สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 26
ทุกท่านครับ..ผมมีเงินเรียน มีเงินเก็บ มีเงินจัดงานบวชตัวเอง มีเงินให้บุพการีที่บ้านใช้จ่าย..ก็เพราะด้วยเงินทิปนี่แหล่ะครับ.
...รู้อยู่ว่างานโบกรถแบบนี้อาจสร้างความลำบากใจให้กับบางท่าน อาจจะด้วยพฤติกรรมอันแลดูเหมือนกรรโชกทรัพย์ของเด็กโบกรถหรือพนักงานบริการ บริกรบางคน แต่ก็ยังมีที่ดีๆอีกเยอะน่ะครับ ที่เต็มใจบริการท่าน
... สิบหรือยี่สิบบาท สำหรับท่านผู้ใจดีที่หยิบยื่นให้ ท่านรู้ไหมว่าคำขอบคุณที่ท่านได้ยินนั้น มันไม่ได้ออกมาจากปากของเขาคนเดียว มันมีคำขอบคุณ ที่ซ้อนกันอยู่อันดังมาจาก พ่อแม่ ลูกเมีย ของเขาด้วยน่ะครับท่าน
...สมัยผมทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เป็นเด็กบริกรที่ ร้านเซาน์น่าแห่งหนึ่งใจกลางกทม. หน้าที่แต่ล่ะวันก็แบ่งเวรกัน ดูแลจุดบริการน้ำดื่ม-ผ้าขนหนู / ดูแลล็อกเกอร์ลูกค้า / ขัดทำความสะอาดรองเท้าลูกค้า / รับรถ-จัดที่จอดรถ / ขี่มอไซค์ซื้อของกินให้ลูกค้า..อื่นๆอีกจิปาฐะ เว้นขายบริการทางเพศเท่านั้นที่เซาน์น่าแห่งนี้ไม่มี
เงินเดือน พันสองครับ(ปัจจุบันเท่าที่ทราบก็ปรับเป็น สองพัน ถึงสามพัน)แต่พวกผมก็พอใจ เพราะเรามีรายได้จากทิปครับ ไม่ว่าจะเป็นทิปรวมหรือทิปเดี่ยวก็ว่ากันไป...
...ผมชอบเวรขัดรองเท้ามาก เพราะลูกค้าเฉลี่ยแล้ว วันล่ะ 120คน บวกลบนิดหน่อย ผมทำความสะอาดให้ทุกคู่ รองเท้าหนังก็ขัดให้เงา รองเท้าแตะก็เช็ดถูให้สะอาด ไม่เคยเกี่ยงราคารองเท้าไม่ว่ามันจะเป็นแบร์ลี่ หรือ แตะดาวเทียม
ดูแลมันทุกคู่ที่อยู่บนชั้นวางหน้าร้าน พอลูกค้าพึงพอใจเขาก็จะให้ทิปมาเอง มากบ้างน้อยบ้าง ไม่ให้บ้างก็ไม่เคยบ่นหรือทำหน้าไม่พอใจใส่ลูกค้า เพราะระลึกเสมอว่า ถ้าไม่มีลูกค้า เราก็จะไม่มีที่ทำมาหากิน ในจำนวนลูกค้า 120 คน เฉลี่ยว่า ให้ทิปซัก 60 คน คนล่ะยี่สิบ นั่นคือรายรับต่อวัน เข้ากองกลาง 500 บาท ที่เหลือเน็ตๆ เป็นของเราเอง สะสมไว้ทุกๆวัน เป็นค่ากิน ค่าเทอม ส่งให้พ่อแม่ เก็บไว้เป็นค่ารักษายามล้มหมอนนอนไข้ ก็พอประทังชีพได้อยู่
....บางวัน ลูกค้าขาใหญ่มา ก็อาจฟลุ๊คได้ค่าขัดรองเท้า 1000 บาท ก็ถือว่าโชคดีไป บางวันอยู่เวรรับรถ ก็ต้องดูแลไม่ให้เกิดการเฉี่ยวชนหรือทุบกระจกโจรกรรมทรัพย์สิน หรือริ้วรอยใดๆแก่รถลูกค้า หรืออาจถึงขั้นมีบุคคลมาแอบอ้างตีเนียนอ้างว่าเป็นเพื่อนกับเจ้าของรถคันนั้นคันนี้เพื่อหวังจะขโมยรถลูกค้าก็มี อันนี้ยิ่งต้องระวัง รวมถึงอำนวยความสะดวกทั้งขาเข้าขาออก แต่ทั้งนี้ก็ต้องแลกด้วยการบริการอันเยี่ยม และ ความสงบเสงี่ยมเจียมตัว จะบอกจะเตือนกันเสมอว่าไม่ให้ไถ หรือบังคับเอาจากลูกค้า เพราะนั้นมันจะเสียหายทั้งข้อง ทั้งคอก..
ครับ นี่ก็เป็นอีกบางมุมที่เกี่ยวข้องกับงานบริกร เล่าสู่ให้ท่านได้รับรู้กันครับ
ปล. ทุกวันนี้ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนคนนึงครับ..และขอขอบคุณและอนุโมทนาแทนเด็กรับรถ ที่ทุกท่านหยิบยื่นทิปให้แก่เขาเหล่านั้น..ครับ ขอบคุณครับ
...รู้อยู่ว่างานโบกรถแบบนี้อาจสร้างความลำบากใจให้กับบางท่าน อาจจะด้วยพฤติกรรมอันแลดูเหมือนกรรโชกทรัพย์ของเด็กโบกรถหรือพนักงานบริการ บริกรบางคน แต่ก็ยังมีที่ดีๆอีกเยอะน่ะครับ ที่เต็มใจบริการท่าน
... สิบหรือยี่สิบบาท สำหรับท่านผู้ใจดีที่หยิบยื่นให้ ท่านรู้ไหมว่าคำขอบคุณที่ท่านได้ยินนั้น มันไม่ได้ออกมาจากปากของเขาคนเดียว มันมีคำขอบคุณ ที่ซ้อนกันอยู่อันดังมาจาก พ่อแม่ ลูกเมีย ของเขาด้วยน่ะครับท่าน
...สมัยผมทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เป็นเด็กบริกรที่ ร้านเซาน์น่าแห่งหนึ่งใจกลางกทม. หน้าที่แต่ล่ะวันก็แบ่งเวรกัน ดูแลจุดบริการน้ำดื่ม-ผ้าขนหนู / ดูแลล็อกเกอร์ลูกค้า / ขัดทำความสะอาดรองเท้าลูกค้า / รับรถ-จัดที่จอดรถ / ขี่มอไซค์ซื้อของกินให้ลูกค้า..อื่นๆอีกจิปาฐะ เว้นขายบริการทางเพศเท่านั้นที่เซาน์น่าแห่งนี้ไม่มี
เงินเดือน พันสองครับ(ปัจจุบันเท่าที่ทราบก็ปรับเป็น สองพัน ถึงสามพัน)แต่พวกผมก็พอใจ เพราะเรามีรายได้จากทิปครับ ไม่ว่าจะเป็นทิปรวมหรือทิปเดี่ยวก็ว่ากันไป...
...ผมชอบเวรขัดรองเท้ามาก เพราะลูกค้าเฉลี่ยแล้ว วันล่ะ 120คน บวกลบนิดหน่อย ผมทำความสะอาดให้ทุกคู่ รองเท้าหนังก็ขัดให้เงา รองเท้าแตะก็เช็ดถูให้สะอาด ไม่เคยเกี่ยงราคารองเท้าไม่ว่ามันจะเป็นแบร์ลี่ หรือ แตะดาวเทียม
ดูแลมันทุกคู่ที่อยู่บนชั้นวางหน้าร้าน พอลูกค้าพึงพอใจเขาก็จะให้ทิปมาเอง มากบ้างน้อยบ้าง ไม่ให้บ้างก็ไม่เคยบ่นหรือทำหน้าไม่พอใจใส่ลูกค้า เพราะระลึกเสมอว่า ถ้าไม่มีลูกค้า เราก็จะไม่มีที่ทำมาหากิน ในจำนวนลูกค้า 120 คน เฉลี่ยว่า ให้ทิปซัก 60 คน คนล่ะยี่สิบ นั่นคือรายรับต่อวัน เข้ากองกลาง 500 บาท ที่เหลือเน็ตๆ เป็นของเราเอง สะสมไว้ทุกๆวัน เป็นค่ากิน ค่าเทอม ส่งให้พ่อแม่ เก็บไว้เป็นค่ารักษายามล้มหมอนนอนไข้ ก็พอประทังชีพได้อยู่
....บางวัน ลูกค้าขาใหญ่มา ก็อาจฟลุ๊คได้ค่าขัดรองเท้า 1000 บาท ก็ถือว่าโชคดีไป บางวันอยู่เวรรับรถ ก็ต้องดูแลไม่ให้เกิดการเฉี่ยวชนหรือทุบกระจกโจรกรรมทรัพย์สิน หรือริ้วรอยใดๆแก่รถลูกค้า หรืออาจถึงขั้นมีบุคคลมาแอบอ้างตีเนียนอ้างว่าเป็นเพื่อนกับเจ้าของรถคันนั้นคันนี้เพื่อหวังจะขโมยรถลูกค้าก็มี อันนี้ยิ่งต้องระวัง รวมถึงอำนวยความสะดวกทั้งขาเข้าขาออก แต่ทั้งนี้ก็ต้องแลกด้วยการบริการอันเยี่ยม และ ความสงบเสงี่ยมเจียมตัว จะบอกจะเตือนกันเสมอว่าไม่ให้ไถ หรือบังคับเอาจากลูกค้า เพราะนั้นมันจะเสียหายทั้งข้อง ทั้งคอก..
ครับ นี่ก็เป็นอีกบางมุมที่เกี่ยวข้องกับงานบริกร เล่าสู่ให้ท่านได้รับรู้กันครับ
ปล. ทุกวันนี้ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนคนนึงครับ..และขอขอบคุณและอนุโมทนาแทนเด็กรับรถ ที่ทุกท่านหยิบยื่นทิปให้แก่เขาเหล่านั้น..ครับ ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
คิดยังไงกับพวกมาคอยเปิดประตูรถโบกรถให้ตามร้านอาหารครับ
1. ส่วนใหญ่จะให้เงินเขาไหมครับ หรือ เฉยๆ (กรณ๊เป็นที่จอดที่แสนจะง่ายดายไม่ซับซ้อน ถอยเข้าจอดเองได้สบายๆ)
2.รู้สึกรำคาญไหมครับ (กรณีที่ยืนรอหรือมีพฤติกรรมจะเอาเงินจนน่าเกลียด)
3.คนพวกนี้เขาได้เงินจากร้านไหมครับหรือได้จากเงินที่ลูกค้าให้Tipอย่างเดียว
4.ใครอยากแชร์ประสบการณ์ที่เจอเชิญได้เลยครับ อยากรู้ 555
ปล. ผมไม่ได้ขี้เหนียวหรือแล้งน้ำใจกับคนพวกนี้หรอกนะครับ แค่รู้สึกว่าบางทีการจะขอตังค์ใครควรทำอะไรให้มันดูคุ้มค่าตอบแทนหน่อย