จากที่ผมเห็นมาหลายโรงพยาบาลพยายามที่จะเเยกเด็กป่วยเเละเด็กไม่ป่วยออกจากกัน
เเต่จะมีคุณเเม่หลายๆคนที่ไม่มีจิตสำนึกเลย ชอบพาลูกที่ป่วยมาเล่นของเล่นในฝั่งของเด็กที่ไม่ป่วย
(ส่วนมากของเล่นในส่วนของเด็กที่ไม่ป่วยจะโล่งๆ)
เเล้วคุณลูกของท่านเหล่านั้นก็ทั้งไอ จาม ทั้งน้ำมูก น้ำลาย
คือมันพาให้เด็กที่มาฉีดยาหรือมาปรึกษาเเพทย์ด้วยอาการอื่นๆติดเชื่อไปด้วย
บางครั้งเด็กเล็กๆยังพอว่า เเต่บางคนนี่เป็นเด็กประมาณ 6-8 ขวบ
บางทีที่เห็นก็คุณเเม่เองที่น้ำมูกยืด ทั้งไอเเละจาม เเต่ก็ไม่ยอมใส่หน้ากากปิดปาก
ผมมีบอกไปทางพยาบาลหลายครั้งเเล้ว เเต่พยาบาลก็บอกว่าทำอะไรมากก็ไม่ได้ เพราะบางครั้งลูกค้าก็โวยวาย
พยาบาลบอกว่าเเม่บางคนกลัวลูกจะติดเชื้อเพิ่มเวลาไปอยู่ฝั่งเด็กป่วย เลยพามาที่ฝั่งเด็กไม่ป่วย เเต่คุณเเม่เหล่านั้นไม่
เคยคิดหรือนึกถึงเด็กที่ไม่ป่วยเเล้วมารับเชื้อจากลูกของท่านเลย
เมื่อวานนี้ก็เพิ่งเจอจะๆเลยคนนึง น้องเค้าคงจะเเอดมิดอยู่ในโรงพยาบาลเพราะน้องเค้า
นั่งในรถเข็นเด็กพ่วงด้วยสายน้ำเกลือเเละมีเเผ่นดูดความร้อนเเปะที่หัว คุณเเม่ก็พาลงมาเล่นข้างล่างไล่ป้อนข้าวกันในฝั่งเด็กไม่ป่วย
เคยคุยกับคุณหมอเรื่องนี้เช่นกัน เเต่คุณหมอก็ได้เเต่บอกว่ามันกันยากเเยกยากเเละก็ทำอะไรไม่ค่อยได้ ต้องเเล้วเเต่จิตสำนึกของเเต่ละคน
ผลสรุปถ้าเป็นเเบบนี้ก็ไม่รู้จะเเยกฝั่งกันทำไม
ลูกของผมเอง 2 ขวบ เเจ๊กพ็อตเเตก ติดมาสองรอบเเล้วเพราะไปฉีดยาตามนัดที่โรงพยาบาล
ครั้งเเรกตอน ขวบนึง เป็น RSV
ครั้งที่สองตอนสองขวบ เป็นไข้หวัดใหญ่ 2009
ตอนนี้เวลาพาลูกไปฉีดยาค่อนข้างจะนอยด์หนักเลยกลัวว่าจะไปติดอะไรมาอีกรึปล่าว
ตัวลูกผมเองเคยให้ใส่หน้ากากก็ใส่ไม่ทน เธอจะคอยเเกะออกตลอด
คือที่มาเขียนนี่อยากจะขอให้คุณเเม่หลายๆคนมีจิตสำนึกกันซักหน่อยเวลาพาลูกไปหาหมอ
จะว่าไปใครก้ตาม ยิ่งถ้าท่านต้องเดินทางในที่สาธารณะด้วยเเล้ว ถ้าป่วยช่วยใส่หน้ากากอนามัยด้วย
จะได้ไม่เอาเชื้อโรคไปเเพร่ให้คนอื่น ตัวผมเองเวลาไม่สบายจะใส่หน้ากากทุกครั้งเวลาออกไปข้างนอก
ผมเกรงใจคนอื่นเค้า ยิ่งเวลาถ้ามีน้ำมูกหรือไอจาม
อยากจะขอร้องคุณเเม่หลายๆคนให้มีจิตสำนึกบ้างเวลาพาลูกไปโรงพยาบาล
เเต่จะมีคุณเเม่หลายๆคนที่ไม่มีจิตสำนึกเลย ชอบพาลูกที่ป่วยมาเล่นของเล่นในฝั่งของเด็กที่ไม่ป่วย
(ส่วนมากของเล่นในส่วนของเด็กที่ไม่ป่วยจะโล่งๆ)
เเล้วคุณลูกของท่านเหล่านั้นก็ทั้งไอ จาม ทั้งน้ำมูก น้ำลาย
คือมันพาให้เด็กที่มาฉีดยาหรือมาปรึกษาเเพทย์ด้วยอาการอื่นๆติดเชื่อไปด้วย
บางครั้งเด็กเล็กๆยังพอว่า เเต่บางคนนี่เป็นเด็กประมาณ 6-8 ขวบ
บางทีที่เห็นก็คุณเเม่เองที่น้ำมูกยืด ทั้งไอเเละจาม เเต่ก็ไม่ยอมใส่หน้ากากปิดปาก
ผมมีบอกไปทางพยาบาลหลายครั้งเเล้ว เเต่พยาบาลก็บอกว่าทำอะไรมากก็ไม่ได้ เพราะบางครั้งลูกค้าก็โวยวาย
พยาบาลบอกว่าเเม่บางคนกลัวลูกจะติดเชื้อเพิ่มเวลาไปอยู่ฝั่งเด็กป่วย เลยพามาที่ฝั่งเด็กไม่ป่วย เเต่คุณเเม่เหล่านั้นไม่
เคยคิดหรือนึกถึงเด็กที่ไม่ป่วยเเล้วมารับเชื้อจากลูกของท่านเลย
เมื่อวานนี้ก็เพิ่งเจอจะๆเลยคนนึง น้องเค้าคงจะเเอดมิดอยู่ในโรงพยาบาลเพราะน้องเค้า
นั่งในรถเข็นเด็กพ่วงด้วยสายน้ำเกลือเเละมีเเผ่นดูดความร้อนเเปะที่หัว คุณเเม่ก็พาลงมาเล่นข้างล่างไล่ป้อนข้าวกันในฝั่งเด็กไม่ป่วย
เคยคุยกับคุณหมอเรื่องนี้เช่นกัน เเต่คุณหมอก็ได้เเต่บอกว่ามันกันยากเเยกยากเเละก็ทำอะไรไม่ค่อยได้ ต้องเเล้วเเต่จิตสำนึกของเเต่ละคน
ผลสรุปถ้าเป็นเเบบนี้ก็ไม่รู้จะเเยกฝั่งกันทำไม
ลูกของผมเอง 2 ขวบ เเจ๊กพ็อตเเตก ติดมาสองรอบเเล้วเพราะไปฉีดยาตามนัดที่โรงพยาบาล
ครั้งเเรกตอน ขวบนึง เป็น RSV
ครั้งที่สองตอนสองขวบ เป็นไข้หวัดใหญ่ 2009
ตอนนี้เวลาพาลูกไปฉีดยาค่อนข้างจะนอยด์หนักเลยกลัวว่าจะไปติดอะไรมาอีกรึปล่าว
ตัวลูกผมเองเคยให้ใส่หน้ากากก็ใส่ไม่ทน เธอจะคอยเเกะออกตลอด
คือที่มาเขียนนี่อยากจะขอให้คุณเเม่หลายๆคนมีจิตสำนึกกันซักหน่อยเวลาพาลูกไปหาหมอ
จะว่าไปใครก้ตาม ยิ่งถ้าท่านต้องเดินทางในที่สาธารณะด้วยเเล้ว ถ้าป่วยช่วยใส่หน้ากากอนามัยด้วย
จะได้ไม่เอาเชื้อโรคไปเเพร่ให้คนอื่น ตัวผมเองเวลาไม่สบายจะใส่หน้ากากทุกครั้งเวลาออกไปข้างนอก
ผมเกรงใจคนอื่นเค้า ยิ่งเวลาถ้ามีน้ำมูกหรือไอจาม