วันที่ 4 วันสุดท้ายแล้วค่ะ
กระทู้วันแรก ได้ที่
http://pantip.com/topic/31752815
กระทู้วันที่สอง ได้ที่
http://pantip.com/topic/31761392
กระทู้วันที่สาม ได้ที่
http://pantip.com/topic/31765659
วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วสำหรับทริปกระบี่ จะว่าไป วัน เวลานี่ไวมากๆ ยังจำช่วงเวลาที่จองตั๋วเพื่อมาเที่ยวได้อยู่เลย ข้ามปีเลยนะ เผลอแป๊บๆ ตอนนี้เรามาถึงวันสุดท้ายของทริปแล้ว
จริงๆ ตามแผนการเที่ยวของเรา เราจะไปเที่ยวที่ อำเภออ่าวลึก เพื่อจะไปพอกโคลน แช่สปา เที่ยว ธารโบกขรณี และที่เที่ยวแถวๆนั้น แต่สิ่งที่ทำให้เราไม่สามารถทำตามแผนได้ คือ พระจันทร์!!!
ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ ด้วยความที่เป็นคนยุคที่ไม่รู้ว่า ข้างขึ้นวันไหน ข้างแรมวันไหน ทำให้พลาดได้อย่างง่ายๆ เนื่องจากเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการ ไปพอกโคลน ทำสปาที่ อ.อ่าวลึกคือ ขึ้น 3-5ค่ำ เนื่องจากน้ำจะลดในเวลาเช้าตรู่ เหมาะสำหรับการทำสปา อากาศจะเย็นสบาย ไม่ร้อนจนเกินไป แต่วันที่ 25 กพ ที่เราจะไปเที่ยว อ.อ่าวลึกนั้น เป็น วันแรม 11 ค่ำ ซึ่งกว่าน้ำจะลดและสามารถทำกิจกรรมสปา พอกโคลนได้คือประมาณ 11 โมง หมายถึง แทนที่จะอุ่นสบาย มันจะกลายเป็น ร้อนระอุ มั๊กมากกกกกกกก
จริงๆทราบเรื่องตั้งแต่ก่อนมาและโทรถามที่ ต.อ่าวลึกแล้วตามหน้าเวป คราวหน้าค่อยมา และจะดูพระจันทร์ก่อนจองตั๋ว เลือกเอาตามเวลาสะดวกของเราคงไม่ได้ พระจันทร์ไม่โอเค!!!
เราอด...เศร้านะ

Cr: จาก
http://traave.com
เราตั้งใจจะไปหาอาหารเช้าของชาวกระบี่ที่ตัวเมืองค่ะ จึง Check Out แต่เช้าและออกเดินทางกันทันที ถนน อ่าวนาง-กระบี่ นี่สวยจริงๆค่ะ เลยจอดแวะถ่ายรูปกันนิดหน่อย
วันนี้เราจะทานอาหารเช้ากันที่ “ร้านสายไหม”
ร้านสายไหม น่าจะเป็นร้านเก่าแกของกระบี่ เนื่องด้วนแม่ครัว เด็กเสิร์ฟ และเจ้าของ อายุอานามค่อนข้างเยอะ แต่คล่องแคล่ว ว่องไว อัธยาศัยน่ารักมาก
อาหารที่เราสั่ง คือ ติ่มซำ ที่ตั้งใจว่ามาทางใต้ต้องกิน แล้วกินคู่กับ ชา หรือกาแฟเน๊าะ
โจ๊ก จานโปรดของเรา
ส่วนเมนูที่ไม่ได้คาดคิด คือ หมี่ซั่วกระดูกหมูตุ๋น ซึ่ง อร่อยมากกกกกกกกก
ทานข้าวเช้าเสร็จเราก็เดินเล่นใสตลาดสด ซื้อมะม่วงเบา และสะตอ หอบกลับบ้าน ส่วนของฝากจำพวกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ และน้ำพริกกุ้งเสียบ เราแวะซื้อขาเข้าเมืองกระบี่ ร้านจี้ออ ได้เค้กส้มติดมือไปฝากแม่ที่บ้านด้วย
จากนั้นเราจะไปเที่ยว “เขาขนาบน้ำ” ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของเมืองกระบี่กัน นั่งเรือหางยาวท่าเรือเจ้าฟ้า เหมาลำละ 400 บาทค่ะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
คนขับเรือหางยาว พาเราไปเที่ยวที่เขาขนาบน้ำ ชมถ้ำเขาขนาบน้ำ ซึ่งมีภาพเขียน อายุ 5,000 ปี
และเป็นที่พักของทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการจำลองการใช้ชีวิตของทั้งมนุษย์ยุคหิน และทหารญี่ปุ่นไว้ให้ชมด้วยค่ะ
และมีทางลงอุโมงค์ลับ ด้วยนะคะ
ทะลุออกทางด้านข้างของถ้ำค่ะ
พี่คนขับเรือพาไปถ้ำอีกแห่งค่ะ เรียกว่า ถ้ำจระเข้ เห้นพี่เค้าบอกว่าเรียกว่าถ้จระเข้เพราะ สมันก่อนจระเข้จะมาวางไข่ที่นี่ เป็นช่องหิน ทะลุออกไปปากน้ำกระบี่ ลมเย็นมากกกกก ง่วงเลย
พี่ก็พาไปแพกลางน้ำ เราพึ่งอิ่มกันมาก็เลยนั่งดูปลา ชมวิว และดื่มน้ำอัดลมคนละกระป๋อง อากาศร้อนอยู่เหมือนกันนะคะ มีให้อาหารปลากันนิดหน่อยค่ะ
กลับถึงฝั่งเราก็ไปถ่ายรูปกับ อนุเสาวรีย์ปูดำ
ตอนที่ไปถ่าย รถทัวร์นักท่องเที่ยวมาจอดพอดี เราเลยถ่ายแค่รูปเดียว และสุดท้ายก็ได้ถ่ายกับปูตัวเล็กแทน เห็นเขาขนาบน้ำอยู่ด้านหลังลิบลิบ
พักดื่มกาแฟกัน มองหน้ากันไปมา ไปไหนกันดี...
เลยตั้งใจจะไปกินข้าวเที่ยงกันก่อน มีตัวเลือกอยู่ 3 ที่ เปายิงชุ๊บกันไปมาก 2 ทีแรกดันหาไม่เจอ ก็เลยลงตัวที่ที่สุดท้าย
“ร้านเรือนไม้” ซึ่งกลายเป็นว่า ร้านนี้เราประทับใจรองจากครัวธาราฯ เลยทีเดียว
จริงๆแล้วลักษณะอาหารไม่เหมือนกันเพราะ “เรือนไม้” จะเน้นอาหารใต้เสียส่วนใหญ่ ส่วนครัวธาราฯ น่าจะเป็นอาหารทะเล
คั่วกลิ้ง
ใบเหลียงผัดไข่
ไข่เจียวปู
ปลาอินทรีย์นึ่งซีอิ๊ว
และที่พวกเราปลื้มที่สุด แกงส้มยอดมะพร้าว

รสชาติแกงส้มที่นี่ สุดยอดจริงๆ ประทับใจมาก
มันกุ้งคั่ว จากที่นี่กลับไปด้วย ไม่เคยกินเลย ทางร้านทำเสร็จใหม่ๆ ใส่กระปุกไว้ ยังไม่ปิดฝาเลย เราก็ถามตามเรื่อง แม่ครัวใหญ่เลยมาอธิบาย แถมยังใจดี เดินไปเอาหั่นมะม่วงเบามาให้เราลองชิม ชิมแล้วคล้ายๆ “น้ำปู” ของคนเหนือ แต่จะมีปลายลิ้นจะมีกลิ่นและความหวานของมันกุ้งนิดหน่อย อร่อยอะ ซื้อมา 1 กระปุก (นึกว่าซื้อเยอะใช่มะ)
อิ่มอร่อยแล้ว
นั่งสักพัก ยังเหลือเวลาอีกเยอะ เราเลยตกลงใจไปเที่ยวที่ “วัดถ้ำเสือ” กันค่ะ
สาวเหนือ ลงจากดอยไปเที่ยวกระบี่ 4 วัน 3 คืน เปียกตั้งแต่วันแรกถึงวันสุดท้าย # 4 ปิดทริป
กระทู้วันแรก ได้ที่ http://pantip.com/topic/31752815
กระทู้วันที่สอง ได้ที่ http://pantip.com/topic/31761392
กระทู้วันที่สาม ได้ที่ http://pantip.com/topic/31765659
วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วสำหรับทริปกระบี่ จะว่าไป วัน เวลานี่ไวมากๆ ยังจำช่วงเวลาที่จองตั๋วเพื่อมาเที่ยวได้อยู่เลย ข้ามปีเลยนะ เผลอแป๊บๆ ตอนนี้เรามาถึงวันสุดท้ายของทริปแล้ว
จริงๆ ตามแผนการเที่ยวของเรา เราจะไปเที่ยวที่ อำเภออ่าวลึก เพื่อจะไปพอกโคลน แช่สปา เที่ยว ธารโบกขรณี และที่เที่ยวแถวๆนั้น แต่สิ่งที่ทำให้เราไม่สามารถทำตามแผนได้ คือ พระจันทร์!!!
ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ ด้วยความที่เป็นคนยุคที่ไม่รู้ว่า ข้างขึ้นวันไหน ข้างแรมวันไหน ทำให้พลาดได้อย่างง่ายๆ เนื่องจากเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการ ไปพอกโคลน ทำสปาที่ อ.อ่าวลึกคือ ขึ้น 3-5ค่ำ เนื่องจากน้ำจะลดในเวลาเช้าตรู่ เหมาะสำหรับการทำสปา อากาศจะเย็นสบาย ไม่ร้อนจนเกินไป แต่วันที่ 25 กพ ที่เราจะไปเที่ยว อ.อ่าวลึกนั้น เป็น วันแรม 11 ค่ำ ซึ่งกว่าน้ำจะลดและสามารถทำกิจกรรมสปา พอกโคลนได้คือประมาณ 11 โมง หมายถึง แทนที่จะอุ่นสบาย มันจะกลายเป็น ร้อนระอุ มั๊กมากกกกกกกก
จริงๆทราบเรื่องตั้งแต่ก่อนมาและโทรถามที่ ต.อ่าวลึกแล้วตามหน้าเวป คราวหน้าค่อยมา และจะดูพระจันทร์ก่อนจองตั๋ว เลือกเอาตามเวลาสะดวกของเราคงไม่ได้ พระจันทร์ไม่โอเค!!!
เราอด...เศร้านะ
Cr: จาก http://traave.com
เราตั้งใจจะไปหาอาหารเช้าของชาวกระบี่ที่ตัวเมืองค่ะ จึง Check Out แต่เช้าและออกเดินทางกันทันที ถนน อ่าวนาง-กระบี่ นี่สวยจริงๆค่ะ เลยจอดแวะถ่ายรูปกันนิดหน่อย
วันนี้เราจะทานอาหารเช้ากันที่ “ร้านสายไหม”
ร้านสายไหม น่าจะเป็นร้านเก่าแกของกระบี่ เนื่องด้วนแม่ครัว เด็กเสิร์ฟ และเจ้าของ อายุอานามค่อนข้างเยอะ แต่คล่องแคล่ว ว่องไว อัธยาศัยน่ารักมาก
อาหารที่เราสั่ง คือ ติ่มซำ ที่ตั้งใจว่ามาทางใต้ต้องกิน แล้วกินคู่กับ ชา หรือกาแฟเน๊าะ
โจ๊ก จานโปรดของเรา
ส่วนเมนูที่ไม่ได้คาดคิด คือ หมี่ซั่วกระดูกหมูตุ๋น ซึ่ง อร่อยมากกกกกกกกก
ทานข้าวเช้าเสร็จเราก็เดินเล่นใสตลาดสด ซื้อมะม่วงเบา และสะตอ หอบกลับบ้าน ส่วนของฝากจำพวกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ และน้ำพริกกุ้งเสียบ เราแวะซื้อขาเข้าเมืองกระบี่ ร้านจี้ออ ได้เค้กส้มติดมือไปฝากแม่ที่บ้านด้วย
จากนั้นเราจะไปเที่ยว “เขาขนาบน้ำ” ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของเมืองกระบี่กัน นั่งเรือหางยาวท่าเรือเจ้าฟ้า เหมาลำละ 400 บาทค่ะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
คนขับเรือหางยาว พาเราไปเที่ยวที่เขาขนาบน้ำ ชมถ้ำเขาขนาบน้ำ ซึ่งมีภาพเขียน อายุ 5,000 ปี
และเป็นที่พักของทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการจำลองการใช้ชีวิตของทั้งมนุษย์ยุคหิน และทหารญี่ปุ่นไว้ให้ชมด้วยค่ะ
และมีทางลงอุโมงค์ลับ ด้วยนะคะ
ทะลุออกทางด้านข้างของถ้ำค่ะ
พี่คนขับเรือพาไปถ้ำอีกแห่งค่ะ เรียกว่า ถ้ำจระเข้ เห้นพี่เค้าบอกว่าเรียกว่าถ้จระเข้เพราะ สมันก่อนจระเข้จะมาวางไข่ที่นี่ เป็นช่องหิน ทะลุออกไปปากน้ำกระบี่ ลมเย็นมากกกกก ง่วงเลย
พี่ก็พาไปแพกลางน้ำ เราพึ่งอิ่มกันมาก็เลยนั่งดูปลา ชมวิว และดื่มน้ำอัดลมคนละกระป๋อง อากาศร้อนอยู่เหมือนกันนะคะ มีให้อาหารปลากันนิดหน่อยค่ะ
กลับถึงฝั่งเราก็ไปถ่ายรูปกับ อนุเสาวรีย์ปูดำ
ตอนที่ไปถ่าย รถทัวร์นักท่องเที่ยวมาจอดพอดี เราเลยถ่ายแค่รูปเดียว และสุดท้ายก็ได้ถ่ายกับปูตัวเล็กแทน เห็นเขาขนาบน้ำอยู่ด้านหลังลิบลิบ
พักดื่มกาแฟกัน มองหน้ากันไปมา ไปไหนกันดี...
เลยตั้งใจจะไปกินข้าวเที่ยงกันก่อน มีตัวเลือกอยู่ 3 ที่ เปายิงชุ๊บกันไปมาก 2 ทีแรกดันหาไม่เจอ ก็เลยลงตัวที่ที่สุดท้าย
“ร้านเรือนไม้” ซึ่งกลายเป็นว่า ร้านนี้เราประทับใจรองจากครัวธาราฯ เลยทีเดียว
จริงๆแล้วลักษณะอาหารไม่เหมือนกันเพราะ “เรือนไม้” จะเน้นอาหารใต้เสียส่วนใหญ่ ส่วนครัวธาราฯ น่าจะเป็นอาหารทะเล
คั่วกลิ้ง
ใบเหลียงผัดไข่
ไข่เจียวปู
ปลาอินทรีย์นึ่งซีอิ๊ว
และที่พวกเราปลื้มที่สุด แกงส้มยอดมะพร้าว
รสชาติแกงส้มที่นี่ สุดยอดจริงๆ ประทับใจมาก
มันกุ้งคั่ว จากที่นี่กลับไปด้วย ไม่เคยกินเลย ทางร้านทำเสร็จใหม่ๆ ใส่กระปุกไว้ ยังไม่ปิดฝาเลย เราก็ถามตามเรื่อง แม่ครัวใหญ่เลยมาอธิบาย แถมยังใจดี เดินไปเอาหั่นมะม่วงเบามาให้เราลองชิม ชิมแล้วคล้ายๆ “น้ำปู” ของคนเหนือ แต่จะมีปลายลิ้นจะมีกลิ่นและความหวานของมันกุ้งนิดหน่อย อร่อยอะ ซื้อมา 1 กระปุก (นึกว่าซื้อเยอะใช่มะ)
อิ่มอร่อยแล้ว
นั่งสักพัก ยังเหลือเวลาอีกเยอะ เราเลยตกลงใจไปเที่ยวที่ “วัดถ้ำเสือ” กันค่ะ