เพลงหนึ่งที่เหล่าเดอะ ค็อป ในสนามมักหยิบมาร้องกันบ่อยเป็นพิเศษในฤดูกาลนี้คือเพลงที่มีชื่อว่า
"We're gonna win the league"
เดอะ ค็อปร้องมันตอนที่นักเตะทำประตูได้ ร้องตอนที่ทีมกำลังเร่งเกมบุก
ร้องตอนที่ทีมกำลังเจอนำ ร้องตอนที่หมดเวลาการแข่งขัน
ร้องตอนเดินออกจากกสนาม ร้องตอนฉลองอยู่ในร้านพร้อมกับเหยือกเบียร์ในมือ
ร้องตอนนั่งรถไฟกลับบ้าน ...
แม้แต่ร้องอยู่หน้าจอทีวีที่บ้าน ..
ว่าง่ายๆ พวกเขาร้องเพลงนั้นกันตลอดเวลานั่นแหละ ..
ก่อนอื่นต้องบอกว่า เพลงนี้ไม่ใช่เพลงที่เดอะ ค็อปร้องกันเท่านั้น
ว่าไปมันก็เหมือนเพลงกลาง
แฟนๆหลายสโมสรทั่วโลก ก็ร้องเพลงนี้เพื่อเชียร์ทีมตัวเอง
ในวันที่แฟนรู้สึกว่า ทีมมีลุ้นในสถานะนั้นจริงๆ ..
ร้องเพราะรู้สึกว่า เราเข้าใกล้ถ้วยแชมป์เข้าไปทุกที ..
แม้แต่เพลง "You'll never walk alone" เอง
เดิมทีก็ไม่ใช่เพลงที่แฟนๆ ลิเวอร์พูลเป็นคนคิดค้นเนื้อเพลง
แต่เกิดจากการนำเพลงฮิตในยุค 60's มาร้องให้กำลังใจทีม
โดยแฟนๆเริ่มร้องเพลงนี้ราวๆปี 1960 ในสนามแอนด์ฟิลล์ ตอนที่ทีมพ่ายแพ้
ก่อนที่วง "Gerry and the Pacemakers" จะนำมาร้องคัฟเวอร์จนโด่งดัง
และได้เสนอให้ "บิลล์ แชงคลีย์" นำมาใช้เป็น Motto สโมสร
มันได้รับความนิยมมาก เพลงนี้กลายเป็นเพลงประจำสโมสรมาจนถึงปัจจุบัน
แชงคลีย์เสียชีวิตในปี 1981 ปีต่อมา สโมสรจึงได้สร้างประตู "The Shankly Gate" ขึ้น
เพื่ออุทิศแด่ ชายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร
และ You'll never walk alone ถูกยกไปแปะไว้เหนือ The Shankly Gate
... ทุกครั้งที่คุณก้าวเข้าประตูไป โปรดรู้ไว้ ...
... คุณจะไม่เดินเดียวดาย ...
อันที่จริงแล้ว วิถีชีวิตของคนอังกฤษกับเสียงเพลง แทบจะแยกกันไม่ออก
ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรพวกเขาก็มักจะร้องเพลงเสมอ
เพลงอังกฤษยังได้รับความนิยมไปทั่วโลก และบางครั้งเพลงยังเป็นตัวบอกเล่ายุคสมัย ..
ลิเวอร์พูลเป็นต้นกำเนิดของวง "The Beatles"
ขณะที่ฝั่ง แมนเชสเตอร์เองก็มีวงดังอย่าง "Oasis" ...
เพราะฉะนั้น อย่าแปลกใจที่ทำไมกัปตันทีมลิเวอร์พูลคนปัจจุบันถึงบอกว่า
"ถ้าผมไม่ได้เป็นนักฟุตบอลแล้ว ผมคงไปเป็นดีเจเปิดแผ่น"
คุณนึกภาพนั้นออกมั้ย? ภาพกัปตันของเราไปเป็นดีเจสปินแผ่นอะไรแบบนั้น
คุณอาจคิดไม่ถึง แต่นอกจากฟุตบอล
นี่แหละคือวิถีชีวิตของคนอังกฤษ
.. พวกเขาทุกคน ล้วนมีดนตรีในหัวใจ..
...
กลับมาที่เพลง We'll win the league หลายคนอาจจำไม่ได้หรอกว่า ..
เดอะ ค็อปร้องเพลงนี้กระหึ่มสนามครั้งล่าสุดคือเมื่อไหร่...
เมื่อไหร่ที่เราร้องเพลงนี้ด้วยความมั่นใจ ..และหึกเหิมอย่างเช่นในปีนี้
ที่ผ่านมา คุณอาจได้ยินเพลง You'll never walk alone กันจนเบื่อ
ทุกครั้งที่แข่งจบ เราก็จะร้องเพลงนี้ .. ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นเราก็จะ YNWA
เป็นเพลงที่แฟนทีมอื่น เอามาล้อเลียนเราเสมอนั่นแหละ ..
"สโมสรนี้ เอะอะ อะไรก็ YNWA ไม่รู้จะสู้ด้วยคำพูดไหนแล้วหรือไง?"
ซึ่ง..
เราคงต้องบอกว่า ..
"ใช่ ...
เราไม่รู้จะสู้ด้วยอะไร นอกจากบอกว่า
เราจะเคียงข้างคุณเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น"
ก่อนหน้านี้ แฟนๆเริ่มเอาเพลง "We're gonna win the league" มาร้อง
ตั้งแต่ตอนชนะ อาร์เซนอล
แต่มันก็ไม่ได้กระหึ่มไปทั้งสนาม เท่ากับนัดที่ชนะเซาธ์แทมตัน
เพราะนั่นหมายความว่า เราเหลือ 10 นัดสุดท้ายให้ได้ลุ้น
10 นัด.. เป็นตัวเลขที่ .. จะว่าเยอะก็เยอะ จะว่าน้อยก็น้อย ..
แต่สำหรับ 20 กว่าปีที่ผ่านมา..
20 ปี.. ที่ปราศจากการฉลองชัยชนะในถ้วยสูงสุดของลีกในประเทศ
หลังจากเซาธ์แทมตัน เราผ่านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ คาร์ดิฟฟ์มาได้
ทำให้เราเหลืออีก 8 นัดเท่านั้น
8 นัดต่อจากนี้เราไม่มีอะไรจะต้องเสีย
แค่สู้ให้ถึงที่สุด ..
ตอนที่แชงคลีย์ เลือกเพลงนี้ให้มาเป็นเพลงประจำสโมสร
เขาอาจไม่ได้คิดมาก่อนว่า ..
ปัจจุบัน เพลงนี้มันจะปลอมประโลม และ ช่วยฉุดรั้งหัวใจแฟนๆและนักเตะไว้มากแค่ไหน
แชงคลีย์อาจไม่ได้คิดว่า
จะมียุคสมัยที่ลิเวอร์พูลไม่ได้สัมผัสแชมป์ลีกมาเกือบ 20 ปีมาก่อน
แต่พวกเราก็ยังยืนเคียงข้างกันเสมอ
เหมือนดั่งเพลง You'll never walk alone
นั่นถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์เรื่องนึง ของสโมสรเรา
ที่เจตนารมณ์ของคนอีกรุ่น
ส่งต่อถึงคนอีกรุ่นด้วยบทเพลงและฟุตบอล
ชัยชนะจะไม่มีค่า หากเราไม่ได้ฉลองมันร่วมกัน
...
"... We're gonna win the league
And now your gonna believe us ..."
เสียงโฆษกในสนามกล่าวขึ้นหลังจากได้ยินเหล่าเดอะ ค็อป ร้องเพลง
We're gonna win the league กันลั่นสนาม
"... พวกเขากำลังร้องเพลง
แน่ล่ะ นั่นไม่ได้มีแค่ความหวัง
มันยังเต็มไปด้วยศรัทธาอีกด้วย ..."
[Liverpool] พวกเขากำลังร้องเพลง .. ไม่ใช่แค่เพราะมีความหวัง ... สิ่งที่พวกเขามีอีก .. คือ "ศรัทธา"
"We're gonna win the league"
เดอะ ค็อปร้องมันตอนที่นักเตะทำประตูได้ ร้องตอนที่ทีมกำลังเร่งเกมบุก
ร้องตอนที่ทีมกำลังเจอนำ ร้องตอนที่หมดเวลาการแข่งขัน
ร้องตอนเดินออกจากกสนาม ร้องตอนฉลองอยู่ในร้านพร้อมกับเหยือกเบียร์ในมือ
ร้องตอนนั่งรถไฟกลับบ้าน ...
แม้แต่ร้องอยู่หน้าจอทีวีที่บ้าน ..
ว่าง่ายๆ พวกเขาร้องเพลงนั้นกันตลอดเวลานั่นแหละ ..
ก่อนอื่นต้องบอกว่า เพลงนี้ไม่ใช่เพลงที่เดอะ ค็อปร้องกันเท่านั้น
ว่าไปมันก็เหมือนเพลงกลาง
แฟนๆหลายสโมสรทั่วโลก ก็ร้องเพลงนี้เพื่อเชียร์ทีมตัวเอง
ในวันที่แฟนรู้สึกว่า ทีมมีลุ้นในสถานะนั้นจริงๆ ..
ร้องเพราะรู้สึกว่า เราเข้าใกล้ถ้วยแชมป์เข้าไปทุกที ..
แม้แต่เพลง "You'll never walk alone" เอง
เดิมทีก็ไม่ใช่เพลงที่แฟนๆ ลิเวอร์พูลเป็นคนคิดค้นเนื้อเพลง
แต่เกิดจากการนำเพลงฮิตในยุค 60's มาร้องให้กำลังใจทีม
โดยแฟนๆเริ่มร้องเพลงนี้ราวๆปี 1960 ในสนามแอนด์ฟิลล์ ตอนที่ทีมพ่ายแพ้
ก่อนที่วง "Gerry and the Pacemakers" จะนำมาร้องคัฟเวอร์จนโด่งดัง
และได้เสนอให้ "บิลล์ แชงคลีย์" นำมาใช้เป็น Motto สโมสร
มันได้รับความนิยมมาก เพลงนี้กลายเป็นเพลงประจำสโมสรมาจนถึงปัจจุบัน
แชงคลีย์เสียชีวิตในปี 1981 ปีต่อมา สโมสรจึงได้สร้างประตู "The Shankly Gate" ขึ้น
เพื่ออุทิศแด่ ชายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร
และ You'll never walk alone ถูกยกไปแปะไว้เหนือ The Shankly Gate
... ทุกครั้งที่คุณก้าวเข้าประตูไป โปรดรู้ไว้ ...
... คุณจะไม่เดินเดียวดาย ...
อันที่จริงแล้ว วิถีชีวิตของคนอังกฤษกับเสียงเพลง แทบจะแยกกันไม่ออก
ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรพวกเขาก็มักจะร้องเพลงเสมอ
เพลงอังกฤษยังได้รับความนิยมไปทั่วโลก และบางครั้งเพลงยังเป็นตัวบอกเล่ายุคสมัย ..
ลิเวอร์พูลเป็นต้นกำเนิดของวง "The Beatles"
ขณะที่ฝั่ง แมนเชสเตอร์เองก็มีวงดังอย่าง "Oasis" ...
เพราะฉะนั้น อย่าแปลกใจที่ทำไมกัปตันทีมลิเวอร์พูลคนปัจจุบันถึงบอกว่า
"ถ้าผมไม่ได้เป็นนักฟุตบอลแล้ว ผมคงไปเป็นดีเจเปิดแผ่น"
คุณนึกภาพนั้นออกมั้ย? ภาพกัปตันของเราไปเป็นดีเจสปินแผ่นอะไรแบบนั้น
คุณอาจคิดไม่ถึง แต่นอกจากฟุตบอล
นี่แหละคือวิถีชีวิตของคนอังกฤษ
.. พวกเขาทุกคน ล้วนมีดนตรีในหัวใจ..
...
กลับมาที่เพลง We'll win the league หลายคนอาจจำไม่ได้หรอกว่า ..
เดอะ ค็อปร้องเพลงนี้กระหึ่มสนามครั้งล่าสุดคือเมื่อไหร่...
เมื่อไหร่ที่เราร้องเพลงนี้ด้วยความมั่นใจ ..และหึกเหิมอย่างเช่นในปีนี้
ที่ผ่านมา คุณอาจได้ยินเพลง You'll never walk alone กันจนเบื่อ
ทุกครั้งที่แข่งจบ เราก็จะร้องเพลงนี้ .. ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นเราก็จะ YNWA
เป็นเพลงที่แฟนทีมอื่น เอามาล้อเลียนเราเสมอนั่นแหละ ..
"สโมสรนี้ เอะอะ อะไรก็ YNWA ไม่รู้จะสู้ด้วยคำพูดไหนแล้วหรือไง?"
ซึ่ง..
เราคงต้องบอกว่า ..
"ใช่ ...
เราไม่รู้จะสู้ด้วยอะไร นอกจากบอกว่า
เราจะเคียงข้างคุณเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น"
ก่อนหน้านี้ แฟนๆเริ่มเอาเพลง "We're gonna win the league" มาร้อง
ตั้งแต่ตอนชนะ อาร์เซนอล
แต่มันก็ไม่ได้กระหึ่มไปทั้งสนาม เท่ากับนัดที่ชนะเซาธ์แทมตัน
เพราะนั่นหมายความว่า เราเหลือ 10 นัดสุดท้ายให้ได้ลุ้น
10 นัด.. เป็นตัวเลขที่ .. จะว่าเยอะก็เยอะ จะว่าน้อยก็น้อย ..
แต่สำหรับ 20 กว่าปีที่ผ่านมา..
20 ปี.. ที่ปราศจากการฉลองชัยชนะในถ้วยสูงสุดของลีกในประเทศ
หลังจากเซาธ์แทมตัน เราผ่านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ คาร์ดิฟฟ์มาได้
ทำให้เราเหลืออีก 8 นัดเท่านั้น
8 นัดต่อจากนี้เราไม่มีอะไรจะต้องเสีย
แค่สู้ให้ถึงที่สุด ..
ตอนที่แชงคลีย์ เลือกเพลงนี้ให้มาเป็นเพลงประจำสโมสร
เขาอาจไม่ได้คิดมาก่อนว่า ..
ปัจจุบัน เพลงนี้มันจะปลอมประโลม และ ช่วยฉุดรั้งหัวใจแฟนๆและนักเตะไว้มากแค่ไหน
แชงคลีย์อาจไม่ได้คิดว่า
จะมียุคสมัยที่ลิเวอร์พูลไม่ได้สัมผัสแชมป์ลีกมาเกือบ 20 ปีมาก่อน
แต่พวกเราก็ยังยืนเคียงข้างกันเสมอ
เหมือนดั่งเพลง You'll never walk alone
นั่นถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์เรื่องนึง ของสโมสรเรา
ที่เจตนารมณ์ของคนอีกรุ่น
ส่งต่อถึงคนอีกรุ่นด้วยบทเพลงและฟุตบอล
ชัยชนะจะไม่มีค่า หากเราไม่ได้ฉลองมันร่วมกัน
...
"... We're gonna win the league
And now your gonna believe us ..."
เสียงโฆษกในสนามกล่าวขึ้นหลังจากได้ยินเหล่าเดอะ ค็อป ร้องเพลง
We're gonna win the league กันลั่นสนาม
"... พวกเขากำลังร้องเพลง
แน่ล่ะ นั่นไม่ได้มีแค่ความหวัง
มันยังเต็มไปด้วยศรัทธาอีกด้วย ..."