ดีใจจัง! เจ้หาคนกลางให้น้องปูได้แแล้ว 8 คน ค่ะ . ตรง ทุกคนค่ะ!

1. วาซิลิ อาร์คิปอพ

                คุณรู้หรือไม่ว่าหากโลกปราศจากบุคคลนี้ สงครามโลกครั้งที่ 3ในช่วงสงครามเย็นระหว่างสหรัฐและโซเวียตได้เกิดขึ้นแน่ เรื่องของเรื่องมาอยู่ว่าในวันที่ 27 ตุลาคม 1962 ซึ่งช่วงวิกฤตขีปนาวุธคิวบาซึ่งเป็นช่วงอ่อนไหวมากๆ ที่จะเสี่ยงเกิดสงครามโลกอยู่นั้น เรือดำน้ำขีปนาวุธลาดชั้น Foxtrot B-59 ของโซเวียตที่ปฏิบัติการอยู่ที่คิวบากำลังฝึกซ้อมการทำงานอยู่นั้น เรือได้ถูกล้อมโดยเรือของกองทัพสหรัฐฯ และถูกโจมตีโดยระเบิดน้ำลึกอย่างหนักหน่วง จนกระทั้งกัปตันเรือของโซเวียตลงความเห็นว่าควรยิงตอร์ปิโตติดหัวเรือนิวเคลียร์ไปที่สหรัฐ ฯ เพื่อตอบโต้ ซึ่งหากทำแบบนี้เท่ากับว่าสงครามโซเวียตและสหรัฐนั้นเกิดขึ้นแน่นอน
                แต่กระนั้นตามกฎจะยิงตอร์ปิโตนั้นจำเป็นต้องอาศัยการโหวดเจ้าหน้าที่สามคนที่ประจำเรือ ซึ่งในกลุ่มนั้นมีเพียงพระเอกของเราคือวาซิลิ อเล็กซานเดอร์  อาร์คิปอพ เท่านั้นที่คัดค้านการยิงและเกลี้ยกล่อมให้กัปตันนำเรือดำน้ำขึ้นเหนือผิวน้ำเพื่อรอคำสั่งจากมอสโคว์ ซึ่งเขาก็ทำได้สำเร็จ ส่งผลทำให้สงครามนิวเคลียร์ไม่เกิด โลกพ้นหายนะได้อีกครั้ง
แต่อนิจจาเรื่องราวของ วาซิลิ อเล็กซานเดอร์  อาร์คิปอพ ที่ช่วยโลกไว้นั้นไม่เป็นที่เปิดเผยแต่สาธารณะชนเท่าใดนัก รู้แต่ว่าเขาเกิดในครอบครัวชาวนาใกล้กรุงมอสโก ได้รับการศึกษาโรงเรียนทหารเรือและมีส่วนร่วมในสงครามโซเวียตกับญี่ปุ่นในต่างประเทศในปี 1945ต่อมาในปี 1961 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองบังคับการในเรือดำน้ำขีปนาวุธนำวิถี K-19 และได้อุบัติเหตุและเขาก็ได้รับรังสีจากเหตุการณ์ดังกล่าว(เหตุการณ์ดังกล่าวถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์K-19) และหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นก็ได้เลื่อนเป็นพลเรือตรีและได้ตำแหน่งมากมาย ก่อนที่จะพ้นตำแหน่งในช่วงกลางทศวรรษที่ 1980 และได้รับขนามนามว่า “วาซิลิ อาร์คิปอพผู้ช่วยเหลือโลก” และเรื่องราวของเขาได้รับแรงบันดาลใจในภาพยนตร์เรื่อง Crimson Tide (1995)
2.เปาปุ้นจิ้น


เปาบุ้นจิ้นถือกำเนิดขึ้นในครอบครัวนักวิชาการแห่งนครเหอเฟย์ มณฑลอานฮุย ที่ซึ่งในปัจจุบันประดิษฐานวัดเจ้าเปา (จีน: 包公祠; พินอิน: Bāogōngcí; คำอ่าน: เปากงฉือ) วัดดังกล่าวสถาปนาขึ้นใน พ.ศ. 1609 ใกล้กับสุสานของเปาบุ้นจิ้น

เปาบุ้นจิ้นนั้นเมื่ออายุได้ยี่สิบเก้าปีได้เข้ารับการทดสอบหลวง และผ่านการทดสอบระดับสูงสุด ได้รับแต่งตั้งเป็นบัณฑิตเรียกว่า "จินฉื่อ" (พินอิน: Jinshi) และต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงไคฟง อันเป็นเมืองหลวงแห่งประเทศจีนในสมัยราชวงศ์ซ้ง

ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งหน้าที่ในราชการ เปาบุ้นจิ้นไม่ปรานีและประนีประนอมกับความทุจริตใด ๆ เลย เปาบุ้นจิ้นนั้นมีนิสัยรักและเทิดทูนความยุติธรรม ปฏิเสธที่จะเข้าถึงอำนาจหน้าที่โดยวิถีทางอันมิชอบ บุคคลผู้หนึ่งที่ชิงชังเปาบุ้นจิ้นนักได้แก่ราชครูผัง (จีน: 龐太師; พินอิน: Pángtàishī; คำอ่าน: ผังไท้ชี) อย่างไรก็ดี ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่แน่ชัดรับรองว่าราชครูผังผู้นี้มีความชิงชังในเปาบุ้นจิ้นจริง นอกจากนี้ การปฏิบัติราชการโดยบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างไม่เห็นแก่หน้าผู้ใดยังทำให้เปาบุ้นจิ้นมีความขัดแย้งกับข้าราชการชั้นสูงบางกลุ่ม ซึ่งรวมถึงง นายกรัฐมนตรีซ้งหยาง (พินอิน: Song Yang) เปาบุ้นจิ้นเคยสั่งลดขั้นตำแหน่งและปลดข้าราชการถึงสามสิบคนในคราเดียวกัน เหตุเพราะทุจริตต่อหน้าที่ราชการ รับและ/หรือติดสินบน และละทิ้งหน้าที่ราชการ กับทั้งเปาบุ้นจิ้นยังเคยกล่าวโทษจางเหยาจั๋ว (พินอิน: Zhang Yaozhuo) พระปิตุลาของพระวรชายา ถึงหกครั้ง อย่างไรก็ดี เนื่องจากความซื่อสัตย์และเฉียบขาดในการปฏิบัติหน้าที่ จนเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย สมเด็จพระจักรพรรดิเหรินจงจึงมิได้พระราชทานราชทัณฑ์แก่เปาบุ้นจิ้นในอันที่ได้ล่วงเกินบุคคลสำคัญดังกล่าวนี้
3. แม่ชีเทเรซ่า


แม่ชีเทเรซา หรือที่ชาวคาทอลิกเรียกว่าคุณแม่เทเรซา[1] (26 สิงหาคม พ.ศ. 2453 – 5 กันยายน พ.ศ. 2540) เป็นนักพรตหญิงในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ท่านมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้ช่วยเหลือและผู้ต่อสู้เพื่อคนยากไร้ทั้งในประเทศที่ยากจนและร่ำรวย จนเมื่อปี พ.ศ. 2522 (ค.ศ. 1979) ท่านจึงได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ และหลังจากมรณกรรมก็ได้รับการประกาศเป็นบุญราศีโดยสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 มีนามว่า "บุญราศีเทเรซาแห่งกัลกัตตา"

4. เล้งหูชง


เล่งฮู้ชง เป็นเด็กกำพร้าที่งั๊กปุ๊กคุ้งเจ้าสำนักหัวซาน เก็บมาเลี้ยงดูและสอนวรยุทธ์ให้ จึงเป็นศิษย์เอกแห่งสำนักหัวซาน หรือสำนักฮั้วซัว เล่งฮู่ชงเป็นคนฉลาด ภายนอกเป็นคนช่างพูด ชอบสนุกเฮฮา ดื่มสุรา เล่นการพนัน และพูดจาทะลึ่งตึงตัง แต่ในจิตใจเป็นคนที่ยึดถึอคุณธรรม จึงมักยืนมือเข้าช่วยเมือเห็นผู้อื่นมีภัย ครั้งหนึ่งได้ต่อสู้กับเถียนป๋อกวงโจรบ้ากามเพื่อปกป้องแม่ชีน้อยอี้ลิ้มให้พ้นภัย จนในที่สุดได้คบเป็นสหายกับเถียนป๋อกวง เล่งฮู่ชงแอบหลงรักงักเล้งซัง(ลูกสาวคนเดียวของ งั๊กปุ๊กคุ้ง) ซึ่งเป็นศิษย์น้องที่เติบโตมาด้วยกัน ด้วยความบังเอิญขณะอยู่ที่ผาสำนึกตนได้ต่อสู้กับเถียนป๋อกวงและได้พบกับสุดยอดเพลงกระบี่สุดยอดคือเก้ากระบี่เดียวดายหรือเก้ากระบี่ต๊กโกวจากอาจารย์ปู่ฮวงเช็งเอี๊ยง หลังจากได้รับถ่ายทอดวิชา อาจารย์ปู่ได้ขอให้เล่งฮู้ชงสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องราวที่ได้พบกับตน และที่มาของสุดยอดเพลงกระบี่ ด้วยความเป็นคนมีคุณธรรมเล่งฮู้ชงจึงเก็บเรื่องทั้งหมดไว้เป็นความลับ ภายหลังได้ใช้วิชาเก้ากระบี่เดียวดายช่วยเหลือสำนักให้พ้นภัย แต่ไม่ยอมบอกที่มาของเพลงกระบี่จึงทำให้อาจารย์และคนอื่นๆในสำนักรวมถึงงักเล้งซังเข้าใจผิด และประกอบกับความริษยาของงักปุ๊กคุ้งที่เห็นลูกศิษย์มีวรยุทธ์เหนือกว่าตัวเอง จึงถูกขับออกจากสำนัก และตัดเยื่อใยจากงักเล้งซัง หลังจากท่องและค้นพบความจริงของยุทธภพ ที่มีแก้งแย่ง ชิงดีชิงเด่น และได้พบรักกับเยิ่นอิ๋งอิ๋ง (ลูกสาวของเยิ่นหว่อสิง ประมุขพรรคตะวันจันทราคนก่อน) จึงเร้นกาย ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยุทธภพอีก
5.โดราเอมอน



โดราเอมอน หรือ โดเรมอน เป็นตัวละครจากการ์ตูนเรื่องโดราเอมอน เป็นหุ่นยนต์แมวจากโลกอนาคต ในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 22เกิดวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2655 (ค.ศ. 2112)
ลักษณะตัวอ้วนกลมสีฟ้า (เมื่อแรกเกิดมามีสีเหลือง) ไม่มีใบหู เนื่องจากถูกหนูแทะ มีหน้าที่เป็นหุ่นยนต์พี่เลี้ยงซึ่งคนที่ซื้อโดราเอมอนมาคือเซวาชิเหลนชายของโนบิตะ
วันหนึ่งเซวาชิเกิดอยากรู้สาเหตุที่ฐานะทางบ้านยากจน จึงได้กลับไปในอดีตด้วยไทม์แมชชีน จึงได้รู้ว่าโนบิตะ (ผู้เป็นปู่ทวด) เป็นตัวต้นเหตุ เซวาชิจึงได้ตัดสินใจให้โดราเอมอนย้อนเวลา
ไปคอยช่วยเหลือดูแลเวลาโนบิตะโดนแกล้งโดยใช้ของวิเศษที่หยิบจากกระเป๋าสี่มิติ

6. กวนอู


เนื่องจากในวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ นี้ ปฎิทินทางจันทรคติของชาวจีน เชื่อว่า ตรงกับวันประสูติ ของเทพเจ้ากวนอู ซึ่งถือว่า เป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ ดังนี้
กวนอู (อังกฤษ: Guan Yu;จีนตัวเต็ม: 關羽; จีนตัวย่อ: 关羽; พินอิน: Guān Yǔ;เวด-ไจลส์:Kuan Yu) เป็นตัวละครในวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊กที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ยุคสามก๊ก เกิดเมื่อวันที่ 24 เดือน 6 จีนศักราชเอี่ยงฮี ปี พ.ศ. 703 ในรัชสมัยของพระเจ้าฮั้นฮวนเต้ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 เดือนที่ 7 จีนศักราชเคี่ยงเซ้ง ปี พ.ศ. 762 ในรัชสมัยของพระเจ้าฮั่นเหี้ยนเต้ มีชื่อรองว่า "หุนเตี๋ยง" (จีน: 云长) เป็นชาวอำเภอไก่เหลียง ลักษณะตามคำบรรยายในวรรณกรรมสามก๊ก กวนอูเป็นผู้มีรูปร่างสูงใหญ่ 9 ฟุตจีนหรือประมาณ 6 ศอก ใบหน้าแดงเหมือนผลพุทราสุก นัยน์ตายาวรี คิ้วดั่งหนอนไหม หนวดเครางามถึงอก[3] มีง้าวรูปจันทร์เสี้ยว ยาว 11 ศอก หนัก 82 ชั่ง เป็นอาวุธประจำกายเรียกว่า "ง้าวมังกรเขียว" หรือ "ง้าวมังกรจันทร์ฉงาย" ในจินตนาการของศิลปินมักวาดภาพหรือปั้นภาพให้กวนอูแต่งกายด้วยชุดสีเขียวและมีผ้าโพกศีรษะ กวนอูมีความเชี่ยวชาญและเก่งกาจวิทยายุทธ จงรักภักดี กตัญญูรู้คุณ มีคุณธรรมและซื่อสัตย์เป็นเลิศ
ในวัยหนุ่มฉกรรจ์กวนอูได้พลั้งมือฆ่าปลัดอำเภอและน้าชายตายจนต้องหลบหนีการจับกุม และพบกับเล่าปี่และเตียวหุยจนร่วมสาบานตนเป็นพี่น้องกันในสวนท้อร่วมทำศึกกับเล่าปี่มาโดยตลอดเป็นหนึ่งในห้าทหารเสือของเล่าปี่ ครองเกงจิ๋วร่วมกับ กวนเป๋งบุตรบุญธรรมและจิวฉอง ภายหลังถูกแผนกลยุทธ์ปิดฟ้าข้ามทะเลของลกซุนและลิบองจนเสียเมืองเกงจิ๋ว กวนอูคับแค้นใจที่พลาดท่าเสียทีลกซุนและลิบองจึงนำทัพไปตีเกงจิ๋วเพื่อแย่งชิงคืน แต่ถูกจูเยิ้มยนและพัวเจี้ยงจับได้พร้อมกวนเป๋งที่เขาเจาสันและถูกประหารในปี พ.ศ.762 รวมอายุได้ 59 ปี
กวนอูเดิมเป็นชาวอำเภอไก่เหลียง มีชื่อเต็มว่า อำเภอฮอตั๋งไกเหลียง ดินแดนฮอตั๋งชื่อเดิมคือเผิงเสียน ชื่อ รองโซ่วฉาง หรือ หยุนฉาง (แปลว่า เมฆยาว ในสำเนียงแต้จิ๋วออกเสียงว่า หุนเตี๋ยง) รูปร่างสูงใหญ่ สง่างามน่าเกรงขามแก่ผู้พบเห็น มีกำเนิดในครอบครัวนักปราชญ์ เชี่ยวชาญด้านคัมภีร์พิชัยสงครามและคัมภีร์หลี่ซื่อชุนชิว เป็นนักโทษต้องคดีอาญาแผ่นดิน หลบหนีการจับกุมเร่รอนไปทั่วประเทศจีนเป็นเวลานานถึง 6 ปี จนกระทั่งถึงด่านถงกวน นายด่านพบพิรุธจึงสอบถามชื่อแซ่ กวนอูตกใจจึงชี้ไปที่ชื่อด่านคือ "ถงกวน" (ในภาษาจีนกลาง คำว่า "กวน" แปลว่า ด่าน) ทำให้นายด่านเข้าใจว่ากวนอูนั้นแซ่กวน หลังจากนั้นเป็นต้นมากวนอูจึงเปลี่ยนจากชื่อเดิมคือเผิงเสียนเป็นกวนอู

7.ลีน่าจัง


ลีนา จังจรรจา หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ ลีน่าจัง (เกิด 14 กันยายน 2502) เป็นนักธุรกิจชาวไทย เคยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในปี 2547, 2551 และ 2552 นอกจากนี้ ลีนายังเปิดร้านขายเครื่องสำอาง "ไฮโซไซตี้" ที่ประตูน้ำเซ็นเตอร์ และประกอบอาชีพทนายความ[2]

8.ป้าเช็ง



  กลายเป็นข่าวใหญ่เมื่อตำรวจบุกจับ
ป้าเช็ง
หรือนางศิริวรรณ ศิริสุนทรินทร์ อายุ 72 ปี เจ้าแม่เคเบิลทีวีเมืองปทุมธานี เจ้าของช่อง
ซูเปอร์เช็ง
และ น้ำหมักชีวภาพ  หรือ น้ำหมัก มหาบำบัด ที่ ป้าเช็ง อ้างสรรพคุณว่ามีประโยชน์ครอบจักรวาล ทั้งใช้รักษานิ่ว ไซนัส ความดันโลหิต ไทรอยด์ ใช้หยอดตา ปรุงอาหาร ถนอมผัก ฯลฯ โดย อย.ชี้อันตราย เพราะไม่ถูกสุขอนามัย เสี่ยงปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย

          
          ทั้งนี้ จากการตรวจสอบบ้านพักของ ป้าเช็ง เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2553 ที่ ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี  พบว่าบ้านหลังดังกล่าวตั้งอยู่บนเนื้อที่ 1 ไร่เศษ ตัวบ้านบางส่วนเป็นโรงงาน ป้าเช็ง น้ำหมักชีวภาพ มีลูกจ้างชาวกะเหรี่ยงชายหญิงจำนวน 9 คน เป็นหญิง 7 คน ชาย 2 คน โดยขณะที่เจ้าหน้าที่บุกค้นบ้าน ป้าเช็ง พบว่ามีลูกค้าจำนวนมากที่เดินทางมาจากหลายจังหวัด เพื่อมาซื้อ น้ำหมักชีวภาพ ป้าเช็ง ซึ่งลูกค้าบางราย ระบุว่า เคยซื้อไปใช้หยอดตาแล้วได้ผลดี อาการดีขึ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่