อัมพวาที่เราได้มาสัมผัสด้วยตัวเอง

...ล่องเรือชมหิ่งห้อย

.....ล่องเรือชมสองฝั่งคลอง

.......ตักบาตรพระเช้าริมน้ำ

.........เดินตลาดทั้งวันธรรมดาและวันหยุด

...........ชมโครงการอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์

.............ชมบรรยากาศตลาดร่มหุบ

.................................................

วันแรกที่มาถึงก็ตรงดิ่งมา Check in ณ ริมน้ำของบ้านรักอัมพวากันก่อนเลยค่ะ



ห้องพักของเราอยู่ชั้นสองในโซน B นะคะ ห้องตกแต่งได้น่ารักดีค่ะ เสียแต่ว่าห้องน้ำเล็กไปหน่อยเท่านั้นเอง



หลังจากเก็บของเข้าห้องแล้ว ก็ออกไปเดินชิลๆที่ตลาดน้ำกัน แวะพักบ้าง ชิมบ้างเป็นระยะๆค่ะ ที่พักที่นี่เดินไปตลาดได้สบายมากค่ะ



ขาดไม่ได้ที่จะต้องแวะมาชิมไอศกรีมศรีมาลาอันเลื่องชื่อของตลาดน้ำอัมพวา



.....................................................................

เช้าวันใหม่รีบตื่นมาแต่เช้าเพื่อรอตักบาตรค่ะ พอดีเราไม่ได้เอากางเกงขายาวมาเลยต้องตักบาตรในชุดกระโปรง

เพราะที่เหลือเป็นกางเกงขาสั้นหมดเลยค่ะ ยังไงอย่าลืมเผื่อกางเกงขายาวมาบ้างนะคะสำหรับวันตักบาตรกับชมวัด



พระท่านจะพายเรือมาบิณฑบาตรนะคะ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ตักบาตรริมน้ำค่ะ เพราะปกติเราจะตักบาตรริมถนนเป็นประจำเลยค่ะ



ตักบาตรเสร็จก็เลยถือโอกาสมาเดินเล่นทางฝั่งโรงเจบ้างค่ะ





เดินไปก็ไปจ๊ะเอํกับหมูป่าตัวนี้เข้าค่ะ พระท่านเลยนำร่องลูบตัวให้หมูป่าหยุด ไม่น่าเชื่อว่าหมูป่าหยุดดั่งต้องมนต์จริงๆค่ะ



หลังจากนั้นพระท่านก็บอกให้เราลองลูบท้องหมูป่าแล้วหมูป่าก็จะล้มตัวลงนอนอย่างว่าง่าย แต่ทุกครั้งจะต้องให้พระท่านนำร่องให้ก่อนนะคะ



ช่วงเย็นเรามีนัดกับเรือที่จะพาไปชมหิ่งห้อยกันค่ะ



ระหว่างทางก็มีแต่ความมืดจะเห็นแสงไฟก็ในช่วงที่เรือขับผ่านทางบ้านเรือน อย่าลืมเตรียมเสื้อคลุมกันหนาวไปด้วยนะคะ







ไฮไลท์ของทริปนี้ก็นี่เลยค่ะ เจ้าหิ่งห้อยเรืองแสงระยิบระยับไปทั้งต้นลำพู



เช้าวันนี้ก็มีนัดกับเรืออีกแล้วค่ะ แต่วันนี้จะไปล่องเรือชมสองฝั่งคลองและชมวัดสำคัญริมน้ำของอัมพวากันค่ะ



วัดแรกที่ได้แวะชมคือวัดบางกุ้งค่ะ ที่นี่มีอนุสาวรีย์ของพระเจ้าตากสินมหาราชให้สักการะกันด้วยนะคะ



ด้านข้างของอนุสาวรีย์จะมีหุ่นปูนปั้นขนาดเท่าคนจริงกำลังแสดงท่าการซ้อมรบกันอย่างขมักเขม้นเลยค่ะ



ภายในยังมีสถานที่อันซีนอยู่นั่นก็คือโบสถ์ปรกโพธิ์



ที่นี่เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปหลวงพ่อนิลมณี



ไหว้พระเสร็จก็ออกมาเสี่ยงโชคซักหน่อยดีกว่า



ก่อนกลับไปขึ้นเรืออย่าลืมแวะให้อาหารสัตว์ด้วยนะคะ เพราะที่นี่มีสวนสัตว์ขนาดย่อมให้เข้าเยี่ยมชมด้วยค่ะ



วัดต่อไปที่เราเลือกมาชมคือวัดจุฬามณีค่ะ



อย่าลืมแวะสักการะอัฐิของหลวงพ่อเนื่องที่เก็บไว้บนศาลาทรงไทยกันด้วยนะคะ ภายในตกแต่งได้อย่างงดงามมากเลยค่ะ











ชมวัดเสร็จคราวนี้ก็เป็นการนั่งเรือชมวิวสองฝั่งคลองไปเรื่อยๆแล้วนะคะ











กลับจากล่องเรือชักจะหิวแล้วค่ะ ว่าแล้วก็เดินไปตลาดสั่งอาหารด้านนอกมานั่งทานในร้านชานชาลาได้นะคะ

แต่อย่าลืมอุดหนุนเครื่องดื่มของทางร้านด้วยนะคะ



อาหารที่สั่งก็มีส้มตำปู ผัดไทยกุ้งสด หอยเชลล์ย่าง กับน้ำอัญชัญค่ะ







บรรยากาศภายในร้านที่ถูกตกแต่งเหมือนชานชาลารอรถไฟ





กินอิ่มก็แวะมาเยี่ยมชมโครงการอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์บ้างดีกว่า



โครงการประกอบไปด้วยสวนชัยพัฒนานุรักษ์



ลานวัฒนธรรมนาคะวะรังค์



เรือนแถวไม้ริมคลองอัมพวา อาทิเช่น ร้านชานชาลาและพิพิธภัณฑ์บ้านครูเอื้อ



วันสุดท้ายต้องแวะไปชมให้ได้เมื่อมาอัมพวานั่นก็คือตลาดร่มหุบ



ขณะที่เจ้าหน้าที่แจ้งเตือนให้หุบร่มและเก็บข้าวเก็บของ ทุกคนก็ใช้ความชำนาญในการเก็บได้อย่างรวดเร็ว น่านับถือจริงๆ







มาแแล้วค่ะรถไฟที่นักท่องเที่ยวต่างมารอชมยามเคลื่อนผ่านตลาดร่มหุบแห่งนี้



ก่อนกลับก็ต้องแวะช็อปของฝากกันบ้าง ทั้งขนมพระอาทิตย์เอย หมี่กรอบชาววังเอย ของกระจุกกระจิกเอย สินค้าในร้านภัทรพัฒน์เอย



ปิดท้ายกันไปด้วยรูปเรือหลากหลายที่ขายสารพัดสินค้าอันเป็นสัญลักษณ์ของตลาดน้ำอัมพวา



..................................................................................................

ป.ล. หากใครสนใจที่พัก ลองเข้าไปดูรีวิวที่เราแนะนำไว้ได้ค่ะ มีพร้อมทั้งรูปและรายละเอียดค่ะ

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=i-noot&group=14