เคยมีเคสยกมรดกให้คนนอกครอบครัวไหมค่ะ

กระทู้คำถาม
ขอเล่าคร่าวๆนะค่ะ เป็นเรื่องของครอบครัวเราเองค่ะ
คือว่าแม่ได้อยู่กินกับลุงคนหนึ่ง (ลุงเข้ามาอยู่บ้านของแม่ค่ะ) ซึ่งไม่มีการจดทะเบียนกันแต่คนแถวบ้านรับทราบว่าคบกัน มีการเลี้ยงอาหารเพื่อนฝูงของแม่เพื่อประกาศว่าทั้งสองจะคบกันดูแลกัน ทั้งสองคนเป็นพ่อม่ายแม่ม่าย มีลูกติดทั้งคู่แล้วทีนี้ ลุงเขาพูดอยู่เสมอว่าถ้าเป็นอะไรขึ้นมาทรัพย์สินที่เขามีส่วนของเขาเองคนเดียวจะยกให้แม่ของเรา ส่วนอะไรที่เป็นของตระกูลตกทอดมาจะเป็นของลูกหลานของเขาไปนั้นก็คือ บ้านและสินทรัพย์พวกทองๆต่าง
ด้วยความที่ลุงไม่ถูกกับลูกเพราะลูกของลุงไม่ค่อยทำมาหากิน ทะเลาะกันจนลูกของลุงไม่มาดูแล วันที่ลุงเข้าโรงพยาบาลห้อง icu อยู่หลายวัน ลุงตัดสินใจให้แม่ของเราเรียกทนายมาเพื่อจะทำพินัยกรรม ทนายได้มาคุยกับลุงก่อน(ระหว่างนี้ทนายขอให้แม่ไปอยู่ที่อื่นค่ะ เขาจะคุยกับลุงสองคน) และก็กลับไป อาทิตย์ถัดมาลุงถึงได้เซ็นพินัยกรรม พร้อมกับมีพยานสองคนลงชื่อยืนยันด้วย(ทนายที่ทำพินัยกรรมเป็นหนึ่งในพยาน)
หลังจากนั้นมาประมาณอาทิตย์หนึ่ง ลุงเสียชีวิตค่ะ พอจัดการพิธีศพเรียบร้อย ถึงได้มีการเปิดพินัยกรรม ทางญาติของลุงไม่ยอมที่แม่เราได้ส่วนที่เป็นเงินหมด ส่วนลูกได้บ้าน(ซึ่งตอนนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของพี่สาวลุงซึ่งตอนนี้อายุ 79 ปี ถึงจะตกเป็นของลูกของลุงเต็มตัว) พอไปศาลเพื่อที่จะทำเรื่องขอเป็นผู้จัดการมรดกร่วม ทางลูกชายลุงอ้างว่าลายเซ็นไม่เหมือนในธนาคาร เนื่องจากธนาคารลุงเซ็นเป็นลายเซ็น แต่ในพินัยกรรมเซ็นเป็นตัวหนังสือ ชื่อ นามสกุล(print name) ค่ะ. ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงของการพิสูจน์ลายมือค่ะ


อยากถามผู้มีความรู้ทางกฎหมายทุกท่านหรือผู้มีประสบการณ์เคสใกล้เคียงกันนี้ว่า. เรื่องนี้จะใช้เวลานานแค่ไหนค่ะ และแม่เราจะมีโอกาสชนะแบบไร้ข้อกังหาไหม
คือ ถ้าไกล่เกลี่ยได้ก็ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ แต่ทางเราเสียชื่อเสียงเยอะมาก ทางญาติของลุงกล่าวหาสาระพัดว่าแม่ไม่รู้จักพอ แม่เล่นของใส่ลุง สาระพัดจะพูดค่ะ ในฐานะลูกฟังแล้วก็เจ็บใจไม่อยากให้ลูกทรพีของลุงได้ในส่วนที่ลุงตั้งใจยกให้แม่เราเลย ลูกของลุงไม่มาเยี่ยมพ่อตอนอยู่รพ.สักครั้ง. ไม่มาสวดศพ ปากก็พูดว่าไม่ต้องการเองเงินเขาตอนที่เขามีชีวิตอยู่ แต่พอเขาเสียกลับทำส่วนการกระทำซะงั้น และยังติดเหล้าติดผู้หญิงอีก แม่กะว่าถ้าได้แล้วจะแบ่งให้หลานของลุงโดยตรงเองค่ะ เพราะถ้าอยู่ที่ลูกของลุงคงไม่เหลือแน่ๆ

ปล.ถ้าแม่ได้เงินก้อนนี้ ก็จะเสมือนทุนเลี้ยงดูแม่เอง จะได้เกษียรจากงานสักที

ขอบคุณทุกความเห็นมากๆค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่