วันนี้เป็นเรื่องยาวครับ
เรื่องเกี่ยวกับความรักของเพื่อนที่รักเพื่อน
แสงไฟติดๆดับๆจากเสาไฟฟ้าข้างทาง อาจทำให้คนที่เดินผ่านไปมาเห็นสมุดเล่มหนึ่งซึ่งตก อยู่ระหว่างกอหญ้าที่เกิดจากที่ดินรกร้างข้างฟุตบาท แต่ไม่เคยมีใครสักคนคิดจะหยิบ มันขึ้นมาปล่อยให้สมุดที่เคยสีสันสดใสเล่มหนึ่งนอนอยู่กับกอหญ้า ผ่านลมและฝนมานาน พร้อมกับรอยหมึกคำสัญญาที่นับวันยิ่งเลือนลาง เพราะน้ำฝน... แต่ฝนไม่สามารถลบเลือน คำสัญญาจากจิตใจคนๆหนึ่งได้ ชีวิตของเด็กมัธยมปลายทุกคนคงไม่สามารถหลีกหนีไปจาก เรื่อง เพื่อน ความฝัน ความรัก เอ็นทรานซ์ ไปได้
และทั้งหมดนี้คือที่มาของเรื่องราวของผมที่เริ่มต้นที่ห้องเรียนศิลปะ ผม บอม กบ ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันมาตั้งแต่ ม.ต้นได้มาอยู่ห้องเดียวกันในชั้น ม.4 คงเป็นเหตุการณ์นั้นที่ทำให้พวกเราได้รู้จัก กับนุ่น
“นี่เธอ...เธอ..ยืมของเราก็ได้นะ” บอม พูดพร้อมกับยื่นดินสอ 2b ให้ 1 แท่ง
เธอก็รับไปพร้อมด้วยรอยยิ้มและเหล็กดัดฟันกลับมา รอยยิ้มที่เราได้เห็นทำให้ พวกผมนึกไปถึงรอยยิ้มของน้องสาวตัวเล็กๆน่ารักคนหนึ่ง หลังจากหมดชั่งโมงศิลปะ พวก ผมอาสาพาเธอไปกินข้าวที่โรงอาหาร
และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเธอก็เป็นส่วนหนึ่ง ของกลุ่มพวกผม พร้อมกับความแปลกใจของหลายๆคนที่เห็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคน หนึ่ง นั่งอยู่ในกลุ่มของเด็กผู้ชายที่กำลังคุยกันเสียงดังด้วยคำสบถต่างๆ ซึ่งเป็น คำธรรมดาในความคิดของเด็กผู้ชาย .. จากวันเป็นเดือน......จากเดือนเป็นปี.... เมื่อ เพื่อนคบกันมานานก็ย่อมรู้ใจกัน...
และเริ่มรับรู้บางอย่างในวันที่นุ่นตัดผมสั้นมา ใหม่
“เฮ้ยนี่แกอะไรเข้าฝันวะ” ผมพูด “อี๋...ทรงเก่าดีกว่าแยะเลย” กบพูดพร้อม กันเสียงหัวเราะจากทุกคน “แต่เราว่าน่ารักดีนะ” บอม พูด คำๆนี้ของบอมทำให้หน้า ขาวๆของนุ่นแดงขึ้นมา
ตั้งแต่เราเริ่มสังเกตจากวันนั้นเราก็รู้ว่าคำพูดของบอมมี อิทธิพลกับนุ่นมาก และรู้ว่านุ่นต้องแอบปลื้มบอม ไม่มากก็น้อย แต่ไม่เคยมีคำว่ารัก คำใดๆเกิดขึ้นในกลุ่มเพื่อน
ณ.โต๊ะประจำกลุ่มของเรา
“ขนมมาแล้วจ๊ะ” เสียงใสๆของ นุ่นที่มาพร้อมกับขนมหลายถุงที่ถือเดินคู่มากับบอม (การซื้อขนมเลี้ยงของนุ่นมัก เป็นกิจวัตรประจำ)
พวกเราเคยปฏิเสธเพราะพวกผมยังไม่รู้ว่านั่นมาจากเงินเล็กน้อยของ คุณหนูนุ่นนั่นเอง)
ขณะที่กินขนมอยู่นั้นนุ่นถามถึงอาชีพในอนาคตของทุกคน ผม กับกบ ยังไม่ได้คิดอะไรถ้า เอ็น ติดอะไรก็เรียนไป ความฝันของบอม คือ เข้าเรียนกบ ยังไม่ได้คิดอะไรถ้า เอ็น ติดอะไรก็เรียนไป ความฝันของบอม คือ เข้าเรียนเศรษฐศาสตร์ที่ธรรมศาสตร์ และเป็นนักวิเคราะห์การเงินเหมือนพ่อของเขา ความฝันของนุ่นที่ต้องการเป็นนักสังคมสงเคราะห์ช่วยเหลือเด็กไม่ทำให้พวกผมแปลกใจเลย เพราะการ ชอบช่วยเหลือผู้อื่นและมองโลกในแง่ดีที่เป็นนิสัยของเธอ
สิ่งที่เรารู้กันเลยก็คือนุ่นต้องอยากเรียนสังคมสงเคราะห์ที่ธรรมศาสตร์แน่นอน
เมื่อนุ่นพุดจบ บอม ก็หยิบสมุด จดศัพท์ภาษาอังกฤษของนุ่นที่วางอยู่มาเปิดไปหน้าสุดท้ายของสมุดแล้วเขียนว่า... เราสองคนจะต้องเป็นลูกแม่โดมให้ได้นะ.....ลงชื่อ....บอม ...
สิ่งที่เราเห็นต่อมาคือ รอยยิ้มของนุ่นพร้อมกับหน้าแดงนาน 2-3นาที. ยิ้มน่ารักมากกว่าสิ่งใดๆ............
วันแรกของม.6ไม่มีอะไรมากนอกจากการฉลองที่นุ่น ได้อนุญาติให้ไป-กลับโรงเรียนเอง เหมือนนักเรียนทั่วไป ซึ่งเป็นสิ่งที่นุ่นต้องการมาตลอด 4-5 ปีที่แม่คอยรับคอยส่ง.. วันนี้ผมได้เห็นอาการดีใจของคนที่ได้รับสิ่งที่ผมเรียกมันว่า .....” อิสรภาพ” ......... ชีวิตของนักเรียนม.6 หลายๆคนคงไม่พ้นการเรียนพิเศษต่อตั้งแต่ 5 โมง-2 ทุ่ม แต่การที่ได้เรียนกับเพื่อนรักของผมทำให้ผมไม่เคยคิดเหนื่อยหรือท้อแท้ เลย
โต๊ะ 4 ตัวหลังสุดเป็นที่รู้กันว่าเป็นโต๊ะของกลุ่มผมขณะที่พวกเรากำลังนั่ง คุยรออาจารย์อยู่นั้น บอมได้ชี้ไปที่นักเรียนหญิงใส่ชุดuniformแขนยาว หน้าตาสวยมาก คนหนึ่ง พร้อมพูดว่า “นี่ดูผู้หญิงคนนั้นสิเราชอบเขามากเลยนะ” ตั้งแต่วันนั้นผู้ หญิงคนนั้นก็เป็นประเด็นสนทนาในกลุ่มอีกบ่อย แต่ทุกครั้งที่พูดถึงผู้หญิงคนนั้นผม รู้สึกว่านุ่นมีความรู้สึกแปลกๆที่ไม่แสดงออกมา จนผมคิดว่าต้องให้บอม ถามให้ได้ว่า เป็นอะไรเพราะเขาสองคนสนิทกันมากที่สุด แต่บอมก็ไม่เคยสงสัยและถาม สักพักผมเลิกสน ใจกับสิ่งนี้เพราะผมก็แค่ผู้ชายที่ไม่เคยคิดจะเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของผู้หญิง เวลาที่พวกผมได้ผักผ่อนมากที่สุดจากการเรียนคงเป็นตอนหลังเลิกเรียนพิเศษ ซึ่งพวกผม จะเวียนไปฝากท้องตามร้านต่างๆ หลังจากนั้นก็มักไปเล่นเกมส์ เกมส์ประจำตัวของผม คือ daytona ของกบชอบเล่น dj โดยเฉพาะตอนมีสาวๆมองเยอะจะออกลีลาเป็นพิเศษ เครื่อง ตู้เกมส์ เตอติส ที่อยู่หลังร้านเหมือนเป็นเกมส์ที่สร้างมาเพื่อ บอม และนุ่น ผมได้เห็นทั้งคู่เล่นด้วยกัน เล่นแข่งกันได้ดูเวลาที่เขาแกล้งกัน นุ่นมักปัดมือของบอม ให้ออกจากจอยเกมส์เป็นประจำ เวลาที่ทั้งคู่เล่นแข่ง เพราะบอมเป็นคนที่เล่นเก่งมาก แต่บอมก็ชอบและไม่เคยเห็นบอมโกรธนุ่นสักครั้งเวลาที่นุ่นคอยแหย่คอยกวน ผมคิดว่าทั้งคู่คงมีความสุขมากที่ได้อยู่ใกล้ๆกัน พลางคิดไปถึงคำพูดในหนังรักออกแบบไม่ ได้ ที่ว่า ”เป็นเพื่อนกันดีที่สุดจะได้คบกันนานๆ” แต่สำหรับสำหรับคู่นี้ผมนึกภาพไป ถึงตอนที่ทั้งคู่เป็นคนชราคู่หนึ่ง ที่ใช้เวลาบั้นปลายชีวิตนั่งนับดาวบนท้องฟ้าด้วยกัน และต่อเติมความสุขซึ่งกันและกัน
ทุกครั้งที่มองคู่นี้อยู่ด้วยกันผมคิดว่าเค้า กำลังร่วมสร้างและต่อเติมความรักซึ่งกันและกันอยู่ แม้เพื่อนสนิทอย่างผมจะแซวว่า ทั้งคู่ไม่เหมือนแค่เพื่อนสนิทเท่านั้นนะคู่นี้
แต่ว่าสิ่งที่ผมเห็นคือรอยยิ้มของ ทั้งคู่พร้อมอาการเขิน และสายตาของนุ่นที่หันไปมองบอม แล้วทั้งคู่ก็ช่วยกันปฏิเสธ แล้วนุ่นก็มักจะพูดว่า”พวกนี้เนี่ยไม่พูดด้วยแล้ว” พร้อมกับหันหลังเดินไปซื้อขนมและบอมก็เดินตามติดๆกันไป
วันศุกร์ใกล้ปิดคอร์สเรียนพิเศษภาษาอังกฤษเมื่อพวกเรามา ถึงที่เรียนพิเศษปรากฏว่าไฟดับ โรงเรียนจึงนัดชดเชยให้วันอื่น วันนี้จึงไม่ค่อย ได้เรียนเพราะวันศุกร์ที่โรงเรียนมีเรียนแค่2วิชา พวกเราจึงถือสมุดหนังสือไปเรียน เพียงไม่กี่เล่ม หลังจากนั้นพวกเราจึงไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า วันนี้นุ่นผิด ปกติดูซึมๆตั้งแต่เช้า พวกเรารบเร้าเท่าไหร่ก็ไม่บอก ขณะที่เดินเล่นกันอยู่บอม ได้จับหน้าผากของนุ่น บอมตกใจมากเพราะนุ่นตัวร้อนจัด บอมจึงพูดว่า”นุ่นเธอตัวร้อน มากนะกินยาอะไรหรือยัง?”
“ปวดหัวนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอก” นุ่นตอบ พวกผมจึงรบเร้าให้นุ่นรีบกลับไปผักผ่อนที่บ้านและตัดสินใจให้บอมเดินไปส่งนุ่นขึ้น taxi โดยผม กับกบจะไปรอที่ food center ก่อนที่ผมจะแยกย้ายกับนุ่น บอมแซวนุ่นว่า “นี่ไม่สบาย ขนาดนี้ยังไม่ยอมนอนพักอยู่บ้านอีก” “ก็ฉันเป็นเด็กขยันนะซิจ๊ะ” นุ่นตอบพร้อมกับ ยิ้มมา “ดูนุ่นสิหน้าเหมือนคนจะตายอยู่แล้วยังยิ้มออกอีก” บอมพูดไปโดยไม่รู้ว่ารอย ยิ้มนี้จะเป็นรอยยิ้มที่พวกผมจะไม่มีวันลืม สำหรับผมเหตุผลเดียวที่นุ่นมาเรียนวันนี้คือการที่ได้มานั่งเรียนพิเศษข้างๆบอม หลังจากผมแยกย้ายกับนุ่นบอมก็เดินไป ส่งนุ่นขึ้น taxi กลับบ้าน
........เอี้ยด.....ปัง......อัก...... รถบรรทุกคันหนึ่งวิ่งคร่อมเลนมาชนกับ taxi คันหนึ่งที่วิ่งมาด้วยความเร็วค่อนข้างสูง ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยกระเด็นกระแทกกระจกรถออกมาตกลงบนพื้น และไถลไป ข้างหน้าอีก 7-10 เมตร สมุด หนังสือ ดินสอกระจัดกระจายอยู่บนถนนบ้างบนทางเท้าบ้าง กล่องดินสอ มือถือแตกเป็น 2 ส่วน พลเมืองดีผู้หนึ่งอุ้มร่างที่เต็มไปด้วยเลือด และบาดแผลไปส่งโรงพยาบาล
เช้าวันเสาร์ ณ ที่เรียนพิเศษวิชาคณิตพวกผมรู้สึกแปลกใจที่ นุ่นมาเรียนสาย เพราะปกตินุ่นจะมาเป็นคนแรก แต่พวกผมก็คิดว่านุ่นคงยังไม่ค่อยสบาย และผักผ่อนอยู่ที่บ้าน แต่ขณะที่เริ่มเรียนไปได้ 15 นาที เพจของบอมก็ดังขึ้นพร้อมกับข้อความจากแม่ของนุ่นที่ว่า ตอนนี้นุ่นอยู่ห้อง ICU โรงพยาบาลเปาโล ต้องการพบบอมด่วน
เมื่อพวกผมอ่านข้อความนี้จบก็เดินออกจากห้องทันที มารู้ตัวอีกทีก็คือเห็นรอย ช้ำของขอบตาที่เกิดจากการร้องไห้ของแม่ของนุ่น พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ยอม หยุดที่หน้าห้อง ICU เมื่อเราเดินเข้าไปในห้องหมอบอกพวกผมว่านุ่นเสียเมื่อ 5 นาที ที่แล้ว พวกผมเหมือนตกอยู่ในภวังค์ น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากทุกคนที่เรียกตัวเองว่าลูกผู้ชายทุกคนยืนร้องไห้อยู่ข้างๆเตียงของนุ่น ไม่มีสักคนเปิดผ้าที่คลุมร่างที่ ไร้วิญญาณของนุ่นดูเพราะทุกคนรู้ดีว่านุ่นไม่ต้องการให้ใครเห็นนุ่นในสภาพอย่างนี้แน่
เหตุการณ์นี้แม้ว่าผมจะเสียใจมาก แต่ยังไงก็คงไม่เท่ากับบอมเพราะทุกคนรู้ดีว่าบอมเสียใจมากที่สุด แต่บอมก็เก่งมากเพราะหลังจากนั้นอาทิตย์หนึ่งก็ไม่เห็นบอมร้องไห้อีก ขณะนั่งเรียนวิชาคณิตในคาบที่ 7 หลังจากงานชาปณกิจศพนุ่น 2 วัน แม่ของนุ่นได้ขออนุญาติอาจารย์เดินเข้ามาหาบอมในห้องและพูดว่า ” ในห้อง ICU ก่อนที่นุ่นจะสิ้นใจนุ่นบอกกับแม่ให้นำ diary เล่มนี้มาให้บอมให้ได้” แล้วแม่ของนุ่นก็ยื่นถุง กระดาษที่ข้างในมีdiary เล่มหนึ่งมาให้
ต่อเม้นล่างครับ ยาว
[>รักยามดึก<]...บอมและนุ่น
เรื่องเกี่ยวกับความรักของเพื่อนที่รักเพื่อน
แสงไฟติดๆดับๆจากเสาไฟฟ้าข้างทาง อาจทำให้คนที่เดินผ่านไปมาเห็นสมุดเล่มหนึ่งซึ่งตก อยู่ระหว่างกอหญ้าที่เกิดจากที่ดินรกร้างข้างฟุตบาท แต่ไม่เคยมีใครสักคนคิดจะหยิบ มันขึ้นมาปล่อยให้สมุดที่เคยสีสันสดใสเล่มหนึ่งนอนอยู่กับกอหญ้า ผ่านลมและฝนมานาน พร้อมกับรอยหมึกคำสัญญาที่นับวันยิ่งเลือนลาง เพราะน้ำฝน... แต่ฝนไม่สามารถลบเลือน คำสัญญาจากจิตใจคนๆหนึ่งได้ ชีวิตของเด็กมัธยมปลายทุกคนคงไม่สามารถหลีกหนีไปจาก เรื่อง เพื่อน ความฝัน ความรัก เอ็นทรานซ์ ไปได้
และทั้งหมดนี้คือที่มาของเรื่องราวของผมที่เริ่มต้นที่ห้องเรียนศิลปะ ผม บอม กบ ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันมาตั้งแต่ ม.ต้นได้มาอยู่ห้องเดียวกันในชั้น ม.4 คงเป็นเหตุการณ์นั้นที่ทำให้พวกเราได้รู้จัก กับนุ่น
“นี่เธอ...เธอ..ยืมของเราก็ได้นะ” บอม พูดพร้อมกับยื่นดินสอ 2b ให้ 1 แท่ง
เธอก็รับไปพร้อมด้วยรอยยิ้มและเหล็กดัดฟันกลับมา รอยยิ้มที่เราได้เห็นทำให้ พวกผมนึกไปถึงรอยยิ้มของน้องสาวตัวเล็กๆน่ารักคนหนึ่ง หลังจากหมดชั่งโมงศิลปะ พวก ผมอาสาพาเธอไปกินข้าวที่โรงอาหาร
และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเธอก็เป็นส่วนหนึ่ง ของกลุ่มพวกผม พร้อมกับความแปลกใจของหลายๆคนที่เห็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคน หนึ่ง นั่งอยู่ในกลุ่มของเด็กผู้ชายที่กำลังคุยกันเสียงดังด้วยคำสบถต่างๆ ซึ่งเป็น คำธรรมดาในความคิดของเด็กผู้ชาย .. จากวันเป็นเดือน......จากเดือนเป็นปี.... เมื่อ เพื่อนคบกันมานานก็ย่อมรู้ใจกัน...
และเริ่มรับรู้บางอย่างในวันที่นุ่นตัดผมสั้นมา ใหม่
“เฮ้ยนี่แกอะไรเข้าฝันวะ” ผมพูด “อี๋...ทรงเก่าดีกว่าแยะเลย” กบพูดพร้อม กันเสียงหัวเราะจากทุกคน “แต่เราว่าน่ารักดีนะ” บอม พูด คำๆนี้ของบอมทำให้หน้า ขาวๆของนุ่นแดงขึ้นมา
ตั้งแต่เราเริ่มสังเกตจากวันนั้นเราก็รู้ว่าคำพูดของบอมมี อิทธิพลกับนุ่นมาก และรู้ว่านุ่นต้องแอบปลื้มบอม ไม่มากก็น้อย แต่ไม่เคยมีคำว่ารัก คำใดๆเกิดขึ้นในกลุ่มเพื่อน
ณ.โต๊ะประจำกลุ่มของเรา
“ขนมมาแล้วจ๊ะ” เสียงใสๆของ นุ่นที่มาพร้อมกับขนมหลายถุงที่ถือเดินคู่มากับบอม (การซื้อขนมเลี้ยงของนุ่นมัก เป็นกิจวัตรประจำ)
พวกเราเคยปฏิเสธเพราะพวกผมยังไม่รู้ว่านั่นมาจากเงินเล็กน้อยของ คุณหนูนุ่นนั่นเอง)
ขณะที่กินขนมอยู่นั้นนุ่นถามถึงอาชีพในอนาคตของทุกคน ผม กับกบ ยังไม่ได้คิดอะไรถ้า เอ็น ติดอะไรก็เรียนไป ความฝันของบอม คือ เข้าเรียนกบ ยังไม่ได้คิดอะไรถ้า เอ็น ติดอะไรก็เรียนไป ความฝันของบอม คือ เข้าเรียนเศรษฐศาสตร์ที่ธรรมศาสตร์ และเป็นนักวิเคราะห์การเงินเหมือนพ่อของเขา ความฝันของนุ่นที่ต้องการเป็นนักสังคมสงเคราะห์ช่วยเหลือเด็กไม่ทำให้พวกผมแปลกใจเลย เพราะการ ชอบช่วยเหลือผู้อื่นและมองโลกในแง่ดีที่เป็นนิสัยของเธอ
สิ่งที่เรารู้กันเลยก็คือนุ่นต้องอยากเรียนสังคมสงเคราะห์ที่ธรรมศาสตร์แน่นอน
เมื่อนุ่นพุดจบ บอม ก็หยิบสมุด จดศัพท์ภาษาอังกฤษของนุ่นที่วางอยู่มาเปิดไปหน้าสุดท้ายของสมุดแล้วเขียนว่า... เราสองคนจะต้องเป็นลูกแม่โดมให้ได้นะ.....ลงชื่อ....บอม ...
สิ่งที่เราเห็นต่อมาคือ รอยยิ้มของนุ่นพร้อมกับหน้าแดงนาน 2-3นาที. ยิ้มน่ารักมากกว่าสิ่งใดๆ............
วันแรกของม.6ไม่มีอะไรมากนอกจากการฉลองที่นุ่น ได้อนุญาติให้ไป-กลับโรงเรียนเอง เหมือนนักเรียนทั่วไป ซึ่งเป็นสิ่งที่นุ่นต้องการมาตลอด 4-5 ปีที่แม่คอยรับคอยส่ง.. วันนี้ผมได้เห็นอาการดีใจของคนที่ได้รับสิ่งที่ผมเรียกมันว่า .....” อิสรภาพ” ......... ชีวิตของนักเรียนม.6 หลายๆคนคงไม่พ้นการเรียนพิเศษต่อตั้งแต่ 5 โมง-2 ทุ่ม แต่การที่ได้เรียนกับเพื่อนรักของผมทำให้ผมไม่เคยคิดเหนื่อยหรือท้อแท้ เลย
โต๊ะ 4 ตัวหลังสุดเป็นที่รู้กันว่าเป็นโต๊ะของกลุ่มผมขณะที่พวกเรากำลังนั่ง คุยรออาจารย์อยู่นั้น บอมได้ชี้ไปที่นักเรียนหญิงใส่ชุดuniformแขนยาว หน้าตาสวยมาก คนหนึ่ง พร้อมพูดว่า “นี่ดูผู้หญิงคนนั้นสิเราชอบเขามากเลยนะ” ตั้งแต่วันนั้นผู้ หญิงคนนั้นก็เป็นประเด็นสนทนาในกลุ่มอีกบ่อย แต่ทุกครั้งที่พูดถึงผู้หญิงคนนั้นผม รู้สึกว่านุ่นมีความรู้สึกแปลกๆที่ไม่แสดงออกมา จนผมคิดว่าต้องให้บอม ถามให้ได้ว่า เป็นอะไรเพราะเขาสองคนสนิทกันมากที่สุด แต่บอมก็ไม่เคยสงสัยและถาม สักพักผมเลิกสน ใจกับสิ่งนี้เพราะผมก็แค่ผู้ชายที่ไม่เคยคิดจะเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของผู้หญิง เวลาที่พวกผมได้ผักผ่อนมากที่สุดจากการเรียนคงเป็นตอนหลังเลิกเรียนพิเศษ ซึ่งพวกผม จะเวียนไปฝากท้องตามร้านต่างๆ หลังจากนั้นก็มักไปเล่นเกมส์ เกมส์ประจำตัวของผม คือ daytona ของกบชอบเล่น dj โดยเฉพาะตอนมีสาวๆมองเยอะจะออกลีลาเป็นพิเศษ เครื่อง ตู้เกมส์ เตอติส ที่อยู่หลังร้านเหมือนเป็นเกมส์ที่สร้างมาเพื่อ บอม และนุ่น ผมได้เห็นทั้งคู่เล่นด้วยกัน เล่นแข่งกันได้ดูเวลาที่เขาแกล้งกัน นุ่นมักปัดมือของบอม ให้ออกจากจอยเกมส์เป็นประจำ เวลาที่ทั้งคู่เล่นแข่ง เพราะบอมเป็นคนที่เล่นเก่งมาก แต่บอมก็ชอบและไม่เคยเห็นบอมโกรธนุ่นสักครั้งเวลาที่นุ่นคอยแหย่คอยกวน ผมคิดว่าทั้งคู่คงมีความสุขมากที่ได้อยู่ใกล้ๆกัน พลางคิดไปถึงคำพูดในหนังรักออกแบบไม่ ได้ ที่ว่า ”เป็นเพื่อนกันดีที่สุดจะได้คบกันนานๆ” แต่สำหรับสำหรับคู่นี้ผมนึกภาพไป ถึงตอนที่ทั้งคู่เป็นคนชราคู่หนึ่ง ที่ใช้เวลาบั้นปลายชีวิตนั่งนับดาวบนท้องฟ้าด้วยกัน และต่อเติมความสุขซึ่งกันและกัน
ทุกครั้งที่มองคู่นี้อยู่ด้วยกันผมคิดว่าเค้า กำลังร่วมสร้างและต่อเติมความรักซึ่งกันและกันอยู่ แม้เพื่อนสนิทอย่างผมจะแซวว่า ทั้งคู่ไม่เหมือนแค่เพื่อนสนิทเท่านั้นนะคู่นี้
แต่ว่าสิ่งที่ผมเห็นคือรอยยิ้มของ ทั้งคู่พร้อมอาการเขิน และสายตาของนุ่นที่หันไปมองบอม แล้วทั้งคู่ก็ช่วยกันปฏิเสธ แล้วนุ่นก็มักจะพูดว่า”พวกนี้เนี่ยไม่พูดด้วยแล้ว” พร้อมกับหันหลังเดินไปซื้อขนมและบอมก็เดินตามติดๆกันไป
วันศุกร์ใกล้ปิดคอร์สเรียนพิเศษภาษาอังกฤษเมื่อพวกเรามา ถึงที่เรียนพิเศษปรากฏว่าไฟดับ โรงเรียนจึงนัดชดเชยให้วันอื่น วันนี้จึงไม่ค่อย ได้เรียนเพราะวันศุกร์ที่โรงเรียนมีเรียนแค่2วิชา พวกเราจึงถือสมุดหนังสือไปเรียน เพียงไม่กี่เล่ม หลังจากนั้นพวกเราจึงไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า วันนี้นุ่นผิด ปกติดูซึมๆตั้งแต่เช้า พวกเรารบเร้าเท่าไหร่ก็ไม่บอก ขณะที่เดินเล่นกันอยู่บอม ได้จับหน้าผากของนุ่น บอมตกใจมากเพราะนุ่นตัวร้อนจัด บอมจึงพูดว่า”นุ่นเธอตัวร้อน มากนะกินยาอะไรหรือยัง?”
“ปวดหัวนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอก” นุ่นตอบ พวกผมจึงรบเร้าให้นุ่นรีบกลับไปผักผ่อนที่บ้านและตัดสินใจให้บอมเดินไปส่งนุ่นขึ้น taxi โดยผม กับกบจะไปรอที่ food center ก่อนที่ผมจะแยกย้ายกับนุ่น บอมแซวนุ่นว่า “นี่ไม่สบาย ขนาดนี้ยังไม่ยอมนอนพักอยู่บ้านอีก” “ก็ฉันเป็นเด็กขยันนะซิจ๊ะ” นุ่นตอบพร้อมกับ ยิ้มมา “ดูนุ่นสิหน้าเหมือนคนจะตายอยู่แล้วยังยิ้มออกอีก” บอมพูดไปโดยไม่รู้ว่ารอย ยิ้มนี้จะเป็นรอยยิ้มที่พวกผมจะไม่มีวันลืม สำหรับผมเหตุผลเดียวที่นุ่นมาเรียนวันนี้คือการที่ได้มานั่งเรียนพิเศษข้างๆบอม หลังจากผมแยกย้ายกับนุ่นบอมก็เดินไป ส่งนุ่นขึ้น taxi กลับบ้าน
........เอี้ยด.....ปัง......อัก...... รถบรรทุกคันหนึ่งวิ่งคร่อมเลนมาชนกับ taxi คันหนึ่งที่วิ่งมาด้วยความเร็วค่อนข้างสูง ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยกระเด็นกระแทกกระจกรถออกมาตกลงบนพื้น และไถลไป ข้างหน้าอีก 7-10 เมตร สมุด หนังสือ ดินสอกระจัดกระจายอยู่บนถนนบ้างบนทางเท้าบ้าง กล่องดินสอ มือถือแตกเป็น 2 ส่วน พลเมืองดีผู้หนึ่งอุ้มร่างที่เต็มไปด้วยเลือด และบาดแผลไปส่งโรงพยาบาล
เช้าวันเสาร์ ณ ที่เรียนพิเศษวิชาคณิตพวกผมรู้สึกแปลกใจที่ นุ่นมาเรียนสาย เพราะปกตินุ่นจะมาเป็นคนแรก แต่พวกผมก็คิดว่านุ่นคงยังไม่ค่อยสบาย และผักผ่อนอยู่ที่บ้าน แต่ขณะที่เริ่มเรียนไปได้ 15 นาที เพจของบอมก็ดังขึ้นพร้อมกับข้อความจากแม่ของนุ่นที่ว่า ตอนนี้นุ่นอยู่ห้อง ICU โรงพยาบาลเปาโล ต้องการพบบอมด่วน
เมื่อพวกผมอ่านข้อความนี้จบก็เดินออกจากห้องทันที มารู้ตัวอีกทีก็คือเห็นรอย ช้ำของขอบตาที่เกิดจากการร้องไห้ของแม่ของนุ่น พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ยอม หยุดที่หน้าห้อง ICU เมื่อเราเดินเข้าไปในห้องหมอบอกพวกผมว่านุ่นเสียเมื่อ 5 นาที ที่แล้ว พวกผมเหมือนตกอยู่ในภวังค์ น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากทุกคนที่เรียกตัวเองว่าลูกผู้ชายทุกคนยืนร้องไห้อยู่ข้างๆเตียงของนุ่น ไม่มีสักคนเปิดผ้าที่คลุมร่างที่ ไร้วิญญาณของนุ่นดูเพราะทุกคนรู้ดีว่านุ่นไม่ต้องการให้ใครเห็นนุ่นในสภาพอย่างนี้แน่
เหตุการณ์นี้แม้ว่าผมจะเสียใจมาก แต่ยังไงก็คงไม่เท่ากับบอมเพราะทุกคนรู้ดีว่าบอมเสียใจมากที่สุด แต่บอมก็เก่งมากเพราะหลังจากนั้นอาทิตย์หนึ่งก็ไม่เห็นบอมร้องไห้อีก ขณะนั่งเรียนวิชาคณิตในคาบที่ 7 หลังจากงานชาปณกิจศพนุ่น 2 วัน แม่ของนุ่นได้ขออนุญาติอาจารย์เดินเข้ามาหาบอมในห้องและพูดว่า ” ในห้อง ICU ก่อนที่นุ่นจะสิ้นใจนุ่นบอกกับแม่ให้นำ diary เล่มนี้มาให้บอมให้ได้” แล้วแม่ของนุ่นก็ยื่นถุง กระดาษที่ข้างในมีdiary เล่มหนึ่งมาให้
ต่อเม้นล่างครับ ยาว