การมาญี่ปุ่นเที่ยวนี้ของผมก็เป็นเที่ยวที่ 8 ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (เอาจริง ๆ พิมพ์ว่าในชีวิตก็ได้ เพราะว่าเพิ่งเคยมาญี่ปุ่นครั้งแรกก็เมื่อ 4 ปีที่แล้วนี่เอง) คงมีหลายคนสงสัยว่า “จะมาบ่อยอะไรนักหนา?” ผมก็คงตอบได้สั้น ๆ ง่าย ๆ ว่าแต่ละครั้งที่ผมมานี่คือมันเป็นอะไรที่ไม่เหมือนกันเลยสักนิดเดียว บางทริปอาจจะไปเมืองเดิมแต่ก็ไปคนละฤดูกาลซึ่งแค่คนละฤดูกาลมันก็เหมือนกับไปยังเมืองใหม่ไปแล้วล่ะครับสำหรับที่ญี่ปุ่น เพราะทั้งเรื่องอากาศ, การแต่งตัวของผู้คน, อาหารการกิน หรือแม้แต่เทศกาลที่มีในช่วงนั้น ๆ ดังนั้นถ้าลองคิดง่าย ๆ คือปีนึงมี 4 ฤดู เมืองใหญ่ ๆ ที่คนไทยชอบมากันก็จะมีแถบคันโต, แถบคันไซ, ฮฮกไกโด, Hiroshima + Fukuoka ก็คุณเข้าไปก็คือสามารถจัดทริปมาได้ 16 ครั้งแบบไม่ซ้ำกันได้เลยล่ะ (ก็นะใครที่เคยดูรายการ Say Hi! ของคุณติ๊ก ก็น่าจะเห็น ๆ กันอยู่ รายการบ้าอะไรไปแต่ที่ญี่ปุ่น แต่ก็ไปได้ไม่มีซ้ำ ไม่มีเบื่อ)
เอาจริง ๆ แล้วช่วงแรก ๆ ที่ผมมาญี่ปุ่นนี่ผมจะพยายามเขียนบันทึกการเดินทาง และก็ถ่ายรูปเยอะ ๆ เอามาลงเว็บอยู่เสมอ แต่แบบ 2 ครั้งล่าสุดที่มามันเหมือนกับเริ่มเบื่อที่จะเขียนไปแล้วก็เลยไม่ได้เขียนถึง แต่ทริปในครั้งนี้ที่หยิบเอาโน้ตบุ๊คขึ้นมาพิมพ์บันทึกการเดินทางกันอีกครั้งนึง สาเหตุก็อาจจะเป็นเพราะว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้มากับแฟนผม (ฮิ้วววว) และก็ได้มาในหน้าหนาว หน้าที่ผมชื่นชอบเหลือเกิน แต่เพิ่งจะเคยมีโอกาสมาแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
ทริปนี้หลัก ๆ แล้วผมก็จะอยู่โตเกียว 4 วันอาจจะไปในที่ที่เคยไปมาแล้วบ้าง, ไม่เคยไปบ้าง และก็จะไป Hokkaido อีก 5 วัน มีไปเมือง Sapporo 2 วัน, Furano 2 วันและ Otaru 1 วัน ซึ่งเบ็ดเสร็จแล้วก็กินเวลาทั้งหมด 9 วันโดยประมาณ ทริปนี้ถ้าเอาตามจริงผมแอบเสียดายที่แบบอุตส่าห์มาเกาะเหนือของญี่ปุ่นทั้งทีและมาในหน้าหนาวด้วย แต่ว่าไปไม่สุดครับ ไม่ได้ไป Asahikawa ไม่ได้ไป ฝั่งขวาของเกาะไปดูเรือตัดน้ำแข็ง, ไปดูนกกระสาสู้กันอะไรพวกนั้น สาเหตุที่ไม่ได้ไปก็ง่าย ๆ เลย พ่อแม่ผมขี้เกียจเปลี่ยนโรงแรมบ่อย ... แป่ว! (เพราะว่าไปเมืองด้านขวา ๆ นี่ต้องเปลี่ยนโรงแรมทุกคืนเลยล่ะครับ ตอนแรกว่าจะเช่ารถขับแต่ก็กลัวเรื่องหิมะ, น้ำแข็งบนท้องถนนกัน เฮ้อเสียดายจริง ๆ)
[CR] BumRes Japan Gourmet Winter Trip 2014 (Tokyo-Hokkaido) Part 1 & 2 >แบกเป้ตะลุยญี่ปุ่น หาของกินอร่อย แบบไม่ง๊อทัวร์
การมาญี่ปุ่นเที่ยวนี้ของผมก็เป็นเที่ยวที่ 8 ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (เอาจริง ๆ พิมพ์ว่าในชีวิตก็ได้ เพราะว่าเพิ่งเคยมาญี่ปุ่นครั้งแรกก็เมื่อ 4 ปีที่แล้วนี่เอง) คงมีหลายคนสงสัยว่า “จะมาบ่อยอะไรนักหนา?” ผมก็คงตอบได้สั้น ๆ ง่าย ๆ ว่าแต่ละครั้งที่ผมมานี่คือมันเป็นอะไรที่ไม่เหมือนกันเลยสักนิดเดียว บางทริปอาจจะไปเมืองเดิมแต่ก็ไปคนละฤดูกาลซึ่งแค่คนละฤดูกาลมันก็เหมือนกับไปยังเมืองใหม่ไปแล้วล่ะครับสำหรับที่ญี่ปุ่น เพราะทั้งเรื่องอากาศ, การแต่งตัวของผู้คน, อาหารการกิน หรือแม้แต่เทศกาลที่มีในช่วงนั้น ๆ ดังนั้นถ้าลองคิดง่าย ๆ คือปีนึงมี 4 ฤดู เมืองใหญ่ ๆ ที่คนไทยชอบมากันก็จะมีแถบคันโต, แถบคันไซ, ฮฮกไกโด, Hiroshima + Fukuoka ก็คุณเข้าไปก็คือสามารถจัดทริปมาได้ 16 ครั้งแบบไม่ซ้ำกันได้เลยล่ะ (ก็นะใครที่เคยดูรายการ Say Hi! ของคุณติ๊ก ก็น่าจะเห็น ๆ กันอยู่ รายการบ้าอะไรไปแต่ที่ญี่ปุ่น แต่ก็ไปได้ไม่มีซ้ำ ไม่มีเบื่อ)
เอาจริง ๆ แล้วช่วงแรก ๆ ที่ผมมาญี่ปุ่นนี่ผมจะพยายามเขียนบันทึกการเดินทาง และก็ถ่ายรูปเยอะ ๆ เอามาลงเว็บอยู่เสมอ แต่แบบ 2 ครั้งล่าสุดที่มามันเหมือนกับเริ่มเบื่อที่จะเขียนไปแล้วก็เลยไม่ได้เขียนถึง แต่ทริปในครั้งนี้ที่หยิบเอาโน้ตบุ๊คขึ้นมาพิมพ์บันทึกการเดินทางกันอีกครั้งนึง สาเหตุก็อาจจะเป็นเพราะว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้มากับแฟนผม (ฮิ้วววว) และก็ได้มาในหน้าหนาว หน้าที่ผมชื่นชอบเหลือเกิน แต่เพิ่งจะเคยมีโอกาสมาแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
ทริปนี้หลัก ๆ แล้วผมก็จะอยู่โตเกียว 4 วันอาจจะไปในที่ที่เคยไปมาแล้วบ้าง, ไม่เคยไปบ้าง และก็จะไป Hokkaido อีก 5 วัน มีไปเมือง Sapporo 2 วัน, Furano 2 วันและ Otaru 1 วัน ซึ่งเบ็ดเสร็จแล้วก็กินเวลาทั้งหมด 9 วันโดยประมาณ ทริปนี้ถ้าเอาตามจริงผมแอบเสียดายที่แบบอุตส่าห์มาเกาะเหนือของญี่ปุ่นทั้งทีและมาในหน้าหนาวด้วย แต่ว่าไปไม่สุดครับ ไม่ได้ไป Asahikawa ไม่ได้ไป ฝั่งขวาของเกาะไปดูเรือตัดน้ำแข็ง, ไปดูนกกระสาสู้กันอะไรพวกนั้น สาเหตุที่ไม่ได้ไปก็ง่าย ๆ เลย พ่อแม่ผมขี้เกียจเปลี่ยนโรงแรมบ่อย ... แป่ว! (เพราะว่าไปเมืองด้านขวา ๆ นี่ต้องเปลี่ยนโรงแรมทุกคืนเลยล่ะครับ ตอนแรกว่าจะเช่ารถขับแต่ก็กลัวเรื่องหิมะ, น้ำแข็งบนท้องถนนกัน เฮ้อเสียดายจริง ๆ)