ผมเป็นคนชอบถ่ายภาพและรับงานทั่วๆไปแต่ไม่ได้โปรและไม่ได้เทพแต่อย่างใดราคาในเนื้อหานี้อาจจะขัดใจบางท่านต้องขออภัยด้วยครับ
ขอเล่าเรื่องก่อนนะครับ
เรื่องมีอยู่ว่าได้มีคนติดต่อว่าจ้างให้ผมไปถ่ายภาพงานบวช แถวๆลาดกระบัง เมื่อเสาร์และ อาทิตย์ที่ผ่านมาจำนวนสองวันด้วยกัน แต่คนที่ติดต่อมาคนแรกไม่ใช่เจ้าภาพที่จัดงานนะครับ หรือไม่ใช่พ่อของพระนั่นเอง บทสนทนาทางโทรสัพ ที่ผู้ติดต่อโทรเข้ามาก็ปกติไม่มีอะไร โดยประมาณการสนทนาไว้ว่า
ผู้ติดต่อ : สวัสดีครับ พี่รับงานถ่ายภาพใช่ไหมครับ
ผม : ครับใช่ครับ
ผู้ติดต่อ : พอดีจะจ้างให้ไปถ่ายงานบวช คิดค่าถ่ายยังไงครับ
ผม : ถ่ายกี่โมงถึงกี่โมง กี่วัน กำหนดการงานเป็นยังไงครับ
ผู้ติดต่อ : ก็วันแรก โกนหัว ตอน 12:09 ครับ แล้วก็ทำขวัญนาค ตั้งแต่บ่าย ไปจน 4-5 โมงเย็นเลี้ยงโต๊ะจีนแขก พี่ก็ถ่าย ตามโต๊ะ ประมาณ 4 ทุ่มพี่ก็กลับได้ครับ ส่วนอีกวัน ก็แห่ขบวน แต่ผมไม่แน่ใจเวลาแห่นะครับ บวชเสร็จพระมา เพลที่บ้านก็ถือว่าเสร็จงานครับ
ผม : อ่อ ครับ งั้นเอางี้ ทั้งสองวันผมคิดแบบเหมาไปเลยนะ 5000 บาท ถ่ายไม่จำกัด ล้าง 4X6 ให้ 60 รูป โอเคมั๊ยครับ
ผู้ติดต่อ : ลดหน่อยได้มั๊ยครับพี่
ผม : งั้น 4500 ละกันพี่ต้องเผื่อค่าเดินทางด้วย
ผู้ติดต่อ : เจ้างานเค้าบอกว่าเค้าทีงบ 4000 อ่ะครับ
ผม : เอ้า 4000 ก็ 4000 แต่ผมล้างให้ 40 รูปละกันนะ
ผู้ติดต่อ : ครับ โอเคเลยงั้น เดี๋ยวผมเอาเบอพี่ให้เจ้างานนะ (พ่อของคนที่บวช)
ผม : ครับ
หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้ว่าเค้าคุยอะไรยังไงกันบ้างนะครับ แต่ตอนเย็นก็มีสายเข้ามา
เจ้างาน : โหลลล นั่นช่างภาพงานบวชใช่มั๊ย!!! พอดี (ผู้ติดต่อ) เค้าให้เบอมา 4000 ใช่เปล่า
ผม : ครับใช่ครับ
เจ้างาน : เออ แล้วจะให้มาถ่ายเนี่ยต้องทำยังไงมั่ง
ผม : ยังไงรบกวนคุณพ่อมัดจำผมก่อนสัก 1000 นะครับ
เจ้างาน : อ่อ ได้ๆ เอาบัญชีมา
ผมก็ให้เลขบัญชีไปหลังจากนั้น 2 วัน การโอนมัดจำก็เสร็จเรียบร้อย
ก่อนวันงาน 1 วันก็คืองานวันเสาร์ ผมโทรไปหาเบอร์เจ้างานอีกครั้ง เพื่อนัดแนะเวลาและสถานที่ เพราะจัดงานที่บ้านเดี๋ยวไปไม่ถูก
ผม : สวสดีครับผมช่างภาพนะครับ พรุ่งนี้ให้ผมถึงงานกี่โมงดีครับ
เจ้างาน : ฤกษ์ โกนหัวตอน เที่ยงเก้านาที ยังไงก็มาก่อนโกนหัวแล้วกัน
ผม : ครับๆ งั้น ไม่เกิน 10:30 ผมน่าจะไปถึง (ในใจคิดว่าไปดูโลเคชั่นเพื่อเตรียมตัวและหามุมสักหน่อยดีกว่าเลยเลือกที่จะไปเร็ว)
เจ้างาน : เออๆๆ ดีๆๆๆ มากินข้าวกินปลาก่อนจะได้ไม่หิว
ผม : ครับๆ สวัสดีครับ
เมื่อวันเสาร์มาถึงและผมก็ไปถึงงานก่อนเวลาไปเยอะ เพราะคิดว่ารถจะติด แต่มันไม่ติดเพราะเป็นวันเสาร์นั่นเอง
พอไปถึงผมก็โทหาและบอกว่ามาถึงงานแล้วนะครับ ทางเจ้างานก็ออกมาตอนรับ แล้วก็หาน้ำมาให้ผมดื่มน้ำเสร็จ ก็เดินดูสถานที่และเก็บภาพบรรยากาศ ทั้งตรงที่ รับพระ ทำขวัญนาค ในโรงครัว แม่ครัวกำลังเม้าท์กันอย่างสนุกสนาน
ขาดตกบกพร่องอยู่นิดหน่อยคือ การดูแลผมนี่แหละ เดินมาถามว่าหิวหรือยัง ผมก็บอกว่า นิดหน่อยครับ ปกติไม่ค่อยทานมื้อเช้า แล้วเจ้างานก็บอกว่า ถ้าหิวนะ เดินไปตักเอาเลย คนกันเองทั้งนั้น (แหม่ กันเองยังไงไม่รู้จักใครสักคน และงานอื่นๆที่ถ่ายมาเค้าจะจัดโต๊ะและที่ไว้ให้กินนะเนี่ย) แต่เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาของผม ผมเดินไปซื้อลูกชิ้นปากซอยเอาง่ายกว่าอยู๋แล้ว
งานวันแรกก็ผ่านไป กลบถึงห้อง 5 ทุ่มกว่าๆเอารูปทั้งหมดลงคอน ชาร์จแบตและนอน เพราะทางเจ้างานบอกว่า พรุ่งนี้ 6 โมงเช้า ต้องถึงงาน แห่นาคตอน 7 โมง ผมก็ ไม่เลทไม่สาย (ตั้งแต่ทำงานสายนี้มายังไม่เคยพลาดเรื่องเวลา) อาศัยว่าฝีมืออ่อนหัดเลยเน้นตรงเวลาเป็นจุดขายครับ
ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีจนงานใกล้จะเสร็จ ทางแม่ของพระ เรียกผมไปถ่ายรูปกับ ญาติที่นานๆเจอกันทีผมก็ ถ่ายให้ ก็หลายคนหลายภาพหลายใบ และทางแม่ของพระบอกว่า รูปนี้ล้างมา สองใบ นะ รูปนี้ล้างมาสามใบนะ รวมไปรวมมา เอ๊ะ!!! มันเกิน 40 รูปแล้วนิหว่า แล้วรูปพระจะไม่ล้างหรืออย่างไร พลันนึกตะหงิดๆในใจว่าสงสัยทางแม่ของพระ จะไม่ทราบว่า เราล้างให้ แค่ 40 รูป ทางพ่อของพระหรือเจ้างานคงไม่ได้บอก
และก็ถ่ายต่อไปจนงานเสร็จเลยเดินไปถามเจ้างานอีกครั้งถึงเรื่องจำนวนรูปที่ล้าง เพราะตะหงิดกับเมื่อกี้
ผม : ตกลงรูปที่ให้ล้าง 40 รูปนี้ยังไงดีครับเห็นทางแม่ บอกจะเอารูปนั้น รูปนี้สองรูปสามรูปในพี่ในน้องมันก็ครบสี่สิบรูปแล้วอ่ะครับ
เจ้างาน : อ้าว อะไรล้าง 40 รูป เองเหรอ แล้วนี่ถ่ายได้กี่รูปทั้งสองวันเนี่ย
ผม : เมื่อวาน 800 กว่ารูปวันนี้ก็อีกเกือบๆ 400 อ่ะครับ รวมๆเลือกที่หลุดโฟกัสแล้วน่าจะเหลือสัก 1000 รูปได้
เจ้างาน : นั่นแหละ คุณก็ล้างมาทั้ง 1000 รูปนั้นแหละ
ผม : ผมล้างให้ได้ครับ 1000 รูปผมจะไม่คิดส่วนต่างเลยแต่ทาง พ่อ ต้องเพิ่มเงินจำนวนนั้นเองนะครับ (เห็นว่ามีอายุและคงไม่เป็นแน่ๆเลยอาสาทำให้เอาเงินมาเอาภาพไป)
เจ้างาน : จะบ้าเหรอ ผมก็จ่ายคุณ 4000 ไง ตามที่ตกลงไว้ คุณถ่ายได้เท่าไหร่ก็ล้างมาเท่านั้นไม่จ่ายอะไรเพิ่มแล้ว สิ
ผม : ถ้าตามตกลงก็ 40 รูปไงครับ ผมก็บอกไปแล้วว่าอะไรยังไงบ้าง
เจ้างาน : อ้าว ผมเข้าใจว่า 4000 คือได้ทุกอย่างแล้วไงผมเลยจ้างคุณ
ผม : พ่อฝังผมนะครับ สมมุติ ว่า 1000 รูปนะครับ ผมคิดแบบไม่เอากำไรอะไรเลยนะครับ เอารูปไปล้างที่ร้านรูปละ 3 บาท 1000 รูปก็ 3000 บาทนะครับ
ผมนั่ง Taxi มาที่งาน เที่ยวละ 100 บาท ไปกลับสองวันตกที่ 400 บาท พ่อจ้างผม 4000 บาท ผมต้องใช้เงิน 3400 บาท เพื่อที่จะล้างรูปและมาถ่ายรูปให้ เดินขาลากทั้งวันทั้งคืนผมได้แค่ 600 บาท มันไม่มีช่างภาพที่ไหนเค้ารับงานกันแบบนี้หรอกครับ นี่ผมยังต้องเอารูปไปแต่งอีกยังต้องคิดค่าไฟเพิ่มอีกจะเหลือเท่าไหร่ครับ
เจ้างาน : ไม่รู้ล่ะผมไม่จ่ายเพิ่ม จัดงานบวชลูกชายคนก่อน ก็ 4000 นี่แหละ ล้างรูปมาให้ด้วย
ผม : แล้วเค้าถ่ายเยอะเท่าผมป่ะครับ กี่รูปครับ
เจ้างาน : เยอะสิ ไปดูสิ อัลบั้มภาพวางอยู่น่ะ วันนี้เค้าก็มา
ผม : (เดินไปหยิบมาดู ปรากฏว่า มีทั้งหมด 5 อัลบั้ม ซึ่งเดาเอาว่า ใส่แบบ 1 ช่อง 2 รูป รวม 5 เล่มนั้นไม่น่าจะถึง 300 รูป ณ ตอนนั้น ญาติพี่น้องทั้งหลายชายหญิงมาล้อมผมกันเป็น วงกลมอันไร้ซึ่งทางออกเรียบร้อยแล้ว และคนที่ถ่าย 5 อัลบั้มนั้นก็อยู่ตรงนั้น)
ผม : ถ่ายแบบในพี่น้องก็ต้องช่วยๆกันอยู่แล้วสิครับ 4000 มันก็ไม่แปลก
เจ้างาน : พี่น้องอะไรเค้าไม่ได้เป็นอะไรกับผมเลย บ้านเค้าอยู่ปากซอยเนี่ย (แต่คนนั้นเค้าแค่มียืนดูเฉยๆเค้าไม่ได้พูดอะไรนะครับ)
สรุปหาข้อตกลงไม่ได้และผมก็ไม่มีทางออกจะกลับบ้านได้ ก็วนหาข้อตกลงกันอยู่สักพักได้มีอีก 1 บุรุษผู้ที่ไม่ได้ฟังเรื่องราวมาแต่แรก ก็ถามคนแถวนั้นว่ามีอะไรกันเหรอ เค้าก็เล่าเรื่องให้คนนั้นฟังแล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า เจ้างาน ก็ให้เงินค่าล้างเค้าไปเถอะ ให้เค้าล้างทั้งหมดก็เกินไป เค้าก็ไม่เหลือเงินเลยสิ จะเหมือนพี่... ถ่ายได้ไงคราวนั้น 4000 ก็จริงแต่ในพี่ในน้องกันมันเลยได้ไง
(อ้าว!!! อีกทีเมื่อกี้ไหนบอกไม่ได้เป็นอะไรกัน)
และมีอีก 1 สตรีที่มาช่วยเจรจา เมื่อเค้าเข้ามาก็ถามผมว่า ตอนแรกคุยกันยังไง ผมก็บอกว่าผมบอกพี่ที่ติดต่อผมคนแรกไว้แล้วว่า 4000 ถ่ายไม่จำกัด ล้าง 40 รูป ที่เหลือไรท์ลง DVD สกรีนปก
สตรีผู้นั้นถามต่อว่า แล้วถ่ายได้กี่รูป ผมบอกไปว่าประมาณ 1000 ได้ครับ สตรีผู้นั้นเลยบอกว่าเอางี้แล้วกัน พี่ขอ 200 รูป ที่เหลือไรท์ลง DVD ได้ไหม พี่ว่า 40 มันก็น้อยไปนะ แต่จะล้าง 1000 รูปมันก็เกินไป พี่ก็พอรู้มาบ้างว่าราคาช่างภาพปัจจุบันเป็นยังไง 4000 สำหรับพี่ถือว่าถูกมาก (พี่ก็รู้แต่พี่ก็เพิ่ม 200 รูปเนี่ยนะ)
สรุปสุดท้าย ผมยอม 200 รูป และไรท์ลง DVD แต่จะไม่มีการปรับแต่งสีโทนอื่นๆนอกจากสีธรรมดาเท่านั้น (ก็ยังรู้สึกไม่คุ้มอยู๋ดี) แต่ก็ต้องตัดสินใจยอมตามน้ำไปเพราะดูท่าแล้วถ้าผมไม่โอเคผมคงไม่ได้กลับง่ายๆ (แหงล่ะงานบวชงานรวมญาติก็พรรคพวกพี่น้องพวกพ้องเค้าทั้งนั้น) ผมไปคนเดียวทำงานคนเดียวนี้สิ
โอเค กลับบ้านด้วยอารมณ์บูดเบี้ยว
และพออ่านจบทุกๆท่านก็จะถามว่าแล้วคนที่ติดต่อมาคนแรกไปไหน (ผมก็นึกถึงเค้าเหมือนกันนั่นแหละ) เค้าไม่ได้มาในงานนี้ครับแค่ช่วยหาให้เฉยๆและผมก็ไม่ได้เม็มเบอร์เค้าไว้เพราะโทรมาแค่แป๊บเดียวแล้วก็ต้องติดต่อกับเจ้างานโดยตรงอยู่ดี และทางฝั่งเจ้างานก็ไม่ยอมโทรหาคนๆนั้นเพื่อคุยรายละเอียด
ครั้งนี้เป็นบทเรียนที่ผ่านมาแล้วให้ผ่านไปแต่ที่มาตั้งกระทู้ก็เพียงเพื่ออยากทราบความคิดเห็นน้าๆห้องกล้องทั้งหลายว่าถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้จะแก้ปัญหาอย่างไรโดยที่เราก็ไม่เข้าเนื้อและ Happy ทั้งสองฝ่าย
อีกหน่อยนึงคือ ถ้าน้าๆเป็นผมในเหตการณ์นี้ น้าๆจะทำอย่างไรกันครับ
ขอบคุณครับ
Edit : คิดว่าคนที่ติดต่อคนแรกไม่ได้บอกจำนวนรูปที่ล้างให้ 40 รูปกับเจ้างานแน่ๆ เลยเกิดปัญหาในจุดนี้
มาขอคำปรึกษา เนื่องจากมีปัญหากับทางผู้ว่าจ้าง ครับ
ขอเล่าเรื่องก่อนนะครับ
เรื่องมีอยู่ว่าได้มีคนติดต่อว่าจ้างให้ผมไปถ่ายภาพงานบวช แถวๆลาดกระบัง เมื่อเสาร์และ อาทิตย์ที่ผ่านมาจำนวนสองวันด้วยกัน แต่คนที่ติดต่อมาคนแรกไม่ใช่เจ้าภาพที่จัดงานนะครับ หรือไม่ใช่พ่อของพระนั่นเอง บทสนทนาทางโทรสัพ ที่ผู้ติดต่อโทรเข้ามาก็ปกติไม่มีอะไร โดยประมาณการสนทนาไว้ว่า
ผู้ติดต่อ : สวัสดีครับ พี่รับงานถ่ายภาพใช่ไหมครับ
ผม : ครับใช่ครับ
ผู้ติดต่อ : พอดีจะจ้างให้ไปถ่ายงานบวช คิดค่าถ่ายยังไงครับ
ผม : ถ่ายกี่โมงถึงกี่โมง กี่วัน กำหนดการงานเป็นยังไงครับ
ผู้ติดต่อ : ก็วันแรก โกนหัว ตอน 12:09 ครับ แล้วก็ทำขวัญนาค ตั้งแต่บ่าย ไปจน 4-5 โมงเย็นเลี้ยงโต๊ะจีนแขก พี่ก็ถ่าย ตามโต๊ะ ประมาณ 4 ทุ่มพี่ก็กลับได้ครับ ส่วนอีกวัน ก็แห่ขบวน แต่ผมไม่แน่ใจเวลาแห่นะครับ บวชเสร็จพระมา เพลที่บ้านก็ถือว่าเสร็จงานครับ
ผม : อ่อ ครับ งั้นเอางี้ ทั้งสองวันผมคิดแบบเหมาไปเลยนะ 5000 บาท ถ่ายไม่จำกัด ล้าง 4X6 ให้ 60 รูป โอเคมั๊ยครับ
ผู้ติดต่อ : ลดหน่อยได้มั๊ยครับพี่
ผม : งั้น 4500 ละกันพี่ต้องเผื่อค่าเดินทางด้วย
ผู้ติดต่อ : เจ้างานเค้าบอกว่าเค้าทีงบ 4000 อ่ะครับ
ผม : เอ้า 4000 ก็ 4000 แต่ผมล้างให้ 40 รูปละกันนะ
ผู้ติดต่อ : ครับ โอเคเลยงั้น เดี๋ยวผมเอาเบอพี่ให้เจ้างานนะ (พ่อของคนที่บวช)
ผม : ครับ
หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้ว่าเค้าคุยอะไรยังไงกันบ้างนะครับ แต่ตอนเย็นก็มีสายเข้ามา
เจ้างาน : โหลลล นั่นช่างภาพงานบวชใช่มั๊ย!!! พอดี (ผู้ติดต่อ) เค้าให้เบอมา 4000 ใช่เปล่า
ผม : ครับใช่ครับ
เจ้างาน : เออ แล้วจะให้มาถ่ายเนี่ยต้องทำยังไงมั่ง
ผม : ยังไงรบกวนคุณพ่อมัดจำผมก่อนสัก 1000 นะครับ
เจ้างาน : อ่อ ได้ๆ เอาบัญชีมา
ผมก็ให้เลขบัญชีไปหลังจากนั้น 2 วัน การโอนมัดจำก็เสร็จเรียบร้อย
ก่อนวันงาน 1 วันก็คืองานวันเสาร์ ผมโทรไปหาเบอร์เจ้างานอีกครั้ง เพื่อนัดแนะเวลาและสถานที่ เพราะจัดงานที่บ้านเดี๋ยวไปไม่ถูก
ผม : สวสดีครับผมช่างภาพนะครับ พรุ่งนี้ให้ผมถึงงานกี่โมงดีครับ
เจ้างาน : ฤกษ์ โกนหัวตอน เที่ยงเก้านาที ยังไงก็มาก่อนโกนหัวแล้วกัน
ผม : ครับๆ งั้น ไม่เกิน 10:30 ผมน่าจะไปถึง (ในใจคิดว่าไปดูโลเคชั่นเพื่อเตรียมตัวและหามุมสักหน่อยดีกว่าเลยเลือกที่จะไปเร็ว)
เจ้างาน : เออๆๆ ดีๆๆๆ มากินข้าวกินปลาก่อนจะได้ไม่หิว
ผม : ครับๆ สวัสดีครับ
เมื่อวันเสาร์มาถึงและผมก็ไปถึงงานก่อนเวลาไปเยอะ เพราะคิดว่ารถจะติด แต่มันไม่ติดเพราะเป็นวันเสาร์นั่นเอง
พอไปถึงผมก็โทหาและบอกว่ามาถึงงานแล้วนะครับ ทางเจ้างานก็ออกมาตอนรับ แล้วก็หาน้ำมาให้ผมดื่มน้ำเสร็จ ก็เดินดูสถานที่และเก็บภาพบรรยากาศ ทั้งตรงที่ รับพระ ทำขวัญนาค ในโรงครัว แม่ครัวกำลังเม้าท์กันอย่างสนุกสนาน
ขาดตกบกพร่องอยู่นิดหน่อยคือ การดูแลผมนี่แหละ เดินมาถามว่าหิวหรือยัง ผมก็บอกว่า นิดหน่อยครับ ปกติไม่ค่อยทานมื้อเช้า แล้วเจ้างานก็บอกว่า ถ้าหิวนะ เดินไปตักเอาเลย คนกันเองทั้งนั้น (แหม่ กันเองยังไงไม่รู้จักใครสักคน และงานอื่นๆที่ถ่ายมาเค้าจะจัดโต๊ะและที่ไว้ให้กินนะเนี่ย) แต่เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาของผม ผมเดินไปซื้อลูกชิ้นปากซอยเอาง่ายกว่าอยู๋แล้ว
งานวันแรกก็ผ่านไป กลบถึงห้อง 5 ทุ่มกว่าๆเอารูปทั้งหมดลงคอน ชาร์จแบตและนอน เพราะทางเจ้างานบอกว่า พรุ่งนี้ 6 โมงเช้า ต้องถึงงาน แห่นาคตอน 7 โมง ผมก็ ไม่เลทไม่สาย (ตั้งแต่ทำงานสายนี้มายังไม่เคยพลาดเรื่องเวลา) อาศัยว่าฝีมืออ่อนหัดเลยเน้นตรงเวลาเป็นจุดขายครับ
ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีจนงานใกล้จะเสร็จ ทางแม่ของพระ เรียกผมไปถ่ายรูปกับ ญาติที่นานๆเจอกันทีผมก็ ถ่ายให้ ก็หลายคนหลายภาพหลายใบ และทางแม่ของพระบอกว่า รูปนี้ล้างมา สองใบ นะ รูปนี้ล้างมาสามใบนะ รวมไปรวมมา เอ๊ะ!!! มันเกิน 40 รูปแล้วนิหว่า แล้วรูปพระจะไม่ล้างหรืออย่างไร พลันนึกตะหงิดๆในใจว่าสงสัยทางแม่ของพระ จะไม่ทราบว่า เราล้างให้ แค่ 40 รูป ทางพ่อของพระหรือเจ้างานคงไม่ได้บอก
และก็ถ่ายต่อไปจนงานเสร็จเลยเดินไปถามเจ้างานอีกครั้งถึงเรื่องจำนวนรูปที่ล้าง เพราะตะหงิดกับเมื่อกี้
ผม : ตกลงรูปที่ให้ล้าง 40 รูปนี้ยังไงดีครับเห็นทางแม่ บอกจะเอารูปนั้น รูปนี้สองรูปสามรูปในพี่ในน้องมันก็ครบสี่สิบรูปแล้วอ่ะครับ
เจ้างาน : อ้าว อะไรล้าง 40 รูป เองเหรอ แล้วนี่ถ่ายได้กี่รูปทั้งสองวันเนี่ย
ผม : เมื่อวาน 800 กว่ารูปวันนี้ก็อีกเกือบๆ 400 อ่ะครับ รวมๆเลือกที่หลุดโฟกัสแล้วน่าจะเหลือสัก 1000 รูปได้
เจ้างาน : นั่นแหละ คุณก็ล้างมาทั้ง 1000 รูปนั้นแหละ
ผม : ผมล้างให้ได้ครับ 1000 รูปผมจะไม่คิดส่วนต่างเลยแต่ทาง พ่อ ต้องเพิ่มเงินจำนวนนั้นเองนะครับ (เห็นว่ามีอายุและคงไม่เป็นแน่ๆเลยอาสาทำให้เอาเงินมาเอาภาพไป)
เจ้างาน : จะบ้าเหรอ ผมก็จ่ายคุณ 4000 ไง ตามที่ตกลงไว้ คุณถ่ายได้เท่าไหร่ก็ล้างมาเท่านั้นไม่จ่ายอะไรเพิ่มแล้ว สิ
ผม : ถ้าตามตกลงก็ 40 รูปไงครับ ผมก็บอกไปแล้วว่าอะไรยังไงบ้าง
เจ้างาน : อ้าว ผมเข้าใจว่า 4000 คือได้ทุกอย่างแล้วไงผมเลยจ้างคุณ
ผม : พ่อฝังผมนะครับ สมมุติ ว่า 1000 รูปนะครับ ผมคิดแบบไม่เอากำไรอะไรเลยนะครับ เอารูปไปล้างที่ร้านรูปละ 3 บาท 1000 รูปก็ 3000 บาทนะครับ
ผมนั่ง Taxi มาที่งาน เที่ยวละ 100 บาท ไปกลับสองวันตกที่ 400 บาท พ่อจ้างผม 4000 บาท ผมต้องใช้เงิน 3400 บาท เพื่อที่จะล้างรูปและมาถ่ายรูปให้ เดินขาลากทั้งวันทั้งคืนผมได้แค่ 600 บาท มันไม่มีช่างภาพที่ไหนเค้ารับงานกันแบบนี้หรอกครับ นี่ผมยังต้องเอารูปไปแต่งอีกยังต้องคิดค่าไฟเพิ่มอีกจะเหลือเท่าไหร่ครับ
เจ้างาน : ไม่รู้ล่ะผมไม่จ่ายเพิ่ม จัดงานบวชลูกชายคนก่อน ก็ 4000 นี่แหละ ล้างรูปมาให้ด้วย
ผม : แล้วเค้าถ่ายเยอะเท่าผมป่ะครับ กี่รูปครับ
เจ้างาน : เยอะสิ ไปดูสิ อัลบั้มภาพวางอยู่น่ะ วันนี้เค้าก็มา
ผม : (เดินไปหยิบมาดู ปรากฏว่า มีทั้งหมด 5 อัลบั้ม ซึ่งเดาเอาว่า ใส่แบบ 1 ช่อง 2 รูป รวม 5 เล่มนั้นไม่น่าจะถึง 300 รูป ณ ตอนนั้น ญาติพี่น้องทั้งหลายชายหญิงมาล้อมผมกันเป็น วงกลมอันไร้ซึ่งทางออกเรียบร้อยแล้ว และคนที่ถ่าย 5 อัลบั้มนั้นก็อยู่ตรงนั้น)
ผม : ถ่ายแบบในพี่น้องก็ต้องช่วยๆกันอยู่แล้วสิครับ 4000 มันก็ไม่แปลก
เจ้างาน : พี่น้องอะไรเค้าไม่ได้เป็นอะไรกับผมเลย บ้านเค้าอยู่ปากซอยเนี่ย (แต่คนนั้นเค้าแค่มียืนดูเฉยๆเค้าไม่ได้พูดอะไรนะครับ)
สรุปหาข้อตกลงไม่ได้และผมก็ไม่มีทางออกจะกลับบ้านได้ ก็วนหาข้อตกลงกันอยู่สักพักได้มีอีก 1 บุรุษผู้ที่ไม่ได้ฟังเรื่องราวมาแต่แรก ก็ถามคนแถวนั้นว่ามีอะไรกันเหรอ เค้าก็เล่าเรื่องให้คนนั้นฟังแล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า เจ้างาน ก็ให้เงินค่าล้างเค้าไปเถอะ ให้เค้าล้างทั้งหมดก็เกินไป เค้าก็ไม่เหลือเงินเลยสิ จะเหมือนพี่... ถ่ายได้ไงคราวนั้น 4000 ก็จริงแต่ในพี่ในน้องกันมันเลยได้ไง
(อ้าว!!! อีกทีเมื่อกี้ไหนบอกไม่ได้เป็นอะไรกัน)
และมีอีก 1 สตรีที่มาช่วยเจรจา เมื่อเค้าเข้ามาก็ถามผมว่า ตอนแรกคุยกันยังไง ผมก็บอกว่าผมบอกพี่ที่ติดต่อผมคนแรกไว้แล้วว่า 4000 ถ่ายไม่จำกัด ล้าง 40 รูป ที่เหลือไรท์ลง DVD สกรีนปก
สตรีผู้นั้นถามต่อว่า แล้วถ่ายได้กี่รูป ผมบอกไปว่าประมาณ 1000 ได้ครับ สตรีผู้นั้นเลยบอกว่าเอางี้แล้วกัน พี่ขอ 200 รูป ที่เหลือไรท์ลง DVD ได้ไหม พี่ว่า 40 มันก็น้อยไปนะ แต่จะล้าง 1000 รูปมันก็เกินไป พี่ก็พอรู้มาบ้างว่าราคาช่างภาพปัจจุบันเป็นยังไง 4000 สำหรับพี่ถือว่าถูกมาก (พี่ก็รู้แต่พี่ก็เพิ่ม 200 รูปเนี่ยนะ)
สรุปสุดท้าย ผมยอม 200 รูป และไรท์ลง DVD แต่จะไม่มีการปรับแต่งสีโทนอื่นๆนอกจากสีธรรมดาเท่านั้น (ก็ยังรู้สึกไม่คุ้มอยู๋ดี) แต่ก็ต้องตัดสินใจยอมตามน้ำไปเพราะดูท่าแล้วถ้าผมไม่โอเคผมคงไม่ได้กลับง่ายๆ (แหงล่ะงานบวชงานรวมญาติก็พรรคพวกพี่น้องพวกพ้องเค้าทั้งนั้น) ผมไปคนเดียวทำงานคนเดียวนี้สิ
โอเค กลับบ้านด้วยอารมณ์บูดเบี้ยว
และพออ่านจบทุกๆท่านก็จะถามว่าแล้วคนที่ติดต่อมาคนแรกไปไหน (ผมก็นึกถึงเค้าเหมือนกันนั่นแหละ) เค้าไม่ได้มาในงานนี้ครับแค่ช่วยหาให้เฉยๆและผมก็ไม่ได้เม็มเบอร์เค้าไว้เพราะโทรมาแค่แป๊บเดียวแล้วก็ต้องติดต่อกับเจ้างานโดยตรงอยู่ดี และทางฝั่งเจ้างานก็ไม่ยอมโทรหาคนๆนั้นเพื่อคุยรายละเอียด
ครั้งนี้เป็นบทเรียนที่ผ่านมาแล้วให้ผ่านไปแต่ที่มาตั้งกระทู้ก็เพียงเพื่ออยากทราบความคิดเห็นน้าๆห้องกล้องทั้งหลายว่าถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้จะแก้ปัญหาอย่างไรโดยที่เราก็ไม่เข้าเนื้อและ Happy ทั้งสองฝ่าย
อีกหน่อยนึงคือ ถ้าน้าๆเป็นผมในเหตการณ์นี้ น้าๆจะทำอย่างไรกันครับ
ขอบคุณครับ
Edit : คิดว่าคนที่ติดต่อคนแรกไม่ได้บอกจำนวนรูปที่ล้างให้ 40 รูปกับเจ้างานแน่ๆ เลยเกิดปัญหาในจุดนี้