มีรายงานเปิดเผยว่า แอปเปิ้ล วางแผนจะวางจำหน่าย iPhone 5c รุ่นราคาถูกกว่า (รุ่น 8GB) ภายในสัปดาห์นี้ หรือเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้คือ ในวันอังคารที่ 18 มีนาคมนี้
โดยข่าวลือดังกล่าวมาจากบล็อกไซต์ของเยอรมัน 2 แห่ง ซึ่งอ้างได้รับอีเมลมาจากตัวแทนผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายในประเทศ o2 โดย iPhone 5c รุ่น 8GB จะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 509 ยูโร (707เหรียญสหรัฐฯ) ซึ่งมีราคาต่ำกว่ารุ่นปัจจุบัน (16GB) อยู่ 60 ยูโร (รุ่น 16GB ปัจจุบันขายอยู่ที่ 569 ยูโร หรือ 791เหรียญสหรัฐฯ) อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับผลกระทบต่อการมีอยู่ของ iPhone 4s ซึ่งปัจจุบันเป็นเพียงรุ่นเดียวที่ยังมีจำหน่ายในรุ่น 8GB และยังปล่อยฟรีให้กับลูกค้าที่สมัครใช้บริการเครือข่ายเป็นเวลา 2 ปีอีกด้วย สำหรับในรุ่น 8GB ของ iPhone 4 แอปเปิ้ล ยังมีให้จำหน่ายอยู่ในตลาดประเทศกำลังพัฒนา อย่าง จีนและอินเดีย
อนึ่ง ซีอีโอ ทิม คุก ได้ออกมายอมรับว่า ความต้องการ iPhone 5c ดูเหมือนจะออกมาแตกต่างจากที่คิดไว้แต่แรก ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุให้แอปเปิ้ลจะออกรุ่น 8GB ออกมา เพื่อให้สามารถจำหน่ายได้ในราคาที่ถูกลง และเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้นอีกด้วย
ที่มา AppleInsider
ลือ แอปเปิ้ล เตรียมวางจำหน่าย iPhone 5c รุ่น 8GB วันนี้ (18 มีนาคม)
มีรายงานเปิดเผยว่า แอปเปิ้ล วางแผนจะวางจำหน่าย iPhone 5c รุ่นราคาถูกกว่า (รุ่น 8GB) ภายในสัปดาห์นี้ หรือเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้คือ ในวันอังคารที่ 18 มีนาคมนี้
โดยข่าวลือดังกล่าวมาจากบล็อกไซต์ของเยอรมัน 2 แห่ง ซึ่งอ้างได้รับอีเมลมาจากตัวแทนผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายในประเทศ o2 โดย iPhone 5c รุ่น 8GB จะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 509 ยูโร (707เหรียญสหรัฐฯ) ซึ่งมีราคาต่ำกว่ารุ่นปัจจุบัน (16GB) อยู่ 60 ยูโร (รุ่น 16GB ปัจจุบันขายอยู่ที่ 569 ยูโร หรือ 791เหรียญสหรัฐฯ) อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับผลกระทบต่อการมีอยู่ของ iPhone 4s ซึ่งปัจจุบันเป็นเพียงรุ่นเดียวที่ยังมีจำหน่ายในรุ่น 8GB และยังปล่อยฟรีให้กับลูกค้าที่สมัครใช้บริการเครือข่ายเป็นเวลา 2 ปีอีกด้วย สำหรับในรุ่น 8GB ของ iPhone 4 แอปเปิ้ล ยังมีให้จำหน่ายอยู่ในตลาดประเทศกำลังพัฒนา อย่าง จีนและอินเดีย
อนึ่ง ซีอีโอ ทิม คุก ได้ออกมายอมรับว่า ความต้องการ iPhone 5c ดูเหมือนจะออกมาแตกต่างจากที่คิดไว้แต่แรก ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุให้แอปเปิ้ลจะออกรุ่น 8GB ออกมา เพื่อให้สามารถจำหน่ายได้ในราคาที่ถูกลง และเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้นอีกด้วย
ที่มา AppleInsider