สวัสดีครับ
ปกติผมไม่ค่อยจะโพสในพันทิปซักเท่าไหร่ (อ่านอย่างเดียว 555 5 5) แต่เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาไปเจอเรื่องราวดีๆ ที่อ่านแล้วน้ำตาซึมเลย TT อยากจะมาแชร์ให้ทุกคนในพันทิปได้อ่านกันครับ
เรื่องมันเกิดขึ้น เมื่อผมได้เข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ย่านสีลม ในหน้าที่เว็บมาสเตอร์ (ซึ่งแทบทุกวันจะนั่งขลุกๆ อยู่กับคอมพิวเตอร์ ไม่ค่อยได้ไปไหน) จนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมาเป็นวันครบรอบก่อตั้งโรงพยาบาลพอดี ก็เลยได้มีโอกาสไปช่วยงานด้วย
โดยมีนิทรรศการภาพวาดสีน้ำมัน เกี่ยวกับประวัติโรงพยาบาล (สวยดี) แล้วก็มีเกี่ยวกับเรื่องมะเร็งเต้านมด้วย เห็นว่าเปิดศูนย์รักษามะเร็งเต้านม ระดมเงินทุนบริจาคเพื่อนำไปเป็นทุนวิจัยฯ ผมก็ได้รับมอบหมายหน้าที่ ในการอธิบายภาพๆ นึง ซึ่งความหมายของภาพนั้นดีมากๆ มาจากเหตุการณ์จริงที่โรงพยาบาลเลยทีเดียว แต่กลัวผมเล่าเองจะไม่อิน เลยไปก๊อปจากหน้าเพจมาให้อ่านครับ

" ในปี 2005 งานแต่งงานเล็กๆ ถูกจัดขึ้นที่ห้องพักคนไข้บนชั้น 6 ให้แก่บุตรีของคนไข้ก่อนที่เขาจะจากเธอไป
เดือน ก.ค. 2005 เป็นเดือนที่ Ariane Baldwin บุตรีของคนไข้ Bryan Baldwin จะเข้าสู่ประตูวิวาห์กับคู่หมั้นของเธอโดยคุณพ่อของเธอจะเป็นผู้ส่งตัวเจ้าสาว แต่คุณพ่อของเธอกำลังป่วยในระยะสุดท้ายก่อนจะถึงวันวิวาห์ นั่นหมายความว่าคุณพ่อของเธออาจไม่มีโอกาสได้ส่งตัวเธอหรือแม้กระทั่งร่วมงานแต่งของเธอเลยก็เป็นได้ เมื่อเรื่องทราบถึงผู้บริหาร งานแต่งงานเล็กๆ นี้ก็ถูกจัดขึ้นในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน
ด้วยความช่วยเหลือของผู้บริหารโรงพยาบาลและพนักงาน ห้องพักคนไข้ถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้อันสวยงาม ของว่างและอาหารรับรองแขกคนสำคัญของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจากสโมสรอังกฤษ (British Club) ถูกนำมาเสิร์ฟและจัดวางไว้อย่างสวยงาม พร้อมด้วยเค้กแต่งงานก้อนใหญ่และงดงามจากโรงแรมแลนด์มาร์ค เจ้าบ่าวและเจ้าสาวพร้อมแล้วสำหรับงานแต่งงานครั้งสำคัญครั้งนี้ เมื่อทุกอย่างพร้อม วงดนตรีคลาสสิคจากกองดุริยางค์ทหารเรือเริ่มบรรเลงดนตรีต้อนรับแขกที่ล้วนแต่เป็นคนสนิทของทั้ง 2 ฝ่าย เจ้าหน้าที่เวรเปลและพยาบาลพาคนไข้ออกมาจากห้องอย่างระมัดระวังมาที่หน้าพิธี ซึ่งคือส่วนห้องนั่งเล่นของห้องพักคนไข้แบบ President Suite
พิธีแต่งงานแบบคริสต์เริ่มขึ้น โดยท่านบาทหลวง Andrew Dircks จากโบสถ์ไคร้สท์เชิร์ช คนไข้ที่ถึงแม้จะอ่อนแรงแต่ก็พยายามรวบรวมกำลังขึ้นมานั่งเพื่อร่วมงานสำคัญของลูกสาวจนกระทั่งเสร็จสิ้นพิธีการทั้งหมด พิธีการเป็นไปอย่างเรียบง่ายและกระชับเพื่อให้คนไข้ไม่เหนื่อยมากและจบลงด้วยการอวยพรและอ้อมกอดจากผู้เป็นพ่อแก่ลูกสาวอันเป็นที่รักยิ่งและฝ่ายชายผู้ที่จะมาทำหน้าที่ดูแลเธอแทนเค้า
อีกไม่นานหลังจากวันแต่งงาน คนไข้ ผู้เป็นพ่อก็จากไปอย่างสงบ"
ที่ซึ้งยิ่งกว่าคือ ในเฟสบุ๊คของแฟนเพจ โรงพยาบาลนี้ มีเจ้าสาวตัวจริง มาคอมเมนต์ขอบคุณด้วย โหยย ยังกะหนังโรแมนติก
https://www.facebook.com/BNHHospitalfanpage/photos/p.778093242220418/778093242220418/?type=1&theater
ผมว่านี่เป็นประสบการณ์ที่ซึ้งกินใจเรื่องหนึ่งของผมเลย ใครมีเรื่องราวดีๆ มาแชร์กันได้ในกระทู้นี้นะครับ
[กระทู้น้ำตาซึม] รพ. จัดงานแต่งให้ลูกสาวผู้ป่วย ก่อนถึงวาระสุดท้ายในชีวิต
ปกติผมไม่ค่อยจะโพสในพันทิปซักเท่าไหร่ (อ่านอย่างเดียว 555 5 5) แต่เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาไปเจอเรื่องราวดีๆ ที่อ่านแล้วน้ำตาซึมเลย TT อยากจะมาแชร์ให้ทุกคนในพันทิปได้อ่านกันครับ
เรื่องมันเกิดขึ้น เมื่อผมได้เข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ย่านสีลม ในหน้าที่เว็บมาสเตอร์ (ซึ่งแทบทุกวันจะนั่งขลุกๆ อยู่กับคอมพิวเตอร์ ไม่ค่อยได้ไปไหน) จนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมาเป็นวันครบรอบก่อตั้งโรงพยาบาลพอดี ก็เลยได้มีโอกาสไปช่วยงานด้วย
โดยมีนิทรรศการภาพวาดสีน้ำมัน เกี่ยวกับประวัติโรงพยาบาล (สวยดี) แล้วก็มีเกี่ยวกับเรื่องมะเร็งเต้านมด้วย เห็นว่าเปิดศูนย์รักษามะเร็งเต้านม ระดมเงินทุนบริจาคเพื่อนำไปเป็นทุนวิจัยฯ ผมก็ได้รับมอบหมายหน้าที่ ในการอธิบายภาพๆ นึง ซึ่งความหมายของภาพนั้นดีมากๆ มาจากเหตุการณ์จริงที่โรงพยาบาลเลยทีเดียว แต่กลัวผมเล่าเองจะไม่อิน เลยไปก๊อปจากหน้าเพจมาให้อ่านครับ
" ในปี 2005 งานแต่งงานเล็กๆ ถูกจัดขึ้นที่ห้องพักคนไข้บนชั้น 6 ให้แก่บุตรีของคนไข้ก่อนที่เขาจะจากเธอไป
เดือน ก.ค. 2005 เป็นเดือนที่ Ariane Baldwin บุตรีของคนไข้ Bryan Baldwin จะเข้าสู่ประตูวิวาห์กับคู่หมั้นของเธอโดยคุณพ่อของเธอจะเป็นผู้ส่งตัวเจ้าสาว แต่คุณพ่อของเธอกำลังป่วยในระยะสุดท้ายก่อนจะถึงวันวิวาห์ นั่นหมายความว่าคุณพ่อของเธออาจไม่มีโอกาสได้ส่งตัวเธอหรือแม้กระทั่งร่วมงานแต่งของเธอเลยก็เป็นได้ เมื่อเรื่องทราบถึงผู้บริหาร งานแต่งงานเล็กๆ นี้ก็ถูกจัดขึ้นในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน
ด้วยความช่วยเหลือของผู้บริหารโรงพยาบาลและพนักงาน ห้องพักคนไข้ถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้อันสวยงาม ของว่างและอาหารรับรองแขกคนสำคัญของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจากสโมสรอังกฤษ (British Club) ถูกนำมาเสิร์ฟและจัดวางไว้อย่างสวยงาม พร้อมด้วยเค้กแต่งงานก้อนใหญ่และงดงามจากโรงแรมแลนด์มาร์ค เจ้าบ่าวและเจ้าสาวพร้อมแล้วสำหรับงานแต่งงานครั้งสำคัญครั้งนี้ เมื่อทุกอย่างพร้อม วงดนตรีคลาสสิคจากกองดุริยางค์ทหารเรือเริ่มบรรเลงดนตรีต้อนรับแขกที่ล้วนแต่เป็นคนสนิทของทั้ง 2 ฝ่าย เจ้าหน้าที่เวรเปลและพยาบาลพาคนไข้ออกมาจากห้องอย่างระมัดระวังมาที่หน้าพิธี ซึ่งคือส่วนห้องนั่งเล่นของห้องพักคนไข้แบบ President Suite
พิธีแต่งงานแบบคริสต์เริ่มขึ้น โดยท่านบาทหลวง Andrew Dircks จากโบสถ์ไคร้สท์เชิร์ช คนไข้ที่ถึงแม้จะอ่อนแรงแต่ก็พยายามรวบรวมกำลังขึ้นมานั่งเพื่อร่วมงานสำคัญของลูกสาวจนกระทั่งเสร็จสิ้นพิธีการทั้งหมด พิธีการเป็นไปอย่างเรียบง่ายและกระชับเพื่อให้คนไข้ไม่เหนื่อยมากและจบลงด้วยการอวยพรและอ้อมกอดจากผู้เป็นพ่อแก่ลูกสาวอันเป็นที่รักยิ่งและฝ่ายชายผู้ที่จะมาทำหน้าที่ดูแลเธอแทนเค้า
อีกไม่นานหลังจากวันแต่งงาน คนไข้ ผู้เป็นพ่อก็จากไปอย่างสงบ"
ที่ซึ้งยิ่งกว่าคือ ในเฟสบุ๊คของแฟนเพจ โรงพยาบาลนี้ มีเจ้าสาวตัวจริง มาคอมเมนต์ขอบคุณด้วย โหยย ยังกะหนังโรแมนติก
https://www.facebook.com/BNHHospitalfanpage/photos/p.778093242220418/778093242220418/?type=1&theater
ผมว่านี่เป็นประสบการณ์ที่ซึ้งกินใจเรื่องหนึ่งของผมเลย ใครมีเรื่องราวดีๆ มาแชร์กันได้ในกระทู้นี้นะครับ