หนักใจมากค่ะ แฟนเป็นคนฮอลแลนด์ เจอกันตอนไป backpack เที่ยวเมื่อต้นปีก่อน fall in love กันลึกมากทั้งคู่ค่ะ ปีนไม่ขึ้นเลย
เขาหล่อค่ะ หล่อจนเราไม่มีสติตั้งตัว นิสัยก็น่ารักด้วย ส่วนเขาบอกว่าชอบเรา รักเราเพราะเราดูงุ้งงิ้งเหมือนแมว
อยู่กับเรา คุยกับเราแล้วสบายใจค่ะ ทั้ง love at first sight ทั้ง lust at first sight ปนกันไปหมดจนแยกไม่ออก 555+
ทีแรกเราก็คิดว่าคงคบไม่นาน เพราะไม่ชอบคบทางไกล แต่ตอนที่ห่างกันมันก็ไม่ได้แย่อะค่ะ
เขาก็น่ารัก เสมอต้นเสมอปลาย ไม่มีนอกลู่นอกทาง คือเหมือนเสพติดกันมาก ถ้าว่างตรงกันก็ต้องเปิดกล้องคุย ไม่ว่างก็เมสเสจเอา
ช่วงปลายปีที่ผ่านมาเขาก็มาหา มาอยู่ด้วย มาทำความรู้จักที่บ้านเรา เราก็ได้บินไปเที่ยวบ้านเขาช่วงปีใหม่
ที่บ้านเขาดีกับเรามากๆ ครอบครัวเขาอบอุ่นมาก ชอบประเทศไทยมากด้วย บ้านเราก็เข้ากับเขาได้ดีเหมือนกันค่ะ
ตอนที่ไปเจอกับที่บ้านเขา เขาก็คุยกับเราว่าเขาจริงจังมากนะ เราเรียนจบเมื่อไหร่ เขาจะขอเราแต่งงาน
ทีนี้เทอมนี้เราก็จะจบแล้ว เราเหลือตัวที่ค้างไว้ตัวเดียวทำให้จบช้ากว่าเพื่อนไปปีนึง แต่ก็ทำให้เรามีเวลาไปเที่ยวที่นู่นที่นี่ตลอด
ช่วงเดือนที่ผ่านมาเราไปกัมพูชามาคนเดียวค่ะ ทีนี้มีปัญหาตอนเราไปนอนอยู่เกาะรองห้าคืน มันไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ เน็ตก็ไม่มี
ที่นั่นยังไม่เจริญมาก แถมช่วงที่ไปมีไฟไหม้บนเกาะอีก วุ่นวายสุดๆ แต่เกาะที่กัมพูชาสวยค่ะ คนไทยไม่มี ฝรั่งทั้งนั้น
กลับกรุงเทพ พ่อเจ้าประคุณส่งอีเมลกับข้อความมาแทบล้น แล้วก็เริ่มเรื่องที่ว่าต่อไปจะไปไหนไม่อยากให้ไปคนเดียว ห้ามห้ามห้าม
กลัวเราจะไปเจอคนอื่น เหมือนกับที่เราเจอกับเขา มุ้งมิ้งไปมาละก็วกมาที่เรื่องแต่งงาน ถามเราว่าจะเอาไง เขาอยากมีลูกมีครอบครัว
เราบอกเขาไปว่าเรายังไม่รู้ เขาก็หาว่าถ้าเราคิดว่าเขาใช่ เขาก็คิดว่าเราใช่ ทำไมต้องรอเวลาอะไรอีก เขาไม่อยากอยู่ห่างกันแบบนี้แล้ว
ตัวเราอายุก็เพิ่ง 22 เอง เขาก็ไม่ใช่จะแก่ แค่ 27 ไม่รู้จะรีบไปไหน เราเองก็ไม่ชอบยุโรปด้วย เราชอบเอเชีย ชอบทะเล ชอบอากาศร้อนๆ
เขามีออปชั่นให้ว่าถ้าเราไม่อยากไปอยู่ที่ฮอลแลนด์ เขาจะมาอยู่ไทย จะมาหางานทำที่นี่ ขอแค่เราโอเค เราก็มาปรึกษาที่บ้าน
พ่อเราดันไม่เห็นด้วยอีก พ่อบอกว่าถ้าเขามีงานทำดีๆอยู่ที่นู่นก็ไม่อยากให้เสี่ยงทิ้งมา
ถ้าจะเป็นครอบครัวกัน ก็อยากให้เราลองไปอยู่กับเขาที่นั่น ถ้าไม่ชอบจริงๆ อยู่ไม่ได้จริงๆ ค่อยให้เขาเสียสละ
เราเองก็อยากแต่งกับเขา อยากอยู่กับเขาเหมือนกัน เพราะอยู่กับเขาแล้วมีความสุขมาก
แต่ก็เสียดายว่าเพิ่งเรียนจบ ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย เหมือนใช้ชีวิตไม่คุ้มค่า เขาเองก็อยากมีลูกมากๆ บอกแทบจะตลอด
อีกอย่างที่กลัวคือทุกอย่างมันแบบ too good to be true อะค่ะ เราแบบคิดมากว่าพอแต่งไปแล้วมันจะไม่ good อยู่แบบนี้
บางทีก็โมโหตัวเองเหมือนกันที่มานั่งคิดเล็กคิดน้อยเป็นบ้าอยู่ได้ แต่ก็ไม่รู้จะทำไง สับสนจนโดนน้อยใจหาว่าไม่รักไปแล้ว
เพื่อนๆที่แต่งงานเร็ว หรือเรียนจบแล้วแต่งงาน เคยรู้สึกเบื่อหรือเสียดายที่รีบแต่งงานมั่งรึป่าว
หรือว่าถ้ามีประสบการณ์ ข้อคิดอะไร ช่วยสอนเราด้วยนะคะ มีวิธีให้ไม่ต้องคิดฟุ้งซ่านมั้ยคะ
ปรึกษาพ่อแม่ก็อยากให้เราแต่งเหลือเกิน ปรึกษาพ่อแม่ไม่ได้ ขอปรึกษาคนในพันทิปด้วยนี่หล่ะ
มีใครเรียนจบแล้วแต่งงานเลยบ้างมั้ยคะ? เคยมีความรู้สึกเสียดายชีวิตมั่งรึป่าว?
เขาหล่อค่ะ หล่อจนเราไม่มีสติตั้งตัว นิสัยก็น่ารักด้วย ส่วนเขาบอกว่าชอบเรา รักเราเพราะเราดูงุ้งงิ้งเหมือนแมว
อยู่กับเรา คุยกับเราแล้วสบายใจค่ะ ทั้ง love at first sight ทั้ง lust at first sight ปนกันไปหมดจนแยกไม่ออก 555+
ทีแรกเราก็คิดว่าคงคบไม่นาน เพราะไม่ชอบคบทางไกล แต่ตอนที่ห่างกันมันก็ไม่ได้แย่อะค่ะ
เขาก็น่ารัก เสมอต้นเสมอปลาย ไม่มีนอกลู่นอกทาง คือเหมือนเสพติดกันมาก ถ้าว่างตรงกันก็ต้องเปิดกล้องคุย ไม่ว่างก็เมสเสจเอา
ช่วงปลายปีที่ผ่านมาเขาก็มาหา มาอยู่ด้วย มาทำความรู้จักที่บ้านเรา เราก็ได้บินไปเที่ยวบ้านเขาช่วงปีใหม่
ที่บ้านเขาดีกับเรามากๆ ครอบครัวเขาอบอุ่นมาก ชอบประเทศไทยมากด้วย บ้านเราก็เข้ากับเขาได้ดีเหมือนกันค่ะ
ตอนที่ไปเจอกับที่บ้านเขา เขาก็คุยกับเราว่าเขาจริงจังมากนะ เราเรียนจบเมื่อไหร่ เขาจะขอเราแต่งงาน
ทีนี้เทอมนี้เราก็จะจบแล้ว เราเหลือตัวที่ค้างไว้ตัวเดียวทำให้จบช้ากว่าเพื่อนไปปีนึง แต่ก็ทำให้เรามีเวลาไปเที่ยวที่นู่นที่นี่ตลอด
ช่วงเดือนที่ผ่านมาเราไปกัมพูชามาคนเดียวค่ะ ทีนี้มีปัญหาตอนเราไปนอนอยู่เกาะรองห้าคืน มันไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ เน็ตก็ไม่มี
ที่นั่นยังไม่เจริญมาก แถมช่วงที่ไปมีไฟไหม้บนเกาะอีก วุ่นวายสุดๆ แต่เกาะที่กัมพูชาสวยค่ะ คนไทยไม่มี ฝรั่งทั้งนั้น
กลับกรุงเทพ พ่อเจ้าประคุณส่งอีเมลกับข้อความมาแทบล้น แล้วก็เริ่มเรื่องที่ว่าต่อไปจะไปไหนไม่อยากให้ไปคนเดียว ห้ามห้ามห้าม
กลัวเราจะไปเจอคนอื่น เหมือนกับที่เราเจอกับเขา มุ้งมิ้งไปมาละก็วกมาที่เรื่องแต่งงาน ถามเราว่าจะเอาไง เขาอยากมีลูกมีครอบครัว
เราบอกเขาไปว่าเรายังไม่รู้ เขาก็หาว่าถ้าเราคิดว่าเขาใช่ เขาก็คิดว่าเราใช่ ทำไมต้องรอเวลาอะไรอีก เขาไม่อยากอยู่ห่างกันแบบนี้แล้ว
ตัวเราอายุก็เพิ่ง 22 เอง เขาก็ไม่ใช่จะแก่ แค่ 27 ไม่รู้จะรีบไปไหน เราเองก็ไม่ชอบยุโรปด้วย เราชอบเอเชีย ชอบทะเล ชอบอากาศร้อนๆ
เขามีออปชั่นให้ว่าถ้าเราไม่อยากไปอยู่ที่ฮอลแลนด์ เขาจะมาอยู่ไทย จะมาหางานทำที่นี่ ขอแค่เราโอเค เราก็มาปรึกษาที่บ้าน
พ่อเราดันไม่เห็นด้วยอีก พ่อบอกว่าถ้าเขามีงานทำดีๆอยู่ที่นู่นก็ไม่อยากให้เสี่ยงทิ้งมา
ถ้าจะเป็นครอบครัวกัน ก็อยากให้เราลองไปอยู่กับเขาที่นั่น ถ้าไม่ชอบจริงๆ อยู่ไม่ได้จริงๆ ค่อยให้เขาเสียสละ
เราเองก็อยากแต่งกับเขา อยากอยู่กับเขาเหมือนกัน เพราะอยู่กับเขาแล้วมีความสุขมาก
แต่ก็เสียดายว่าเพิ่งเรียนจบ ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย เหมือนใช้ชีวิตไม่คุ้มค่า เขาเองก็อยากมีลูกมากๆ บอกแทบจะตลอด
อีกอย่างที่กลัวคือทุกอย่างมันแบบ too good to be true อะค่ะ เราแบบคิดมากว่าพอแต่งไปแล้วมันจะไม่ good อยู่แบบนี้
บางทีก็โมโหตัวเองเหมือนกันที่มานั่งคิดเล็กคิดน้อยเป็นบ้าอยู่ได้ แต่ก็ไม่รู้จะทำไง สับสนจนโดนน้อยใจหาว่าไม่รักไปแล้ว
เพื่อนๆที่แต่งงานเร็ว หรือเรียนจบแล้วแต่งงาน เคยรู้สึกเบื่อหรือเสียดายที่รีบแต่งงานมั่งรึป่าว
หรือว่าถ้ามีประสบการณ์ ข้อคิดอะไร ช่วยสอนเราด้วยนะคะ มีวิธีให้ไม่ต้องคิดฟุ้งซ่านมั้ยคะ
ปรึกษาพ่อแม่ก็อยากให้เราแต่งเหลือเกิน ปรึกษาพ่อแม่ไม่ได้ ขอปรึกษาคนในพันทิปด้วยนี่หล่ะ