้มไปด้วยทิวมะพร้าว
ซึ่งที่นี่เลือกที่จะเก็บต้นมะพร้าวร่มครึ้มเอาไว้เพื่อให้ร่มเงา
ตัววิลล่าแต่ละหลังปลูกอยู่ห่างกันอย่างรักษาความเป็นส่วนตัว
สิ่งที่สะดุดตาสำหรับตัววิลล่าคือสีสันภายนอกของวิลล่าแต่ละหลัง
ที่ดูโดดเด่นอย่างแตกต่างกันไปแต่เมื่อมองโดยรวมแล้วกลับลงตัว
การตกแต่งภายในวิลล่าใช้โทนสีขาวและไฟดาวน์ไลท์
ให้ความรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย เหมือนพ้กผ่อนอยู่กับบ้าน
เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ภายในเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะเป็น ไม้ หรือหวาย ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ไม่แข็งกระด้าง
การตกแต่ง การจัดวาง ให้กลิ่นอายของทะเลอบอวลอยู่ภายในบ้าน
มีวัสดุอุปกรณ์เตรียมไว้ให้ครบทุกอย่างเท่าที่บ้านหลังหนึ่งจะต้องมี
ก้าวเท้าเข้าบ้านพร้อมกับไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศและกลิ่นจากเตาอโรม่า
.. ฉันหันไปมองทุกคนในครอบครัวหมี
และเห็นได้ถึงความสุขที่ฉายชัดจากแววตาของทุกคน
แล้วทุกคนก็เริ่มกิจกรรมที่ตัวเองสนใจ
ฉันกับสองลิงเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำทันทีที่เก็บของเสร็จ
ความประทับใจต่อมาของฉันคือผู้คนที่นี่ทุกคน
ฉันพาสองลิงมาว่ายน้ำที่สระริมทะเล เจอกับคุณแม่บ้าน คุณรปภ.
ส่งยิ้มมาให้พร้อมกับยกมือไหว้มาแต่ไกล พูดคุยทักทายถามไถ่
.. และไม่ได้เป็นแบบนี้แค่กับพนักงานบางคน
แต่กิริยาแบบนี้เกิดขึ้นกับพนักงานทุกคนของณิชาวิลล์
เป็นความประทับใจที่แม่หมีของฉันเอ่ยปากชมอยู่ตลอดเวลา
ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะเจอแต่รอยยิ้มและคำทักทายเสมอ
ซึ่งฉันเชื่อว่านี่แหละคือจุดเด่นของรีสอร์ทนี้ที่ทำให้ใครหลายคนต้องหวนกลับมา
บรรยากาศยามค่ำคืนของณิชาวิลล์ในคืนพระจันทร์เต็มดวง
ไม่ว่าจะเดินไปตรงส่วนไหนก็รู้สึกได้ถึงความปลอดภัย
บริเวณคลับเฮาส์ริมทะเลนอกจากสระว่ายน้ำแล้วก็ยังมีฟิตเนสรูม
อาคารชั้นสองมีโซฟาเบดไว้สำหรับนอนดูดาวในคืนที่ฟ้าเปิด
สุข สงบ สบาย และ โรแมนติก .. (ถ้าคุณมากับคู่รัก)
.. และสิ่งที่ฉันต้องทำทุกครั้งในตอนเช้าตรู่
คือการตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ชายหาด
พระอาทิตย์ดวงเดียวกัน แต่เมื่อต่างสถานที่กัน
ความรู้สึกที่ได้ย่อมแตกต่างกันเสมอ
.. อย่างน้อยพระอาทิตย์ยามเช้า ริมทะเล
ก็ช่วยสร้างพลังที่มันลดน้อยถอยลงไปให้มีพลังขึ้นมาใหม่
.. อาหารเช้าที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ให้นั้น
สามารถเลือกสั่งได้ทุกอย่างจากในเมนู
และสั่งมาทานได้จนกว่าจะอิ่ม ซึ่งจานใหญ่มาก
ที่อยากแนะนำมากคือ "ครัวซองค์" ที่นี่อร่อยมาก
เราต่างละเลียดกับการใช้เวลาในกิจกรรมต่าง ๆ ของตัวเอง
ครอบครัวสองลิงส่วนมากอยู่ที่สระว่ายน้ำกับริมชายหาด
พ่อหมี แม่หมี นอนอ่านหนังสือ ดูทีวีอยู่ในวิลล่า
ส่วนฉันว่ายน้ำกับสองลิงที่สระบ้าง
นอนอ่านหนังสือ ฟังเพลงริมชายหาดบ้าง
และสิ่งที่ฉันชอบที่สุดคือ "สปา"
ฉันเลือกนวดอโรม่า 1 ชั่วโมง (600 บาท)
ที่ Spa One เป็นการนวดที่ผ่อนคลายและสบายตัวที่สุด
สามวันสองคืนสำหรับ Nisha Ville ซึ่งเป็นครั้งแรกของครอบครัว
ฉันกับครอบครัวหมีและสองลิงมีความสุขมาก ๆ
และจะต้องมีครั้งต่อไป และต่อไป ต่อไป อีกในไม่ช้านี้
..