อยู่คอนโดนี้มาจะครบหนึ่งปีแล้วค่ะ อยู่กับพี่ชายสองคน พอดีว่าอยู่ห้องชั้นสองแล้วติดกับทางบันไดหนีไฟแล้วที่ติดกับบันไดหนีไฟมีพื้นที่เป็นสวนหย่อม(เรียกงี้ได้รึป่าวนะ คือทางคอนโดได้จัดวางกระถางต้นไม้ไว้ให้สวยงาม) แล้วตรงเฉลียงของห้องก็มีกันสาดที่เป็นของคอนโดอยู่ติดกันค่ะ ต่อกับพื้นที่สวนหย่อมตรงบันไดหนีไฟ(อธิบายไม่ค่อยถูกขออภัยค่ะ)
เหตุมันมีอยู่ว่า เมื่อห้องชั้นบนเขาทำของตกลงมา เมื่อตอนหนูเข้ามาอยู่แรกๆผู้ชายที่เขาทำของตกลงมาที่กันสาดก็มาเคาะห้องขอให้พี่ชายหนูเก็บของให้ ตอนนั้นแม่หนูมาพักด้วยเนื่องจากแม่มาช่วยจัดของ แม่บอกกับพี่ชายว่าให้บอกผู้ชายคนนั้นว่าให้ไปบอกยามให้มาช่วยเก็บ เพราะตอนที่เขามาเตาะตอนนั้นก็เกือบสามทุ่มแล้ว แต่พอบอกเขาไปเขาก็ยังยืนยันว่าจะให้เก็บของให้ได้ พี่ชายหนูเลยพยายามจะเก็บให้แต่ไม่ถึง ก็เลยบอกเขาไปว่าเก็บไม่ถึง มห้ไปบอกยามดีกว่า เพราะว่าเราไม่ปีนเก็บให้อยู่แล้ว เพราะระยะห่างจากเฉลียงกับกันสาดก็ห่างกันพอสมควร และพี่ชายของหนูก็กลัวความสูงอยู่แล้ว คือหนูกับแม่ไม่ได้เปิดให้เขาเข้ามาในห้องนะค่ะให้เขายืนรอหน้าห้อง หลังจากที่บอกเขาไปสักพักก็เริ่มได้ยินเสียงกุกกักจากทางเฉลียงค่ะ ภาพที่เห็นคือผู้ชายคนนั้นกำลังปีนเฉลียงห้องหนูค่ะ ปีนมาจากบันไดหนีไฟเผื่อมาเก็บของ บ้านหนูก็โวยวายใหญ่เลยค่ะ เลยไปบอกยามคอนโดว่าเขาปีนมา ยามเขาก็บอกว่าเดี๋ยวเขาจะบอกผู้ชายคนนั้นให้ หลังจากนั้นวันรุ่งขึ้นค่ะ ตุบบ!! เอาอีกแล้วค่ะวันนี้มีเสียงของตกมาอีกแล้ว แต่คิดว่าคงไม่มีเหตุการณ์แบบเมื่อวานอีกแล้วเพราะได้บอกยามไปแล้ว วันนั้นอยู่แค่หนูกับพี่ชายเพราะแม่กลับต่างจังหวัดไปแล้ว ตอนนั้นหนูอ่านหนังสืออยู่ในห้องนอนซึ่งห้องนอนของหนูก็ติดกับกันสาดค่ะ และพี่ชายนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่น อยู่ดีๆหนูก็ได้ยินเสียงกุกกักอีกแล้ว!! และได้เห็นใบหน้าของผู้ชายคนเมื่อวานน ปีนผ่านห้องนอนของหนูไปซึ่งทำให้หนูตกใจมากก เพราะตอนที่เค้าปีนมันก็ดึกแล้วประมาณเกือบ4ทุ่ม ซึ่งการปีนครั้งนี้เขาไม่ได้บอกหรือทำการใดๆที่จะมาบอกเลยว่าเขาจะขอแนุญาติปีน หนูก็รีบไปบอกพี่ชายแล้วให้พี่ชายโทรบอกกับยามที่คอนโด ยามก็ขึ้นมาตักเตือนเขาอีกครั้ง หลังจากนั้นสองสามเดือนก็ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ หนูกับพี่ก็โล่งใจว่าคงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้ว เพราะก็เห็นว่าเวลาที่ผู้ชายคนนั้นทำของตกลงมาก็มียามมาเก็บของให้
จากที่วางใจได้สักพัก ตอนนั้นเป็นเวลากลางวัน หนูก็กำลังดูทีวีอยู่ก็ได้ยินเสียงตู้มมเป็นเสียงน้ำที่ถูกเทลงมาจากห้องข้างบน ซึ่งเป็นห้องผู้ชายคนนั้นพอดี - -* ซึ่งประจวบเหมาะมากกกก คือผ้าฉันเพิ่งซักเสร็จและกำลังจะแห้ง ขอบใจมากกกที่ช่วยซักผ้าให้ใหม่นะค่ะ** และเหตุการณ์โดนบ่อยมาก ประมาณว่าพี่ค่ะห้องพี่ห้องตันหรอ? ถึงต้องมาเทย้ำที่เฉลียง ขนาดห้องหนูติดกับกันสาดยังไม่กล้าเทเลยค่ะ เพราะถ้าเทเสียงมันจะดังมากกลัวคนอื่นเขาว่าเอาทุกวันนี้ ซักผ้า น้ำถูพื้นเททิ้งในห้องน้ำหมด หนูกับพี่ชายก็พยายามสังเกตว่าเขาเทน้ำอะไรลงมา กลัวว่าจะเป็นน้ำถูพื้น - -; หลังจากที่ดูมาประมาณอาทิตย์นึง สรุปที่เห็นได้ว่า เขารดน้ำต้นไม้ กับน้ำที่มาจากผ้าที่เขาเพิ่งซักเสร็จค่ะ คือพี่เขาไม่ตากผ้าบนราวตากผ้าค่ะ คือมาตากตรงที่กันเฉลียง พระเจ้าขอขอบคุณมากมี่ส่งเพื่อนที่น่ารักมาให้หนู ตอนนั้นแบบโกธรมากก็เลยบ่นกับพี่ชาย พ่อ แม่ และรวมตัวกันไปบอกทางนิติให้บอกเขาให้หยุดเทน้ำลงมา หลังจากนั้นนิติก็ได้มาบอกกับพ่อแม่หนูว่าได้ตักเตือนไปทางพ่อของพี่ผู้ชายคนนั้นแล้ว แต่เหตุการณ์ทั้งสองก็ยังเกิดขึ้นเลยๆค่ะ แต่หนูกับพี่ชายบอกเลยว่าแทบจะชินแล้วค่ะเพราะบ่อยเหลือเกิน -0- และเหตุการณ์ล่าสุดพี่เขาก็ปีนมาอีกแล้วหลังจากที่ไม่เจอหน้ามาตั้งแต่ต้นปี คราวนี้หนูเริ่มที่จะทนไม่ไหวแล้วค่ะ เนื่องจากเร็วๆนี้พี่ชายหนูจะไปเรียนต่างประเทศแล้ว และหนูต้องอยู่ห้องนี้คนเดียว เกรงว่าจะต้องสวัสดีพี่ชายห้องข้างบนคนเดียว
-----อยากจะถามพี่ๆที่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้จะต้องทำยังไงบ้างค่ะ หรือหนูควรจะแจ้งความไปเลยดี
ปล.ที่ต้องไม่ได้มีอคิติกับพี่เขานะค่ะ แต่แบบต้องการอยู่อย่างไม่ต้องมากลัวหรือผวงว่า วันนี้เขาจะปีนมาไหม และอีกข้อหนึ่งที่เลือกมาอยู่คอนโดมากกว่าที่จะเลือกอยู่หอเพราะคิดว่าความปลอดภัยจะมากกว่า
กระทู้แรกค่ะ เขียนยาวนิดนึงขอโทษนะค่ะ อยากฟังความคิดเห็นและคำแนะนำของพี่ๆทั้งหลายค่ะ ขอบคุณที่เข้ามานะค่ะ
อยากสอบถามเกี่ยวกับคนที่อยู่คอนโดค่ะ
เหตุมันมีอยู่ว่า เมื่อห้องชั้นบนเขาทำของตกลงมา เมื่อตอนหนูเข้ามาอยู่แรกๆผู้ชายที่เขาทำของตกลงมาที่กันสาดก็มาเคาะห้องขอให้พี่ชายหนูเก็บของให้ ตอนนั้นแม่หนูมาพักด้วยเนื่องจากแม่มาช่วยจัดของ แม่บอกกับพี่ชายว่าให้บอกผู้ชายคนนั้นว่าให้ไปบอกยามให้มาช่วยเก็บ เพราะตอนที่เขามาเตาะตอนนั้นก็เกือบสามทุ่มแล้ว แต่พอบอกเขาไปเขาก็ยังยืนยันว่าจะให้เก็บของให้ได้ พี่ชายหนูเลยพยายามจะเก็บให้แต่ไม่ถึง ก็เลยบอกเขาไปว่าเก็บไม่ถึง มห้ไปบอกยามดีกว่า เพราะว่าเราไม่ปีนเก็บให้อยู่แล้ว เพราะระยะห่างจากเฉลียงกับกันสาดก็ห่างกันพอสมควร และพี่ชายของหนูก็กลัวความสูงอยู่แล้ว คือหนูกับแม่ไม่ได้เปิดให้เขาเข้ามาในห้องนะค่ะให้เขายืนรอหน้าห้อง หลังจากที่บอกเขาไปสักพักก็เริ่มได้ยินเสียงกุกกักจากทางเฉลียงค่ะ ภาพที่เห็นคือผู้ชายคนนั้นกำลังปีนเฉลียงห้องหนูค่ะ ปีนมาจากบันไดหนีไฟเผื่อมาเก็บของ บ้านหนูก็โวยวายใหญ่เลยค่ะ เลยไปบอกยามคอนโดว่าเขาปีนมา ยามเขาก็บอกว่าเดี๋ยวเขาจะบอกผู้ชายคนนั้นให้ หลังจากนั้นวันรุ่งขึ้นค่ะ ตุบบ!! เอาอีกแล้วค่ะวันนี้มีเสียงของตกมาอีกแล้ว แต่คิดว่าคงไม่มีเหตุการณ์แบบเมื่อวานอีกแล้วเพราะได้บอกยามไปแล้ว วันนั้นอยู่แค่หนูกับพี่ชายเพราะแม่กลับต่างจังหวัดไปแล้ว ตอนนั้นหนูอ่านหนังสืออยู่ในห้องนอนซึ่งห้องนอนของหนูก็ติดกับกันสาดค่ะ และพี่ชายนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่น อยู่ดีๆหนูก็ได้ยินเสียงกุกกักอีกแล้ว!! และได้เห็นใบหน้าของผู้ชายคนเมื่อวานน ปีนผ่านห้องนอนของหนูไปซึ่งทำให้หนูตกใจมากก เพราะตอนที่เค้าปีนมันก็ดึกแล้วประมาณเกือบ4ทุ่ม ซึ่งการปีนครั้งนี้เขาไม่ได้บอกหรือทำการใดๆที่จะมาบอกเลยว่าเขาจะขอแนุญาติปีน หนูก็รีบไปบอกพี่ชายแล้วให้พี่ชายโทรบอกกับยามที่คอนโด ยามก็ขึ้นมาตักเตือนเขาอีกครั้ง หลังจากนั้นสองสามเดือนก็ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ หนูกับพี่ก็โล่งใจว่าคงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้ว เพราะก็เห็นว่าเวลาที่ผู้ชายคนนั้นทำของตกลงมาก็มียามมาเก็บของให้
จากที่วางใจได้สักพัก ตอนนั้นเป็นเวลากลางวัน หนูก็กำลังดูทีวีอยู่ก็ได้ยินเสียงตู้มมเป็นเสียงน้ำที่ถูกเทลงมาจากห้องข้างบน ซึ่งเป็นห้องผู้ชายคนนั้นพอดี - -* ซึ่งประจวบเหมาะมากกกก คือผ้าฉันเพิ่งซักเสร็จและกำลังจะแห้ง ขอบใจมากกกที่ช่วยซักผ้าให้ใหม่นะค่ะ** และเหตุการณ์โดนบ่อยมาก ประมาณว่าพี่ค่ะห้องพี่ห้องตันหรอ? ถึงต้องมาเทย้ำที่เฉลียง ขนาดห้องหนูติดกับกันสาดยังไม่กล้าเทเลยค่ะ เพราะถ้าเทเสียงมันจะดังมากกลัวคนอื่นเขาว่าเอาทุกวันนี้ ซักผ้า น้ำถูพื้นเททิ้งในห้องน้ำหมด หนูกับพี่ชายก็พยายามสังเกตว่าเขาเทน้ำอะไรลงมา กลัวว่าจะเป็นน้ำถูพื้น - -; หลังจากที่ดูมาประมาณอาทิตย์นึง สรุปที่เห็นได้ว่า เขารดน้ำต้นไม้ กับน้ำที่มาจากผ้าที่เขาเพิ่งซักเสร็จค่ะ คือพี่เขาไม่ตากผ้าบนราวตากผ้าค่ะ คือมาตากตรงที่กันเฉลียง พระเจ้าขอขอบคุณมากมี่ส่งเพื่อนที่น่ารักมาให้หนู ตอนนั้นแบบโกธรมากก็เลยบ่นกับพี่ชาย พ่อ แม่ และรวมตัวกันไปบอกทางนิติให้บอกเขาให้หยุดเทน้ำลงมา หลังจากนั้นนิติก็ได้มาบอกกับพ่อแม่หนูว่าได้ตักเตือนไปทางพ่อของพี่ผู้ชายคนนั้นแล้ว แต่เหตุการณ์ทั้งสองก็ยังเกิดขึ้นเลยๆค่ะ แต่หนูกับพี่ชายบอกเลยว่าแทบจะชินแล้วค่ะเพราะบ่อยเหลือเกิน -0- และเหตุการณ์ล่าสุดพี่เขาก็ปีนมาอีกแล้วหลังจากที่ไม่เจอหน้ามาตั้งแต่ต้นปี คราวนี้หนูเริ่มที่จะทนไม่ไหวแล้วค่ะ เนื่องจากเร็วๆนี้พี่ชายหนูจะไปเรียนต่างประเทศแล้ว และหนูต้องอยู่ห้องนี้คนเดียว เกรงว่าจะต้องสวัสดีพี่ชายห้องข้างบนคนเดียว
-----อยากจะถามพี่ๆที่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้จะต้องทำยังไงบ้างค่ะ หรือหนูควรจะแจ้งความไปเลยดี
ปล.ที่ต้องไม่ได้มีอคิติกับพี่เขานะค่ะ แต่แบบต้องการอยู่อย่างไม่ต้องมากลัวหรือผวงว่า วันนี้เขาจะปีนมาไหม และอีกข้อหนึ่งที่เลือกมาอยู่คอนโดมากกว่าที่จะเลือกอยู่หอเพราะคิดว่าความปลอดภัยจะมากกว่า
กระทู้แรกค่ะ เขียนยาวนิดนึงขอโทษนะค่ะ อยากฟังความคิดเห็นและคำแนะนำของพี่ๆทั้งหลายค่ะ ขอบคุณที่เข้ามานะค่ะ