ไปสมัครงานที่ใหม่ ตำแหน่ง Customer Service ในห้างแห่งหนึ่ง
ไม่ได้เรียนจบด้านนี้มา แต่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับด้านนี้อยู่บ้าง ตอนทำงานอยู่อีกที่หนึ่ง
พอถึงเวลาสัมภาษณ์งาน HR เล่นถามคำถามเป็นภาษาอังกฤษหมด ซึ่งเราก็ทำได้อย่มาก ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย
เพราะ 1.ไม่ได้เตรียมตัว ตื่นเต้น 2.ประมาท ไม่นึกว่าเขาจะถามเป็นภาษาอังกฤษหมด
3.บางทีเราฟังเขาพูดรู้เรื่อง รู้ว่าเขาถามอะไร แต่เราก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่มีความรู้ในสิ่งที่เขาถาม
นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าตำแหน่ง Customer Service มันต้องใช้ภาษาอังกฤษมากขนาดนี้
เพราะตอนเราทำงานที่เก่า เราก็ได้มองเห็นและมีโอกาสได้ช่วยงาน Customer Service บ้าง
ซึ่งพนักงานเขาก็ใช้ภาษาไทยทั้งนั้น น้อยครั้งที่จะใช้ภาษาอื่น ถึงใช้ภาษาอื่น ก็แค่สื่อสารงูๆ ปลาๆ
ให้อีกฝ่ายพอรู้เรื่องก็ใช้ได้แล้ว แต่สุดท้าย เราก็คิดว่าเราพลาดเองแหละ โทษใครไม่ได้
สถานที่แห่งนั้นมันไฮโซ คนละระดับกับที่ๆเราเคยทำมา คงไม่สามารถเอามาเปรียบเทียบกันได้
ที่นี่เขาต้องการผลคะแนน Toeic ด้วย ซึ่งเราไม่มี แถมโดน HR ดูถูกให้รู้สึกแย่อีก
เขาบอกว่า ว่าถึงเราจะไปสอบ Toeic คะแนนก็คงไม่ถึงเกณฑ์ที่เขาต้องการ เพราะการใช้ภาษาของเรายังไม่ผ่าน
นึกดูสิ น่าสมเพชแค่ไหน สำหรับคนที่จบ ป.ตรี เคยสอบภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัยด้วยคะแนนติดอันดับต้นๆของคณะ
ใครๆ ต่างก็คิดว่าเราต้องเก่งภาษา แต่พอเอาเข้าจริง เราก็ล้มเหลว แย่ซะยิ่งกว่าพวกได้รับการศึกษาน้อยอีก
จริงๆเราก็รู้มาตั้งนานแล้วว่าเราไม่เก่งภาษา เก่งแต่ในห้องเรียน ก็พอเรียนจบมา ก็ใช้แต่ภาษาไทย ภาษาอื่นๆ ไม่เคยฝึกฝน
ยังไม่จบ สุดท้ายเราก็เลยเปลี่ยนไปสมัครตำแหน่งแคชเชียร์แทน HR เขาก็ทำท่าจะรับเราแล้ว
HR บอกว่าจะติดต่อไปอีกที นัดวันกันเรียบร้อย แต่พอกลับมาบ้าน โดนแม่ดุอีก บอกว่าไปสมัครแคชเชียร์ทำไม
ต้องยืนทั้งวัน ทำไมไม่สมัครตำแหน่งอื่น(ที่แม่คิดว่าดีกว่าตำแหน่งนี้) เราก็ไม่รู้จะสมัครตำแหน่งอะไรแล้ว
ถ้าจะไปสมัครตำแหน่งด้านที่เราเรียนจบมา ก็เป็นไปได้ยากที่เขาจะรับ เพราะวุฒิภาวะเรายังไม่มากพอ (HR เคยบอกเรา)
แต่บางทีถ้าเขาติดต่อให้เราไปเป็นแคชเชียร์จริงๆ เราอาจไม่เอาแล้วก็ได้ ที่สมัครไปเพราะเห็นแก่แม่หรอก
เขาไม่อยากให้เราต้องมาอยู่ในสภาพของคนตกงาน/ว่างงาน แต่ในเมื่อตำแหน่งที่เราสมัครนั้นทำให้แม่ไม่ปลื้ม
และเราก็ไม่ได้ชอบมากนัก เราก็อาจยอมว่างงานไปก่อนก็ได้ บางทีการว่างงานมันอาจมีข้อดีก็ได้
นี่เป็นการคิดปลอบใจตัวเองหรอก ตอนนี้รู้สึกเฟลจริงๆ
นี่เป็นการระบาย ใครมีอะไรจะคอมเม้นก็คอมเม้นได้เลย ขออย่างเดียว อย่าแสดงความเป็นนักเลงคีย์บอร์ดในนี้
คนมันเฟลอยู่แล้ว ไม่ต้องการถูกตอกย้ำอีก และคิดว่าบางทีเรื่องของเรามันอาจเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านบางคนก็ได้
ประสบการณ์น่าอาย จากการไปสมัครงาน
ไม่ได้เรียนจบด้านนี้มา แต่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับด้านนี้อยู่บ้าง ตอนทำงานอยู่อีกที่หนึ่ง
พอถึงเวลาสัมภาษณ์งาน HR เล่นถามคำถามเป็นภาษาอังกฤษหมด ซึ่งเราก็ทำได้อย่มาก ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย
เพราะ 1.ไม่ได้เตรียมตัว ตื่นเต้น 2.ประมาท ไม่นึกว่าเขาจะถามเป็นภาษาอังกฤษหมด
3.บางทีเราฟังเขาพูดรู้เรื่อง รู้ว่าเขาถามอะไร แต่เราก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่มีความรู้ในสิ่งที่เขาถาม
นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าตำแหน่ง Customer Service มันต้องใช้ภาษาอังกฤษมากขนาดนี้
เพราะตอนเราทำงานที่เก่า เราก็ได้มองเห็นและมีโอกาสได้ช่วยงาน Customer Service บ้าง
ซึ่งพนักงานเขาก็ใช้ภาษาไทยทั้งนั้น น้อยครั้งที่จะใช้ภาษาอื่น ถึงใช้ภาษาอื่น ก็แค่สื่อสารงูๆ ปลาๆ
ให้อีกฝ่ายพอรู้เรื่องก็ใช้ได้แล้ว แต่สุดท้าย เราก็คิดว่าเราพลาดเองแหละ โทษใครไม่ได้
สถานที่แห่งนั้นมันไฮโซ คนละระดับกับที่ๆเราเคยทำมา คงไม่สามารถเอามาเปรียบเทียบกันได้
ที่นี่เขาต้องการผลคะแนน Toeic ด้วย ซึ่งเราไม่มี แถมโดน HR ดูถูกให้รู้สึกแย่อีก
เขาบอกว่า ว่าถึงเราจะไปสอบ Toeic คะแนนก็คงไม่ถึงเกณฑ์ที่เขาต้องการ เพราะการใช้ภาษาของเรายังไม่ผ่าน
นึกดูสิ น่าสมเพชแค่ไหน สำหรับคนที่จบ ป.ตรี เคยสอบภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัยด้วยคะแนนติดอันดับต้นๆของคณะ
ใครๆ ต่างก็คิดว่าเราต้องเก่งภาษา แต่พอเอาเข้าจริง เราก็ล้มเหลว แย่ซะยิ่งกว่าพวกได้รับการศึกษาน้อยอีก
จริงๆเราก็รู้มาตั้งนานแล้วว่าเราไม่เก่งภาษา เก่งแต่ในห้องเรียน ก็พอเรียนจบมา ก็ใช้แต่ภาษาไทย ภาษาอื่นๆ ไม่เคยฝึกฝน
ยังไม่จบ สุดท้ายเราก็เลยเปลี่ยนไปสมัครตำแหน่งแคชเชียร์แทน HR เขาก็ทำท่าจะรับเราแล้ว
HR บอกว่าจะติดต่อไปอีกที นัดวันกันเรียบร้อย แต่พอกลับมาบ้าน โดนแม่ดุอีก บอกว่าไปสมัครแคชเชียร์ทำไม
ต้องยืนทั้งวัน ทำไมไม่สมัครตำแหน่งอื่น(ที่แม่คิดว่าดีกว่าตำแหน่งนี้) เราก็ไม่รู้จะสมัครตำแหน่งอะไรแล้ว
ถ้าจะไปสมัครตำแหน่งด้านที่เราเรียนจบมา ก็เป็นไปได้ยากที่เขาจะรับ เพราะวุฒิภาวะเรายังไม่มากพอ (HR เคยบอกเรา)
แต่บางทีถ้าเขาติดต่อให้เราไปเป็นแคชเชียร์จริงๆ เราอาจไม่เอาแล้วก็ได้ ที่สมัครไปเพราะเห็นแก่แม่หรอก
เขาไม่อยากให้เราต้องมาอยู่ในสภาพของคนตกงาน/ว่างงาน แต่ในเมื่อตำแหน่งที่เราสมัครนั้นทำให้แม่ไม่ปลื้ม
และเราก็ไม่ได้ชอบมากนัก เราก็อาจยอมว่างงานไปก่อนก็ได้ บางทีการว่างงานมันอาจมีข้อดีก็ได้
นี่เป็นการคิดปลอบใจตัวเองหรอก ตอนนี้รู้สึกเฟลจริงๆ
นี่เป็นการระบาย ใครมีอะไรจะคอมเม้นก็คอมเม้นได้เลย ขออย่างเดียว อย่าแสดงความเป็นนักเลงคีย์บอร์ดในนี้
คนมันเฟลอยู่แล้ว ไม่ต้องการถูกตอกย้ำอีก และคิดว่าบางทีเรื่องของเรามันอาจเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านบางคนก็ได้