คิดอย่างนี้แล้วเหมือนคนใจร้ายเลย...

กระทู้สนทนา
ผมไม่เข้าใจเสมอมานะครับ
เกี่ยวกับเรื่องของการ "อุ้ม" ของรัฐบาล ต่อภาคส่วนต่างๆของประเทศ
ไม่ว่าจะเป็นด้านเกษตร อุตสาหกรรม หรือ การส่งออก ฯลฯ

ผมว่า เมื่อไหร่ มีการ "อุ้ม"
นั่นคือการ แทรกแซง และบิดเบือนโครงสร้างที่แท้จริงของกิจกรรมนั้นๆ
พอเรา "บิดเบือน" ปุ๊ป
มันก็ไม่มีอะไร "จริง" อีกต่อไป
ต้นทุนที่แท้จริงก็ "เก๊"
เผลอๆ ค่ายา ค่าปุ๋ย กระโดดตาม การ"อุ้ม" นี้ไปติดๆ แล้วมันจะเกิดอะไร
มันไม่แก้ปัญหาไงครับ
ทั้งยังเปิดโอกาสเชื่อ้เชิญการโกงกินแบบมโหฬารมาสู่ประเทศ

คิดแล้วเหมือนคนใจร้าย...
ที่ผมจะถามว่า ถ้าเรา (ผมหมายถึงรัฐ) ไม่เข้าไปยุ่งกลไกราคาข้าว
จะเป็นอะไรมากไหม

แล้วไปยุ่งอย่างอื่นแทน เช่น แก้ปัญหาที่ดินทำกิน ทำเรื่องโฉนดชุมชน
เรื่องส่งเสริมการเพาะปลูกที่หลากหลายมากขึ้น
ส่งเสริมความรู้เรื่องการลด ละ เลิกใช้เคมีการเกษตร
ส่งเสริมองค์ความรู้ในการลดต้นทุนทางการผลิต ฯลฯ

แล้วยกเลิกจำนำข้าวแม่มไปซะ
เห็นกันชัดๆแล้วนี่ บริหารโครงการได้ "หมาไม่เห่า" เอามากๆ

ไม่รู้นะครับ
ผมว่า ชาวนาเค้าก็ไม่ได้สบายใจอะไรนักหนา กับการที่คนในภาคส่วนอื่นๆของประเทศ จะต้องมาควักกระเป๋า ลงขันให้เขาอยู่ได้
คนควักก็อาจจะไม่รับรู้ผลกระทบ และอาจจะไม่เต็มใจ
คนรับก็อาจไม่เต็มใจ นี่อาชีพกรูต้องมาเป็ฯภาระของบ้านเมืองหรือวะ
แต่ใครล่ะ ที่ทำให้มันเป็นอย่างนั้น
ใคร...
ภาคการเมืองไงครับ
มันบังคับให้พวกเราทั้งหมด ต้องไปยอมรับกติกานี้ แล้วอ้างว่าช่วยชาวนา
อ้างอย่างนี้ ชะงัดสุดๆ...ใครไม่กล้าแตะ
กลัวหาว่าใจร้าย

จริงๆแล้วเพื่อคะแนนความนิยมของพวกมันทั้งสิ้น
รูปแบบของโปรโมชั่นต่างๆจึงหลังไหลออกมา ให้แก้คนทุกภาคส่วน
เช่น แรงงาน คนจบใหม่ คนอยากมีรถคันแรก ฯลฯ
ทั้งหมด เพื่อชนะ
เพื่อชนะการเลือกตั้งเท่านั้น

ผมรู้ครับ ผมรู้ ว่า ถึงไม่มีนโยบายพวกนี้ พรรคที่เป็นรัฐบาลก็อาจชนะอยู่ดี
เพราะพรรคฝ่ายค้านมันก็เฮงซวย...ผมรู้

ถามว่าทำไมประเทศอื่นที่เจริญแล้วเขาอุ้มเกษตรกรได้ล่ะ
มันต่างกันครับ
เขาอุ้ม โดยไม่เอามาเป็นเงื่อนไขในการหาเสียง
เขาไม่ "สัญญาว่าจะให้" แบบบ้านเรา เพราะกฏหมายเลือกตั้งบ้านเรามันเปิดช่องโหว่ไว้เบ้อเริ่ม แบบรถสิบล้อเขาไปยูเทิร์นได้
เห็นความต่างไหมครับ
เขาอุ้ม เพราะเขาเป็นรัฐสวัสดิการ
ประชาชนพลเมืองของเขาถูกเรียกเก็บภาษีมากกว่าพวกเราเป็นร้อยๆเปอร์เซนต์...เรายอมไหมล่ะ
ยอมจริงๆนะ ไม่ใช่ยอมปากเปล่าน่ะ
ก็เพราะพวกเราไม่ยอมเชื่อกันสักทีไงครับ ว่าของฟรี ไม่มีในโลก

เราเป็นประเทศประชาธิปไตยครับ
มีระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม เสรี
ก็ในเมื่อเรา เป็นอย่างนี้ ทำไมเราไม่ทำตัวอย่างเดียวกันล่ะครับ
ภาครัฐกลับทำตนเป็นสังคมคอมมิวนิสต์ ตั้งตนเป็นพ่อค้าข้าวรายเดียวของประเทศ
ฝันหวานว่า เราบิดเบือนกลไกตลาดภายในประเทศ ด้วยการรับจำนำราคาดาวอังคาร
แล้วเราจะไปบิดเบือนราคาตลาดข้าวของดาวโลก...โถ
มันถึงจะตาย5กันอยู่ทุกวันนี่ไงครับ

ถามว่า ถ้ารัฐไม่อุ้มชาวนา อีกหน่อยชาวนาเลิกปลูกข้าว แล้วผมจะไม่มีข้าวกิน จะทำยังไง
ก็ลองปล่อยให้มันเป็นอย่างนั้นดูซิครับ
เดี๋ยวก็รู้ จะเป็นอย่างไร
มันไม่ถึงตายหรอกครับ ก็อีอาหารหมวดคาร์โบไฮเดรตกะคนไทยน่ะ
ถ้าเศรษฐกิจของประเทศมันดีขึ้น จากการเซฟเงินปีละ 2 แสนล้าน จากการอุ้ม
ข้าวตลาดโลก กิโลละเท่าไหร่ ผมว่า เรามีพอจะซื้อข้าวกิน
ก็ลองดูซิครับ !
มีพืชผลอีก 108พันอย่างให้พี่น้องชาวนาได้ทดลองทำดู...นอกจากข้าว
ผมถึงได้บอก ว่า คิดอย่างนี้แล้วเหมือนคนใจร้าย

ฉะนั้น ผมมองว่า การเข้าไป อุ้มโน่น อุ้มนี่ของรัฐ
มิได้ทำลงไปด้วยความจริงใจในการพัฒนาประเทศแบบยั่งยืน
แต่ทำไปเพียงเพื่อชัยชนะทางการเมือง แค่นั้นเอง
เรามีเสรีทางเศรษฐกิจ แต่เราเจือกไม่ปล่อยให้เศรษฐกิจเป็นไปอย่างเสรี
แทรกแซงนั่น บิดเบือนนี่
ถ้าเราอยู่ในประเทศปิด แบบพม่าสมัยก่อน ทำแบบนี้ผมว่าอาจจะโอเค
แต่ถ้าเรายังต้องค้าขายกับโลก แล้วทำอย่างนี้...
บ้าไปแล้วครับ เป็นอย่างนี้ ชาตืหน้าไม่ต้องเจริญ

แต่คิดอย่างนี้แล้วเหมือนเป็นคนใจร้ายจริงๆครับ
NO MORE SUBSIDIZATION...
เดี๋ยวคงโดนด่าไม่ใช่น้อย...

สวัสดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่