สืบเนื่องจากกระทู้นี้ "สะกิดเตือนใจกัน กับการเว้นจากถือเอาของที่เขามิได้ให้ (
http://pantip.com/topic/31812087 ) และอีกหลายกระทู้ที่มีมาในอดีต และจะมีในอนาคต จึงทำให้ได้เขียนกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะเห็นว่าเป็นการตอบที่ยาว ตอบข้างในกระทู้นั้นคงไม่ได้รับประโยชน์แก่ผู้อ่านอย่างสูงสุด ตั้งกระทู้ขึ้นมาเฉพาะเจาะจงน่าจะเหมาะสมกว่า...
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลายคนคงสงสัย และไม่แน่ใจในการดำเนินชีวิตทุกวันนี้หลายๆ ประการว่าสิ่งที่เราได้มีความเกี่ยวข้องด้วยนั้น เป็นการทำผิดข้ออทินนาทานหรือไม่ ซึ่งกระทู้นี้ถูกตั้งขึ้นมา เพื่อคิดเห็นว่าน่าจะเป็นแหล่งรวบรวมเรื่องนี้โดยเฉพาะผ่านมุมมองของผู้เขียน และถ้าผู้อ่านเห็นว่าเป็นประโยชน์ น่าจะจริง จะได้นำไปประยุกต์ปฏิบัติได้ต่อไป ในที่นี้จะขอนำเสนอเพียงประเด็น
"การซื้อ-ดู-ชม-ใช้แผ่น-หนัง-เพลง-โปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์ผิดศีลข้ออทินนาทานหรือไม่" ผิดศีลข้ออทินนาทานหรือไม่ โดยจะพยายามนำเอาหลักฐานทางพระไตรปิฎกมาแสดงประกอบด้วย ขอเริ่มต้นดังนี้
ประเด็นนี้ถ้าเรานำองค์ประกอบของ อทินนาทาน จากในอภิธัมมัตถสังคหะ ที่มีผู้นำมาลงไว้ในเว็ปนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
***** องค์ประกอบของ อทินนาทาน (การลักทรัพย์) *****
๒. อทินนาทาน (การลักทรัพย์)
อทินนาทาน
อ + ทนฺน +อาทาน
อ - เป็นคำปฏิเสธ
ทินฺน - สิ่งที่เจ้าของอนุญาตให้
อาทาน - ยึดถือเอา
เมื่อรวมบทแล้ว เป็นอทินนาทาน แปลความว่า "ยึดเอาสิ่งของที่เจ้าของมิได้อนุญาต"
อทินฺน คือ วัตถุสิ่งของที่เจ้าของมิได้อนุญาตให้ หมายถึงการมิได้อนุญาต โดยเขียนหนังสืออนุญาต หรือมิได้หยิบยื่นให้ กล่าววาจาอนุญาต หรือแสดงกิริยาอาการให้รู้ว่า อนุญาต.....
อาทาน หมายถึงการยึดถือเอาโดยการลักขโมย จี้ ปล้น วิ่งราว ข่มขู่ ยักยอก ฉ้อโกง หรือสับเปลี่ยน เป็นต้น
อทนฺนํ อาทียนฺติ เอเตนาติ - อทินฺนาทานํ
องค์ประกอบของอทินนาทาน
การก้าวล่วงกรรมบทแห่งอกุศลกรรม อทินนาทานนั้นจะต้องประกอบด้วยองค์ ๕ คือ
๑. ปรปริคฺคหิตํ ได้แก่ วัตถุสิ่งของนั้นมีเจ้าของ
๒. ปรปริคฺคหิต สญฺญิตา ได้แก่ รู้ว่าวัตถุสิ่งของนั้นมีเจ้าของ
๓. เภยฺยจิตฺตํ ได้แก่ มีจิตคิดจะลักทรัพย์
๔. ปโยโค ได้แก่ ทำความเพียรเพื่อลักทรัพย์นั้น
๕. อวหาโร ได้แก่ ได้สิ่งของนั้นมาด้วยความเพียรนั้น
เมื่อการกระทำครบองค์ทั้ง๕ประการนี้แล้ว ผู้นั้นได้ชื่อว่า ก้าวล่วงกรรมบท ถ้ากระทำไม่ครบองค์๕ ย่อมไม่สำเร็จเป็นกรรมบท
ปโยคะ
๑. สาหัตถิกะ ลักทรัพย์ด้วยตนเอง
๒. อาณัตติกะ ใช้คนอื่นลักทรัพย์ด้วยวาจา
๓. นิสสัคคิย ทิ้งวัตถุสิ่งของไว้ หรือโยนให้คนอื่นพวกเดียวกัน หรือทิ้งของที่ต้องเสียภาษีออกไปให้พ้นเขต
๔. ถาวระ สั่งสมัครพรรคพวกไว้ ได้โอกาศให้พยายามลักทรัพย์นั้นมา
๕. วิชชามยะ ใช้เวทมนต์คาถาให้เจ้าของหลงไหล หยิบยื่นทรัพย์นั้นให้ หรืใช้คาถาสะกดให้เจ้าทรัพย์หลับ แล้วเข้าลักทรัพย์
๖. อิมธิมยะ ใช้อิทธิฤทธิ์ต่างๆ ที่นอกจากวิชชามยะ
แต่ผู้มีอิทธิฤทธิ์นี้ ย่อมไม่ทำอทินนาทานที่เป็น โลกวัชชะ คือการกระทำที่มีโทษในทางโลก กระทำแต่จะหยิบฉวยมาใช้เป็นประโยชน์ชั่วคราว ที่เจ้าของทรัพย์นั้น ไม่มีความเสียหายแต่อย่างใด ข้อนี้ไม่จัดว่าเป็นการลักทรัพย์ ที่ครบองค์ประกอบ
(คัดจาก หนังสือพระอภิธรรมมัตถสังคหะ)
ที่มา : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=86959
มาพิจารณาแล้ว จะทำให้สามารถตีความได้ทั้งว่าเป็น ผิด และเป็นไม่ผิดข้ออทินนาทานก็ได้ ขึ้นอยู่มุมมอง ทัศนคติ อคติ และประสบการณ์ของผู้ที่พิจารณา แต่ถ้าเราได้ทำการพิจารณาอย่างเป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแล้ว การซื้อแผ่นละเมิดลิขสิทธิ์ จะมีผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่ ๓ บุคคล คือ
๑. ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ คือ ผู้คิดค้นหนัง เพลง โปรแกรม สื่อต่างๆ แล้วทำเป็นแผ่นเพื่อออกจำหน่าย จะทำโดยการคนเดียว หรือจะทำเป็นหมู่คณะ
๒. ผู้ขายแผ่นละเมิดลิขสิทธิ์ คือ ผู้ที่นำสิ่งของในบุคคลข้อที่ ๑ ไม่ได้อนุญาต มาทำการจำหน่ายเผยแพร่ในช่องทางต่างๆ จะทำโดยการคนเดียว หรือจะทำเป็นหมู่คณะ
๓. ผู้ซื้อแผ่นละเมิดลิขสิทธิ์ คือ บุคคลที่ซื้อ-ชม-ดู-ใช้ของต่อจากบุคคลที่ ๒ แบบทั้งรู้ว่าเป็นของละเมิดลิขสิทธิ์ และแบบที่ไม่รู้ว่าเป็นของละเมิดลิขสิทธิ์
ทำให้ประจักษ์ เรื่องลักขโมยข้ออทินนาทาน
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลายคนคงสงสัย และไม่แน่ใจในการดำเนินชีวิตทุกวันนี้หลายๆ ประการว่าสิ่งที่เราได้มีความเกี่ยวข้องด้วยนั้น เป็นการทำผิดข้ออทินนาทานหรือไม่ ซึ่งกระทู้นี้ถูกตั้งขึ้นมา เพื่อคิดเห็นว่าน่าจะเป็นแหล่งรวบรวมเรื่องนี้โดยเฉพาะผ่านมุมมองของผู้เขียน และถ้าผู้อ่านเห็นว่าเป็นประโยชน์ น่าจะจริง จะได้นำไปประยุกต์ปฏิบัติได้ต่อไป ในที่นี้จะขอนำเสนอเพียงประเด็น "การซื้อ-ดู-ชม-ใช้แผ่น-หนัง-เพลง-โปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์ผิดศีลข้ออทินนาทานหรือไม่" ผิดศีลข้ออทินนาทานหรือไม่ โดยจะพยายามนำเอาหลักฐานทางพระไตรปิฎกมาแสดงประกอบด้วย ขอเริ่มต้นดังนี้
ประเด็นนี้ถ้าเรานำองค์ประกอบของ อทินนาทาน จากในอภิธัมมัตถสังคหะ ที่มีผู้นำมาลงไว้ในเว็ปนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มาพิจารณาแล้ว จะทำให้สามารถตีความได้ทั้งว่าเป็น ผิด และเป็นไม่ผิดข้ออทินนาทานก็ได้ ขึ้นอยู่มุมมอง ทัศนคติ อคติ และประสบการณ์ของผู้ที่พิจารณา แต่ถ้าเราได้ทำการพิจารณาอย่างเป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแล้ว การซื้อแผ่นละเมิดลิขสิทธิ์ จะมีผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่ ๓ บุคคล คือ
๑. ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ คือ ผู้คิดค้นหนัง เพลง โปรแกรม สื่อต่างๆ แล้วทำเป็นแผ่นเพื่อออกจำหน่าย จะทำโดยการคนเดียว หรือจะทำเป็นหมู่คณะ
๒. ผู้ขายแผ่นละเมิดลิขสิทธิ์ คือ ผู้ที่นำสิ่งของในบุคคลข้อที่ ๑ ไม่ได้อนุญาต มาทำการจำหน่ายเผยแพร่ในช่องทางต่างๆ จะทำโดยการคนเดียว หรือจะทำเป็นหมู่คณะ
๓. ผู้ซื้อแผ่นละเมิดลิขสิทธิ์ คือ บุคคลที่ซื้อ-ชม-ดู-ใช้ของต่อจากบุคคลที่ ๒ แบบทั้งรู้ว่าเป็นของละเมิดลิขสิทธิ์ และแบบที่ไม่รู้ว่าเป็นของละเมิดลิขสิทธิ์