รถไฟความเร็วสูงในเมืองฉางซาได้เพิ่มผลิตภาพของธุรกิจ ทำให้เกิดเมืองใหม่ตามสายทาง และดึงนักลงทุนเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ เผยรัฐบาลปักกิ่งทุ่มพัฒนารถไฟปีละ 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
นิวยอร์กไทมส์ฉบับวันจันทร์ ได้เสนอรายงานเรื่อง 'Speedy Trains Transform China' ชี้ว่า รถไฟความเร็วสูงของจีนในเวลานี้ มีผู้โดยสารเต็มทุกเที่ยว แต่ละเดือนมีผู้ใช้มากกว่าเครื่องบินภายในประเทศถึง 2 เท่า ในต้นเดือนหน้า จำนวนผู้ใช้จะแซงหน้าปริมาณผู้โดยสารเที่ยวบินภายในของสหรัฐ 54 ล้านคนต่อเดือน
รถไฟความเร็วสูงจากกวางโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง ทางตะวันออกของจีน ไปยังฉางซา เมืองเอกของมณฑลหูหนาน ในภาคกลางตอนล่าง ใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมง 19 นาที จากแต่ก่อนต้องนั่งรถไฟเป็นวันๆ
การพัฒนาการขนส่งระบบรางของจีนได้ช่วยเพิ่มผลิตภาพแก่ธุรกิจ รายงานของธนาคารโลกในปีนี้พบว่า เมืองต่างๆกว่า 100 แห่งที่เชื่อมโยงกับรถไฟความเร็วสูง มีการผลิตเพิ่มขึ้น
ลูกค้า พนักงาน และคู่แข่งธุรกิจ รวมนับล้านคน สามารถเดินทางไปมาระหว่างเมืองต่างๆโดยทางรถไฟในเวลาแค่ 2-3 ชั่วโมง บริษัทต่างๆที่เปิดกิจการด้านการวิจัยและการพัฒนาในมหานครอย่างปักกิ่งหรือแหล่งความเจริญอย่างเสิ่นเจิ้น สามารถส่งพนักงานหนุ่มสาวการศึกษาดีไปติดต่อธุรกิจกับโรงงานในเขตค่าแรงต่ำ ที่ดินราคาถูก อย่างเทียนจินและฉางซาได้ และพบปะลูกค้าตามเมืองต่างๆเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าสูงขึ้น
หลี่ชิงฟู ผู้จัดการฝ่ายขายของ Changsa Don Lea Ramie Textile Technology Company บริษัทส่งออกเสื้อผ้าสตรี บอกว่า แต่ก่อนตนเดินทางจากฉางซาไปกวางโจวปีละ 2 ครั้ง เพราะต้องเดินทางขาไป 1 วันและขากลับอีก 1 วัน เดี๋ยวนี้ ตนนั่งรถไฟหัวกระสุนเกือบทุกเดือน แต่ละเที่ยวใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมงเศษ "การได้พบลูกค้าบ่อยๆทำให้ผมตามแฟชั่นทัน ผมได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 50%" นายหลี่บอก
จีนได้โยกย้ายครอบครัวตามสายทางรถไฟไปตั้งชุมชนใหม่รายรอบสถานีรถไฟความเร็วสูง ซึ่งมักอยู่ในแถบชานเมือง ในบริเวณสถานีรถไฟความเร็วสูงของเมืองฉางซา ซึ่งเปิดใช้เมื่อปลายปี 2552 นั้น มีตึกอพาร์ตเมนต์อาคารสำนักงาน และโรงแรม เปิดขึ้นหลายแห่งอย่างคึกคัก
นายกรัฐมนตรี หลี่เค่อเฉียง ได้อนุมัติให้ขยายโครงข่ายรถไฟความเร็วสูง ระยะทาง 9,495 กิโลเมตร โดยรัฐบาลจะลงทุนปีละ 100,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1.123 ล้านล้านบาทตลอดระยะเวลาหลายปีข้างหน้า โดยเน้นรถไฟความเร็วสูง
อย่างไรก็ดี รายงานของธนาคารโลกบอกว่า รัฐบาลจีนมีภาระต้องบริหารการเงินของโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งยังมีหนี้คงค้างที่จะต้องจัดการในระยะยาว และต้องดูแลธุรกิจการบินในประเทศที่จะต้องแข่งขันกับรถไฟความเร็วสูง
รถไฟความเร็วสูงไม่เพียงนำพานักธุรกิจจากดินแดนตอนในออกสู่ตลาดขนาดใหญ่เท่านั้น แต่พวกผู้บริหารชาวต่างชาติยังสามารถเข้าถึงแรงงานราคาถูกกว่าในพื้นที่ตามแนวชายฝั่งด้วย
"แต่ก่อน เราต้องลงใต้ไปพบลูกค้าชาวยุโรปที่กวางโจว ทุกวันนี้ พวกฝรั่งขึ้นมาที่ฉางซากันบ่อยขึ้น" หวางหยิน ผู้จัดการฝ่ายขายของ Changsa Qilu Import and Export Company กล่าว พร้อมกับบ่นถึงข้อเสียของรถไฟความเร็วสูง "ทุกวันนี้ คนแน่นมาก".

Cr.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://news.voicetv.co.th/global/82924.html
รบกวนไม่เอาการเมืองมาเกี่ยวข้องนะครับ Please
เพื่อนๆเห็นว่าไงกันบ้างครับ รถไฟความเร็วสูงถึงยังไงจะเป็นหมันไปแล้ว มาถกกันหน่อยว่าจะดีกับประเทศเราได้คุ้มที่เสียไปหรือไม่
เพียง 4 ปี 'รถไฟความเร็วสูง' พลิกโฉมเมืองฉางซาในจีน
นิวยอร์กไทมส์ฉบับวันจันทร์ ได้เสนอรายงานเรื่อง 'Speedy Trains Transform China' ชี้ว่า รถไฟความเร็วสูงของจีนในเวลานี้ มีผู้โดยสารเต็มทุกเที่ยว แต่ละเดือนมีผู้ใช้มากกว่าเครื่องบินภายในประเทศถึง 2 เท่า ในต้นเดือนหน้า จำนวนผู้ใช้จะแซงหน้าปริมาณผู้โดยสารเที่ยวบินภายในของสหรัฐ 54 ล้านคนต่อเดือน
รถไฟความเร็วสูงจากกวางโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง ทางตะวันออกของจีน ไปยังฉางซา เมืองเอกของมณฑลหูหนาน ในภาคกลางตอนล่าง ใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมง 19 นาที จากแต่ก่อนต้องนั่งรถไฟเป็นวันๆ
การพัฒนาการขนส่งระบบรางของจีนได้ช่วยเพิ่มผลิตภาพแก่ธุรกิจ รายงานของธนาคารโลกในปีนี้พบว่า เมืองต่างๆกว่า 100 แห่งที่เชื่อมโยงกับรถไฟความเร็วสูง มีการผลิตเพิ่มขึ้น
ลูกค้า พนักงาน และคู่แข่งธุรกิจ รวมนับล้านคน สามารถเดินทางไปมาระหว่างเมืองต่างๆโดยทางรถไฟในเวลาแค่ 2-3 ชั่วโมง บริษัทต่างๆที่เปิดกิจการด้านการวิจัยและการพัฒนาในมหานครอย่างปักกิ่งหรือแหล่งความเจริญอย่างเสิ่นเจิ้น สามารถส่งพนักงานหนุ่มสาวการศึกษาดีไปติดต่อธุรกิจกับโรงงานในเขตค่าแรงต่ำ ที่ดินราคาถูก อย่างเทียนจินและฉางซาได้ และพบปะลูกค้าตามเมืองต่างๆเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าสูงขึ้น
หลี่ชิงฟู ผู้จัดการฝ่ายขายของ Changsa Don Lea Ramie Textile Technology Company บริษัทส่งออกเสื้อผ้าสตรี บอกว่า แต่ก่อนตนเดินทางจากฉางซาไปกวางโจวปีละ 2 ครั้ง เพราะต้องเดินทางขาไป 1 วันและขากลับอีก 1 วัน เดี๋ยวนี้ ตนนั่งรถไฟหัวกระสุนเกือบทุกเดือน แต่ละเที่ยวใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมงเศษ "การได้พบลูกค้าบ่อยๆทำให้ผมตามแฟชั่นทัน ผมได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 50%" นายหลี่บอก
จีนได้โยกย้ายครอบครัวตามสายทางรถไฟไปตั้งชุมชนใหม่รายรอบสถานีรถไฟความเร็วสูง ซึ่งมักอยู่ในแถบชานเมือง ในบริเวณสถานีรถไฟความเร็วสูงของเมืองฉางซา ซึ่งเปิดใช้เมื่อปลายปี 2552 นั้น มีตึกอพาร์ตเมนต์อาคารสำนักงาน และโรงแรม เปิดขึ้นหลายแห่งอย่างคึกคัก
นายกรัฐมนตรี หลี่เค่อเฉียง ได้อนุมัติให้ขยายโครงข่ายรถไฟความเร็วสูง ระยะทาง 9,495 กิโลเมตร โดยรัฐบาลจะลงทุนปีละ 100,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1.123 ล้านล้านบาทตลอดระยะเวลาหลายปีข้างหน้า โดยเน้นรถไฟความเร็วสูง
อย่างไรก็ดี รายงานของธนาคารโลกบอกว่า รัฐบาลจีนมีภาระต้องบริหารการเงินของโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งยังมีหนี้คงค้างที่จะต้องจัดการในระยะยาว และต้องดูแลธุรกิจการบินในประเทศที่จะต้องแข่งขันกับรถไฟความเร็วสูง
รถไฟความเร็วสูงไม่เพียงนำพานักธุรกิจจากดินแดนตอนในออกสู่ตลาดขนาดใหญ่เท่านั้น แต่พวกผู้บริหารชาวต่างชาติยังสามารถเข้าถึงแรงงานราคาถูกกว่าในพื้นที่ตามแนวชายฝั่งด้วย
"แต่ก่อน เราต้องลงใต้ไปพบลูกค้าชาวยุโรปที่กวางโจว ทุกวันนี้ พวกฝรั่งขึ้นมาที่ฉางซากันบ่อยขึ้น" หวางหยิน ผู้จัดการฝ่ายขายของ Changsa Qilu Import and Export Company กล่าว พร้อมกับบ่นถึงข้อเสียของรถไฟความเร็วสูง "ทุกวันนี้ คนแน่นมาก".
Cr. [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รบกวนไม่เอาการเมืองมาเกี่ยวข้องนะครับ Please
เพื่อนๆเห็นว่าไงกันบ้างครับ รถไฟความเร็วสูงถึงยังไงจะเป็นหมันไปแล้ว มาถกกันหน่อยว่าจะดีกับประเทศเราได้คุ้มที่เสียไปหรือไม่