กสท. ยื่นคำร้องศาลปกครองลงโทษ อาร์เอสขายกล่องบอลโลก ขู่ถอนใบอนุญาตหากยังเพิกเฉย
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดกสท. วันที่ 17 มี.ค. มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางกรณี บริษัท เคมาสเตอร์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกล่องทีวีดาวเทียมซันบอกซ์ เครือ อาร์เอส ทำการตลาดขายกล่องเวิลด์คัฟ สำหรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ซึ่งผิดต่อประกาศเรื่อง หลักเกณฑ์ รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป (มัสต์ แฮฟ)
ทั้งนี้ เพราะประกาศดังกล่าวกำหนดให้การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายต้องถ่ายทอดผ่านฟรีทีวีครบทั้ง 64 คู่ แต่อาร์เอสได้ประกาศทำตลาดว่ารับชมได้ผ่านกล่องบอลโลกเท่านั้น และจะถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวีเพียง 22 คู่เท่านั้น ซึ่งถือว่าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครอง
ก่อนหน้านี้ บริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้ฟ้องศาลปกครองขอคุ้มครองชั่วคราวให้ยกเลิกประกาศมัสต์แฮฟ แต่ศาลได้ยกคำร้องขอ ส่งผลให้ประกาศดังกล่าวยังมีผลต่อไป และอาร์เอสไม่สามารถฝ่าฝืนได้
พ.อ. นที กล่าวว่า นอกจากยื่นคำร้องต่อศาลปกครองแล้ว กสท. ยังมีหนังสือแจ้งไปยังอาร์เอส เคมาสเตอร์ และ พีเอสไอ ที่ทำตลาดรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลกในระบบคมชัดสูง (เอชดี) ให้รับทราบคำตักเตือนดังกล่าว รวมทั้งเตรียมเรียกทุกรายเข้ามาชี้แจงในเรื่องนี้ด้วย หากยังฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมีโทษสูงสุดถึงการเพิกถอนใบอนุญาต ค่าปรับ 5 ล้านบาท กรณีเอาเปรียบผู้บริโภคและ ปรับอีกวันละ 1 แสนบาทจนกว่าจะหยุดโฆษณาที่ไม่เป็นความจริง
สำหรับประกาศมัสต์แฮฟบังคับกีฬา 7 ชนิด คือ ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ซีเกมส์ อาเซียนพาราเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ เอเชี่ยนพาราเกมส์ โอลิมปิก และ พาราลิมปิก ให้ถ่ายทอดผ่านระบบฟรีทีวี เนื่องจากเป็นกีฬาที่ประชาชนไทยควรจะได้รับสิทธิ์ในการรับชมผ่านฟรีทีวี
อ่านต่อได้ที่ :
http://bit.ly/1fCot2R
กสท.ร้องศาลลงโทษอาร์เอสขายกล่องบอลโลก
กสท. ยื่นคำร้องศาลปกครองลงโทษ อาร์เอสขายกล่องบอลโลก ขู่ถอนใบอนุญาตหากยังเพิกเฉย
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดกสท. วันที่ 17 มี.ค. มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางกรณี บริษัท เคมาสเตอร์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกล่องทีวีดาวเทียมซันบอกซ์ เครือ อาร์เอส ทำการตลาดขายกล่องเวิลด์คัฟ สำหรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ซึ่งผิดต่อประกาศเรื่อง หลักเกณฑ์ รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป (มัสต์ แฮฟ)
ทั้งนี้ เพราะประกาศดังกล่าวกำหนดให้การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายต้องถ่ายทอดผ่านฟรีทีวีครบทั้ง 64 คู่ แต่อาร์เอสได้ประกาศทำตลาดว่ารับชมได้ผ่านกล่องบอลโลกเท่านั้น และจะถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวีเพียง 22 คู่เท่านั้น ซึ่งถือว่าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครอง
ก่อนหน้านี้ บริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้ฟ้องศาลปกครองขอคุ้มครองชั่วคราวให้ยกเลิกประกาศมัสต์แฮฟ แต่ศาลได้ยกคำร้องขอ ส่งผลให้ประกาศดังกล่าวยังมีผลต่อไป และอาร์เอสไม่สามารถฝ่าฝืนได้
พ.อ. นที กล่าวว่า นอกจากยื่นคำร้องต่อศาลปกครองแล้ว กสท. ยังมีหนังสือแจ้งไปยังอาร์เอส เคมาสเตอร์ และ พีเอสไอ ที่ทำตลาดรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลกในระบบคมชัดสูง (เอชดี) ให้รับทราบคำตักเตือนดังกล่าว รวมทั้งเตรียมเรียกทุกรายเข้ามาชี้แจงในเรื่องนี้ด้วย หากยังฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมีโทษสูงสุดถึงการเพิกถอนใบอนุญาต ค่าปรับ 5 ล้านบาท กรณีเอาเปรียบผู้บริโภคและ ปรับอีกวันละ 1 แสนบาทจนกว่าจะหยุดโฆษณาที่ไม่เป็นความจริง
สำหรับประกาศมัสต์แฮฟบังคับกีฬา 7 ชนิด คือ ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ซีเกมส์ อาเซียนพาราเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ เอเชี่ยนพาราเกมส์ โอลิมปิก และ พาราลิมปิก ให้ถ่ายทอดผ่านระบบฟรีทีวี เนื่องจากเป็นกีฬาที่ประชาชนไทยควรจะได้รับสิทธิ์ในการรับชมผ่านฟรีทีวี
อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1fCot2R