มีหลายวิธีน่ะ

รูดซื้อทองคำแท่ง แล้วขายคืน ได้เงินสดมา

สมมุติ ราคาทองคำแท่ง บาทละ 20,000 บาท ซื้อมา 5 บาท เท่ากับ 100,000 บาท
จ่ายด้วยบัตรเครดิต มีค่าชาร์จ 3% = 3,000 บาท รวมจ่าย 103,000 บาท
และขายคืน ก็จะขายได้ที่ราคา 99,500 บาท ( เพราะทองแท่งจะมีส่วนต่าง 100 บาท ต่อ น้ำหนัก 1 บาท )
แต่หาก น้ำหนักทองคำแท่ง รวมกัน น้อยกว่า 5 บาท ต้องโดนค่าบำเหน็ด เพิ่มเติม
## แนะนำ คือ ต้องรูดซื้อทองคำแท่ง น้ำหนักขั้นต่ำ 5 บาท แถวเยาวราช แต่ต้องใช้เวลาเยอะ ขั้นตอนวุ่นวายชีวิต ##

มาคำนวณกัน
บาทละ 20,000 x 5 = 100,000 บาท บัตรเครดิตชาร์จ 3% = 103,000 บาท
ขายคืนที่  99,500 บาท ขาดทุนทันที 3,500 บาท หรือประมาณ 3.5%

รูดบัตรซื้อไอโฟน แล้วขายคืน ได้เงินสด

หาร้าน ที่รับรูดบัตรเป็นสด ส่วนใหญ่จะเป็นร้านมือถือ หรือ " หมีเพลินจิต " Google
ประมาณว่า หากคุณต้องการเงิน 100,000 บาท ทางร้านจะ **มีค่าชาร์จ 5%
วิธีก็คือ นำไอโฟนเครื่องใหม่ ในราคาประมาณ 5 หมื่น 2 เครื่อง ตั้งไว้เป็นพิธี
และรูดบัตร วงเงิน 100,000 บาท แต่คุณจะได้รับ 95,000 บาท
** แต่ใช้เวลาแค่ 15 นาที ไม่วุ่นวายมาก

รูดซื้อเงินต่างประเทศ แล้วเดินขาย ได้เงินสดมา

ไปซุปเปอร์ริชส้มๆ (ต้องเป็นจุดที่ซื้อเงินต่างประเทศได้น่ะ เช่นแถวประตูน้ำ ) เอาพาสปอร์ตไปด้วย.
เดินไปบอกมาซื้อเงินต่างประเทศ ด้วยบัตรเครดิต
พอรูดบัตรเสร็จ จะได้เงินรับ ต่างประเทศ ( มีชาร์จ 3 % )
แล้วเอาเงินต่างประเทศที่ได้มา เดินไปแลกคืนได้เลย  กับร้านเขียว ร้านชมพู ร้านน้ำเงิน แถวๆ นั้น
( ต้องคำนวณ ราคาก่อนซื้อ และราคาขายด้วย ต้องใช้เวลาพอสมควร ) รวมๆคงขาดทุน ประมาณ 4% / แสนละ 4 พัน
เดินไปบอกมาซื้อเงินต่างประเทศ ด้วยบัตรเครดิต
พอรูดบัตรเสร็จ จะได้เงินรับ ต่างประเทศ ( มีชาร์จ 3 % )
แล้วเอาเงินต่างประเทศที่ได้มา เดินไปแลกคืนได้เลย  กับร้านเขียว ร้านชมพู ร้านน้ำเงิน แถวๆ นั้น
( ต้องคำนวณ ราคาก่อนซื้อ และราคาขายด้วย ต้องใช้เวลาพอสมควร ) รวมๆคงขาดทุน ประมาณ 4% / แสนละ 4 พัน
** แต่จะวุ่นวาย พอสมควร ช่วงนี้โควิด