ความจริงเรื่องนี้เกิดตั้งแต่กลางปีที่แล้ว วันนี้เพิ่งเอาไอแพดของแฟนมานั่งเปิดดูรูป
ก็ไปเห็นรูปที่ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น และอยากจะขอบคุณบุคคลที่ให้
ความช่วยเหลือในวันนั้นด้วย
วันที่ลิเวอร์พูลมาเยือนเมืองไทยเมื่อกลางปีที่แล้ว ผมให้เพื่อนหาตั๋วได้สองใบ
ตั้งใจจะไปดูกับลูกชายคนโต เพราะเป็นแฟนพันธุ์แท้ด้วยกันทั้งคู่ เราขับรถ
มุ่งหน้าสู่ กทม. กันทั้งครอบครัว 4 คน พ่อ แม่ และลูก ๆ ทีแรกตกลงกันว่า
ผมกับลูกชายคนโตเข้าไปดูบอล แฟนกับลูกชายคนเล็กให้ไปช็อปปิ้งที่เดอะมอล์ล
พอบอลเลิกค่อยมาเจอกัน
พอถึงเวลาจริง ๆ เราแยกกันไม่ได้ ก็เลยไปดูบอลด้วยกันทั้งครอบครัว ทั้งที่มีตั๋ว 2 ใบ
เราบอกคนเฝ้าประตูทางเข้าว่า เราเป็นแฟนลิเวอร์พูล ขับรถมาจากต่างจังหวัด
แต่เรามีตั๋วแค่ 2 ใบ ขอเข้าไปทั้งสี่คนได้มั้ย เค้าก็อนุญาตให้เราเข้าไปได้ ต้องขอบคุณมาก
เมื่อได้เข้าไปเชียร์ทีมรักสมใจ เราก็ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่แสนวิเศษ และเป็นครั้งแรก
ที่เราได้ดูบอลในสนามพร้อมกันทั้งครอบครัว ช่วงพักครึ่ง ผมก็พาลูกชายทั้งสองคนมาเข้าห้องน้ำ
ซึ่งแออัดไปด้วยผู้คน ต้องต่อคิดกันยาวมาก ผมให้ลูกชายทั้งสองคนเข้าไปก่อน ผมยืนรอด้านนอก
พอลูกชายออกมา ผมก็ให้ลูก ๆ ยืนรอ และสั่งคนโตให้ดูแลน้องวัย 5 ขวบให้ดี เพราะคนน้องชอบ
วิ่งซน เวลาไปเที่ยวที่ไหนมักจะหายเป็นประจำ ผมไปเข้าห้องน้ำต้องต่อคิวอยู่นาน กว่าจะทำ
ธุระเสร็จ พอออกมาด้านนอก เห็นลูกชายคนโตยืนอยู่คนเดียว ไม่มีเจ้าตัวเล็ก
ผมก็ถามว่าน้องไปไหน เค้าบอกว่าน้องวิ่งเข้าไปในโน้น (ชี่ไปที่โซนที่นั่ง 3,000 ของผม 1,500)
ผมถามว่าทำไมไม่ตามน้องเข้าไป ลูกตอบว่า กลัวป๊าออกมาแล้วจะไม่เจอใคร เลยไม่กล้าตามไป
ตอนนั้นผมเป็นห่วงเจ้าตัวเล็กมาก เพราะในสนามพื้นที่มันกว้าง และทุกคนก็ใส่เสื้อสีเดียวกัน
จะตามหาไม่ใช่ง่าย ๆ ผมไปถามคนที่เฝ้าประตู เค้าบอกว่าเห็นน้องวิ่งเข้าไป ยังไม่เห็นวิ่งออกมา
แต่จะออกประตูอื่นหรือเปล่าไม่รู้ เค้าช่วยตามหาให้ไม่ได้ เพราะต้องยืนเฝ้าที่ตัวเอง แต่อนุญาต
ให้ผมเข้าไปหาในชั้น 3,000 และวิทยุบอกให้ที่ประตูอื่นคอยดูว่ามีเด็กลักษณะเหมือนลูกผมมั้ย
ผมเดินหาอยู่ราว 20 นาทีก็หาไม่เจอ บอลก็เริ่มแข่งครึ่งหลังแล้ว จะไปเดินหาก็เกรงใจคนที่นั่งดูบอล
กลัวจะไปบังเค้า ใจคอก็ไม่ค่อยดี แม้ว่าเค้าจะเคยหายหลายครั้งในห้าง แต่ก็ยังให้ประชาสัมพันธ์ประกาศ
และดูกล้องวงจรปิดได้ แต่นี่ในสนามบอล คนหลายหมื่น แต่งตัวเหมือนกัน ผมจึงพาลูกชายคนโตกลับไป
นั่งที่เดิมของเรา แล้วก็บอกแฟนว่าลูกชายคนเล็กหาย เค้าได้ยินก็แทบเป็นลม สังหรณ์ใจอยู่แล้วว่าจะหาย
เค้าบอกให้ผมนั่งรอ เค้าจะออกไปตามหาเอง เค้าออกไปหาประมาณ 30 นาที ก็โทรมาบอกผมว่า หาเจอแล้ว
เค้าจะรอกับลูกแถว ๆ นั้น ไม่กลับเข้ามาข้างในแล้ว พอบอลจบ ผมก็ไปหาแฟนและลูก แฟนเล่าว่า ระหว่างเดินหา
มีเบอร์แปลกโทรเข้ามา ถามว่าเป็นคุณแม่ของน้องพีคใช่มั้ย ตอนนี้น้องเค้าอยู่ตรงนี้นะ เค้าขอให้โทรหาแม่
เค้าบอกว่า "พี่ครับ ๆ น้องหาป๊าไม่เจอ ช่วยโทรหาแม่ให้หน่อย" แล้วก็บอกเบอร์แม่เค้าไป พวกเราขอบคุณ
เจ้าหน้าที่ ๆ เฝ้าประตู แล้วก็พากันเดินทางกลับ ประสบการณ์ในวันนั้น มีทั้งความประทับใจ ตื่นเต้น และระทึก
ปล. ถ้าลิเวอร์พูลมาเมืองไทยอีก ผมก็จะพาครอบครัวไปเชียร์ทีมรักอีกครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เหตุเกิดในวันที่ไปเชียร์ทีมรักกับครอบครัว
ก็ไปเห็นรูปที่ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น และอยากจะขอบคุณบุคคลที่ให้
ความช่วยเหลือในวันนั้นด้วย
วันที่ลิเวอร์พูลมาเยือนเมืองไทยเมื่อกลางปีที่แล้ว ผมให้เพื่อนหาตั๋วได้สองใบ
ตั้งใจจะไปดูกับลูกชายคนโต เพราะเป็นแฟนพันธุ์แท้ด้วยกันทั้งคู่ เราขับรถ
มุ่งหน้าสู่ กทม. กันทั้งครอบครัว 4 คน พ่อ แม่ และลูก ๆ ทีแรกตกลงกันว่า
ผมกับลูกชายคนโตเข้าไปดูบอล แฟนกับลูกชายคนเล็กให้ไปช็อปปิ้งที่เดอะมอล์ล
พอบอลเลิกค่อยมาเจอกัน
พอถึงเวลาจริง ๆ เราแยกกันไม่ได้ ก็เลยไปดูบอลด้วยกันทั้งครอบครัว ทั้งที่มีตั๋ว 2 ใบ
เราบอกคนเฝ้าประตูทางเข้าว่า เราเป็นแฟนลิเวอร์พูล ขับรถมาจากต่างจังหวัด
แต่เรามีตั๋วแค่ 2 ใบ ขอเข้าไปทั้งสี่คนได้มั้ย เค้าก็อนุญาตให้เราเข้าไปได้ ต้องขอบคุณมาก
เมื่อได้เข้าไปเชียร์ทีมรักสมใจ เราก็ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่แสนวิเศษ และเป็นครั้งแรก
ที่เราได้ดูบอลในสนามพร้อมกันทั้งครอบครัว ช่วงพักครึ่ง ผมก็พาลูกชายทั้งสองคนมาเข้าห้องน้ำ
ซึ่งแออัดไปด้วยผู้คน ต้องต่อคิดกันยาวมาก ผมให้ลูกชายทั้งสองคนเข้าไปก่อน ผมยืนรอด้านนอก
พอลูกชายออกมา ผมก็ให้ลูก ๆ ยืนรอ และสั่งคนโตให้ดูแลน้องวัย 5 ขวบให้ดี เพราะคนน้องชอบ
วิ่งซน เวลาไปเที่ยวที่ไหนมักจะหายเป็นประจำ ผมไปเข้าห้องน้ำต้องต่อคิวอยู่นาน กว่าจะทำ
ธุระเสร็จ พอออกมาด้านนอก เห็นลูกชายคนโตยืนอยู่คนเดียว ไม่มีเจ้าตัวเล็ก
ผมก็ถามว่าน้องไปไหน เค้าบอกว่าน้องวิ่งเข้าไปในโน้น (ชี่ไปที่โซนที่นั่ง 3,000 ของผม 1,500)
ผมถามว่าทำไมไม่ตามน้องเข้าไป ลูกตอบว่า กลัวป๊าออกมาแล้วจะไม่เจอใคร เลยไม่กล้าตามไป
ตอนนั้นผมเป็นห่วงเจ้าตัวเล็กมาก เพราะในสนามพื้นที่มันกว้าง และทุกคนก็ใส่เสื้อสีเดียวกัน
จะตามหาไม่ใช่ง่าย ๆ ผมไปถามคนที่เฝ้าประตู เค้าบอกว่าเห็นน้องวิ่งเข้าไป ยังไม่เห็นวิ่งออกมา
แต่จะออกประตูอื่นหรือเปล่าไม่รู้ เค้าช่วยตามหาให้ไม่ได้ เพราะต้องยืนเฝ้าที่ตัวเอง แต่อนุญาต
ให้ผมเข้าไปหาในชั้น 3,000 และวิทยุบอกให้ที่ประตูอื่นคอยดูว่ามีเด็กลักษณะเหมือนลูกผมมั้ย
ผมเดินหาอยู่ราว 20 นาทีก็หาไม่เจอ บอลก็เริ่มแข่งครึ่งหลังแล้ว จะไปเดินหาก็เกรงใจคนที่นั่งดูบอล
กลัวจะไปบังเค้า ใจคอก็ไม่ค่อยดี แม้ว่าเค้าจะเคยหายหลายครั้งในห้าง แต่ก็ยังให้ประชาสัมพันธ์ประกาศ
และดูกล้องวงจรปิดได้ แต่นี่ในสนามบอล คนหลายหมื่น แต่งตัวเหมือนกัน ผมจึงพาลูกชายคนโตกลับไป
นั่งที่เดิมของเรา แล้วก็บอกแฟนว่าลูกชายคนเล็กหาย เค้าได้ยินก็แทบเป็นลม สังหรณ์ใจอยู่แล้วว่าจะหาย
เค้าบอกให้ผมนั่งรอ เค้าจะออกไปตามหาเอง เค้าออกไปหาประมาณ 30 นาที ก็โทรมาบอกผมว่า หาเจอแล้ว
เค้าจะรอกับลูกแถว ๆ นั้น ไม่กลับเข้ามาข้างในแล้ว พอบอลจบ ผมก็ไปหาแฟนและลูก แฟนเล่าว่า ระหว่างเดินหา
มีเบอร์แปลกโทรเข้ามา ถามว่าเป็นคุณแม่ของน้องพีคใช่มั้ย ตอนนี้น้องเค้าอยู่ตรงนี้นะ เค้าขอให้โทรหาแม่
เค้าบอกว่า "พี่ครับ ๆ น้องหาป๊าไม่เจอ ช่วยโทรหาแม่ให้หน่อย" แล้วก็บอกเบอร์แม่เค้าไป พวกเราขอบคุณ
เจ้าหน้าที่ ๆ เฝ้าประตู แล้วก็พากันเดินทางกลับ ประสบการณ์ในวันนั้น มีทั้งความประทับใจ ตื่นเต้น และระทึก
ปล. ถ้าลิเวอร์พูลมาเมืองไทยอีก ผมก็จะพาครอบครัวไปเชียร์ทีมรักอีกครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้