เรื่องเล่าจาก ความตาย(2)

กระทู้สนทนา
เมื่อมองในอีกแง่มุมหนึ่ง ใกล้รุ่ง คือเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง แสงจันทร์ค่อยๆจางหายและแสงอาทิตย์ค่อยๆสาดส่องมาแทนที่ แทนที่ทั้งแสงจันทร์และความมืดมน
    ครอบครัวของเอกภพ ไม่ได้ต่างจากครอบครัวสมัยใหม่ทั่วไป ตัวเขาเป็นมนุษย์เงินเดือน มุ่งมั่นทำงานเช้าจดค่ำ แลกเวลาพักผ่อนกับค่าโอที ที่ได้มา เขาและภรรยาซึ่งเป็นแม่บ้าน ขยันเก็บออมเงิน ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น เพื่อที่จะเป็นหลักประกันอนาคตให้แก่ เก่ง ลูกชายคนเดียว วัยสิบขวบ เมื่อถึงวันหยุดยาว พวกเขาจึงจะได้เห็นทะเลกันสักครั้งแต่ครั้งนี้อาจไม่เหมือนเคย เอกภพตั้งใจเก็บเงินมาตลอดครึ่งปี คราวนี้ได้หยุดยาว เขาจึงมีโอกาสพาภรรยาและลูกชายไปเที่ยวทะเลตามที่ชอบ งานหนักหลายวันที่ผ่านมาให้เขาเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้าง แต่ก็ดีใจที่ได้มอบรางวัลให้กับคนที่เขารักบ้าง

    พวกเขาออกจากบ้านประมาณสี่ทุ่ม กะว่าจะได้ไปทันรับแสงอาทิตย์ที่สวยงามชายหาด ตอนใกล้รุ่งพอดี เส้นทางที่ขับนั้นเป็นเส้นทางที่เอกภพ คุ้นเคยดี เขามาที่นี่เกือบทุกปีและพบว่ารถบนถนนก็มากขึ้นทุกปีเช่นกัน เขาเริ่มรู้สึกง่วง คงเป็นเพราะการอดนอนติดต่อมาหลายวัน เป็นเวลาตีสี่แล้ว เหลือโค้งสุดท้ายจะถึงชายหาด แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น รถบรรทุกคันใหญ่เร่งเครื่องสวนทางมาจากฝั่งตรงข้าม แฉลบโค้งพุ่งเข้ามาที่รถเขาอย่างจัง แทบไม่มีเวลาจะคิด เขาหักหลบด้วยสัญชาตญาณ รถหลุดออกจากโค้งกระแทกเข้ากับต้นไม้ข้างทางเต็มแรง
    ตาของเขาพล่าเลือน ภาพสุดท้ายที่เห็น คือภรรยาที่นอนสลบอยู่ที่นั่งข้าง เขามองไปที่เบาะหลัง...แต่ไม่เห็นร่างลูกชาย ใกล้รุ่งคราวนี้ แสงจันทร์ช่างจางหายไปเร็วเหลือเกิน

    หมอโสภณศัลยแพทย์มือหนึ่งของโรงพยาบาล ถูกตามเวลาเกือบตีห้า เนื่องจากมีเคสผ่าตัดด่วน “เคสอะไรนะครับ? จริงหรอครับ! ได้ครับ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้” เขางัวเงียตื่นขึ้น วันนี้ควรเป็นวันที่เขาควรได้พักเต็มที่ เขากินนอนอยู่ในห้องผ่าตัดมาตลอดช่วงสามวันที่ผ่านมา แต่โทรศัพท์ที่ตามเขานั้น ปลุกเขาให้ตื่นได้อย่างดี นี่คือ การผ่าตัดเคสใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนเคสแรกของโรงพยาบาลและของตัวเขา หลังจากจบการศึกษาด้านการผ่าตัดเฉพาะทางกลับมาจากอังกฤษ สี่ปีที่เขาเรียนมา แต่กลับมาเมืองไทย ไม่เคยมีเคสทำเลย วันนี้แหละ ที่เขาจะได้ทำในสิ่งที่เขาทุ่มเทมาตลอด ความรู้สึกง่วงหายเป็นปริดทิ้ง เขาตื่นตัวเต็มที่ เร่งรถผ่านโค้งสุดท้ายก่อนไปถึงรพ.มองเห็นภาพซากรถเก๋งข้างทาง สภาพรถพังจนเขาไม่คิดว่าคนในรถจะมีใครรอด เขาไม่อาจจะหยุดดูได้ รถพยาบาลมาจอดมากมาย พวกเขาคงช่วยพาคนเจ็บไปส่งรพ.กันหมดแล้ว งานใหญ่รอเขาอยู่ ใกล้รุ่งนี้แหละ เขาจะได้แสดงฝีมือ

     แม่ของเด็กชายโม นั่งหลับอยู่หน้าห้องไอซียู เช่นเคย เป็นภาพเดิมๆที่หมอโสภณคุ้นตา เขาทักทายเธออย่างเร่งรีบและเข้าไปตรวจดูอาการของโม แม่ของโม มาเฝ้าลูกชายทุกวัน หลายครั้งเธอจะหลับไปบนโซฟาหน้าห้อง โมป่วยเป็นโรคตับแข็งตั้งแต่ยังเล็ก สาเหตุมาจากมีการกำจัดสารพิษบางอย่างในร่างกายผิดปกติไป หมอโสภณบอกว่าพันธุกรรมมีส่วน โมนอนซึมในระดับโคม่า อันเนื่องมาจากตับวาย มาประมาณสองเดือนเศษ ตัวและตาเหลืองต้องเจาะคอเพื่อต่อเครื่องช่วยหายใจและให้อาหารทางสายยาง โมในวัยสิบสองขวบ สภาพไม่ต่างจากเจ้าชายนิทรา แม่ของโมไม่มีเหลือความหวังอะไรมานาน
จนกระทั่งใกล้รุ่งวันนี้ วันที่หมอโสภณมาตรวจโม

     เอกภพนอนอยู่บนเตียงข้างเตียงของภรรยา มองเธอตื่นขึ้นอีกครั้งหลังจากหลับไปพร้อมคราบน้ำตา เข็มขัดนิรภัยช่วยพวกเขาไว้ได้ เอกภพฝืนยิ้มให้เธอ แต่ในใจรู้สึกเศร้าอย่างที่สุด คงเป็นเพราะเขาเองที่เป็นคนพาทุกคนมาเจ็บ “ไม่เป็นไรนะเธอทำถูกแล้ว ลูกเราจากไปแบบผู้ยิ่งใหญ่ ถึงจะยังเด็กอยู่ เราควรภูมิใจในตัวเขา”เขาฝืนยิ้มให้เธอ มองไปนอกหน้าต่าง เป็นเวลาใกล้รุ่งแล้ว ดวงอาทิตย์เริ่มสาดแสง ความมืดและแสงจันทร์ค่อยๆจางหายไป เขารู้ว่าตั้งแต่นี้ชีวิตคงไม่เหมือนเดิม

     การผ่าตัดเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่หมอโสภณไม่เคยบ่นเหนื่อย เขาแก้ปัญหาในห้องผ่าตัดได้ฉับไว ในใจอยากจะมอบเด็กชายโม คืนแก่แม่ขอเขา เป็นของขวัญใกล้รุ่งเช้านี้ให้ได้ เวลาหลายชั่วโมงผ่านไป การผ่าตัดสิ้นสุดลง เขาต่อชีวิตให้โมได้สำเร็จ ฝีมือผ่าตัดนี้ ยังน่าภูมิใจน้อยไปกว่าเด็กชายตัวน้อยที่นอนอยู่ข้างๆเด็กชายโม เขาเงยหน้าขึ้น มองไปยังร่างที่ไร้วิญญาณของ.....เด็กชาย เก่ง

     สามวันต่อมา แม่ของเด็กชายโม ดีใจอย่างที่สุด โมเริ่มรู้สึกตัว สัญญาณชีพคงที่ และเหลืองน้อยลง เธอนึกถึงประโยคที่เอกภพและภรรยา บอกกับเธอก่อนจากกันได้อยากแม่นยำ “ลูกชายของเราอยู่ในตัวของโม คุณต้องดูแลโมดีๆ เป็นการตอบแทนพวกเรานะ” พวกเขาลาจากกันตอนใกล้รุ่ง ใกล้รุ่งที่มีชีวิตหนึ่งดับลง เพื่อให้อีกชีวิตหนึ่งได้หายใจต่อ

     การผ่าตัดเปลี่ยนตับ ของหมอโสภณ โด่งดังไปถึงต่างประเทศ มีนักข่าวมากมายมาขอสัมภาษณ์ เขาพูดประโยคทิ้งท้ายให้นักข่าวฟังเสมอว่า“ความสำเร็จทั้งหมดนี้ ผมขอมอบแด่ครอบครัวคุณเอกภพ เด็กชายเก่งที่มีจิตใจที่ยิ่งใหญ่ เป็นเหมือนแสงสว่างใกล้รุ่งอรุณ ที่เปี่ยมไปด้วยความหวังที่มอบให้แม่ของโม”เค้าโค้งคำนับลงหน้ารูปถ่ายของเก่งหลังพูดจบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่