กระทู้นี้ขอพูด คห ส่วนตัวในเรื่องการแสดงของ บอม ธนิน นิดนึงนะครับ
บอมเป็นคนที่แสดงละครไม่ผ่านมากๆ ตั้งแต่เรื่องแรกจนเรื่องนี้ ฝีมือไม่มีการพัฒนาขึ้นเลยแม้แต่น้อย ตาลอย ไม่มีอินเนอ์เหมือนทำไปตามบท
ยิ้มตรงนี้น่ะ พอเดินมาถึงตรงนี้ต้องทำหน้าซีเรียส คือทำให้ไม่เชื่อในบทของตัวละครนั้นๆเลย เหมือนไม่เคยเรียนแอคติ้งกับศึกษาบทตัวละครมาก่อน
ผมชอบระบบของเมืองนอกตรงที่ นักแสดงแต่ละคน แข่งขันกันสูงมาก แคสติ้งเป็นสิบๆเรื่อง กว่าจะได้เล่นเรื่องนึง เพราะฉนั้นเวลาเค้าได้รับโอกาส เค้าจะรู้ว่ามันมีคุณค่ามาก เพราะเค้ามองว่านี่คืออาชีพของเค้า ทำให้เค้าตั้งใจทำมันดีที่สุด ตั้งแต่ ศึกษาแบร็คกราวของตัวละครและความรู้สึกนึกคิดต่างๆ ผมเห็นแฟนคลับหลายคนของหลายๆศลป ชอบบอกว่า ไม่เป็นไรเรื่องแรก เรื่องสอง ให้โอกาส แต่ผมไม่เห็นด้วยนะครับ ผมคิดว่าการจะมาทำอาชีพๆนึง ยิ่งการเป็นดาราที่ได้รับค่าตอบแทนสูงแล้วเนี่ย คุณต้องมีความพร้อมระดับหนึ่ง กลับกัน ถ้าเป็นแพทย์ไม่มีความสามารถ ทำคนไข้ตาย ยังจะพูดได้ไหมครับว่า พึ่งรักษาคนแรก ให้โอกาส คนสองคนสาม เพราะฉนั้นก่อนที่จะได้รับโอกาสเรื่องแรก คุณควรจะมีความพร้อมในระดับหนึ่ง และมีความตั้งใจกับงานที่ได้รับมอบหมายก่อน เหมือนนักแสดงเมืองนอก ไม่ได้ใช้บทมายัดเยียดว่านี่เศร้าน่ะ หรือนักแสดงแสดงออกแบบร้องไห้ฟูมฟาย แต่เค้าสามารถส่งอารมณ์จากข้างในมาให้คนดูดูว่า เค้ารู้สึกแบบนั้นจริงๆ ทำให้คนที่ดูอินตามไปได้ เพราะบอกตรงๆ ผมไม่เห็นด้วยกับคนที่ไม่มีความสามารถ ไม่มีความตั้งใจเลย แต่ได้รับโอกาสซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะผู้จัดเอ็นดู
ฝากถึงผู้จัดทั้งหลายด้วยนะครับ บางทีการอุปถัมภ์ ชอบคนนั้น เอ็นดูคนนี้ เลยเอามาเล่น มันทำให้งานหลายๆอย่างเสีย และออกมาไม่ดี อย่างคิวบิก บทสนุก ในนิยายก็ตื่นเต้น แต่เอาคนที่ยังไม่พร้อมแบบนี้มาเล่น ทำให้ความสุกของละครลดลงไปเยอะมาก
เป็นไปได้ไหมครับที่ประเทศไทยจะเปลี่ยนมาใช้ระบบแคสติ้งเอาคนที่เหมาะสมกับบทและแสดงได้มารับบทเป็นตัวละครนั้นๆ ผมว่าเลิกสักทีกับการเดินไปเจอคนนั้นคนนี้ที่สยามแล้วแบบ น่ารักจัง เอามาลงละครดีกว่า ผมว่าอย่างน้อย ถ้าจะเอามาใช้งาน มาดันแล้ว สิ่งที่ควรจะมาพร้อมกันคือฝีมือนะครับ
การแสดงของบอมธนินและระบบอุปถัมภ์ในวงการบันเทิงไทย
บอมเป็นคนที่แสดงละครไม่ผ่านมากๆ ตั้งแต่เรื่องแรกจนเรื่องนี้ ฝีมือไม่มีการพัฒนาขึ้นเลยแม้แต่น้อย ตาลอย ไม่มีอินเนอ์เหมือนทำไปตามบท
ยิ้มตรงนี้น่ะ พอเดินมาถึงตรงนี้ต้องทำหน้าซีเรียส คือทำให้ไม่เชื่อในบทของตัวละครนั้นๆเลย เหมือนไม่เคยเรียนแอคติ้งกับศึกษาบทตัวละครมาก่อน
ผมชอบระบบของเมืองนอกตรงที่ นักแสดงแต่ละคน แข่งขันกันสูงมาก แคสติ้งเป็นสิบๆเรื่อง กว่าจะได้เล่นเรื่องนึง เพราะฉนั้นเวลาเค้าได้รับโอกาส เค้าจะรู้ว่ามันมีคุณค่ามาก เพราะเค้ามองว่านี่คืออาชีพของเค้า ทำให้เค้าตั้งใจทำมันดีที่สุด ตั้งแต่ ศึกษาแบร็คกราวของตัวละครและความรู้สึกนึกคิดต่างๆ ผมเห็นแฟนคลับหลายคนของหลายๆศลป ชอบบอกว่า ไม่เป็นไรเรื่องแรก เรื่องสอง ให้โอกาส แต่ผมไม่เห็นด้วยนะครับ ผมคิดว่าการจะมาทำอาชีพๆนึง ยิ่งการเป็นดาราที่ได้รับค่าตอบแทนสูงแล้วเนี่ย คุณต้องมีความพร้อมระดับหนึ่ง กลับกัน ถ้าเป็นแพทย์ไม่มีความสามารถ ทำคนไข้ตาย ยังจะพูดได้ไหมครับว่า พึ่งรักษาคนแรก ให้โอกาส คนสองคนสาม เพราะฉนั้นก่อนที่จะได้รับโอกาสเรื่องแรก คุณควรจะมีความพร้อมในระดับหนึ่ง และมีความตั้งใจกับงานที่ได้รับมอบหมายก่อน เหมือนนักแสดงเมืองนอก ไม่ได้ใช้บทมายัดเยียดว่านี่เศร้าน่ะ หรือนักแสดงแสดงออกแบบร้องไห้ฟูมฟาย แต่เค้าสามารถส่งอารมณ์จากข้างในมาให้คนดูดูว่า เค้ารู้สึกแบบนั้นจริงๆ ทำให้คนที่ดูอินตามไปได้ เพราะบอกตรงๆ ผมไม่เห็นด้วยกับคนที่ไม่มีความสามารถ ไม่มีความตั้งใจเลย แต่ได้รับโอกาสซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะผู้จัดเอ็นดู
ฝากถึงผู้จัดทั้งหลายด้วยนะครับ บางทีการอุปถัมภ์ ชอบคนนั้น เอ็นดูคนนี้ เลยเอามาเล่น มันทำให้งานหลายๆอย่างเสีย และออกมาไม่ดี อย่างคิวบิก บทสนุก ในนิยายก็ตื่นเต้น แต่เอาคนที่ยังไม่พร้อมแบบนี้มาเล่น ทำให้ความสุกของละครลดลงไปเยอะมาก
เป็นไปได้ไหมครับที่ประเทศไทยจะเปลี่ยนมาใช้ระบบแคสติ้งเอาคนที่เหมาะสมกับบทและแสดงได้มารับบทเป็นตัวละครนั้นๆ ผมว่าเลิกสักทีกับการเดินไปเจอคนนั้นคนนี้ที่สยามแล้วแบบ น่ารักจัง เอามาลงละครดีกว่า ผมว่าอย่างน้อย ถ้าจะเอามาใช้งาน มาดันแล้ว สิ่งที่ควรจะมาพร้อมกันคือฝีมือนะครับ