ขาย RMF แบบผิดเงื่อนไข

เรื่องของเรื่อง มีเรื่องต้องใช้เงิน แต่ไม่อยากไปขอกู้เงินจากสถาบันการเงินต่างๆอีกแล้ว เพราะดอกเบี้ยมหาโหด จะจ่ายไม่ไหวและเป็นภาระที่หนักอึ้ง รวมถึงไม่อยากรบกวนที่บ้าน ปัญหาเราก่อ ก็ต้องเป็นคนแก้เอง เครียดอยู่หลายเดือนว่าจะเอาเงินมาจากไหน สุดท้ายนึกถึงฟางเส้นสุดท้ายคือ RMF ที่เคยซื้อไว้เกือบสิบปีที่ผ่านมา เลยเดินเข้าไปปรึกษาที่ธนาคารดู

ไม่อยากจะเชื่อว่าเงินที่เรากัดฟันให้หักบัญชีธนาคารเอาไว้ตั้งแต่ยังไม่มีความรู้เรื่องการลงทุนจะมากมายกว่าที่เราคิดไว้เยอะ คือ ถ้าเราขาย ณ ตอนนี้ จะหมดหนี้หมดสินเลยทีเดียว บัญชีนี้ แฟนบอกให้เปิดทิ้งไว้ก็เปิด ใช้วิธีหักจากบัญชีเงินเดือนเอา เวลาติดขัดเรื่องเงินแล้วเห็นเงินในบัญชีถูกตัดไปเพราะซื้อกองทุน รู้สึกเสียดายเงินทุกที

ทางบลจ. ให้ข้อมูลอย่างละเอียดตอนที่เราจะขายทิ้ง คือ แบ่งเป็นสองก้อน ก้อนที่เราซื้อก่อนประกาศ กับหลังประกาศ เป็นมูลค่าครึ่งๆจากยอดเงินทั้งหมดเหมือนกัน ตอนคุยกับเจ้าหน้าที่ตอนแรก คิดสะระตะแล้ว ขายทั้งหมดดีกว่า เราก็จะตัวเบาเลย แถมมีเงินเก็บอีกด้วย เลยสั่งขายไปทั้งหมด จากนั้นพนักงานแบงค์คอนเฟิร์มกับเจ้าหน้าที่ บลจ.อีกคน ก็เลยเรียกเราไปคุยว่าโอเคมั้ยกับเงือนไขนี้ เราฟังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก ที่จะโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลังห้าปี ต้องไปปรับฐานภาษีใหม่ ทุกปี เราจะได้เงินภาษีคืนอยู่แล้ว อย่างต่ำก็หมื่น เฉียดสองหมืน หรือปีที่แล้วได้มากหน่อย ห้าหมื่น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การลดหย่อนของเรามาจากทั้งประกันชีวิต แอลทีเอฟ ดอกเบี้ยบ้าน เงินที่ซื้ออาร์เอมเอฟจริงๆก็ไม่ได้เยอะมาก เพราะช่วงหลังเรามีปัญหาถังแตกบ่อย เงินในบัญชีก็เลยไม่พอให้หักตามยอดที่เรากำหนดไว้ต่อเดือน อย่างสองปีที่แล้วก็ซื้อเอาไว้ปีละประมาณสามหมื่น

จริงๆเงินก้อนนี้เป็นเงินที่เราไม่ได้ใส่ใจเลย เพราะคิดว่าขายได้ตอน 55ปีเท่านั้น พอสมุดบัญชีหายก็ไม่ได้สนใจจะไปอัพบุ๊คดูว่าตอนนี้ซื้อไปกี่หน่วยแล้ว จะสนใจก็แค่ตอนสิ้นปี ว่าจะเอาไปลดหย่อนเท่าไหร่ ตอนนี้เป็นมูลค่าเท่าไหร่เท่านั้น

สุดท้าย พอฟังเจ้าหน้าที่แล้ว เรากลัวเรื่องภาษีย้อนหลัง กับเรื่องเงินส่วนที่ขายได้หลังประกาศ จะต้องไปเป็นรายได้ เนื่องจากฐานภาษีเราค่อนข้างจะสูงมากอยู่แล้ว แต่ก็คิดไว้ว่า จะแบ่งบางส่วนมาซื้อแอลทีเอฟให้เต็มแมกซ์ ไว้ลดหย่อนเหมือนกัน กลัวว่ามันจะไม่คุ้มกันกับที่ขายทิ้งทั้งหมด เราเลยตัดสินใจขายไปแค่ครึ่งหนึ่ง ส่วนที่ก่อนประกาศก่อน

คำถามที่เราสงสัย เรื่องคุ้มไม่คุ้มก็คงจะไม่คุ้มอยู่แล้ว เราสงสัยว่า ภาษีส่วนที่เรียกเก็บย้อนหลังห้าปี มันจะมากมายขนาดไหน แล้วก็คิดจากส่วนที่เราซื้ออาร์เอมเอฟใช่หรือไม่ ตอนนี้ลังเลอยู่เหมือนกันว่าจะไปขายที่เหลือด้วยดีมั้ย เพราะอย่างที่บอกว่าเราอยากใช้หนี้ให้หมด ตอนนี้ได้มาส่วนหนึ่งก็ถือว่าประคับประคองและต่อลมหายใจได้อีกเยอะ

หนี้สินที่เกิดตรงนี้มาจากเราทำธุรกิจและสร้างบ้านไปด้วยในเวลาเดียวกัน เราพึ่งพาสินเชื่อบุคคลบ้าง บัตรเครดิตบ้างเวลาที่เงินช๊อต เพราะคิดว่ารายได้ขนาดเราน่าจะจ่ายได้อยู่แล้ว ในที่สุดก็รู้ว่ามันคือบทเรียนอันยิ่งใหญ่ ต่อไปจะใช้เงินอย่างมีสติ เก็บเงินให้ได้มากๆ และไม่หันไปพึ่งพาการกู้หนี้ยืมสินมาหมุนเงินอีก

อย่างไรเสีย เราก็จะซื้อกองทุนต่อไป ไม่เคยคิดเลย ว่ามันจะช่วยต่อชีวิตเราได้ขนาดนี้ ฝากคำถามด้านบนด้วยนะคะ เราไม่ค่อยเข้าใจหลายประเด็น ถ้าขาดอันไหนไป รบกวนชี้แนะด้วยค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ