บ้านไหนเคยมีปัญหาเรื่องคุณพ่อบ้านพยายามจะเลิกสูบบุหรี่และยังเลิกไม่ได้เด็ดขาดบ้างไหมค่ะและคุณแม่บ้านให้กำลังใจกันยังไงบ้างค่ะ
ปกติได้แต่เข้ามาอ่านในห้องชานเรือนเป็นประจำค่ะไม่เคยตั้งกระทู้กับเค้าสักที แต่ครั้งนี้จนปัญญาจริงๆรู้สึกเหนื่อยและท้อมากมายค่ะ
เนื่องจากแต่งงานกันมาปีนี้เป็นปีที่ 7 แล้ว กับความพยายามมากบ้างน้อยบ้างของคุณพ่อบ้านในการที่จะเลิกสูบบุหรี่ (ก่อนแต่งงานได้คุยกันเรื่องเลิกสูบบุหรี่แล้วเนื่องจากเราแพ้ควันบุหรี่)
ปีที่ 1 และปีที่ 2 ยังคงไม่เลิกสูบบุหรี่ อันนี้ตอนนั้นเราคิดว่าไม่เป็นไรเค้าคงยังไม่พร้อมที่จะเลิกบุหรี่และสุขภาพเค้าก็แข็งแรงดีถ้าเค้าพร้อมคง
จะเลิกได้ เองอย่างที่บอกกับเราก่อนแต่งงาน
ปีที่ 3 ครั้งที่ 1 เริ่มคุยกันเรื่องเลิกสูบบุหรี่ แบบค่อยๆลดปริมาณเอาเลิกสูบบุหรี่ได้ประมาณ 3 อาทิตย์ เริ่มมีกลิ่นบุหรี่ติดตัวกลับมา หลังจากนั้น
ก็กลับมาสูบอีก ตอนนั้นเราคิดว่าอย่างน้อยก็ดีที่เค้าคิดที่จะเลิกบุหรี่แล้ว ครั้งหน้ามาพยายามใหม่ ให้กำลังใจว่าเค้าต้องทำได้
ครั้งนี้ทำให้รู้ว่าการค่อยๆลดปริมาณบุหรี่นี่ไม่ได้ผลแต่ก็ไม่ได้กดดันเค้าแต่อย่างใด เอาใหม่ๆ ไม่เป็นไร...ผ่านไป
ปีที่ 4 ครั้งที่ 2 ต้นปีชวนคุณพ่อบ้านเลิกสูบบุหรี่ และเค้าก็เอาด้วย เริ่มเลิกสูบบุหรี่ใหม่ คราวนี้แบบหักดิบอันนี้ได้นานหน่อย 1 เดือน เค้าบอกได้
กลิ่นบุหรี่แล้วเหม็นทำให้มึนหัวแต่ก็ยังคงไปกับกลุ่มเพื่อนที่ทำงานตอนเค้าลงไปสูบบุหรี่กันแต่แค่ไปยืนคุยกับเค้า (ที่รู้เพราะ
เคยอยู่ที่ทำงานเดียวกันกับเค้ามาก่อนค่ะ เพื่อนเค้าก็คือเพื่อนเราเหมือนกัน) และหลังจากนั้นก็เริ่มมีกลิ่นบุหรี่ออกมากับลม
หายใจอีก...กลับมาสูบอีกครั้ง เฮ้ออ...
ครั้งที่ 3 ปลายปีชวนให้เลิกสูบบุหรี่อีกครั้งแบบหักดิบอีก คราวนี้ได้ไม่นานไม่ถึงเดือน กลับมาสูบอีกแล้วประจวบเหมาะกับเป็นช่วงที่
บริษัทงานยุ่ง มากเครียดมาก(แต่อันนี้เราว่าไม่ใช่ประเด็นเนื่องจากงานของเราเองก็ยุ่งมากและกดดันมากเช่นกัน) แต่เค้าบอก
กับเราว่าเดี๋ยวปีใหม่หน้าที่จะถึงจะเลิกบุหรี่เด็ดขาดแล้ว เราก็โอเค...ดีใจ...รออีกหน่อยก็ได้....พร้อมให้กำลังใจว่าเค้าต้องทำได้
เหมือนเดิม
ปีที่ 5 ครั้งที่ 4 ต้นปีคุยกันเรื่องเลิกบุหรี่เค้าก็เริ่มอยากเลิกอีกครั้ง เราก็พยายามให้กำลังใจ เค้าบอกว่าพอเลิกสูบก็อยากกินของหวานๆ เราก็
พยายามหามาให้ไม่ขาดทั้งขนม,ลูกอม,หมากฝรั่ง ให้มีติดรถติดกระเป๋าไปทำงาน แบบว่าปากได้ไม่ว่างจะได้ไม่ต้องคิดถึงการ
สูบบุหรี่ ทำได้นานหน่อยเดือนเศษๆ ก็เหมือนเดิมกลับมาสูบอีก...เราก็เริ่มแล้วเริ่มเหนื่อยแล้ว แต่ก็ยังไม่ละความพยายาม อด
ทนต่อไป รอโอกาสครั้งหน้าเอาใหม่ค่อยชวนใหม่
ครั้งที่ 5 ห่างจากครั้งที่ 4 ไม่นาน....อุ๊ยมีข่าวดีเราตั้งครรภ์ กำลังจะมีลูกคนแรก คุยกันไปคุยกันมาเค้าก็จะเลิกสูบบุหรี่อีกครั้ง เราก็ดีใจ
อย่างน้อยครั้งนี้เค้าก็คงทำเพื่อลูก อันนี้ก็เลิกสูบแบบหักดิบได้เกือบๆ 2 เดือนเหมือนเดิมกลับมาสูบอีกครั้งและคราวนี้เวลาสูบ
เค้าจะอยู่ไกลๆเรา คราวนี้...เราก็ความอดทนเริ่มลดลงแต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรเพราะไม่อยากจะมีปากเสียงกัน
ปีที่ 6 ครั้งที่ 6 ปลายปี เริ่มเลิกบุหรี่แบบหักดิบอีกครั้ง อาจเพราะถ้ามีกลิ่นบุหรี่มาเราจะให้เค้าไปล้างมือทำความสะอาดก่อนจะมาอุ้มลูกเนื่อง
จากลูกยังอ่อนมาก ไม่อยากให้ลูกเป็นภูมิแพ้เหมือนเราเค้าก็พยายามเลิกบุหรี่อยู่ได้ไม่เกินเดือนครึ่ง เริ่มมีกลิ่นบุหรี่กลับมา เราก็
เริ่มเบื่อแล้ว เหนื่อยแล้ว..แต่ยังคงอดทนต่อไปเนื่องจากตอนนั้นลูกยังเล็กมากเลยทุ่มเทกับการดูแลลูกมากกว่า และเค้าก็ช่วย
ดูแลลูกดี แค่ตอนที่เพิ่งสูบบุหรี่มาเรายังไม่ให้เค้าใกล้ลูกเลยทันทีเพราะขนาดเราเองยังได้กลิ่นบุหรี่จากลมหายใจเค้ายังรู้สึก
แน่นหน้าอกเลยถ้าลูกที่เล็กขนาดนี้จะรับไปเต็มๆขนาดไหนและแล้วการเลิกบุหรี่ครั้งนี้ก็ผ่านไปแต่ยังคงเชื่อว่าถ้าเค้าคิดจะเลิก
บุหรี่จริงจังเค้าต้องทำได้ค่ะ อดทนต่อไป
ปีที่ 7 ครั้งที่ 7 กลางปี...เค้าอยากจะเลิกบุหรี่เองโดยที่มาคุยกับเราเรื่องเค้าจะเลิกบุหรี่ด้วยการออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยานก็คุยกันว่าถ้า
ปั่นจนเหนื่อยมากๆเค้าก็ไม่อยากคิดจะสูบบุหรี่เพราะถึงอยากก็สูบไม่ไหวแค่จะหายใจยังหายใจไม่ทันเลยเราเลยอืม...ดีๆ ได้
สุขภาพที่ดีด้วยและเค้าก็บอกจะซื้อจักรยานราคาเรือนหมื่น...เราก็..อืม โอเคนะจะยังไงก็ได้ขอให้เลิกได้จริงๆเถอะ(เรื่องเงินไม่
ใช่ปัญหาเนื่องจากครอบครัวเรากระเป๋าแยกกันค่ะเพราะทำงานกันทั้งคู่) เราสนับสนุนให้ซื้อเลยรวมอุปกรณ์พร้อม...จัดไป ครั้ง
นี้มีบทเรียนว่าเลิกยากแน่ๆ หาข้อมูลมาเพิ่มเติมมากมายจะซื้อบุหรี่ไฟฟ้ามาให้แต่เค้าไม่เอา ยาเลิกบุหรี่ก็ไม่เอา NICOMIDE ก็
ไม่เอาและคราวนี้ก็ทำท่าจะดี..ได้นานหน่อย ไปปั่นจักรยานกลับมาก็ไม่มีกลิ่นบุหรี่ กลิ่นตัวสะอาดวางใจได้มากว่าจะไม่กลับมา
สูบอีกเหมือนครั้งก่อนๆ...แต่ด้วยความที่อยู่กันมานานคุณแม่บ้านเป็นกันบ้างมั้ยค่ะว่าถ้ามีอะไรผิดปกติเราจะรู้ทันที เวลาก็ผ่าน
ไป 1 เดือน เค้าปั่นจักรยานกลับมาเดินผ่านเราก็เอะใจ..อุ๊ย...กลิ่นบุหรี่มาจากไหนอีก ตอนนั้นนึกว่าเราคิดไปเอง ยังๆไม่ถาม
อะไร แต่มันติดอยู่ในใจ วันนึงเค้าไปขี่จักรยาน เราก็เห็นอากาศดีเลยพาลูกไปเดินเล่นในหมู่บ้านเห็นเค้าสูบบุหรี่อยู่ไกลๆ แต่
เค้ายังไม่เห็นเรา เราก็อึ้ง...เอาอีกแล้ว..เดินเล่นพักนึงก็กลับเข้าบ้านพอเค้ากลับมาเราก็ถามว่ากลับ
มาสูบอีกแล้วเหรอแต่ตามคาดเค้าบอกว่าเปล่า ไม่มีนี่ อืม...ไม่ยอมรับ...แต่กลิ่นก็ติดตัวกลับมาเลย ลมหายใจก็มีกลิ่นบุหรี่ แถม
ครั้งนี้เห็นมากะตา และจากครั้งนี้ทำให้รู้ว่าถ้าขี่จักรยานแล้วสูบบุหรี่นี่ จะไม่มีกลิ่นติดเสื้อผ้ากลับมานะค่ะอาจเพราะลมมันพัด
ออกตลอด แต่เดี๋ยวก่อนครั้งนี้ ครั้งนี้ที่ต่างไปคือสิ่งที่ได้กลับมาเพิ่มเติมคือการโกหก ซึ่งไม่เคยคาดคิดถึงเรื่องนี้เลย...เนื่องจาก
เราอยู่กับเค้ามาเราพูดตรงๆตลอดอีกอย่างเราเป็นคนที่ใจเย็นพอที่จะรับฟังได้...และทุกครั้งที่เค้ากลับมาสูบบุหรี่อีกก็ไม่เคยวีน
ไม่เคยเหวี่ยงใส่เลย และนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ติดอยู่ในใจหลังจากนั้น เวลาที่เค้าไปขี่จักรยานกลับมาก็มีกลิ่นบุหรี่ติดมาบ้างบางครั้ง
ถึงจะไม่บ่อยแต่ก็มีกลิ่นกลับมาถามเมื่อไหร่ก็ไม่ยอมรับ และจะรู้ได้ทันทีที่วันไหนมีกลิ่นบุหรี่ติดตัวกลับมาทันทีที่ถึงบ้านเค้าจะรีบ
เข้าห้องน้ำเพื่อล้างทำความสะอาดกลิ่นที่ติดตัวมาเราก็ได้แต่คอยดูยังไม่พูดอะไรมากนักเพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นหาเรื่องเค้า
เปล่าๆแต่ก็สงสัยทำไมเค้าไม่รู้ว่ากลิ่นมันออกมากะลมหายใจขนาดพูดกลิ่นยังออกมาเลยถึงกลิ่นจะเบาขนาดไหนสำหรับคนไม่
สูบก็รู้อยู่ดีหรือว่าคนที่สูบบุหรี่จะไม่รับรู้ถึงกลิ่นนี้กันนะ..เฮ้อ คราวนี้ผ่านไป พร้อมกับความอดทนที่เหลือน้อยลงทุกทีๆ
ปีที่ 8 ครั้งที่ 8 ต้นปี...คราวนี้งานเข้า..เนื่องจากการตรวจสุขภาพประจำปีผลเลือดบางตัวสูงนิดหน่อยแต่ก็ไม่น่าจะวางใจ ระหว่างตรวจร่าง
กายโดยละเอียดคุณหมอย้ำหลายครั้งให้เลิกบุหรี่เด็ดขาดและนัดมาตรวจเลือดใหม่ ระหว่างรอตรวจกังวลกับผลตรวจมากค่ะ
เป็นห่วงทั้งตัวเค้าและลูกและตอนนั้นตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะไม่ยอมให้เค้าเป็นอะไรไปยังไงต้องเลิกบุหรี่ให้ได้ เราหวังไว้ว่า
อยากจะให้เค้ากับเราอยู่กันไปจนแก่เฒ่าไปด้วยกัน ช่วงแรกกลับบ้านมาเหมือนจะเลิกบุหรี่ได้เด็ดขาดเพราะมีเรื่องจูงใจ
จากสุขภาพตัวเอง ผ่านไป 1 เดือน แอ๊ะ ทำไมมีกลิ่นบุหรี่ คราวนี้เราก็ไม่ไหวแล้วถามตรงๆเลยเนื่องจากเราเป็นห่วงเค้ามาก
แต่เหมือนเดิมหาว่าเราหาเรื่อง คิดมากไปเอง เราก็เลยไม่ต่อความต่อ
ผ่านมาไม่กี่วัน แจ๊คพ๊อต เราหาของในรถเผอิญเจอซองบุหรี่ใหม่ๆ เพิ่งแกะซองหายไปแค่มวนเดียว พร้อมไฟแช็คอันใหม่ คราว
นี้ความอดทนจะหมดแล้วไม่ไหวแล้วเข้าไปถามคุยให้รู้เรื่องเสียใจมากมายอาจเพราะความที่เราเป็นห่วงเค้าเรื่องสุขภาพมากซึ่ง
เค้าก็เหมือนจะเข้าใจและขอโทษเรา บอกเราว่ามันเป็นซองเก่าตอนนี้ไม่ได้สูบแล้ว แต่ถึงจะบอกแบบนั้นในใจเราก็เชื่อไม่ลง
เพราะก่อนหน้านั้นก็ได้กลิ่นบุหรี่จากตัวเค้า...หลังจากที่คุยกันเค้าก็พยายามเลิกบุหรี่อีกครั้ง...แต่หลังจากเรื่องคราวนั้นเรากลับ
มามองตัวเองเรารู้เลยว่าความเชื่อใจเรื่องเลิกสูบบุหรี่ของเค้าเหลือน้อยมาก..กังวลทุกครั้งที่เค้าออกไปปั่นจักรยานว่าจะไปแอบ
สูบบุหรี่อีกรึเปล่า..อยู่แบบไม่มีความสุขเลย..ความอดทน
ที่เคยมีถ้าเต็มร้อยตอนนี้เหลือแค่สิบ..เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เราก็ได้กลิ่นบุหรี่จากเค้าอีก..กะว่ารอโอกาสจะถามเผอิญไปชนรถ
จักรยานของเค้าเกือบล้มเลยจัดให้เข้าที่เข้าทางและไปเตรียมชุดนอนให้ลูกระหว่างเตรียมก็ แอ๊ะ..ทำไมมือเรามีกลิ่นบุหรี่มาจาก
ไหนหาไปหามาไปได้กลิ่นที่แฮนด์มือจับจักรยานตอนแรกคิดว่าคิดไปเองแต่แฮนด์อีกข้างก็ไม่มีกลิ่นนี้(คือต้องทดสอบอ่ะค่ะเพื่อ
ความแน่ใจไม่ได้จิต..นะค่ะ ดูสิบทจะรู้ก็มีเหตุให้ต้องรู้ช่างบังเอิญเหมือนในละครเลย)แล้วถึงบางอ้อ...ชัดเลยหลักฐานชัดเจน ทำ
ให้รู้เลยว่าถ้าคนสูบบุหรี่ถึงกลิ่นไม่ติดตัวแต่จะมีกลิ่นติดมือมาแน่นอนและถ้าเค้าไปจับอะไรกลิ่นก็จะติดกับของนั้นๆค่ะ มันจะเป็น
กลิ่นบุหรี่ไหม้ๆ เป็นกลิ่นเฉพาะจริงๆไม่มีกลิ่นไหนเหมือน ทำให้เข้าใจเลยว่ากลับมาทำไมถึงต้องรีบเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา พอ
แน่ใจดังนั้น จึงเข้าไปถามเค้าว่าเค้าไปสูบบุหรี่มาใช่มั้ย..แต่ก็ปฏิเสธว่าไม่ได้สูบเหมือนเดิม...แถมตอบกลับอย่างมีอารมณ์เล็ก
น้อย... เราเลยเฉยไป...คิดคำพูดไม่ออกและไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้วค่ะ
ตอนนี้ก็รู้สึกไม่ไหวแล้วเหนื่อยแล้วค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงดี แต่เรื่องอื่นๆของคุณพ่อบ้านไม่ได้มีอะไรบกพร่องนะค่ะ ต่างคนต่างก็ดูแลกันและกัน
ดีค่ะ เรื่องงานอดิเรกของคุณพ่อบ้านเราไม่มีการห้ามอะไร แต่จะปล่อยเรื่องนี้ไม่ต้องสนใจก็ไม่ได้ค่ะหมอก็จะนัดอีก 3 อาทิตย์ข้างหน้านี้แล้ว อย่างที่บอกไปข้างต้น ตัวเราเองก็อยากจะแก่เฒ่าไปกับเค้าด้วยกันด้วยสุขภาพที่ดี T_T
ขอถามผู้รู้และขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความคิดเห็นทั้งบวกและลบค่ะ
1. กลิ่นที่เรารู้สึกมาตลอดเมื่อเวลาเค้าสูบบุหรี่เราไม่ได้จิตตกหรือคิดไปเองใช่มั้ยค่ะ ทั้งกลิ่นจากลมหายใจ กลิ่นที่ติดมือมา
2. มีบ้านไหนเคยเจอสถานการณ์แบบนี้แล้วแก้ปัญหากันยังไงบ้างค่ะ
3. มีวิธีไหนที่ให้กำลังใจและเป็นแรงจูงใจในการเลิกบุหรี่อย่างเด็ดขาดได้บ้างมั้ยค่ะ
4. ถ้าเลิกบุหรี่ยากขนาดนี้ต้องพึ่งพาคุณหมอหรือยามั้ยค่ะ
5. สำหรับคนที่ปั่นจักรยานมาเป็นหลายๆกิโล จะสูบบุหรี่ไหวมั้ยค่ะ
คุณพ่อบ้านกับบุหรี่ ปัญหาเล็ก(รึเปล่า)ที่ไม่เล็ก ขอระบาย T_T (ยาวหน่อยนะค่ะ)และขอคำแนะนำค่ะ
ปกติได้แต่เข้ามาอ่านในห้องชานเรือนเป็นประจำค่ะไม่เคยตั้งกระทู้กับเค้าสักที แต่ครั้งนี้จนปัญญาจริงๆรู้สึกเหนื่อยและท้อมากมายค่ะ
เนื่องจากแต่งงานกันมาปีนี้เป็นปีที่ 7 แล้ว กับความพยายามมากบ้างน้อยบ้างของคุณพ่อบ้านในการที่จะเลิกสูบบุหรี่ (ก่อนแต่งงานได้คุยกันเรื่องเลิกสูบบุหรี่แล้วเนื่องจากเราแพ้ควันบุหรี่)
ปีที่ 1 และปีที่ 2 ยังคงไม่เลิกสูบบุหรี่ อันนี้ตอนนั้นเราคิดว่าไม่เป็นไรเค้าคงยังไม่พร้อมที่จะเลิกบุหรี่และสุขภาพเค้าก็แข็งแรงดีถ้าเค้าพร้อมคง
จะเลิกได้ เองอย่างที่บอกกับเราก่อนแต่งงาน
ปีที่ 3 ครั้งที่ 1 เริ่มคุยกันเรื่องเลิกสูบบุหรี่ แบบค่อยๆลดปริมาณเอาเลิกสูบบุหรี่ได้ประมาณ 3 อาทิตย์ เริ่มมีกลิ่นบุหรี่ติดตัวกลับมา หลังจากนั้น
ก็กลับมาสูบอีก ตอนนั้นเราคิดว่าอย่างน้อยก็ดีที่เค้าคิดที่จะเลิกบุหรี่แล้ว ครั้งหน้ามาพยายามใหม่ ให้กำลังใจว่าเค้าต้องทำได้
ครั้งนี้ทำให้รู้ว่าการค่อยๆลดปริมาณบุหรี่นี่ไม่ได้ผลแต่ก็ไม่ได้กดดันเค้าแต่อย่างใด เอาใหม่ๆ ไม่เป็นไร...ผ่านไป
ปีที่ 4 ครั้งที่ 2 ต้นปีชวนคุณพ่อบ้านเลิกสูบบุหรี่ และเค้าก็เอาด้วย เริ่มเลิกสูบบุหรี่ใหม่ คราวนี้แบบหักดิบอันนี้ได้นานหน่อย 1 เดือน เค้าบอกได้
กลิ่นบุหรี่แล้วเหม็นทำให้มึนหัวแต่ก็ยังคงไปกับกลุ่มเพื่อนที่ทำงานตอนเค้าลงไปสูบบุหรี่กันแต่แค่ไปยืนคุยกับเค้า (ที่รู้เพราะ
เคยอยู่ที่ทำงานเดียวกันกับเค้ามาก่อนค่ะ เพื่อนเค้าก็คือเพื่อนเราเหมือนกัน) และหลังจากนั้นก็เริ่มมีกลิ่นบุหรี่ออกมากับลม
หายใจอีก...กลับมาสูบอีกครั้ง เฮ้ออ...
ครั้งที่ 3 ปลายปีชวนให้เลิกสูบบุหรี่อีกครั้งแบบหักดิบอีก คราวนี้ได้ไม่นานไม่ถึงเดือน กลับมาสูบอีกแล้วประจวบเหมาะกับเป็นช่วงที่
บริษัทงานยุ่ง มากเครียดมาก(แต่อันนี้เราว่าไม่ใช่ประเด็นเนื่องจากงานของเราเองก็ยุ่งมากและกดดันมากเช่นกัน) แต่เค้าบอก
กับเราว่าเดี๋ยวปีใหม่หน้าที่จะถึงจะเลิกบุหรี่เด็ดขาดแล้ว เราก็โอเค...ดีใจ...รออีกหน่อยก็ได้....พร้อมให้กำลังใจว่าเค้าต้องทำได้
เหมือนเดิม
ปีที่ 5 ครั้งที่ 4 ต้นปีคุยกันเรื่องเลิกบุหรี่เค้าก็เริ่มอยากเลิกอีกครั้ง เราก็พยายามให้กำลังใจ เค้าบอกว่าพอเลิกสูบก็อยากกินของหวานๆ เราก็
พยายามหามาให้ไม่ขาดทั้งขนม,ลูกอม,หมากฝรั่ง ให้มีติดรถติดกระเป๋าไปทำงาน แบบว่าปากได้ไม่ว่างจะได้ไม่ต้องคิดถึงการ
สูบบุหรี่ ทำได้นานหน่อยเดือนเศษๆ ก็เหมือนเดิมกลับมาสูบอีก...เราก็เริ่มแล้วเริ่มเหนื่อยแล้ว แต่ก็ยังไม่ละความพยายาม อด
ทนต่อไป รอโอกาสครั้งหน้าเอาใหม่ค่อยชวนใหม่
ครั้งที่ 5 ห่างจากครั้งที่ 4 ไม่นาน....อุ๊ยมีข่าวดีเราตั้งครรภ์ กำลังจะมีลูกคนแรก คุยกันไปคุยกันมาเค้าก็จะเลิกสูบบุหรี่อีกครั้ง เราก็ดีใจ
อย่างน้อยครั้งนี้เค้าก็คงทำเพื่อลูก อันนี้ก็เลิกสูบแบบหักดิบได้เกือบๆ 2 เดือนเหมือนเดิมกลับมาสูบอีกครั้งและคราวนี้เวลาสูบ
เค้าจะอยู่ไกลๆเรา คราวนี้...เราก็ความอดทนเริ่มลดลงแต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรเพราะไม่อยากจะมีปากเสียงกัน
ปีที่ 6 ครั้งที่ 6 ปลายปี เริ่มเลิกบุหรี่แบบหักดิบอีกครั้ง อาจเพราะถ้ามีกลิ่นบุหรี่มาเราจะให้เค้าไปล้างมือทำความสะอาดก่อนจะมาอุ้มลูกเนื่อง
จากลูกยังอ่อนมาก ไม่อยากให้ลูกเป็นภูมิแพ้เหมือนเราเค้าก็พยายามเลิกบุหรี่อยู่ได้ไม่เกินเดือนครึ่ง เริ่มมีกลิ่นบุหรี่กลับมา เราก็
เริ่มเบื่อแล้ว เหนื่อยแล้ว..แต่ยังคงอดทนต่อไปเนื่องจากตอนนั้นลูกยังเล็กมากเลยทุ่มเทกับการดูแลลูกมากกว่า และเค้าก็ช่วย
ดูแลลูกดี แค่ตอนที่เพิ่งสูบบุหรี่มาเรายังไม่ให้เค้าใกล้ลูกเลยทันทีเพราะขนาดเราเองยังได้กลิ่นบุหรี่จากลมหายใจเค้ายังรู้สึก
แน่นหน้าอกเลยถ้าลูกที่เล็กขนาดนี้จะรับไปเต็มๆขนาดไหนและแล้วการเลิกบุหรี่ครั้งนี้ก็ผ่านไปแต่ยังคงเชื่อว่าถ้าเค้าคิดจะเลิก
บุหรี่จริงจังเค้าต้องทำได้ค่ะ อดทนต่อไป
ปีที่ 7 ครั้งที่ 7 กลางปี...เค้าอยากจะเลิกบุหรี่เองโดยที่มาคุยกับเราเรื่องเค้าจะเลิกบุหรี่ด้วยการออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยานก็คุยกันว่าถ้า
ปั่นจนเหนื่อยมากๆเค้าก็ไม่อยากคิดจะสูบบุหรี่เพราะถึงอยากก็สูบไม่ไหวแค่จะหายใจยังหายใจไม่ทันเลยเราเลยอืม...ดีๆ ได้
สุขภาพที่ดีด้วยและเค้าก็บอกจะซื้อจักรยานราคาเรือนหมื่น...เราก็..อืม โอเคนะจะยังไงก็ได้ขอให้เลิกได้จริงๆเถอะ(เรื่องเงินไม่
ใช่ปัญหาเนื่องจากครอบครัวเรากระเป๋าแยกกันค่ะเพราะทำงานกันทั้งคู่) เราสนับสนุนให้ซื้อเลยรวมอุปกรณ์พร้อม...จัดไป ครั้ง
นี้มีบทเรียนว่าเลิกยากแน่ๆ หาข้อมูลมาเพิ่มเติมมากมายจะซื้อบุหรี่ไฟฟ้ามาให้แต่เค้าไม่เอา ยาเลิกบุหรี่ก็ไม่เอา NICOMIDE ก็
ไม่เอาและคราวนี้ก็ทำท่าจะดี..ได้นานหน่อย ไปปั่นจักรยานกลับมาก็ไม่มีกลิ่นบุหรี่ กลิ่นตัวสะอาดวางใจได้มากว่าจะไม่กลับมา
สูบอีกเหมือนครั้งก่อนๆ...แต่ด้วยความที่อยู่กันมานานคุณแม่บ้านเป็นกันบ้างมั้ยค่ะว่าถ้ามีอะไรผิดปกติเราจะรู้ทันที เวลาก็ผ่าน
ไป 1 เดือน เค้าปั่นจักรยานกลับมาเดินผ่านเราก็เอะใจ..อุ๊ย...กลิ่นบุหรี่มาจากไหนอีก ตอนนั้นนึกว่าเราคิดไปเอง ยังๆไม่ถาม
อะไร แต่มันติดอยู่ในใจ วันนึงเค้าไปขี่จักรยาน เราก็เห็นอากาศดีเลยพาลูกไปเดินเล่นในหมู่บ้านเห็นเค้าสูบบุหรี่อยู่ไกลๆ แต่
เค้ายังไม่เห็นเรา เราก็อึ้ง...เอาอีกแล้ว..เดินเล่นพักนึงก็กลับเข้าบ้านพอเค้ากลับมาเราก็ถามว่ากลับ
มาสูบอีกแล้วเหรอแต่ตามคาดเค้าบอกว่าเปล่า ไม่มีนี่ อืม...ไม่ยอมรับ...แต่กลิ่นก็ติดตัวกลับมาเลย ลมหายใจก็มีกลิ่นบุหรี่ แถม
ครั้งนี้เห็นมากะตา และจากครั้งนี้ทำให้รู้ว่าถ้าขี่จักรยานแล้วสูบบุหรี่นี่ จะไม่มีกลิ่นติดเสื้อผ้ากลับมานะค่ะอาจเพราะลมมันพัด
ออกตลอด แต่เดี๋ยวก่อนครั้งนี้ ครั้งนี้ที่ต่างไปคือสิ่งที่ได้กลับมาเพิ่มเติมคือการโกหก ซึ่งไม่เคยคาดคิดถึงเรื่องนี้เลย...เนื่องจาก
เราอยู่กับเค้ามาเราพูดตรงๆตลอดอีกอย่างเราเป็นคนที่ใจเย็นพอที่จะรับฟังได้...และทุกครั้งที่เค้ากลับมาสูบบุหรี่อีกก็ไม่เคยวีน
ไม่เคยเหวี่ยงใส่เลย และนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ติดอยู่ในใจหลังจากนั้น เวลาที่เค้าไปขี่จักรยานกลับมาก็มีกลิ่นบุหรี่ติดมาบ้างบางครั้ง
ถึงจะไม่บ่อยแต่ก็มีกลิ่นกลับมาถามเมื่อไหร่ก็ไม่ยอมรับ และจะรู้ได้ทันทีที่วันไหนมีกลิ่นบุหรี่ติดตัวกลับมาทันทีที่ถึงบ้านเค้าจะรีบ
เข้าห้องน้ำเพื่อล้างทำความสะอาดกลิ่นที่ติดตัวมาเราก็ได้แต่คอยดูยังไม่พูดอะไรมากนักเพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นหาเรื่องเค้า
เปล่าๆแต่ก็สงสัยทำไมเค้าไม่รู้ว่ากลิ่นมันออกมากะลมหายใจขนาดพูดกลิ่นยังออกมาเลยถึงกลิ่นจะเบาขนาดไหนสำหรับคนไม่
สูบก็รู้อยู่ดีหรือว่าคนที่สูบบุหรี่จะไม่รับรู้ถึงกลิ่นนี้กันนะ..เฮ้อ คราวนี้ผ่านไป พร้อมกับความอดทนที่เหลือน้อยลงทุกทีๆ
ปีที่ 8 ครั้งที่ 8 ต้นปี...คราวนี้งานเข้า..เนื่องจากการตรวจสุขภาพประจำปีผลเลือดบางตัวสูงนิดหน่อยแต่ก็ไม่น่าจะวางใจ ระหว่างตรวจร่าง
กายโดยละเอียดคุณหมอย้ำหลายครั้งให้เลิกบุหรี่เด็ดขาดและนัดมาตรวจเลือดใหม่ ระหว่างรอตรวจกังวลกับผลตรวจมากค่ะ
เป็นห่วงทั้งตัวเค้าและลูกและตอนนั้นตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะไม่ยอมให้เค้าเป็นอะไรไปยังไงต้องเลิกบุหรี่ให้ได้ เราหวังไว้ว่า
อยากจะให้เค้ากับเราอยู่กันไปจนแก่เฒ่าไปด้วยกัน ช่วงแรกกลับบ้านมาเหมือนจะเลิกบุหรี่ได้เด็ดขาดเพราะมีเรื่องจูงใจ
จากสุขภาพตัวเอง ผ่านไป 1 เดือน แอ๊ะ ทำไมมีกลิ่นบุหรี่ คราวนี้เราก็ไม่ไหวแล้วถามตรงๆเลยเนื่องจากเราเป็นห่วงเค้ามาก
แต่เหมือนเดิมหาว่าเราหาเรื่อง คิดมากไปเอง เราก็เลยไม่ต่อความต่อ
ผ่านมาไม่กี่วัน แจ๊คพ๊อต เราหาของในรถเผอิญเจอซองบุหรี่ใหม่ๆ เพิ่งแกะซองหายไปแค่มวนเดียว พร้อมไฟแช็คอันใหม่ คราว
นี้ความอดทนจะหมดแล้วไม่ไหวแล้วเข้าไปถามคุยให้รู้เรื่องเสียใจมากมายอาจเพราะความที่เราเป็นห่วงเค้าเรื่องสุขภาพมากซึ่ง
เค้าก็เหมือนจะเข้าใจและขอโทษเรา บอกเราว่ามันเป็นซองเก่าตอนนี้ไม่ได้สูบแล้ว แต่ถึงจะบอกแบบนั้นในใจเราก็เชื่อไม่ลง
เพราะก่อนหน้านั้นก็ได้กลิ่นบุหรี่จากตัวเค้า...หลังจากที่คุยกันเค้าก็พยายามเลิกบุหรี่อีกครั้ง...แต่หลังจากเรื่องคราวนั้นเรากลับ
มามองตัวเองเรารู้เลยว่าความเชื่อใจเรื่องเลิกสูบบุหรี่ของเค้าเหลือน้อยมาก..กังวลทุกครั้งที่เค้าออกไปปั่นจักรยานว่าจะไปแอบ
สูบบุหรี่อีกรึเปล่า..อยู่แบบไม่มีความสุขเลย..ความอดทน
ที่เคยมีถ้าเต็มร้อยตอนนี้เหลือแค่สิบ..เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เราก็ได้กลิ่นบุหรี่จากเค้าอีก..กะว่ารอโอกาสจะถามเผอิญไปชนรถ
จักรยานของเค้าเกือบล้มเลยจัดให้เข้าที่เข้าทางและไปเตรียมชุดนอนให้ลูกระหว่างเตรียมก็ แอ๊ะ..ทำไมมือเรามีกลิ่นบุหรี่มาจาก
ไหนหาไปหามาไปได้กลิ่นที่แฮนด์มือจับจักรยานตอนแรกคิดว่าคิดไปเองแต่แฮนด์อีกข้างก็ไม่มีกลิ่นนี้(คือต้องทดสอบอ่ะค่ะเพื่อ
ความแน่ใจไม่ได้จิต..นะค่ะ ดูสิบทจะรู้ก็มีเหตุให้ต้องรู้ช่างบังเอิญเหมือนในละครเลย)แล้วถึงบางอ้อ...ชัดเลยหลักฐานชัดเจน ทำ
ให้รู้เลยว่าถ้าคนสูบบุหรี่ถึงกลิ่นไม่ติดตัวแต่จะมีกลิ่นติดมือมาแน่นอนและถ้าเค้าไปจับอะไรกลิ่นก็จะติดกับของนั้นๆค่ะ มันจะเป็น
กลิ่นบุหรี่ไหม้ๆ เป็นกลิ่นเฉพาะจริงๆไม่มีกลิ่นไหนเหมือน ทำให้เข้าใจเลยว่ากลับมาทำไมถึงต้องรีบเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา พอ
แน่ใจดังนั้น จึงเข้าไปถามเค้าว่าเค้าไปสูบบุหรี่มาใช่มั้ย..แต่ก็ปฏิเสธว่าไม่ได้สูบเหมือนเดิม...แถมตอบกลับอย่างมีอารมณ์เล็ก
น้อย... เราเลยเฉยไป...คิดคำพูดไม่ออกและไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้วค่ะ
ตอนนี้ก็รู้สึกไม่ไหวแล้วเหนื่อยแล้วค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงดี แต่เรื่องอื่นๆของคุณพ่อบ้านไม่ได้มีอะไรบกพร่องนะค่ะ ต่างคนต่างก็ดูแลกันและกัน
ดีค่ะ เรื่องงานอดิเรกของคุณพ่อบ้านเราไม่มีการห้ามอะไร แต่จะปล่อยเรื่องนี้ไม่ต้องสนใจก็ไม่ได้ค่ะหมอก็จะนัดอีก 3 อาทิตย์ข้างหน้านี้แล้ว อย่างที่บอกไปข้างต้น ตัวเราเองก็อยากจะแก่เฒ่าไปกับเค้าด้วยกันด้วยสุขภาพที่ดี T_T
ขอถามผู้รู้และขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความคิดเห็นทั้งบวกและลบค่ะ
1. กลิ่นที่เรารู้สึกมาตลอดเมื่อเวลาเค้าสูบบุหรี่เราไม่ได้จิตตกหรือคิดไปเองใช่มั้ยค่ะ ทั้งกลิ่นจากลมหายใจ กลิ่นที่ติดมือมา
2. มีบ้านไหนเคยเจอสถานการณ์แบบนี้แล้วแก้ปัญหากันยังไงบ้างค่ะ
3. มีวิธีไหนที่ให้กำลังใจและเป็นแรงจูงใจในการเลิกบุหรี่อย่างเด็ดขาดได้บ้างมั้ยค่ะ
4. ถ้าเลิกบุหรี่ยากขนาดนี้ต้องพึ่งพาคุณหมอหรือยามั้ยค่ะ
5. สำหรับคนที่ปั่นจักรยานมาเป็นหลายๆกิโล จะสูบบุหรี่ไหวมั้ยค่ะ