รบกวนข้อคำปรึกษาเรื่องการเรียนต่อมหาวิทยาลัยค่ะ กระทู้นี้หนูตั้งแยกออกมาจากอันเก่าเพราะว่าอันเก่า ไม่มีคนตอบ สงสัยจะยาวไปหน่อยนะค่ะ แหะๆ
คือ ปีนี้หนูอยู่ชั้น ม.6 ค่ะกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย คณะที่อยากเข้าคืออักษรศาสตร์ จุฬา ซึ่งปีนี้คะแนนยื่นช้ากว่าปกติ เลยต้องรอคะแนน แต่หลังจากสอบและดูคะแนนที่ประกาศออกมาบ้างแล้ว คิดว่าน่าจะได้อย่างที่หวังค่ะ ซึ่งพอดีอยู่ดีๆเกิดความคิดนี้ขึ้นมา คือว่า ปีหนูมันปิดเทอมยาวถึงราวๆกันยายนเลยค่ะ
ความคิดที่ว่า ไปเรียนต่างประเทศ ซึ่งต้องใช้ความกล้ามากทีเดียวเลยค่ะ 55 คือ ถ้าหนูเข้าไปในอักษรศาสตร์จุฬา แล้วจะ drop out ไปเรียนต่างประเทศ คือจะยื่นปีหน้าค่ะ ซึ่ง 1 ปีที่หนูหยุดหนูจะทำ gap year อาจจะเป็น community service กับ เรียนเพื่อที่จะเตรียมไปต่างประเทศนะค่ะ ซึ่งก็คิดว่าถ้าไปต่อ อยากต่อด้าน liberal college ที่นู่น คือไม่ใช่หนูไม่ได้คิดเรื่องการต่อต่างประเทศแต่คิดมาตลอดเลยว่า จะเข้าอักษร จุฬา แล้ว จะต่อต่างประเทศ ป.โท เพราะอยู่เมืองไทยจบมาจะได้มีเพื่อน อีกได้ช่วยพ่อกับแม่ทำกิจการขณะเรียนเมืองไทยด้วยค่ะ ก็เคยคิดจะไปต่อ ป.ตรีต่างประเทศ ตอน ม.5 คือช่วงนั้นเพื่อนและหนูเริ่มที่จะคิดเรื่องต่อมหาวิทยาลัยก็เลยคุยกัน ก็รู้จักมหาลัยต่างประเทศ แล้วหนูก็อยู่โครงการพิเศษด้านภาษาอังกฤษที่ รร ก็มีรุ่นพี่ที่อยู่ Brown university มาแนะนำมหาลัย ก็สนใจอีกเหมือนกันค่ะ รู้สึกสนใจหลายอย่าง แต่รู้ว่าต้องสอบ SAT ซึ่งหนูเนี่ยเข้าขั้นโง่เลขสุดๆ เรียนได้ดีด้านภาษาค่ะ ตอนนั้นก็เลยไม่สู้ทั้งๆที่ยังไม่ได้ลองเรียน SAT MATH เลยด้วยซ้ำ ประกอบกับตอน ม.5 เรียนหนักกิจกรรมเยอะ เลยลืมเรื่องนี้ไปเลย แต่อันนี้ก็คุยๆกับทั้งพ่อแม่ เพื่อน ก็คิดว่าทางนี้ ค่อนข้างยากอยู่เหมือนกัน คือ เสียเวลา ไปต่อ ปโท เอาก็ได้ แล้วบางมหาวิทยาลัยบางที่ไม่รับเด็กซิ่วด้วย ซึ่งถ้าต่อปโท หนูจะเรียนฉีกไปเรียน MBA เนี่ยและค่ะ ทั้งๆที่โง่เลข และถึงแม้จะไปยากเพราะต้องใช้ประสบการณ์ในการยื่นด้วย แต่ก็อยากลองค่ะ (ส่วนตัวค่อนข้างเป็นคนชอบคิดเผื่ออนาคต รู้สึกว่าตัวเองคิดไปไกลมากด้วยค่ะ แต่อยากลองคิดไว้เฉยๆ อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอนเปลี่ยนได้เสมอ) ถ้าไปเรียนต่างประเทศ ก็ได้ภาษาด้วย เพราะมันได้ฝึกใช้ทุกวัน ต้องรับผิดชอบตัวเอง แต่ก็คิดว่าถ้าเรียนอยู่ไทย ช่วงซัมเมอร์ก็คงจะไปแลกเปลี่ยน หรือ ไม่ก็ work and travel ค่ะ
แต่สิ่งอื่นใดสำหรับหนูการเรียนไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต ความสำเร็จของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อีกทั้งต้องมีองค์ประกอบหลายๆอย่างทั้ง ประสบการณ์ ความขยัน ความอดทน และอื่นๆ หนูอยากลองฟังความคิดเห็นหลายๆแบบดูนะคะ เพราะหนูอาจจะมองตื้นเกินไป ต้องขอรบกวนทุกท่านแนะนำหนูด้วยนะค่ะ ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
เรียนอักษร จุฬา ป.ตรี หรือ drop out 1 ปีไปเรียน liberal art college ต่างประเทศ ?
คือ ปีนี้หนูอยู่ชั้น ม.6 ค่ะกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย คณะที่อยากเข้าคืออักษรศาสตร์ จุฬา ซึ่งปีนี้คะแนนยื่นช้ากว่าปกติ เลยต้องรอคะแนน แต่หลังจากสอบและดูคะแนนที่ประกาศออกมาบ้างแล้ว คิดว่าน่าจะได้อย่างที่หวังค่ะ ซึ่งพอดีอยู่ดีๆเกิดความคิดนี้ขึ้นมา คือว่า ปีหนูมันปิดเทอมยาวถึงราวๆกันยายนเลยค่ะ
ความคิดที่ว่า ไปเรียนต่างประเทศ ซึ่งต้องใช้ความกล้ามากทีเดียวเลยค่ะ 55 คือ ถ้าหนูเข้าไปในอักษรศาสตร์จุฬา แล้วจะ drop out ไปเรียนต่างประเทศ คือจะยื่นปีหน้าค่ะ ซึ่ง 1 ปีที่หนูหยุดหนูจะทำ gap year อาจจะเป็น community service กับ เรียนเพื่อที่จะเตรียมไปต่างประเทศนะค่ะ ซึ่งก็คิดว่าถ้าไปต่อ อยากต่อด้าน liberal college ที่นู่น คือไม่ใช่หนูไม่ได้คิดเรื่องการต่อต่างประเทศแต่คิดมาตลอดเลยว่า จะเข้าอักษร จุฬา แล้ว จะต่อต่างประเทศ ป.โท เพราะอยู่เมืองไทยจบมาจะได้มีเพื่อน อีกได้ช่วยพ่อกับแม่ทำกิจการขณะเรียนเมืองไทยด้วยค่ะ ก็เคยคิดจะไปต่อ ป.ตรีต่างประเทศ ตอน ม.5 คือช่วงนั้นเพื่อนและหนูเริ่มที่จะคิดเรื่องต่อมหาวิทยาลัยก็เลยคุยกัน ก็รู้จักมหาลัยต่างประเทศ แล้วหนูก็อยู่โครงการพิเศษด้านภาษาอังกฤษที่ รร ก็มีรุ่นพี่ที่อยู่ Brown university มาแนะนำมหาลัย ก็สนใจอีกเหมือนกันค่ะ รู้สึกสนใจหลายอย่าง แต่รู้ว่าต้องสอบ SAT ซึ่งหนูเนี่ยเข้าขั้นโง่เลขสุดๆ เรียนได้ดีด้านภาษาค่ะ ตอนนั้นก็เลยไม่สู้ทั้งๆที่ยังไม่ได้ลองเรียน SAT MATH เลยด้วยซ้ำ ประกอบกับตอน ม.5 เรียนหนักกิจกรรมเยอะ เลยลืมเรื่องนี้ไปเลย แต่อันนี้ก็คุยๆกับทั้งพ่อแม่ เพื่อน ก็คิดว่าทางนี้ ค่อนข้างยากอยู่เหมือนกัน คือ เสียเวลา ไปต่อ ปโท เอาก็ได้ แล้วบางมหาวิทยาลัยบางที่ไม่รับเด็กซิ่วด้วย ซึ่งถ้าต่อปโท หนูจะเรียนฉีกไปเรียน MBA เนี่ยและค่ะ ทั้งๆที่โง่เลข และถึงแม้จะไปยากเพราะต้องใช้ประสบการณ์ในการยื่นด้วย แต่ก็อยากลองค่ะ (ส่วนตัวค่อนข้างเป็นคนชอบคิดเผื่ออนาคต รู้สึกว่าตัวเองคิดไปไกลมากด้วยค่ะ แต่อยากลองคิดไว้เฉยๆ อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอนเปลี่ยนได้เสมอ) ถ้าไปเรียนต่างประเทศ ก็ได้ภาษาด้วย เพราะมันได้ฝึกใช้ทุกวัน ต้องรับผิดชอบตัวเอง แต่ก็คิดว่าถ้าเรียนอยู่ไทย ช่วงซัมเมอร์ก็คงจะไปแลกเปลี่ยน หรือ ไม่ก็ work and travel ค่ะ
แต่สิ่งอื่นใดสำหรับหนูการเรียนไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต ความสำเร็จของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อีกทั้งต้องมีองค์ประกอบหลายๆอย่างทั้ง ประสบการณ์ ความขยัน ความอดทน และอื่นๆ หนูอยากลองฟังความคิดเห็นหลายๆแบบดูนะคะ เพราะหนูอาจจะมองตื้นเกินไป ต้องขอรบกวนทุกท่านแนะนำหนูด้วยนะค่ะ ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ