ช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาผมลุยงานเต็มที่โดยที่ไม่มีอิดออด ... งานเก่าก็ยังคงติดขัดไม่สำเร็จลุล่วงงานใหม่ก็คั่งค้างกองเป็นภูเขาเลากา ... แต่ยิ่งพยายามดึงดันลุยงานมากขึ้นเท่าไหร่ก็ดูเหมือนว่าความสามารถในการสะสางงานก็จะยิ่งด้อยลงๆๆๆๆๆๆๆๆเท่านั้น ... อยู่ดีดีผมก็นึกถึงนิทานเรื่องหนึ่งขึ้นมา ... ที่มีการเล่ามาหลายครั้งในหลายรูปแบบแต่ใจความใกล้เคียง ... นั่นคือนิทานเรื่องนี้
นิทานเรื่อง "คนตัดต้นไม้"
มีชายหนุ่มคนหนึ่งมีอาชีพตัดต้นไม้ เขาเป็นคนขยันขันแข็งไม่มีใครเทียบ วันหนึ่งเขาไปสมัครทำงานตัดต้นไม้ในเมือง เจ้านายรับเขาเข้าทำงานและบอกว่าถ้าตัดต้นไม้มากก็จะได้เงินเดือนมาก ตัดต้นไม้ได้น้อยก็ได้เงินเดือนน้อย ชายตัดไม้ดีใจ
วันแรกที่เขาตัดไม้ เขาตัดต้นไม้ได้ถึง 10 ต้น ... วันต่อ ๆ มาเพิ่มขึ้นเป็น 12 ต้น ... 15 ต้น ... จนกระทั่ง 20 ต้น ...
เจ้านายชื่นชม เพื่อนฝูงทึ่งเขา แต่คงไม่เท่ากับความภาคภูมิใจของตัวเอง เขาบอกตัวเองว่า เขาจะต้องทำงานให้ดีที่สุด ต้องแข่งกับตัวเอง โดยต้องตัดต้นไม้ได้มากขึ้นทุกวัน ... ชายตัดไม้ตื่นเช้ามากขึ้นทำงานจนดึกทุกวันเพื่อเพิ่มผลผลิต แต่เขาพบว่า เขาไม่เคยตัดไม้ได้เกิน 20 ต้น อีกเลยไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน เพียงไร
ชายตัดไม้ทดท้อมาก เขาเข้าไปหาเจ้านายและบอกว่า เขาไม่อยากทำงานตัดไม้อีกแล้ว ทำไมล่ะ ... เจ้านายถาม ผมไม่มีความสามารถ ดูสิ ... ผมทุ่มเทเวลา กำลังกาย กำลังใจทั้งหมดให้กับการตัดไม้ แต่ผมกลับตัดไม้ได้น้อยลงกว่าเดิม ผมไม่ควรตัดไม้อีกต่อไป เจ้านายยิ้ม ... ตบไหล่เขาเบา ๆ เธอไม่ได้ทำงานได้น้อยลงนะ แต่เธอลืมไปอย่างหนึ่งในการตัดไม้
ไปลับขวาน เสียบ้าง ... มันทื่อแล้ว!!!
(นิทานเรื่อง
"คนตัดต้นไม้" ฉบับนี้ คัดลอกมาจากลิงค์นี้ครับ ...
http://www.gotoknow.org/posts/174710 ขอบคุณเจ้าของบล็อก คุณหยั่งราก ฝากใบ มา ณ ที่นี้)
เจ้านายยิ้ม ... ตบไหล่คนตัดฟืนเบา ๆ ...
“ไปลับขวาน เสียบ้าง ... มันทื่อแล้ว!!!”
เจ้านายยิ้ม ... ตบไหล่คนตัดฟืนเบา ๆ ...
“ไปลับขวาน เสียบ้าง ... มันทื่อแล้ว!!!”
เจ้านายยิ้ม ... ตบไหล่คนตัดฟืนเบา ๆ ...
“ไปลับขวาน เสียบ้าง ... มันทื่อแล้ว!!!”
คนตัดไม้คนนี้คงไม่ต่างจากผมเท่าใดนัก พยายามทำงานเต็มที่เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด แต่ยิ่งทำก็เหมือนยิ่งย่ำอยู่กับที่ ... เหมือนลืมเลือนสิ่งสำคัญอะไรไปบางอย่าง ...
นิทานเรื่องนี้กำลังยิ้มและตบไหล่ผมเบา ๆ และบอกผมว่า ไปลับ “ขวาน” เสียบ้าง เพราะ มันทื่อแล้ว!!!
ผมละเลยลืมเลือนไม่ได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มพูนกลยุทธ์ใหม่ๆมานานเกินไปแล้ว ... หลายเดือนแล้วที่ผมอ่านหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คไม่จบสักเล่ม หลายเดือนแล้วที่ซื้อหนังสือมากองๆๆไว้ยังไม่ได้เปิดมันออกมาดู ... เจอเข้ากับงานใหม่ๆ ความท้าทายใหม่ ปัญหาใหม่ๆที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน แต่ผมกลับมีแค่เพียงความรู้เดิมๆ อาศัยแต่สิ่งเก่าๆ มันจะสู้ไหวได้อย่างไร มันคงถึงเวลาที่ต้องลับสมองเสียบ้าง เพราะ สมองของผมมันคงทื่อมากแล้ว!!!
มาอ่านหนังสือกันครับ
…[^_^]…
ก็ขวานมันทื่อ!!!!!
นิทานเรื่อง "คนตัดต้นไม้"
มีชายหนุ่มคนหนึ่งมีอาชีพตัดต้นไม้ เขาเป็นคนขยันขันแข็งไม่มีใครเทียบ วันหนึ่งเขาไปสมัครทำงานตัดต้นไม้ในเมือง เจ้านายรับเขาเข้าทำงานและบอกว่าถ้าตัดต้นไม้มากก็จะได้เงินเดือนมาก ตัดต้นไม้ได้น้อยก็ได้เงินเดือนน้อย ชายตัดไม้ดีใจ
วันแรกที่เขาตัดไม้ เขาตัดต้นไม้ได้ถึง 10 ต้น ... วันต่อ ๆ มาเพิ่มขึ้นเป็น 12 ต้น ... 15 ต้น ... จนกระทั่ง 20 ต้น ...
เจ้านายชื่นชม เพื่อนฝูงทึ่งเขา แต่คงไม่เท่ากับความภาคภูมิใจของตัวเอง เขาบอกตัวเองว่า เขาจะต้องทำงานให้ดีที่สุด ต้องแข่งกับตัวเอง โดยต้องตัดต้นไม้ได้มากขึ้นทุกวัน ... ชายตัดไม้ตื่นเช้ามากขึ้นทำงานจนดึกทุกวันเพื่อเพิ่มผลผลิต แต่เขาพบว่า เขาไม่เคยตัดไม้ได้เกิน 20 ต้น อีกเลยไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน เพียงไร
ชายตัดไม้ทดท้อมาก เขาเข้าไปหาเจ้านายและบอกว่า เขาไม่อยากทำงานตัดไม้อีกแล้ว ทำไมล่ะ ... เจ้านายถาม ผมไม่มีความสามารถ ดูสิ ... ผมทุ่มเทเวลา กำลังกาย กำลังใจทั้งหมดให้กับการตัดไม้ แต่ผมกลับตัดไม้ได้น้อยลงกว่าเดิม ผมไม่ควรตัดไม้อีกต่อไป เจ้านายยิ้ม ... ตบไหล่เขาเบา ๆ เธอไม่ได้ทำงานได้น้อยลงนะ แต่เธอลืมไปอย่างหนึ่งในการตัดไม้
ไปลับขวาน เสียบ้าง ... มันทื่อแล้ว!!!
(นิทานเรื่อง "คนตัดต้นไม้" ฉบับนี้ คัดลอกมาจากลิงค์นี้ครับ ... http://www.gotoknow.org/posts/174710 ขอบคุณเจ้าของบล็อก คุณหยั่งราก ฝากใบ มา ณ ที่นี้)
เจ้านายยิ้ม ... ตบไหล่คนตัดฟืนเบา ๆ ... “ไปลับขวาน เสียบ้าง ... มันทื่อแล้ว!!!”
เจ้านายยิ้ม ... ตบไหล่คนตัดฟืนเบา ๆ ... “ไปลับขวาน เสียบ้าง ... มันทื่อแล้ว!!!”
เจ้านายยิ้ม ... ตบไหล่คนตัดฟืนเบา ๆ ... “ไปลับขวาน เสียบ้าง ... มันทื่อแล้ว!!!”
คนตัดไม้คนนี้คงไม่ต่างจากผมเท่าใดนัก พยายามทำงานเต็มที่เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด แต่ยิ่งทำก็เหมือนยิ่งย่ำอยู่กับที่ ... เหมือนลืมเลือนสิ่งสำคัญอะไรไปบางอย่าง ... นิทานเรื่องนี้กำลังยิ้มและตบไหล่ผมเบา ๆ และบอกผมว่า ไปลับ “ขวาน” เสียบ้าง เพราะ มันทื่อแล้ว!!!
ผมละเลยลืมเลือนไม่ได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มพูนกลยุทธ์ใหม่ๆมานานเกินไปแล้ว ... หลายเดือนแล้วที่ผมอ่านหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คไม่จบสักเล่ม หลายเดือนแล้วที่ซื้อหนังสือมากองๆๆไว้ยังไม่ได้เปิดมันออกมาดู ... เจอเข้ากับงานใหม่ๆ ความท้าทายใหม่ ปัญหาใหม่ๆที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน แต่ผมกลับมีแค่เพียงความรู้เดิมๆ อาศัยแต่สิ่งเก่าๆ มันจะสู้ไหวได้อย่างไร มันคงถึงเวลาที่ต้องลับสมองเสียบ้าง เพราะ สมองของผมมันคงทื่อมากแล้ว!!!
มาอ่านหนังสือกันครับ
…[^_^]…