ใน สุภาสิตชยสูตร
พระศาสดาเล่าให้ฟัง ว่า
มีสงครามระหว่างเทวดากับอสูรประจันหน้ากัน
ท้าวเวปจิตติอสูร (หัวหน้าอสูร) จึงท้าดวล กับ พระอินทร์ (หัวหน้าเทวดา) ว่า ถ้าภาษิตใครดีมีเหตุผลกว่ากัน ถือว่าผู้นั้นชนะ โดยให้ เทวดาและอสูรร่วมกันตั้งผู้ตัดสินขึ้นมา
ท้าวเวปจิตเป็นผู้กล่าวภาษิตก่อนความว่า "คนพาลจะยิ่งกริ้วโกรธหากไม่ตัดรอนเสียก่อน จึงควรกำจัดคนพาลด้วยอาญาอันรุนแรง (กองเชียรอสูร ส่งเสียงเฮ กองเชียร์เทวดานั่งนิ่ง)
พระอินทร์ จึงกล่าวว่า " ผู้ใดรู้ว่า ผู้อื่นโกรธแล้ว มีสติระงับไว้ได้ นั้นแลคือการตัดรอนคนพาล" (เทวดาต่าง อนุโมทนา)
ท้าวเวปจิตติกล่าวต่ออีกว่า "เราเห็นโทษของการอดกลั้นมาแล้วว่า คนพาลจะยิ่งคิดว่าผู้อดกลั้นนั้นเป็นเพราะกลัว แล้วจะยิ่งข่มขี่ผู้นั้น ดุจดังวัวข่มขี่วัวตัวที่แพ้" (กองเชียรอสูรพากันอนุโมทนา กองเชียร์เทวดานั่งนิ่ง)
พระอินทร์ ได้กล่าวว่า " บุคคลจงเห็นว่า ประโยชน์ทั้งหลายยิ่งกว่าความอดทนอดกลั้นไม่มี
การอดทนนั้นแสดงถึงความมีพลัง คนพาลนั้นแลเป็นพวกที่ไม่มีกำลังในการ อดกลั้น บุคคลไม่โกรธตอบผู้ที่โกรธแล้วย่อมเป็นผู้ชนะ
ผู้ใดรู้ว่าผู้อื่นโกรธแต่มีสติระงับได้ ผู้นั้นทำประโยชน์ให้กับทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายตนและฝ่ายผู้อื่น (เทวดาต่างอนโมทนา อสูรนั่งนิ่ง)
ผู้ตัดสินทั้งเทวดาและอสูร กล่าวว่า ท้าวเวปจิตติกล่าวคำที่เกี่ยวกับ อาชญา อาวุธ มีความหมายมั่น แก่งแย่ง ทะเลาะวิวาท
ส่วนคำพูดของพระอินทร์ ไม่เกี่ยวกับ อาชญา อาวุธ ไม่แก่งแย่ง ไม่ทะเลาะวิวาท
พระอินทร์เป็นผู้ชนะ
พระไตรปิฎกภาษาไทย เล่มที่ 15 หน้าที่ 268
วิธีที่ฝ่ายประชาธิปไตยจะชนะได้ โดยคำสอนของพระอินทร์
พระศาสดาเล่าให้ฟัง ว่า
มีสงครามระหว่างเทวดากับอสูรประจันหน้ากัน
ท้าวเวปจิตติอสูร (หัวหน้าอสูร) จึงท้าดวล กับ พระอินทร์ (หัวหน้าเทวดา) ว่า ถ้าภาษิตใครดีมีเหตุผลกว่ากัน ถือว่าผู้นั้นชนะ โดยให้ เทวดาและอสูรร่วมกันตั้งผู้ตัดสินขึ้นมา
ท้าวเวปจิตเป็นผู้กล่าวภาษิตก่อนความว่า "คนพาลจะยิ่งกริ้วโกรธหากไม่ตัดรอนเสียก่อน จึงควรกำจัดคนพาลด้วยอาญาอันรุนแรง (กองเชียรอสูร ส่งเสียงเฮ กองเชียร์เทวดานั่งนิ่ง)
พระอินทร์ จึงกล่าวว่า " ผู้ใดรู้ว่า ผู้อื่นโกรธแล้ว มีสติระงับไว้ได้ นั้นแลคือการตัดรอนคนพาล" (เทวดาต่าง อนุโมทนา)
ท้าวเวปจิตติกล่าวต่ออีกว่า "เราเห็นโทษของการอดกลั้นมาแล้วว่า คนพาลจะยิ่งคิดว่าผู้อดกลั้นนั้นเป็นเพราะกลัว แล้วจะยิ่งข่มขี่ผู้นั้น ดุจดังวัวข่มขี่วัวตัวที่แพ้" (กองเชียรอสูรพากันอนุโมทนา กองเชียร์เทวดานั่งนิ่ง)
พระอินทร์ ได้กล่าวว่า " บุคคลจงเห็นว่า ประโยชน์ทั้งหลายยิ่งกว่าความอดทนอดกลั้นไม่มี
การอดทนนั้นแสดงถึงความมีพลัง คนพาลนั้นแลเป็นพวกที่ไม่มีกำลังในการ อดกลั้น บุคคลไม่โกรธตอบผู้ที่โกรธแล้วย่อมเป็นผู้ชนะ
ผู้ใดรู้ว่าผู้อื่นโกรธแต่มีสติระงับได้ ผู้นั้นทำประโยชน์ให้กับทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายตนและฝ่ายผู้อื่น (เทวดาต่างอนโมทนา อสูรนั่งนิ่ง)
ผู้ตัดสินทั้งเทวดาและอสูร กล่าวว่า ท้าวเวปจิตติกล่าวคำที่เกี่ยวกับ อาชญา อาวุธ มีความหมายมั่น แก่งแย่ง ทะเลาะวิวาท
ส่วนคำพูดของพระอินทร์ ไม่เกี่ยวกับ อาชญา อาวุธ ไม่แก่งแย่ง ไม่ทะเลาะวิวาท
พระอินทร์เป็นผู้ชนะ
พระไตรปิฎกภาษาไทย เล่มที่ 15 หน้าที่ 268