เกือบ 2 ปีที่ผ่านมาผมได้ตามถ่ายรูปดอกไม้ที่ออกดอกทิ้งใบทั้งต้น (ดอกจากต้น ไม่ใช่ดอกพุ่มเตี้ย กล้วยไม้ ดอกเดี่ยว ฯลฯ) วัตถุประสงค์ของผมนั่นคือกระทู้นี้ครับ จุดเริ่มต้นของการออกตามถ่ายรูปดอกเหล่านี้ เริ่มมาจากหลายปีก่อน ผมสงสัยมากว่าทำไมคนถึงชอบแห่ไปชมดอกนางพญาเสื้อโคร่งกัน แล้วดอกไม้อื่น ๆ ล่ะที่สวยงามมีบ้างไหม ทำไมดอกอื่น ๆ ที่สวยงามไม่มีคนสนใจ

วันนี้รวบรวมมาได้พอสมควร ผมก็ได้เอาความงามของดอกไม้แต่ละชนิดมาให้ชมกันแล้ว สำหรับใครที่อยากไปชม ผมเขียนพิกัดคร่าว ๆ ให้ไปตามรอยกันนะครับ ผมคิดว่าถ้าประเทศไทยเรา จัดโซนดี ๆ ให้ในแต่ละฤดูมีดอกไม้แต่ละชนิดได้เรียงกันเป็นทิวแถว รับรองได้ว่า ประเทศไทยคงระบือไกลเรื่องการชมดอกไม้ตามฤดูกาลแน่นอนครับ ดอกไม้งามที่มานำเสนอวันนี้เรียกได้ว่าหาชมได้ในเชียงใหม่บ้านเกิดผมทั้งหมดเลยครับ

1. เริ่มต้นกันที่ ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ที่โด่งดังว่าแถวม.เกษตรปลูกไว้เยอะ เชียงใหม่เราก็มีนะครับ ต้นนี้ผมถ่ายจากอนุสาวรีย์สามกษัตริย์เมื่อสองปีที่แล้ว ช่วงเวลาที่บานก็จะประมาณปลายมกราคม ถึงกลางมีนาคม ตอนนี้ก็ยังมีบานอยู่เล็กน้อยครับ และอีกจุดที่มีคือ ตรงข้ามสวนบวกหาดครับ มีอยู่ 3-4 ต้น ถ้าเลือกช่วงเวลาไปดี ๆ ก็งดงามเช่นกัน


2. เสลา ดอกสีม่วงสลับขาว งดงามให้ความรู้สึกนุ่มนวลมากครับ ต้นนี้ถ่ายจากหน้าตึกที่ทำงานผมเอง สถานที่หลักคือในมช.อีกแล้วครับ เยอะมาก แทบจะทุกโซนของมช.ที่มีต้นไม้จะพบกับต้นนี้เลยก็ว่าได้ ช่วงเวลาบานเป็นช่วงใกล้ ๆ กับเหลืองอินเดียครับ คือต้นปี



หลายคนจะมีความสับสนระหว่าง อิทนิลบก อินทนิลน้ำ ตะแบก และ เสลา วิธีการแยกง่าย ๆ ครับ แยกด้วยช่วงเวลาบานของดอก เสลาจะบานต้นปี หลังจากนั้นอินทนิลบกและน้ำจะบานจนถึง พฤษภาคม ส่วนตะแบกนั้นจะบานช่วงเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไปครับ

3. เหลืองอินเดีย ดอกสีเหลืองเมื่อออกดอกทิ้งใบทั้งต้นสวยงามมากครับ สถานที่ถ่ายหลักคือ มช. แต่ปีนี้ไม่ค่อยมีเท่าไหร่ รูปนี้ถ่ายไว้เมื่อปีที่แล้ว อีกจุดนึ่งคือรอบคูเมือง ช่วงเวลาที่บานคือ กุมภาพันธ์ถึงต้นเมษายน อีกที่หนึ่งคือไร่บุญรอดครับ เยอะมากเช่นกัน




4. เหลืองปรีดียาธร เป็นดอกสีเหลืองที่ความหนาแน่นของพุ่มดอกนั้นมีเยอะมาก คล้ายกับชมพูพันธุ์ทิพย์ ช่วงเวลาที่ออกดอกจะใกล้ ๆ กับเหลืองอินเดียคือกุมภาพันธ์ถึงเมษายน แล้วแต่สภาพอากาศในแต่ละปีด้วย สถานที่พบมากก็รอบคูเมืองเชียงใหม่ครับ



ข้อแตกต่างระหว่างสองเหลือง ไม่ยากครับ ดูที่ใบ เหลืองอินเดียใบจะกลมกว่า ถ้าเป็นเหลืองปรีดียาธรใบจะเรียว และความหนาแน่นของดอกในแต่ละช่อจะเยอะกว่าครับ ทั้งสองต้นไม่ได้มีต้นกำเนิดจากประเทศไทยครับ

5. ดอกหางนกยูง พบได้ทั่วไปตามคูเมืองเชียงใหม่ แต่รูปนี้ถ่ายตอนเช้าแสงแรกในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตรงหน้าที่จอดรถของบัณฑิตวัทยาลัยเมื่อปีที่แล้วครับ ช่วงเวลาที่บานคือ กลางเมษายนจนถึงกลางพฤษภาคม


มีเรียกหลายชื่อ ซอมพอหลวง นกยูงฝรั่ง ผมไม่ชอบอยู่อย่างเดียวคือ ฝักที่เป็นเมล็ดของต้นนี้ ตกใส่หัวอาจแตกได้


รูปนี้คือ กะจะหามุมถ่ายกิ่งสวย ๆ แต่กลายเป็นว่า แดงจนเต็มจอไปหมดเลยครับ


กิ่งนี้ถ่ายที่อ่างแก้วครับ งามเหลือหลาย


6. ดอกราชพฤกษ์ ดอกคูณ ดอกลมแล้ง เรียกได้หลายชื่อ จุดถ่ายก็ไม่ยากเลยครับ ถนนเลียบทางรถไฟเชียงใหม่ลำพูน ช่วงเวลาที่บานคือ กลางเมษายนจนถึง กลางพฤษภาคม ช่วงเวลาเดียวกับหางนกยูงครับ


เป็นสีเหลืองอีกหนึ่ง ที่งดงามครับ


7. ต้นที่เห็นในรูปนี้คือ ขี้เหล็กครับ รูปนี้ยังไม่สวยมาก เพราะผมไม่เจอช่วงเวลาที่ดีที่สุดครับ ถ้าช่วงเวลาที่ดีที่สุด ขี้เหล็กจะออกดอกเยอะมากจนทิ้งใบเกือบหมด ช่วงเวลาที่บานคือกันยายน ถึงตุลาคม และเช่นเคยรูปนี้ถ่ายในมช.


ซูมใกล้ ๆ ครับดอกจุ๋มจิ๋มน่ารักมากกับดอกขี้เหล็ก


8. ไม่มีก็คงไม่ได้กับนางพญาเสือโคร่ง รู้กันดีอยู่แล้วว่าต้องไปที่ ขุนวาง ขุนช่างเคี่ยน ฯลฯ ช่วงเวลาที่บานคือ เดือนมกราคม


ปิดท้ายกันที่รูปนี้ครับ


ช่วงเวลาคั่นกลางที่หายไปคือพฤศจิกายนถึง ธันวาคม ผมก็ยังไม่เห็นดอกสวยงามชนิดใดที่ออกในช่วงนั้นครับ คาดว่าคงเป็นเพราะเป็นช่วงเข้าฤดูหนาว หรืออาจเป็นเพราะตัวเองยังไม่พบเจอครับ และอีกช่วงคือ มิถุนายน ถึงสิงหาคมครับ อาจเป็นเพราะยังไม่มีดอกที่เข้าตามากพอ

ทั้งหมดนี้ก็เป็นดอกไม้ที่ผมได้ตามถ่ายมา ผมเองไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องดอกไม้ครับ ซึ่งหากมีข้อมูลผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยและขอความกรุณาช่วยแก้ไขด้วยครับ เพื่อต่อไปจะได้เป็นประโยชน์และเป็นความรู้ให้ผู้ที่สนใจครับ ครั้งต่อไปจะเอาดอกพุ่มเตี้ยมาฝากกันบ้างครับ

*ช่วงเวลาที่บาน ไม่ได้หมายถึงบานเป็นเดือน ๆ นะครับ เป็นประมาณการว่าจะบานเมื่อไหร่ เมื่อบานแล้วอย่างมากก็ 1-2 สัปดาห์ครับที่ดอกจะอยู่ได้