เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมนำมาจากเพจที่มีชื่อว่า
"คลังประวัติศาสตร์ไทย" (
https://www.facebook.com/ThailandhistoryOFwarehouse)
ภายใต้การโพสต์โดยผู้ดูแลเพจ ที่มาครับ :
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=372495816227378&set=a.120142734796022.30235.119437984866497&type=1&theater
"
จะไม่บรรทมหลับ "ข้ามวัน"
ธรรมเนียมนี้มีมาจากสมัยอยุธยาแล้วที่ว่า พระมหากษัตริย์หรือเจ้านายในพระราชวงศ์จะไม่บรรทมหลับข้ามวัน
คือนอนจากวันนี้ข้ามเที่ยงคืนไปอีกวันหนึ่ง แต่จะบรรทมก็ต่อเมื่อหลังเที่ยงคืนไปแล้ว
รัชกาลที่ 6 ทรงอธิบายไว้ว่า เป็นมาตั้งแต่พระเจ้าอยู่หัวกรุงเก่าแล้ว ที่พระมหากษัตริย์จะทรงงานในเวลากลางคืน
เปรียบเหมือนทรงเป็นนายยามคอยระวังภัยให้ราษฎรของพระองค์
เพราะเวลากลางคืนเป็นเวลาที่ราษฎรทั้งหลายพักผ่อนนอนหลับจากการประกอบอาชีพมาทั้งวัน
เมื่อมีข้าศึกหรือมีภัยมาในเวลากลางคืนพระมหากษัตริย์ซึ่งทรงงานอยู่ในเวลากลางคืน
ก็จะสามารถจัดการป้องกันภัยนั้นให้แก่ราษฎรได้และเมื่อราษฎรตื่นนอนในตอนใกล้รุ่งจึงเสด็จเข้าพระบรรทม
จึงเป็นที่มาของการไม่บรรทมหลับข้ามวัน ดังตัวอย่างเจ้านายในพระราชวงศ์จักรี
เช่น สมเด็จพระพันปีหลวงก็จะทรงงานจนถึงเช้า เล่ากันว่ารอบๆตำหนักที่ประทับวังสวนดุสิตหรือวังพญาไทจะสว่างตลอดทั้งคืน
หรือ พระนางเจ้าสุขุมาลฯซึ่งดำรงตำแหน่งเลขาฯส่วนพระองค์ในรัชกาลที่ 5 เมื่อถึงเวลา 4 ทุ่ม
ก็จะเสด็จขึ้นพระที่นั่งจักรีเพื่อทรงงานพระอักษรถวายรัชกาลที่5จนถึงตีสี่จึงเสด็จกลับ
สำหรับในหลวงของเรา เมื่อครั้งยังมีพระวรกายแข็งแรงก็ไม่ทรงบรรทมหลับข้ามวันเช่นกัน
โดยในเวลากลางคืนพระองค์จะทรงงานด้านแผนที่ และสรุปการทรงงานโครงการในพระราชดำริของแต่ละวันจนเช้า
จึงเสด็จเข้าบรรทมหรือบรรทมในรถยนต์พระที่นั่งหากมีพระราชกรณียกิจต่อในช่วงเช้า
อีกหนึ่งพระองค์คือ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน ที่มักจะเสด็จทรงงานในเวลาใกล้ค่ำ
กลับถึงตำหนักที่ประทับในเวลาดึกแล้วทรงพระอักษรชมรมหรือมูลนิธิที่พระองค์ทรงดูแลต่อจนใกล้รุ่งถึงเข้าบรรทมจนเป็นกิจวัตร
และอีกหลายๆพระองค์
ขอขอบคุณสมาชิกเพจทุกท่านครับ "
ผมเห็นว่าเป็นเรื่องหลายๆ คนอาจยังไม่เคยทราบมาก่อนว่า "นี่คือสิ่งที่พระมหากษัตริย์หรือเจ้านายในพระราชวงศ์ของไทยเราทำสืบต่อกันมา"
เพราะตอนแรกที่ผมอ่านยอมรับเลยว่า อึ้งและตามมาด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อประชาชน
นอกเหนือจากเรื่องราวนี้แล้วก็ยังมีอีกหลายๆเรื่องเกี่ยวกับพระราชวงศ์รวมไปถึงประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
เป็นเพจที่ดีครับ อยากให้ลองอ่านและติดตามกันสำหรับคนที่ชื่นชอบเรื่องราวเหล่านี้
ปล. ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเพจเค้านะครับ แค่เห็นว่าเนื้อหามีสาระดีเลยนำมาบอกต่อ
** ถ้าเป็นการตั้งกระทู้ซ้ำต้องขออภัยด้วยนะครับ
จะไม่บรรทมหลับ "ข้ามวัน"
ภายใต้การโพสต์โดยผู้ดูแลเพจ ที่มาครับ : https://www.facebook.com/photo.php?fbid=372495816227378&set=a.120142734796022.30235.119437984866497&type=1&theater
ธรรมเนียมนี้มีมาจากสมัยอยุธยาแล้วที่ว่า พระมหากษัตริย์หรือเจ้านายในพระราชวงศ์จะไม่บรรทมหลับข้ามวัน
คือนอนจากวันนี้ข้ามเที่ยงคืนไปอีกวันหนึ่ง แต่จะบรรทมก็ต่อเมื่อหลังเที่ยงคืนไปแล้ว
รัชกาลที่ 6 ทรงอธิบายไว้ว่า เป็นมาตั้งแต่พระเจ้าอยู่หัวกรุงเก่าแล้ว ที่พระมหากษัตริย์จะทรงงานในเวลากลางคืน
เปรียบเหมือนทรงเป็นนายยามคอยระวังภัยให้ราษฎรของพระองค์
เพราะเวลากลางคืนเป็นเวลาที่ราษฎรทั้งหลายพักผ่อนนอนหลับจากการประกอบอาชีพมาทั้งวัน
เมื่อมีข้าศึกหรือมีภัยมาในเวลากลางคืนพระมหากษัตริย์ซึ่งทรงงานอยู่ในเวลากลางคืน
ก็จะสามารถจัดการป้องกันภัยนั้นให้แก่ราษฎรได้และเมื่อราษฎรตื่นนอนในตอนใกล้รุ่งจึงเสด็จเข้าพระบรรทม
จึงเป็นที่มาของการไม่บรรทมหลับข้ามวัน ดังตัวอย่างเจ้านายในพระราชวงศ์จักรี
เช่น สมเด็จพระพันปีหลวงก็จะทรงงานจนถึงเช้า เล่ากันว่ารอบๆตำหนักที่ประทับวังสวนดุสิตหรือวังพญาไทจะสว่างตลอดทั้งคืน
หรือ พระนางเจ้าสุขุมาลฯซึ่งดำรงตำแหน่งเลขาฯส่วนพระองค์ในรัชกาลที่ 5 เมื่อถึงเวลา 4 ทุ่ม
ก็จะเสด็จขึ้นพระที่นั่งจักรีเพื่อทรงงานพระอักษรถวายรัชกาลที่5จนถึงตีสี่จึงเสด็จกลับ
สำหรับในหลวงของเรา เมื่อครั้งยังมีพระวรกายแข็งแรงก็ไม่ทรงบรรทมหลับข้ามวันเช่นกัน
โดยในเวลากลางคืนพระองค์จะทรงงานด้านแผนที่ และสรุปการทรงงานโครงการในพระราชดำริของแต่ละวันจนเช้า
จึงเสด็จเข้าบรรทมหรือบรรทมในรถยนต์พระที่นั่งหากมีพระราชกรณียกิจต่อในช่วงเช้า
อีกหนึ่งพระองค์คือ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน ที่มักจะเสด็จทรงงานในเวลาใกล้ค่ำ
กลับถึงตำหนักที่ประทับในเวลาดึกแล้วทรงพระอักษรชมรมหรือมูลนิธิที่พระองค์ทรงดูแลต่อจนใกล้รุ่งถึงเข้าบรรทมจนเป็นกิจวัตร
และอีกหลายๆพระองค์
ขอขอบคุณสมาชิกเพจทุกท่านครับ "
ผมเห็นว่าเป็นเรื่องหลายๆ คนอาจยังไม่เคยทราบมาก่อนว่า "นี่คือสิ่งที่พระมหากษัตริย์หรือเจ้านายในพระราชวงศ์ของไทยเราทำสืบต่อกันมา"
เพราะตอนแรกที่ผมอ่านยอมรับเลยว่า อึ้งและตามมาด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อประชาชน
นอกเหนือจากเรื่องราวนี้แล้วก็ยังมีอีกหลายๆเรื่องเกี่ยวกับพระราชวงศ์รวมไปถึงประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
เป็นเพจที่ดีครับ อยากให้ลองอ่านและติดตามกันสำหรับคนที่ชื่นชอบเรื่องราวเหล่านี้
ปล. ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเพจเค้านะครับ แค่เห็นว่าเนื้อหามีสาระดีเลยนำมาบอกต่อ
** ถ้าเป็นการตั้งกระทู้ซ้ำต้องขออภัยด้วยนะครับ