นี่หรือร้านอาหารที่ได้ชื่อว่ามีคุณภาพ ??

จริงๆลังเลใจมากๆค่ะ ที่จะตั้งกระทู้นี้ดีมั้ย เพราะเราก็ไปกินมานานแล้ว ประมาณช่วงต้นปีได้ ซึ่งก็ไม่นานมาหรอกค่ะ แต่บางทีก็กลัวมาตั้งแล้วคนจะหาว่าแต่งเรื่องขึ้นมาค่ะ เพราะช่วงนี้เห็นหลายกระทู้โดนบ่อยมาก เลยแอบหวาดๆนิดหน่อย แต่ด้วยความที่ว่าวันนี้เดินผ่านร้านนี้พอดีค่ะ เลยเกิดอาการหงุดหงิดขึ้นมาอีกรอบ เลยตัดสินใจมาเขียนลงพันทิปค่ะ

ขอไม่บอกนะคะว่าร้านไหน แต่บอกว่าเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแน่นอนค่ะ แต่ไม่ใช่ร้านสีฟ้าๆมีภูเขาไฟอยู่หรอกนะคะ อมยิ้ม06

ซึ่งร้านนี้ถือว่าเป็นร้านที่ได้ชื่อว่ามีคุณภาพพอสมควรค่ะ เพราะวันนี้ที่ได้เดินผ่านมา เห็นคนนั่งกินเต็มร้านเลยค่ะ คิดว่าน่าจะดังพอตัวอยู่

ซึ่งเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นประสบการณ์จริงล้วนๆค่ะ ไม่มีเฟคใส่สีตีไข่แต่อย่างใด

จำไม่ได้ว่าวันไหนค่ะ แต่วันนั้นไปทานอาหารร้านนี้กับคุณแม่แล้วก็เพื่อนแม่อีกคนหนึ่งค่ะ ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลาราวๆสองทุ่มสิบห้านาทีได้

ซึ่งตอนนั้นในร้านมีคนนั่งอยู่ประมาณโต๊ะนึงได้ค่ะ ซึ่งเวลาแน่นอนว่าเวลาแบบนี้คนน่าจะทานอาหารเสร็จหมดแล้ว

จริงๆร้านนี้ไม่ได้ตั้งใจจะกินตั้งแต่แรกแล้วล่ะค่ะ แต่ว่าร้านอื่นเขาบอกว่าจะปิดครัวแล้ว ซึ่งเราก็เดินผ่านร้านนี้พอดี เลยคิดว่าเป็นไงเป็นกันค่ะ เพราะร้านก็ดูน่าเชื่อถืออยู่พอสมควร

พอเข้ามานั่งในร้านสักพัก พนักงานก็มารับออเดอร์ค่ะ เป็นผู้ชาย คิดว่าน่าจะเป็นผู้จัดการอะไรแบบนี้ค่ะ เพราะชุดดูแตกต่างจากคนอื่นนิดหน่อย ดูเขาพยายามจะพูดเอาใจลูกค้าอยู่พอสมควรค่ะ ซึ่งเราก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย

ตอนแรกจะสั่งพวกข้าวหน้าอย่างนู้นอย่างนี้มาทานค่ะ แต่เขาก็บอกว่าอาหารพวกนี้สั่งได้เฉพาะตอนกลางวัน ตอนกลางคืนจะสั่งได้แค่เฉพาะพวกหม้อไฟ

ไอ้เราด้วยความที่ว่าหิวมาก คิดว่าถ้ากินตะเกียบแทนได้คงทำไปแล้ว ก็เลยสั่งๆไปแบบไม่ได้สนใจอะไรมากมายค่ะ

แต่หลังจากที่สั่งเสร็จไปแล้ว ปัญหาก็มาหาแบบไม่ทันตั้งตัวซะงั้นค่ะ ...

ซึ่งปัญหาที่ว่านั่นคืออะไร ก็คงเป็นเรื่องเสิร์ฟอุปกรณ์จกกินไม่ครบค่ะ เดี๋ยวก็ขาดบ้าง ลืมบ้าง ไม่เสิร์ฟบ้าง

แต่เราก็พยายามเข้าใจนะว่า เอออออ เขาก็คงอยากรีบทำให้เสร็จจะได้รีบกลับบ้านไรงี้ เลยพยายามบอกกับตัวเองไว้ว่าวันนี้แม่มาด้วย ต้องเป็นแม่พระเข้าไว้ค่ะ

แต่แน่นอนว่ามันก็ค่อนข้างหน้าหงุดหงิดอยู่เหมือนกันค่ะ เพราะรู้สึกว่าปัญหาเยอะเหลือเกิน และยิ่งกว่านั้นคือพนักงานเสิร์ฟบางคนหน้าตาไม่ค่อยรับแขกด้วยค่ะ ไม่แน่ใจว่าตั้งแต่เกิดมาเขาแบกโลกทั้งใบไว้บนหน้ารึเปล่า

และแน่นอนว่าแน่นอนและแน่นอนอีกครั้งของอีกครั้งค่ะ ที่เราต้องสงบสติอารมณ์ไว้ และพยายามจกกินแบบเงียบๆไปค่ะ ตอนนั้นพยายามใจเย็นมากจริงๆ พยายามคิดว่าใครๆเขาก็คงรีบกลับบ้านอะไรแบบนี้

แต่ดูเหมือนพนักงานเสิร์ฟเขาคุยกันสบายใจเหลือเกินค่ะ ................

และสุดท้ายเราก็ได้แต่พยายามไม่ใส่ใจอีกครั้ง ซึ่งตอนนั้นยอมรับว่าเริ่มหงุดหงิดมาก สาเหตุมาจากหน้าแบกโลกของพนักงานส่วนนึงกับปัญหาเสิร์ฟอุปกรณ์ไม่ครบค่ะ 5555555

แต่ยังไงก็สามารถทานอาหารคาวหมดไปได้ด้วยดีค่ะ หมดไปแต่อาหาร แต่ความประทับใจไรงี้ไม่เกิดขึ้นเลยค่ะ จะประทับใจอย่างเดียวก็คงเป็นคุณผู้จัดการร้านในตอนแรก ที่พยายามเข้ามาจัดการปัญหาอุปกรณ์จกกินไม่ครบค่ะ

ตอนนั้นเราก็ไม่ทราบว่าแม่เราเกิดอาการอะไรขึ้นมา อยู่ๆเลยอยากสั่งของหวานของร้านนี้มาทานค่ะ ซึ่งเราจำได้แม่นเลยว่าเป็น '' ไอศครีมชาเขียวพาร์เฟ่ต์ '' #เขียนงี้รึเปล่าหว่า orz

ตอนแรกพนักงานเสิร์ฟหญิงท่านนึงก็มาบอกแล้วล่ะค่ะ ว่าไอศครีมชาเขียวถังนี้มันไม่แข็ง มันเหลวจนตักไม่ได้ เขาถามว่าจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นมั้ย ? อะไรแบบนี้ค่ะ แล้วคุณผจก. (ขี้เกียจพิมพ์เต็มๆแล้วค่ะบอกเลย) ก็เดินเข้ามาแก้สถานการณ์อีกครั้งค่ะ ซึ่งรอบนี้เราไม่เข้าใจว่าจะเข้ามาแก้ทำไม เพราะดูเหมือนจะทำให้แย่ลงมากๆ ...

คุณผจก.เสนอไอเดียสุดเทพขึ้นมาว่า '' งั้นก็เปิดไอศครีมถังใหม่เลย '' ค่ะ ซึ่งพนักงานเสิร์ฟหญิงก็ทำหน้าเซ็งๆหน่อยค่ะ ไอ้เราก็นั่งฟังเงียบๆเพราะอิ่มแล้ว ทำเหมือนไม่ใส่ใจรายละเอียดแต่ความจริงฟังแบบตั้งใจอะไรแบบนี้ค่ะ

แล้วจากนั้นพนักงานเสิร์ฟหญิงท่านนั้นกับคุณผจก.ก็วาร์ปหายเข้าไปในครัวค่ะ ซึ่งเขาก็คุยอะไรกันไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แล้วนานแบบนานมากเลยค่ะ นานแบบสักพักกว่าๆได้ เขาก็เอา '' ไอศครีมชาเขียวพาร์เฟ่ต์ '' มาเสิร์ฟค่ะ ....

ซึ่งมัน '' ห่วยแตก '' สิ้นดี ไอศครีมชาเขียวเหลวๆที่ละลายหมดแล้วปักด้วยวาฟเฟิลที่เป็นแบบแท่งๆกรอบๆที่ขายตามเซเว่นทั่วไปอ่ะค่ะ ทั้งโต๊ะที่มีสามคนนี่เงิบกันเป็นแถบเลยค่ะ ...

อาหารถ้วยนี้คืออะไร ? นี่คือไอศครีมชาเขียวใช่มั้ย ? แล้วไอ้แท่งๆปักๆนั่นมันยี่ห้ออะไร ? แล้วไหนเครื่องที่ใส่ในพาร์เฟ่ต์ ? ทำไมมีแค่ชาเขียวกับแท่งๆ ? ในรูปที่โฆษณากับอันนี้มันอันเดียวกันรึเปล่า ?

เพิ่งเข้าใจว่าที่เขาเขียนตัวเล็กๆเท่าจิ๊มิ๊มดว่า '' ภาพนี้ตกแต่งออกมาเพื่อโฆษณา '' มันหมายความว่าไงค่ะ ....

ตอนนั้นช็อคมากเลยไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ ช็อคมากจริงๆ ... อะไรที่ผ่านๆมายังพอทนได้ แต่นี่มันอะไร ? มันเหมือนพาร์เฟ่ต์ตรงไหนเนี่ยยยยยยยย แบบนี้มันก็ไอศครีมชาเขียวกินกับวาฟเฟิลแท่งดีๆนี่เองไม่ใช่เหรอ ? แล้วไหงถึงเรียกว่าพาร์เฟ่ต์(วะ)คะ ?

ไอ้เราก็มองสลับไปสลับมาระหว่างรูปในเมนูกับของจริงอยู่หลายรอบเลยค่ะ พยายามคิดว่าเป็นคนละเมนูกัน แต่ไม่ว่ายังไงก็คงเป็นอันเดียวกันแหละ เพราะตอนสั่งก็พูดชัดเจนกันดีอยู่แล้ว

ตอนนั้นก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นค่ะ แม่เราที่นั่งเงียบๆอยู่นานถึงกับของขึ้นเพราะพาร์เฟ่ต์ของเจ๊แกเละเป็นก้อนอะไรสักอย่างเลยค่ะ และคุณผจก.ก็เข้ามาเคลมอีกรอบ ...

แต่เคลมรอบนี้ไม่ช่วยอะไรค่ะ เพราะมันถือว่าเป็นอะไรที่ล้มเหลวมาก แม่ก็เลยบอกว่าไม่กิน ขอคืนไปค่ะ เพราะแบบนี้จะให้กินไปก็คงเสียดายตังค์เปล่าๆ ซึ่งคุณผจก.ก็ดูเหมือนจะเข้าใจค่ะ แต่เราก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าในใจเขาด่าโต๊ะเราไปกี่ร้อยล้านเกวียงแล้ว

แต่พอคุณผจก.ยกกลับไปเท่านั้นล่ะค่ะ ... เราก็ได้ยินเสียงพนังานเสิร์ฟคุยกันค่ะ ซึ่งยืนอยู่ตรงโต๊ะมุมในๆหน่อย ซึ่งฟังยังไงคิดว่าคงเป็นบ่นเรื่องโต๊ะเรานี่แหละค่ะ ได้ยินพนักงานเสิร์ฟท่านนึงตะโกนด้วย แต่จำไม่ได้จริงๆว่าพูดว่าอะไร ถ้านึกออกจะมาแก้ไขให้นะคะ <3

จากนั้นแม่เราก็เช็คบิลออกจากร้านเลยค่ะ พร้อมกับบอกว่าจะไม่เหยียบที่นี่อีก ซึ่งพนักงานร้านนี้คงเอาไปต่อว่ากันสนุกปากน่าดูค่ะ

ต่อจากนี้จะเข้าสู่สาระที่เรามาตั้งกระทู้แล้วนะคะ

หลายคนอาจจะสงสัยว่า '' อ้าว แล้วที่พิมพ์มาตั้งนานไม่ใช่เหรอ ''

มันก็ใช่นะคะ แต่อันนั้นเป็นโหมดแม่พระมาโปรดพยายามไม่โกรธค่ะ แต่รอบนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่อัดอั้นมาตลอดมื้อนั้นค่ะ

ก็ทราบนะคะ ว่าเวลามันก็ดึกพอสมควร ร้านก็เริ่มจะปิดครัวกันแล้ว แต่ต่อให้ร้านใกล้จะปิด ไฟจะไหม้ น้ำจะทะลัก แต่ถ้าลูกค้ายังอยู่ คุณก็ควรทำงานให้มีประสิทธิ์ภาพกว่านี้นะคะ ?

เราคิดไม่ถึงนะ ว่าร้านอาหารที่เป็นแบรนด์ใหญ่พอตัวแบบนี้ จะมีการบริการที่แย่มากขนาดนี้ ตั้งแต่พนักงานทำหน้าอมขี้ไปจนถึงการนินทาลูกค้า

ตอนนี้คุณเป็นพนักงานร้าน และถ้ายังมีลูกค้าอยู่ ก็หมายความว่ายังไม่ถึงเวลาปิดร้าน และเวลาปิดร้านของคุณมันก็ยังไม่ถึงด้วยในตอนนั้น เราก็ไม่ทราบนะคะว่าแค่บริการลูกค้าโต๊ะเดียวให้ลูกค้ามีความสุขและประทับใจกับร้านของคุณมันยากขนาดนั้นเลยเหรอคะ ? อยากกลับบ้านกันขนาดนั้นเชียว ? แค่ลูกค้ากลุ่มเล็กๆกลุ่มเดียวไม่ใช่ว่าเขาไม่มีความหมายนะคะ ทำงานแบบนี้เราบอกเลยว่าใช้ไม่ได้ อย่าทำเลยดีกว่า ถ้าจะกินเงินเดือนร้านอาหารกันแบบนี้

ส่วนคุณผจก.นี่ไม่จำเป็นต้องพยายามเข้ามาเคลมทุกเรื่องก็ได้นะคะ ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นค่ะ มีแต่จะแย่ลงก็เท่านั้น คุณเลือกทางแก้ไขได้แย่มากค่ะ

ส่วนเรื่องพาร์เฟ่ต์นี่คือเรื่องที่เจ็บใจมากที่สุดค่ะ พาร์เฟ่ต์บ้านลูกชายของคุณย่าคุณเป็นแบบนี้เหรอคะ ? ถ้าเกิดว่าไอศครีมมันเหลวแบบทั้งสองถังจริงๆก็ออกมาบอกเหมือนตอนถังแรกก็ได้ค่ะ ไม่ได้อยากทานขนาดนั้น ถ้าบอกว่าไมไ่ด้จริงๆก็ไม่ทานก็ได้ค่ะ แต่ทางฝ่ายคุณผจก.ของคุณเป็นคนบอกเองว่าจะให้ไปเปิดถังที่สองแทน แล้วก็หายเงียบไปเลย กลับมาพร้อมพาร์เฟ่ต์เน่าๆถ้วยนี้ ถ้ามันไม่แข็งทั้งสองถังก็ออกมาบอกเลยดีกว่าค่ะ

แต่อย่างน้อยก็ยังดีนะคะ ที่เขายังออกมาบอกว่าถังแรกตักไม่ได้ ไม่ใช่เสิร์ฟมาดื้อๆ ถึงสุดท้ายจะทำแบบนั้นก็เหอะ

แต่ที่สงสัยอีกอย่างก็คือแล้วเครื่องในพาร์เฟ่ต์ไปไหนหมด ? ทำไมมีแค่แท่งวาลเฟิล ? ไหนตอนแรกบอกว่าแค่ไอศครีมชาเขียวที่ไม่พร้อม แล้วอย่างอื่นไปไหนหมด ? ถ้าเกิดสมมติว่าไอศครีมชาเขียวเละเทะมา แต่ให้เครื่องครบมาและพยายามตกแต่งเท่าที่จะทำได้ ก็จะพยายามกลืนๆเข้าไปนะคะ

แต่แบบนี้เนี่ยเกินไปหน่อยรึเปล่าคะ ? แถมให้จ่ายเต็มราคาอีก มันคุ้มตรงไหนเนี่ย ? เดี๋ยวนี้ร้านอาหารเขาบริการลูกค้ากันแบบนี้เหรอคะ ?

แล้วไม่ทราบว่าที่ไปแอบคุยกันเนี่ย คิดว่าลูกค้าไม่ได้ยินเหรอคะ ? คิดว่าลูกค้าเป็นตัวตลกที่คุณจะว่ายังไงก็ได้เมื่อเขาทำให้คุณไม่พอใจเหรอคะ ? ตอนนี้คุณอยู่ระหว่างงาน คุณก็ควรจะตั้งใจทำหน้าที่ไปนะคะ ตอนนี้คุณเป็นพนักงาน และเราเป็นลูกค้า แต่ถ้าเกิดหมดเวลางานของคุณแล้ว คุณจะออกมาด่าเราเลยก็ได้ค่ะ เพราะถือว่าตอนนี้คุณไม่ใช่พนักงาน และเราก็ไม่ได้เป็นลูกค้าของคุณ

แต่ในตอนนี้คุณอยู่ในสถานะ '' พนักงงาน '' และถือว่าเป็นปัจจัยหลักๆที่จะสร้างความประทับใจในร้าน แต่พวกคุณกลับทำมันได้ล้มเหลวสิ้นดี

บอกได้แค่ว่าห่วยแตกและแย่มาก เป็นประสบการณ์ทานอาหารญี่ปุ่นที่ถือว่าเลวร้ายที่สุด แล้วราคาก็ไม่ใช่ถูกๆนะคะ ราคาก็แพง ร้านก็ดูดี


ทำไมถึงทำได้แค่นี้ล่ะคะ ?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่