300: Rise of an Empire (2014)
รีวิวนี้คือความเห็นของคนที่เป็นแฟน '300' ภาคกำกับโดย Zack Snyder ถ้าถามว่าชอบขนาดไหน ก็ต้องบอกว่าเป็นหนังแอ็คชั่นที่ชอบมากระดับติด 1 ใน 250 หนังโปรดในดวงใจล่ะครับ ดังนั้นเรื่องอคติหรือไม่ชอบหนังแนวนี้ตัดออกไปได้เลยครับ เพราะนี่มันแนวโปรดของผมเลย
ตอนได้ข่าวว่าเฮียสไนเดอร์ไม่ได้เป็นคนกำกับภาคต่อ ใจผมก็รู้ละว่าหนังเจ๊งบ๊งแน่ เห็นมาหลายเรื่องแล้วที่ภาคต่อเปลี่ยนผู้กำกับ ไม่เคยเห็นจะออกมาดีสักที (X-Men The Last Stand, Kick-Ass 2) ตอนได้ยินชื่อ Noam Murro นี่ยังงงเลยว่าเป็นใครฟะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตอนสตูดิโอทำโปรโมทหนังถึงต้องแปะป้าย 'โปรดิวเซอร์ โดย แซ็ค สไนเดอร์ ผกก. 300 และ Man of Steel'
300: Rise of an Empire เป็นภาคที่เล่น timeline ตีกินจากภาคแรกครับ ย้อนไป 10 ปีก่อนพ่อของ 'เซอร์เซส' ถูก 'ธีมิสโทเคิลส์' (Sullivan Stapleton) ฆ่าตายด้วยธนู รุ่นลูกก็มาโดนเป่าหูโดย 'อาร์ธีมีเซีย' (Eva Green) ว่าการรบกับกรีกคือความท้าทาย แล้วก็ไปชุบน้ำแฟนตาซีแปลงกายเป็น 'เซอร์เซส' กษัตริย์ตัวร้ายในภาคแรกนั่นแหละครับ ช่วงนี้ timeline ทับซ้อนกันครับ ฝั่ง 'ลีโอไนดัส' ภาคแรกก็รบอยู่ในภาคแรก ส่วน 'ธีมิสโทเคิลส์' ก็รบทางทะเลกับ 'อาร์ธีมีเซีย'
จากใจเลยว่าอย่าไปสนใจเนื้อเรื่องมันเลยครับ ปวดหัว
พูดถึงงานภาพก่อนว่ายังเอาเอกลักษณ์ของ 300 มาตีกินขายต่อได้เนียน ๆ เลยครับ แสงกระทบฝุ่น เปลวไฟลอยผ่านหน้ามันทุกฉาก โทนสีครึ้ม ๆ แบบภาคแรก เอาง่าย ๆ ว่าเหมือนเดิม
แต่ทำไมเอางานภาพมาแล้วไม่เอาฉากแอ็คชั่นเท่ ๆ ตามมาด้วยฟะ หนังเปิดฉากแรกเท่มากเลยนะ วิ่งถือดาบถือโล่ไล่ฟันศัตรู slow-motion เป๊ะมาก ฟ้าผ่าที slow ทีแหม่ จากนั้นหนังก็ลืม slow-motion เท่ ๆ ไปเลย ไปเน้นขายฉากฟันขาขาด แขนขาด หัวขาด เลือดสาดกระจาย คือแบบ.... เพลีย นี่หรือ 300 ของข้า
ฉากแอ็คชั่นน้อยมาก เสน่ห์ของฉากแอ็คชั่นในภาคแรกไม่รู้หายไปไหน แล้วมันไม่มีความน่าจดจำเลยสักฉาก จำได้แต่หัวขาด ขาขาด แขนขาดเอาสะใจคอหนังเลือดสาดอย่างเดียว
dialogue นี่ก็เป็นอะไรที่ดูแล้วเพลียมาก ประดิษฐ์อะไรกันขนาดนั้น ประดิษฐ์ไม่ว่านะถ้ามันออกมาดี นี่แบบ.... บางฉากตัวเอกก็พ่นคำคมปลุกใจไป ไอ้คนฟังก็ทำหน้าเข้าใจตาเป็นประกาย แต่คือคนดูแบบผมมึนตึ้บเลยว่าเอ็งฮึกเหิมยังไงฟะ ไอ้ดราม่าพ่อลูกเลียนแบบภาคแรกนี่ก็ทำออกมาได้ห่างชั้นกับเขาเหลือเกิน
ไหนจะฉากยุทธวิธีเรือรบกลางทะเลที่ห่วยแตกมาก (คือฝั่งนึงดูฉลาด อีกฝั่งดูโง๊โง่) ใครอยากหาหนังเรือรบโบราณดี ๆ ดูลองไปหา Master and Commander: The Far Side of the World (2003) ดูครับ ฉากเรือรบกลางทะเลเล่นง่ายมากหลายฉาก ที่เพลียสุดคือไอ้ฉากลูกไฟลูกเดียวเรือระเบิดทั้งกองทัพเนี่ยแหละ คือมันระเบิดกองทัพตัวเองด้วยไง จบง๊ายง่ายเนอะ แล้ว 'อาร์ธีมีเซีย' ที่บรรยายมาซะดิบดีว่าเก่งเทพ คือตกลงเก่งยังไงฟะ เห็นมีแต่ส่งแม่ทัพไปปั้นพระเอกทั้งนั้น
ที่สำคัญคือหนังโดนตัดด้วย ตัดฉากสำคัญด้วย น่าจะเป็นฉาก sex scene ของอีวา กรีนกับพระเอกนั่นแหละ เพราะตอนหลังมันมีบทพูดแปลก ๆ โห เซ็งมาก ฉากนั้นอีวากำลังปล่อยของแล้วเชียว
ป.ล. ตอนจบนี่คือเอ็งกะเผื่อไว้ทำภาคต่ออีกหรอ? นี่คือยังทำลายความทรงจำดี ๆ ที่มีต่อ 300 ไม่พอใช่ไหม?
Director: Noam Murro
graphic novel "Xerxes": Frank Miller
Screenplay: Zack Snyder, Kurt Johnstad
Genre: Action, Drama, War
6.5/10
หนังโปรดของข้าพเจ้า:
https://www.facebook.com/MyFavouriteFilms
300: Rise of an Empire - ความน่าอดสูของสตูดิโอที่ใช้ความสำเร็จของภาคแรกมาทำภาคต่อที่ไร้สิ้นเสน่ห์แบบที่สไนเดอร์เคยทำ
รีวิวนี้คือความเห็นของคนที่เป็นแฟน '300' ภาคกำกับโดย Zack Snyder ถ้าถามว่าชอบขนาดไหน ก็ต้องบอกว่าเป็นหนังแอ็คชั่นที่ชอบมากระดับติด 1 ใน 250 หนังโปรดในดวงใจล่ะครับ ดังนั้นเรื่องอคติหรือไม่ชอบหนังแนวนี้ตัดออกไปได้เลยครับ เพราะนี่มันแนวโปรดของผมเลย
ตอนได้ข่าวว่าเฮียสไนเดอร์ไม่ได้เป็นคนกำกับภาคต่อ ใจผมก็รู้ละว่าหนังเจ๊งบ๊งแน่ เห็นมาหลายเรื่องแล้วที่ภาคต่อเปลี่ยนผู้กำกับ ไม่เคยเห็นจะออกมาดีสักที (X-Men The Last Stand, Kick-Ass 2) ตอนได้ยินชื่อ Noam Murro นี่ยังงงเลยว่าเป็นใครฟะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตอนสตูดิโอทำโปรโมทหนังถึงต้องแปะป้าย 'โปรดิวเซอร์ โดย แซ็ค สไนเดอร์ ผกก. 300 และ Man of Steel'
300: Rise of an Empire เป็นภาคที่เล่น timeline ตีกินจากภาคแรกครับ ย้อนไป 10 ปีก่อนพ่อของ 'เซอร์เซส' ถูก 'ธีมิสโทเคิลส์' (Sullivan Stapleton) ฆ่าตายด้วยธนู รุ่นลูกก็มาโดนเป่าหูโดย 'อาร์ธีมีเซีย' (Eva Green) ว่าการรบกับกรีกคือความท้าทาย แล้วก็ไปชุบน้ำแฟนตาซีแปลงกายเป็น 'เซอร์เซส' กษัตริย์ตัวร้ายในภาคแรกนั่นแหละครับ ช่วงนี้ timeline ทับซ้อนกันครับ ฝั่ง 'ลีโอไนดัส' ภาคแรกก็รบอยู่ในภาคแรก ส่วน 'ธีมิสโทเคิลส์' ก็รบทางทะเลกับ 'อาร์ธีมีเซีย'
จากใจเลยว่าอย่าไปสนใจเนื้อเรื่องมันเลยครับ ปวดหัว
พูดถึงงานภาพก่อนว่ายังเอาเอกลักษณ์ของ 300 มาตีกินขายต่อได้เนียน ๆ เลยครับ แสงกระทบฝุ่น เปลวไฟลอยผ่านหน้ามันทุกฉาก โทนสีครึ้ม ๆ แบบภาคแรก เอาง่าย ๆ ว่าเหมือนเดิม
แต่ทำไมเอางานภาพมาแล้วไม่เอาฉากแอ็คชั่นเท่ ๆ ตามมาด้วยฟะ หนังเปิดฉากแรกเท่มากเลยนะ วิ่งถือดาบถือโล่ไล่ฟันศัตรู slow-motion เป๊ะมาก ฟ้าผ่าที slow ทีแหม่ จากนั้นหนังก็ลืม slow-motion เท่ ๆ ไปเลย ไปเน้นขายฉากฟันขาขาด แขนขาด หัวขาด เลือดสาดกระจาย คือแบบ.... เพลีย นี่หรือ 300 ของข้า
ฉากแอ็คชั่นน้อยมาก เสน่ห์ของฉากแอ็คชั่นในภาคแรกไม่รู้หายไปไหน แล้วมันไม่มีความน่าจดจำเลยสักฉาก จำได้แต่หัวขาด ขาขาด แขนขาดเอาสะใจคอหนังเลือดสาดอย่างเดียว
dialogue นี่ก็เป็นอะไรที่ดูแล้วเพลียมาก ประดิษฐ์อะไรกันขนาดนั้น ประดิษฐ์ไม่ว่านะถ้ามันออกมาดี นี่แบบ.... บางฉากตัวเอกก็พ่นคำคมปลุกใจไป ไอ้คนฟังก็ทำหน้าเข้าใจตาเป็นประกาย แต่คือคนดูแบบผมมึนตึ้บเลยว่าเอ็งฮึกเหิมยังไงฟะ ไอ้ดราม่าพ่อลูกเลียนแบบภาคแรกนี่ก็ทำออกมาได้ห่างชั้นกับเขาเหลือเกิน
ไหนจะฉากยุทธวิธีเรือรบกลางทะเลที่ห่วยแตกมาก (คือฝั่งนึงดูฉลาด อีกฝั่งดูโง๊โง่) ใครอยากหาหนังเรือรบโบราณดี ๆ ดูลองไปหา Master and Commander: The Far Side of the World (2003) ดูครับ ฉากเรือรบกลางทะเลเล่นง่ายมากหลายฉาก ที่เพลียสุดคือไอ้ฉากลูกไฟลูกเดียวเรือระเบิดทั้งกองทัพเนี่ยแหละ คือมันระเบิดกองทัพตัวเองด้วยไง จบง๊ายง่ายเนอะ แล้ว 'อาร์ธีมีเซีย' ที่บรรยายมาซะดิบดีว่าเก่งเทพ คือตกลงเก่งยังไงฟะ เห็นมีแต่ส่งแม่ทัพไปปั้นพระเอกทั้งนั้น
ที่สำคัญคือหนังโดนตัดด้วย ตัดฉากสำคัญด้วย น่าจะเป็นฉาก sex scene ของอีวา กรีนกับพระเอกนั่นแหละ เพราะตอนหลังมันมีบทพูดแปลก ๆ โห เซ็งมาก ฉากนั้นอีวากำลังปล่อยของแล้วเชียว
ป.ล. ตอนจบนี่คือเอ็งกะเผื่อไว้ทำภาคต่ออีกหรอ? นี่คือยังทำลายความทรงจำดี ๆ ที่มีต่อ 300 ไม่พอใช่ไหม?
Director: Noam Murro
graphic novel "Xerxes": Frank Miller
Screenplay: Zack Snyder, Kurt Johnstad
Genre: Action, Drama, War
6.5/10
หนังโปรดของข้าพเจ้า: https://www.facebook.com/MyFavouriteFilms