. นั่งร่านหน้าคอมอยู่ตลอดทุกวันภายในบ้านตั้งแต่ที่เทอสูญหายไปจากวงจรชีวิตเป็นปีๆ ผมคิดถึงเทอจัง...... ระหว่างที่นั่งตาลอยเปิดคลิปวิดีโอไร้สาระบันเทิงอยู่ มีแมลงวันตัวนึงเกาะผลัดไปผลัดมาตามผิวหนังกำพร้าเกือบทั่วร่างกาย มันคงหลงใหลหน้าแข้งผมเป็นอย่างมากเพราะเป็นที่ๆมันบินตอมไปตอมมาบ่อยที่สุด กลิ่นคงโดนใจมากด้วยการสะสมคราบเหงื่อไคเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมงเกินสามัญสำนึกคนทั่วไป อันที่จริงหน้าแข้งผมก็ไม่ได้มีเกสรดอกไม้เพื่อให้แมลงต่างๆมาตอมด้วยความจำเป็น มีแต่ใบหญ้าสีดำเงาขึ้นปกคลุมจนรกตา
โดยปกติจะเป็นยุงที่เป็นเพื่อนบ้านร่วมอาศัยที่ตบตายจนนับศพไม่ไหว แต่มันแปลกตรงที่ผมอยู่ในบ้านที่แมลงวันไม่เคยโคจรเข้ามาร่วมหลายปี เท่าที่จำได้ไม่เคยพบ..... มีมุ้งลวดชำรุดเปิดรับลมจากภายนอก ชำรุดขนาดตัวประมาณแมลงวันพอดีเป๊ะ เป็นทางเดียวทีมันจะสามารถลักลอบเข้ามาสูดดมหน้าแข้ง
ในประสบการณ์สามัญของคนเมืองร้อนรู้ว่าร้อยล่ะ99.99% ไม่มีทางตีมันโดนด้วยมือเปล่าหรือสิ่งของปกติทั่วไปๆ ทำได้อย่างมากก็แค่ปัดป้องให้มันบินหลบและมาตอมใหม่ เวทย์มนตร์ที่ผมได้รับการสืบทอดจากแม่คือการจับแมลงวันด้วยถุงพลาสติกใสที่เอาไว้ใส่ทอฟฟี่ตามร้านโชว์ห่วยทั่วไป แทบไม่เคยมีแมลงวันตัวไหนหนีรอด แล้วก็เป็นไปตามนั้น มันบินกระแทกถุงไปมาราวกับหงุดหงิดที่หลงกลเข้าให้แล้ว มันส่งเสียงหวี่ๆรำคานเข้าหูอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชีวิตของมันดูไร้ค่าถูกลงไปอีก
ณ ตอนนี้ผมได้เป็นราวกับเจ้าของชีวิตของมัน สามารถทำอะไรกับปีกและร่างกายของมันได้ทุกส่วน จากปกติที่แค่สะกิดโดนตัวมันก็ยังไม่สามารถทำได้ ในสัดส่วนของความคิดและความรู้สึกของผมค่อนข้างที่จะกึ่งกลางและสับสนปนเปมากมาย ขาดอย่างเดียวก็คือความเมตตา มันลังเลระหว่าง 1.บี้มันให้ตายทีล่ะนิดๆด้วยเพดานพลาสติก 2.ประกบมือสองข้างประทะกันอย่างแรงโดยมีแมลงวันอยู่ตรงกลาง 3.วางถุงพลาสติกแล้ววางเท้าทาบด้วยความเร็วเสียง 4.ลนมันด้วยไฟจากไม้ขีดตราพญานาค 5.วางถุงนั้นทิ้งไว้เฉยๆให้มันสูดออกซิเจนหมดไปเอง 6.ฯลฯ
ลองเพ่งพิจารณาขณะจิตของมันที่ดูวุ่นวายสับสนและตกใจ เลยตัดสินใจประมวลผลด้วยวิธีการแรนด้อมมั่วๆ.......ช่างมันเถอะ ขี้เกียจขยะแขยงที่จะเห็นซากแมลงเละๆ มันบินหนีไปไกลออกไปในทิศทางตรงกันข้ามกับผม
หลังจากที่ปลดปล่อยมันจากถุงพลาสติกตรานกพิราบ ก็กลับมานั่งที่หน้าจอLCDที่เดิม สักพักก็รู้สึกเหมือนมียุงตัวเบอเริ่มมาเกาะที่หน้าแข้ง ภายใต้ความรู้สึกชั่ววูบก็ตีความไปว่าถ้าเป็นยุงมันคงเป็นยุงที่มีขนาดพิเศษที่ซัดเวย์โปรตีนมาแน่ๆ แต่ยุงแบบนี้มีจริงแค่ในทวีปยุโรปเท่านั้น หันไปจึงไม่แปลกใจเท่าไหร่นักที่เป็นแมลงวัน........
แต่ที่แปลกใจคือมันใช่แมลงวันตัวที่พึ่งปล่อยไปหรือไม่? อาจไม่ใช่มันก็ได้......แต่ก็เป็นไปได้ยากที่ในรอบหลายปีไม่เคยเจอแมลงวันในบ้าน แต่กลับมาเจอสองรอบติดภายในเวลาไม่ถึง5นาที อย่างที่เอ่ยไปข้างต้นรูที่มันลักลอบเข้ามาได้ไม่ได้ใหญ่จนตัวห่าไรก็บินหลงเข้ามาได้ง่ายๆโดยไม่ตั้งใจ เหมือนเป็นรูที่ต้องเจาะจงเท่านั้นจึงสามารถเข้ามาได้ ในใจแอบคิดว่ามันจำรูได้หรือเปล่าวะ.......สมองมืงล้ำหน้าไปไหม กูเดินแถวสยามหลายสิบรอบยังจำไม่ได้เลยว่าจากในสยามดิสเดินไปทิศไหนมันถึงเชื่อมโผล่พาราก้อนหรือมาบุญครอง
ลองปล่อยมันไปซักพัก มันก็ไม่ยอมหลีกหนีออกไป กลับดูสบายใจที่ได้เกาะแล้วดูดเกลือจากหน้าแข้งอย่างไร้การปัดไล่ ถุงพลาสติกใบเดิมจึงได้ใช้การอีกรอบ ระหว่างที่จะปลิดชีพมันด้วยหัวแม่มือ กลับเกิดข้อสงสัยว่าแมลงวันทุกตัวดันเหมือนกันซะจนแยกไม่ออก เราจะรู้ได้ไงว่ามันคือตัวเดิม มันอาจเป็นอีกตัวที่เกี่ยวพันอะไรกับตัวก่อนหน้าที่ตามกลิ่นเพื่อนมันเข้ามาก็เป็นได้ จึงนั่งพินิจพิจารณาแล้วนึกถึงอาชีพที่เคยใฝ่ฝันมาแต่เด็กแล้วได้พังทลายไปแล้วคือจิตรกร สีอะคริลิคที่ไม่ได้ใช้มาเกิน3ปีหรือเกินกว่านั้นจำไม่ได้ บีบใส่ถุงพลาสติก แล้วพยายามบีบลดอาณาเขตให้หลังมันแปะกับสีฟ้าอควา แต่ไม่เป็นตามเป้า มันดันคลุกลงไปเกือบทั้งตัว แต่ด้วยแรงหนืดของสีสำหรับขนาดสิ่งมีชีวิตตัวเท่านี้ มันเปรียบเสมือนกาวตราช้างเป็นลิตรๆมาเทอาบตัวคนๆนึง ถึงผมจะปลดปล่อยให้อิสรภาพแก่มันแล้วก็ตาม ดูไม่เหมือนแต่มันใช่เลย.....ที่ปีกของมันใช้การขยับไม่ได้เลยซักนิดเดียว
ผมเดินหันหลังหันหน้ากลับไปกลับมาหลายรอบ เหมือนจะลังเลระหว่างปล่อยให้มันรับชะตากรรมไปเพราะโดยรอบมีมดแดงสามตัววิ่งไล่มันอยู่ มันพยายามกระเด้งตัวหนีจากจังหวะตอดของมดแดงหรือผมจะช่วยชีวิตมันดี เวลามีจำกัดมากทั้งเหล่าสามเกลอมดแดงที่ดูสามัคคีกันอย่างมาก กับความซวยที่ว่าสีนี้มันคือสีอะคริลิคมันจะแห้งเร็วมหาศาลกว่าสีอื่นจนน่าตกใจ ยิ่งบีบเวลาให้มันกลายเป็นอาหารเหล่า3เกลอได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
อันที่จริงมันก็ทำให้ผมหงุดหงิดพอที่จะฆ่ามันง่ายๆหลายรอบเลยแหล่ะ ผมจึงไม่จำเป็นต้องช่วยมัน ผมจ้องมองต้นมะลิในกระถางหลังบ้าน หยิบน้ำขวดไร้ยี่ห้อเพื่อจะไปรดมัน ผมค่อยๆรดมัน ด้วยเวลาทีทันท่วงทีสายน้ำขับไล่3เกลอเพื่อนยากและลดแรงหนืดของสีอย่างรวดเร็ว
มันรอดตายจากเหตุการณ์ครั้งนี้มาได้อย่างหวุดหวิดในสภาวการณ์หลายๆอย่างทั้งผม ทั้ง3เกลอ สีอะคีลิค และตัวมันเอง หลังคอของมันไม่สามารถล้างสีฟ้าอควาออกได้ มันบินหายไปด้วยท่าทีการบินที่ดูจะเมาตีนพอสมควร
ผมกลับไปนั่งเล่นคอมอยู่เช่นเดิม มีบางอย่างเช่นเคยมาเกาะที่หน้าแข้งผม สอดส่องไปที่หน้าแข้งเป็นยุ่งตัวเมียอ้วนอวบกำลังดูดเฮลบลูบอยอย่างสดชื่นรื่นรมย์ ผมคิดถึงแมลงวันตัวนั้นจัง......
แมลงปี...
โดยปกติจะเป็นยุงที่เป็นเพื่อนบ้านร่วมอาศัยที่ตบตายจนนับศพไม่ไหว แต่มันแปลกตรงที่ผมอยู่ในบ้านที่แมลงวันไม่เคยโคจรเข้ามาร่วมหลายปี เท่าที่จำได้ไม่เคยพบ..... มีมุ้งลวดชำรุดเปิดรับลมจากภายนอก ชำรุดขนาดตัวประมาณแมลงวันพอดีเป๊ะ เป็นทางเดียวทีมันจะสามารถลักลอบเข้ามาสูดดมหน้าแข้ง
ในประสบการณ์สามัญของคนเมืองร้อนรู้ว่าร้อยล่ะ99.99% ไม่มีทางตีมันโดนด้วยมือเปล่าหรือสิ่งของปกติทั่วไปๆ ทำได้อย่างมากก็แค่ปัดป้องให้มันบินหลบและมาตอมใหม่ เวทย์มนตร์ที่ผมได้รับการสืบทอดจากแม่คือการจับแมลงวันด้วยถุงพลาสติกใสที่เอาไว้ใส่ทอฟฟี่ตามร้านโชว์ห่วยทั่วไป แทบไม่เคยมีแมลงวันตัวไหนหนีรอด แล้วก็เป็นไปตามนั้น มันบินกระแทกถุงไปมาราวกับหงุดหงิดที่หลงกลเข้าให้แล้ว มันส่งเสียงหวี่ๆรำคานเข้าหูอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชีวิตของมันดูไร้ค่าถูกลงไปอีก
ณ ตอนนี้ผมได้เป็นราวกับเจ้าของชีวิตของมัน สามารถทำอะไรกับปีกและร่างกายของมันได้ทุกส่วน จากปกติที่แค่สะกิดโดนตัวมันก็ยังไม่สามารถทำได้ ในสัดส่วนของความคิดและความรู้สึกของผมค่อนข้างที่จะกึ่งกลางและสับสนปนเปมากมาย ขาดอย่างเดียวก็คือความเมตตา มันลังเลระหว่าง 1.บี้มันให้ตายทีล่ะนิดๆด้วยเพดานพลาสติก 2.ประกบมือสองข้างประทะกันอย่างแรงโดยมีแมลงวันอยู่ตรงกลาง 3.วางถุงพลาสติกแล้ววางเท้าทาบด้วยความเร็วเสียง 4.ลนมันด้วยไฟจากไม้ขีดตราพญานาค 5.วางถุงนั้นทิ้งไว้เฉยๆให้มันสูดออกซิเจนหมดไปเอง 6.ฯลฯ
ลองเพ่งพิจารณาขณะจิตของมันที่ดูวุ่นวายสับสนและตกใจ เลยตัดสินใจประมวลผลด้วยวิธีการแรนด้อมมั่วๆ.......ช่างมันเถอะ ขี้เกียจขยะแขยงที่จะเห็นซากแมลงเละๆ มันบินหนีไปไกลออกไปในทิศทางตรงกันข้ามกับผม
หลังจากที่ปลดปล่อยมันจากถุงพลาสติกตรานกพิราบ ก็กลับมานั่งที่หน้าจอLCDที่เดิม สักพักก็รู้สึกเหมือนมียุงตัวเบอเริ่มมาเกาะที่หน้าแข้ง ภายใต้ความรู้สึกชั่ววูบก็ตีความไปว่าถ้าเป็นยุงมันคงเป็นยุงที่มีขนาดพิเศษที่ซัดเวย์โปรตีนมาแน่ๆ แต่ยุงแบบนี้มีจริงแค่ในทวีปยุโรปเท่านั้น หันไปจึงไม่แปลกใจเท่าไหร่นักที่เป็นแมลงวัน........
แต่ที่แปลกใจคือมันใช่แมลงวันตัวที่พึ่งปล่อยไปหรือไม่? อาจไม่ใช่มันก็ได้......แต่ก็เป็นไปได้ยากที่ในรอบหลายปีไม่เคยเจอแมลงวันในบ้าน แต่กลับมาเจอสองรอบติดภายในเวลาไม่ถึง5นาที อย่างที่เอ่ยไปข้างต้นรูที่มันลักลอบเข้ามาได้ไม่ได้ใหญ่จนตัวห่าไรก็บินหลงเข้ามาได้ง่ายๆโดยไม่ตั้งใจ เหมือนเป็นรูที่ต้องเจาะจงเท่านั้นจึงสามารถเข้ามาได้ ในใจแอบคิดว่ามันจำรูได้หรือเปล่าวะ.......สมองมืงล้ำหน้าไปไหม กูเดินแถวสยามหลายสิบรอบยังจำไม่ได้เลยว่าจากในสยามดิสเดินไปทิศไหนมันถึงเชื่อมโผล่พาราก้อนหรือมาบุญครอง
ลองปล่อยมันไปซักพัก มันก็ไม่ยอมหลีกหนีออกไป กลับดูสบายใจที่ได้เกาะแล้วดูดเกลือจากหน้าแข้งอย่างไร้การปัดไล่ ถุงพลาสติกใบเดิมจึงได้ใช้การอีกรอบ ระหว่างที่จะปลิดชีพมันด้วยหัวแม่มือ กลับเกิดข้อสงสัยว่าแมลงวันทุกตัวดันเหมือนกันซะจนแยกไม่ออก เราจะรู้ได้ไงว่ามันคือตัวเดิม มันอาจเป็นอีกตัวที่เกี่ยวพันอะไรกับตัวก่อนหน้าที่ตามกลิ่นเพื่อนมันเข้ามาก็เป็นได้ จึงนั่งพินิจพิจารณาแล้วนึกถึงอาชีพที่เคยใฝ่ฝันมาแต่เด็กแล้วได้พังทลายไปแล้วคือจิตรกร สีอะคริลิคที่ไม่ได้ใช้มาเกิน3ปีหรือเกินกว่านั้นจำไม่ได้ บีบใส่ถุงพลาสติก แล้วพยายามบีบลดอาณาเขตให้หลังมันแปะกับสีฟ้าอควา แต่ไม่เป็นตามเป้า มันดันคลุกลงไปเกือบทั้งตัว แต่ด้วยแรงหนืดของสีสำหรับขนาดสิ่งมีชีวิตตัวเท่านี้ มันเปรียบเสมือนกาวตราช้างเป็นลิตรๆมาเทอาบตัวคนๆนึง ถึงผมจะปลดปล่อยให้อิสรภาพแก่มันแล้วก็ตาม ดูไม่เหมือนแต่มันใช่เลย.....ที่ปีกของมันใช้การขยับไม่ได้เลยซักนิดเดียว
ผมเดินหันหลังหันหน้ากลับไปกลับมาหลายรอบ เหมือนจะลังเลระหว่างปล่อยให้มันรับชะตากรรมไปเพราะโดยรอบมีมดแดงสามตัววิ่งไล่มันอยู่ มันพยายามกระเด้งตัวหนีจากจังหวะตอดของมดแดงหรือผมจะช่วยชีวิตมันดี เวลามีจำกัดมากทั้งเหล่าสามเกลอมดแดงที่ดูสามัคคีกันอย่างมาก กับความซวยที่ว่าสีนี้มันคือสีอะคริลิคมันจะแห้งเร็วมหาศาลกว่าสีอื่นจนน่าตกใจ ยิ่งบีบเวลาให้มันกลายเป็นอาหารเหล่า3เกลอได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
อันที่จริงมันก็ทำให้ผมหงุดหงิดพอที่จะฆ่ามันง่ายๆหลายรอบเลยแหล่ะ ผมจึงไม่จำเป็นต้องช่วยมัน ผมจ้องมองต้นมะลิในกระถางหลังบ้าน หยิบน้ำขวดไร้ยี่ห้อเพื่อจะไปรดมัน ผมค่อยๆรดมัน ด้วยเวลาทีทันท่วงทีสายน้ำขับไล่3เกลอเพื่อนยากและลดแรงหนืดของสีอย่างรวดเร็ว
มันรอดตายจากเหตุการณ์ครั้งนี้มาได้อย่างหวุดหวิดในสภาวการณ์หลายๆอย่างทั้งผม ทั้ง3เกลอ สีอะคีลิค และตัวมันเอง หลังคอของมันไม่สามารถล้างสีฟ้าอควาออกได้ มันบินหายไปด้วยท่าทีการบินที่ดูจะเมาตีนพอสมควร
ผมกลับไปนั่งเล่นคอมอยู่เช่นเดิม มีบางอย่างเช่นเคยมาเกาะที่หน้าแข้งผม สอดส่องไปที่หน้าแข้งเป็นยุ่งตัวเมียอ้วนอวบกำลังดูดเฮลบลูบอยอย่างสดชื่นรื่นรมย์ ผมคิดถึงแมลงวันตัวนั้นจัง......