ก่อนอื่น ถึงใครต่อใครจะพยายามบอกว่ามันไม่ใช่ และไม่เกี่ยวอะไรกับ the letter
แต่แหม ปูเรื่องมาซะขนาดนี้แล้ว ให้คุณแม่มัทชื่อดิวเลยก็ได้นะคะ ทั้งยายเล็ก ผัดฟักแม้ว รวมไปถึงต้นบ๊วย
ช่างเถอะ เค้าจะว่าไงก็ว่าไป เราไม่เชื่อนี่นา ฮ่าๆ
เดิมทีแอบอ่านสปอยล์ รวมถึงบทวิจารณ์ไปมากพอสมควร ส่วนมากไม่ค่อยเชื่อว่าพระเอกจะรักนางเอก
แต่...(แต่อีกแล้ว) เราเชื่อ!!!
ส่วนตัวเราคิดว่า ผู้ชายส่วนใหญ่บนผืนแผ่นดินนี้มีลักษณะแบบเดียวกับแทนนี่แหล่ะ อยู่ที่ว่าจะพยายามกลบมันมากน้อยแค่ไหน
คนจำนวนมาก ไม่รู้เป้าหมายของตัวเอง ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทั่วไป หรือแม้แต่ความรัก
แทนก็เป็นผู้ชายคนนึงที่ค่อนข้างจะเก็บกดทีเดียวในวัยเด็ก เพราะรู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวแทนของพ่อตลอดเวลา
แทนจึงต้องการการยอมรับ เลยพยายามที่จะหลีกหนีจากการถูกมองว่าเป็นแค่ตัวแทน
บทนี้ส่วนตัวเราว่าน้องเจมส์ จิ เล่นได้ไม่เนียนนัก (แฟนคลับอย่าว่าเค้านะ)
ดูฝืนๆ สุขก็ไม่สุขเต็มร้อย ทุกข์ก็ไม่ทุกข์เต็มที่ อารมณ์ยังไม่เพียงพอที่จะดึงความรู้สึกของเราให้อินกับตัวละครได้
ยังแสดงความสับสนออกมาไม่ชัดเจน
แต่ แต่ แต่ และแต่ เจมส์ จิ น่ารักมากค๊าาาา เจ๊อภัยให้ >.<
มาด้านนางเอกของเรื่อง น้องเต้ย จรินทรพร ต้องขอบอกจากใจแบบลำเอียงๆ ก่อน ว่าเราค่อนข้างเชื่อมั่นใจฝีมือการแสดงของน้องเต้ย
และ...ไม่ผิดหวังค่ะ บทจูนนั้นคือตัวเต้ย ที่ทำให้เราเชื่อหมดใจในความรัก และความเป็นตัวของตัวเองของผู้หญิงคนนี้
(อวยเว่อร์ไปมั้ย 555)
อีกคนที่ขาดไม่ได้ในเรื่องนี้ คือบท คุณแม่มัท ที่ได้พี่ป๊อก ปิยธิดา มาแสดง ขึ้นชื่อว่าพี่ป๊อก ทำเราน้ำตาแตกได้อยู่แล้ว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเราถึงรู้สึกอินกับตัวละครตัวนี้ที่สุด ทั้งที่บทสูญเสียคนรัก และบทแม่ไกลตัวเราที่สุด
ขอชื่นชมการแสดงของพี่ป๊อก แสดงดีมาก สีหน้า แววตา ถ้อยคำ เป็นตัวละครที่ละมุนละไมจริงๆ
มาว่ากันด้วยบทหนัง คือไม่รู้เหมือนกันว่าผกก.ตั้งใจจะสื่อความหมายแบบที่เราคิดรึเปล่า
จูนที่ดูเหมือนสดใสร่าเริง ทำอะไรตามใจตัวเอง อิสระไม่มีกรอบ แท้จริงแล้วเรารู้สึกว่าเค้ากำลังกลัวและกังวล
ลึกๆ กลัวว่าจะต้องสูญเสีย กลัวว่าจะไม่ได้ทำในทุกสิ่งที่ฝันไว้ พยายามวิ่งไล่ตามความฝัน
อาจจะเนื่องมาจากอุบัติเหตุในวัยเด็ก ทำให้ฝังใจ พยายามใช้ชีวิตอย่างที่คิดว่าเต็มที่ที่สุด
ตัวแทนก็สับสนกับชีวิต ชอบประโยคที่จูนบอกแทนว่า "แทนควรทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ ไม่ใช่คนอื่นชอบ"
โดนเลยค่ะ เราเชื่อว่าหลายๆ คน ทำในสิ่งที่ไม่รู้ว่าตัวเองชอบหรือเปล่า
ทำงานไป โดยละทิ้งความฝันในวัยเด็ก หรืออาจจะลืมไปแล้วก็ได้ ว่าครั้งนึงเคยฝันถึงอะไร
พอหนังจบ เราก็ลุกออกจากโรง พร้อมประกายความฝันที่ครั้งนึงเราลืมเลือนไป
ขอบคุณ "Timeline จดหมาย-ความทรงจำ" ที่ทำให้รู้ว่า อย่ารั้งรอ ลังเล เพราะวันพรุ่งนี้ อาจจะไม่มาถึงก็ได้
ปล.ทะเลเรืองแสง สวยมาก สวยจนคิดในใจว่า อยากไปสัมผัสด้วยตาสักครั้ง (ได้ข่าวว่าเป็น CG นะยะหล่อน)
Timeline ทันยุค ทันสมัย ภาคอนาคตของ the letter
แต่แหม ปูเรื่องมาซะขนาดนี้แล้ว ให้คุณแม่มัทชื่อดิวเลยก็ได้นะคะ ทั้งยายเล็ก ผัดฟักแม้ว รวมไปถึงต้นบ๊วย
ช่างเถอะ เค้าจะว่าไงก็ว่าไป เราไม่เชื่อนี่นา ฮ่าๆ
เดิมทีแอบอ่านสปอยล์ รวมถึงบทวิจารณ์ไปมากพอสมควร ส่วนมากไม่ค่อยเชื่อว่าพระเอกจะรักนางเอก
แต่...(แต่อีกแล้ว) เราเชื่อ!!!
ส่วนตัวเราคิดว่า ผู้ชายส่วนใหญ่บนผืนแผ่นดินนี้มีลักษณะแบบเดียวกับแทนนี่แหล่ะ อยู่ที่ว่าจะพยายามกลบมันมากน้อยแค่ไหน
คนจำนวนมาก ไม่รู้เป้าหมายของตัวเอง ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทั่วไป หรือแม้แต่ความรัก
แทนก็เป็นผู้ชายคนนึงที่ค่อนข้างจะเก็บกดทีเดียวในวัยเด็ก เพราะรู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวแทนของพ่อตลอดเวลา
แทนจึงต้องการการยอมรับ เลยพยายามที่จะหลีกหนีจากการถูกมองว่าเป็นแค่ตัวแทน
บทนี้ส่วนตัวเราว่าน้องเจมส์ จิ เล่นได้ไม่เนียนนัก (แฟนคลับอย่าว่าเค้านะ)
ดูฝืนๆ สุขก็ไม่สุขเต็มร้อย ทุกข์ก็ไม่ทุกข์เต็มที่ อารมณ์ยังไม่เพียงพอที่จะดึงความรู้สึกของเราให้อินกับตัวละครได้
ยังแสดงความสับสนออกมาไม่ชัดเจน
แต่ แต่ แต่ และแต่ เจมส์ จิ น่ารักมากค๊าาาา เจ๊อภัยให้ >.<
มาด้านนางเอกของเรื่อง น้องเต้ย จรินทรพร ต้องขอบอกจากใจแบบลำเอียงๆ ก่อน ว่าเราค่อนข้างเชื่อมั่นใจฝีมือการแสดงของน้องเต้ย
และ...ไม่ผิดหวังค่ะ บทจูนนั้นคือตัวเต้ย ที่ทำให้เราเชื่อหมดใจในความรัก และความเป็นตัวของตัวเองของผู้หญิงคนนี้
(อวยเว่อร์ไปมั้ย 555)
อีกคนที่ขาดไม่ได้ในเรื่องนี้ คือบท คุณแม่มัท ที่ได้พี่ป๊อก ปิยธิดา มาแสดง ขึ้นชื่อว่าพี่ป๊อก ทำเราน้ำตาแตกได้อยู่แล้ว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเราถึงรู้สึกอินกับตัวละครตัวนี้ที่สุด ทั้งที่บทสูญเสียคนรัก และบทแม่ไกลตัวเราที่สุด
ขอชื่นชมการแสดงของพี่ป๊อก แสดงดีมาก สีหน้า แววตา ถ้อยคำ เป็นตัวละครที่ละมุนละไมจริงๆ
มาว่ากันด้วยบทหนัง คือไม่รู้เหมือนกันว่าผกก.ตั้งใจจะสื่อความหมายแบบที่เราคิดรึเปล่า
จูนที่ดูเหมือนสดใสร่าเริง ทำอะไรตามใจตัวเอง อิสระไม่มีกรอบ แท้จริงแล้วเรารู้สึกว่าเค้ากำลังกลัวและกังวล
ลึกๆ กลัวว่าจะต้องสูญเสีย กลัวว่าจะไม่ได้ทำในทุกสิ่งที่ฝันไว้ พยายามวิ่งไล่ตามความฝัน
อาจจะเนื่องมาจากอุบัติเหตุในวัยเด็ก ทำให้ฝังใจ พยายามใช้ชีวิตอย่างที่คิดว่าเต็มที่ที่สุด
ตัวแทนก็สับสนกับชีวิต ชอบประโยคที่จูนบอกแทนว่า "แทนควรทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ ไม่ใช่คนอื่นชอบ"
โดนเลยค่ะ เราเชื่อว่าหลายๆ คน ทำในสิ่งที่ไม่รู้ว่าตัวเองชอบหรือเปล่า
ทำงานไป โดยละทิ้งความฝันในวัยเด็ก หรืออาจจะลืมไปแล้วก็ได้ ว่าครั้งนึงเคยฝันถึงอะไร
พอหนังจบ เราก็ลุกออกจากโรง พร้อมประกายความฝันที่ครั้งนึงเราลืมเลือนไป
ขอบคุณ "Timeline จดหมาย-ความทรงจำ" ที่ทำให้รู้ว่า อย่ารั้งรอ ลังเล เพราะวันพรุ่งนี้ อาจจะไม่มาถึงก็ได้
ปล.ทะเลเรืองแสง สวยมาก สวยจนคิดในใจว่า อยากไปสัมผัสด้วยตาสักครั้ง (ได้ข่าวว่าเป็น CG นะยะหล่อน)