สวัสดีค่ะ ปัญหาของเราจะว่าไปแล้วมันก็ไม่น่าจะเรียกว่าปัญหานะ แต่มันเป็นอะไรที่คาใจมากกว่ามั้ง ก่อนมาตั้งกระทู้เราก็หาอ่านเรื่องราวปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้มาบ้างเรื่องของเราไม่หนักหนาขนาดนั้น แต่เราอึดอัดค่ะ มันแน่นอก

คือเรื่องมีอยู่ว่า เรากับแฟนรู้จักกันทางเน็ต เราอยู่คนละประเทศกันเลย แฟนเราอายุเท่ากันกับเรา มีลูกติดสามคนแน่ะแต่อยู่ทางฝ่ายแฟนเก่าเค้า ตอนแฟนเรารู้จักกับเราเค้าย้ายกลับมาอยู่กับพ่อแม่เค้า แฟนเรามีรถเก่าๆคันเดียวที่เป็นสมบัติติดตัว แฟนเรามีพี่สาวสองคน ต่างคนก็ออกไปมีครอบครัวหมดแล้ว คนนึงบ้านอยู่ใกล้ๆกันกับแม่ อีกคนย้ายไปอยู่ไกลคนละรัฐเลยค่ะ(ลืมบอกเราอยู่ออสเตรเลียค่ะ) นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เราใช้ชีวิตร่วมกับฝรั่งเราไม่รู้ความคิดและวัฒนธรรมของเค้าเท่าไหร่ แต่ที่รู้สึกได้คนเชื้อสายสก็อตแลนด์นี่ท่าทางจะงก(จริงมั้ยคะ) แต่เราก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องตรงนั้น เราคิดว่าจะต้องสร้างเนื้อสร้างตัวกันเอง เราชวนแฟนย้ายออกมาเช่าบ้าน เพราะเราก็เคยแต่งงานมาแล้วรู้ถึงปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ดีและไม่อยากมีปัญหาแบบนั้นอีก พอออกมาเช่าบ้านเราก็ออกหางานนวดร้านของคนไทยใกล้ๆบ้าน หารายได้เพื่อซื้อของส่วนตัวจะได้ไม่รบกวนแฟนมาก ช่วงแรกๆของชีวิตคู่ค่อนข้างลำบากค่ะ แฟนเก่าแฟนพอเห็นแฟนเราแต่งงานใหม่ก็เหมือนอิจฉา แกล้งยื่นขอChild supportมากขึ้นและแกล้งไม่ให้ลูกมาเจอแฟนเลย มีคนเล็กสุดที่ยังมาบ้างไม่มาบ้างคนโตสองคนไม่เคยมาหาเลยค่ะ เราทั้งทะเลาะทั้งร้องไห้กับแฟนเรื่องปัญหาเงินๆทองๆก็บ่อยเพราะแทบจะไม่มีเก็บกัน แต่ที่ทำให้เรายังทนอยู่ก็เพราะเราสงสารแฟน เค้ารักเราและพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดูแลเรา จนเราเริ่มเก็บเงินดาวน์ยูนิตมือสอง เพราะผ่อนดีกว่าเช่าอยู่แล้ว จนตอนนี้เรากำลังขายยูนิตเพื่อซื้อบ้านเดียวกันค่ะ(ผ่อนนะคะ ไม่มีเงินสด) แต่เราก็ดีใจมากที่เราสองคนร่วมกันต่อสู้จนการเป็นอยู่ดีขึ้น เรียกว่าคนที่เคยดูถูกเรากับแฟนเอาไว้คงจุกอก555 1ในนั้นจะเป็นแม่สามีด้วยหรือป่าวเราไม่รู้นะเพราะแฟนไม่เคยพูด หรือถึงแม่จะพูดแฟนก็คงไม่มาบอกเราหรอก งงใช่มั้ยคะ ไหนปัญหาแม่ผัว?? เอาล่ะเริ่มค่ะ ตั้งแต่ตัดสินใจย้ายออกจากบ้านแม่ แฟนเรายังมีของบางอย่างเก็บไว้ที่บ้านแม่เพราะพ่อกับแม่อยู่กันแค่สองคน ฝากของไว้ไม่น่ามีปัญหาเพราะห้องที่เช่าไม่มีตู้เสื้อผ้าเลย และเราก็ยังไม่มีเงินซื้อเฟอร์อะไรที่เกินความจำเป็น แต่แม่ตามเอาของที่ฝากไว้มาให้ถึงห้องเลยค่ะ หลังจากนั้นเคยกลับมาเยี่ยมหาแม่ก็เห็นว่าห้องที่เคยเป็นห้องแฟนก็จัดเป็นห้องเด็กผู้หญิงให้หลาน พี่สาวแฟนที่อยู่ใกล้บ้านแม่มีลูกห้าคนค่ะ และทุกอาทิตย์ต้องมานอนที่บ้านคุณย่าค่ะ เพื่อให้พี่สาวแฟนกับสามีเค้าไปดินเนอร์ใต้แสงเทียน(ประมาณนั้นมั้ง) นั่นคือหนึ่งสาเหตุที่เรากับแฟนอยากย้ายออกมา แต่เรารู้สึกได้ว่าแม่แฟนเริ่มจะไม่ค่อยชอบเราหลังจากที่เราย้ายออกมา เวลาเจอกันก็โอเคทักทายดี แต่เราเป็นคนเงียบๆและภาษาเราก็ไม่เก่ง มีแฟนเราคนเดียวเข้าใจว่าเราพูดอะไร พ่อแม่สามีก็สำเนียงสก็ตแลนด์เราฟังไม่รู้เรื่องเลย ทีนี้แฟนเราต้องขับรถตอนกลางคืน ตอนเช้าต้องนอนตื่นสายๆ แต่ก็มีบ่อยครั้งที่แม่โทรมาเรียกแฟนให้ไปช่วยนั่นนี่ อันนี้เข้าใจเพราะตอนนี้พ่อแฟนต้องนั่งรถเข็นช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ อันนี้เค้าป่วยหลังจากเราย้ายออกมาแล้วนะคะ คือเราไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อแม่แฟนไม่คบหาสมาคมกับคนข้างๆบ้านบ้าง ลืมบอกว่าตั้งแต่พ่อป่วยแม่ก็เอาบ้านให้คนเช่าและตัวเองก็ออกมาเช่าทาวน์เฮาส์หลังเล็กๆเพราะอยู่กันแค่สองคน ข้างบ้านเป็นคนอินเดีย แม่ก็บ่นให้แฟนฟังบางครั้งว่าเสียงดัง แต่จากที่เรารู้จักครอบครัวแฟนมาเราคิดว่าครอบครัวแฟนดูถูกคนแขก หรือเอเซีย พวกสีผิวเข้มๆ อันนี้เรารู้สึกเอาเองนะ แต่แฟนก็เห็นคนแขกไม่ได้เลย ถ้าคนพวกนั้นมาสะกิดต่อมความรู้สึกเข้าหน่อยแฟนเราจะของขึ้นเลยค่ะ คนข้างห้องเคยจอดรถขวางทางเข้าออก แทนที่จะเรียกคุยกันธรรมดาแฟนก็ทำให้เป็นเรื่องเกือบทะเลาะกัน เรื่องนี้เราเบื่อแฟนมากและจากที่ได้ยินแม่คุยเรื่องคนอื่นเหมือนดูหมิ่นเค้าเราเลยรู้เลยว่านิสัยเสียของแฟนเราติดมาจากแม่แน่นอน...ทีนี้ในเมื่อแม่เป็นคนที่น่าจะเลือกคบเฉพาะผู้ดีฝรั่งด้วยกัน ทำให้มีปัญหาอะไรก็โทรเรียกแฟนเรา หกล้มแต่ก็ไม่ได้หนักหนาอะไรก็เรียกแฟนเราให้พาไปหาหมอแม่แฟนเรารูปร่างสูงใหญ่ตัวใหญ่กว่าพ่ออีก มาล่าสุดที่เรากลั้นไม่อยู่คือเมื่อวานเรากำลังทำกับข้าวเย็นกัน แม่โทรมาบอกว่าไฟมันดับ คิดว่าคัทเอาท์มีปัญหา ปีนขึ้นไปไม่ถึง เราเลยพูดกับแฟนว่าเมื่อไหร่แม่จะพยายามคุยกับเพื่อนบ้าน แล้วไฟดับบ้านอื่นดับหรือป่าวแม่ก็ไม่ไปถาม โทรหาลูกชายทันทีและก็จังหวะเป็นวันหยุดแฟนเราพอดี เราเริ่มรู้สึกว่าแม่อ้อนลูกชายมากเกินเหตุอ่ะค่ะ พอเราบ่นแม่เค้ามากๆแฟนก็เริ่มทำหน้าไม่พอใจ เรากลัวค่ะว่าความสุขที่เรากับแฟนช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรคแล้วร่วมกันสร้างขึ้นมาจะต้องพังลงเพราะปัญหาแม่สามี และสรุปว่าที่ไฟดับเพราะมันดับทั้งแถบนั้นเลยค่ะ พอแฟนเราไปถึงไม่ถึงห้านาทีไฟก็มา บ้านเรากับบ้านแม่แฟนห่างกันสิบกิโลค่ะ พอแฟนกลับมาเราพูดไปตรงๆว่า คราวหน้าหวังว่าแม่จะถามคนข้างบ้านก่อนโทรเรียกนะ แฟนเงียบ เราเป็นคนตรงๆค่ะอ้อนใครไม่เป็น ลืมเล่าอีกเรื่อง ตอนเรายังเช่าบ้านอยู่ ตอนนั้นพ่อยังแข็งแรงอยู่เลย มีแมงมุมตัวค่อนข้างใหญ่ในบ้านแม่ แม่โทรมาเรียกแฟนให้ไปจัดการค่ะ ขับรถไปสิบกิโลเพื่อไปฆ่าแมงมุมให้พ่อแม่กตัญญูดีเนอะ แต่ตอนที่แม่ย้ายไปอยู่บ้านเช่าข้าวของอะไรที่ไม่ใช้เค้ายกให้แต่ลูกสาวเค้า ไม่ถามแฟนเราสักคำว่าอยากได้อะไรไปใช้มั้ยทั้งๆที่ตอนนั้นเรายังไม่มีเงินซื้อเฟอร์นิเจอร์กันเลย พอมาตอนนี้เรามีเงินซื้อบ้านเอาโคมไฟเน่าๆมาถามเราว่าอยากได้ไปใช้มั้ย เขียนมายืดยาวถ้าคิดว่าไร้สาระก็ขอโทษนะคะ แค่อยากระบายอะไรออกมาบ้าง
ใครมีปัญหากับแม่สามีฝรั่งมั่งมั้ยคะ โดยเฉพาะชาวสก็อตแลนด์