เมื่อคุณรักจริงหวังแต่งถามมา ก็จะตอบให้ครับ ทั้งที่ไม่อยากตอบเพราะเห็นว่าเป็นคำถามเชิงกระแดะ

กระทู้สนทนา

แต่เพราะเห็นคุณรักจริงหวังแต่งตั้งกระทู้ซ้ำ   ว่าไม่ได้รับคำตอบไม่ตรงประเด็น   http://pantip.com/topic/31731515
ตำหนิคนเข้าไปตอบว่าลากประเด็นไปโน่นไปนี่
ทั้งที่คำตอบทั้งหมดมันก็อยู่ในประเด็นเดียวกันนั่นแหละ
ขึ้นอยู่กับว่า  คนถามนั้น  ใจกว้างพอที่จะ "รับ" คำตอบอันหลากหลายหรือไม่เท่านั้นเอง

ไอ้ประเภทถามอะไรแล้วอยากได้คำตอบแบบตรงใจเ๊ป๊ะ ๆ น่ะ
มันยากครับ   ถามอะไรก็ตามเหอะ  มันยากที่จะได้ตรงตามที่ใจอยากได้
ซึ่งพอไม่ได้  ก็ไม่น่าออกอาการสะดีดสะดิ้นกระแดะเดี่ยงอะไรออกมาขนาดนี้

แต่เอาเหอะ   เมื่ออยากได้คำตอบที่อยากได้  ผมก็จะตอบให้
"รับ" ได้เต็ม ๆ ครับ  ไม่หนักด้วย

ประเด็นที่คุณรักจริงหวังแต่งถาม  ก็แค่ว่า  คนเสื้อแดงถูกกระทำอะไร  อย่างไร
ถามง่าย ๆ  ก็ตอบง่าย ๆ ครับว่า  ถูกกระทำด้วยการถูกเอาเปรียบและข่มเหงทางการเมือง
ด้วยการใช้กำลังทหารเข้ายึดอำนาจการปกครอง   ด้วยการใช้กระบวนการยุติธรรมพิพากษาและชี้มูลคดีอย่างไม่เป็นธรรม

เรื่องนี้  มันเรื่องง่าย ๆ ครับ   มองเห็นชัดเจน   แต่คงเพราะคุณรักจริงหวังแต่งไปคิดว่าคนถูกกระทำนั้นคือนักการเมือง
ไม่ใช่ประชาชนคนเสื้อแดง (กรณียิงนกในกรงปี 53  คุณรักจริงหวังแต่งก็คงมองว่าเ็ป็นเหตุการณ์จลาจล  ไม่ใช่การเจตนาฆ่า)

เลยตั้งคำถามว่า   คนเสื้อแดงไปถูกกระทำอะไร  ถูกกระทำอย่างไร   ก็เห็นทำมาหากินปกติดี

นี่มันเป็นเรื่อง "สำนึกทางการเมือง  สำนึกทางสิทธิ" ครับ   ไม่ใช่เรื่องคิดแบบเด็กประถมว่า
ไม่ได้โดนตีซะหน่อย  ไปเดือดร้อนทำไม
เหมือนคนไม่มีเพื่อนนะครับ  คิดได้แบบนี้เหมือนคนไม่มีเพื่อน  พอตัวเองไม่ได้โดนอะไรเลยคิดว่าไปเดือดร้อนทำไม

เรื่องการเมืองนั้น  มันเป็นเรื่องความชอบ  ความชัง  ความคิด  ทั้งคิดเหมือนและคิดต่าง
มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับชีวิตทุกชีวิต
เรื่องนี้  ถ้าอยากให้อธิบายก็ถามมาอีกนะครับ   ไม่อยากอธิบายตรงนี้  เพราะจะนอกประเด็นไป

คนเสื้อแดง  เขาไม่ว่าหรอกครับ  หากจะตัดสินว่าคนที่เขารักเขาชอบผิด
เพียงแต่เขาขอเหตุผล  ขอคำพิพากษาที่กระจ่าง  สมเหตุสมผล   ขอหลักกฎหมายที่ชัดเจน
ไม่ใช่แบบคลุมเครือ  โม ๆ เม ๆ ชี้ว่าผิด   แถมบิดเบือนข้อกฎหมายเละเทะ
แล้วก็อ้างว่าศาลตัดสินแล้ว  จงยอมรับซะดี ๆ
แต่พอคดีอีกฝ่าย  ต่อให้ผิดยังไงคดีก็ไม่เดิน  อย่างคดีพันธมิตร  ไม่ไปไหนสักที
อย่างคดี ปชป.  ไม่ไปไหนสักที
แต่ถ้าเป็นคดีเกี่ยวกับทางฝ่ายทักษิณ  ทางฝ่ายคนเสื้แดง  ติดคุกกันระนาว

ดูสิครับ  แกนนำพันธมิตรนี่  มีหน้าไหนติดคุก   ได้รับการประกันตัวทั้งนั้น
แต่ฝ่ายแดง  โดนเข้าไปเกือบปี   ทุกวันนี้ยังต้องระวังตัว  เพราะพูดอะไรแรงหน่อยก็โดนถอนประกันทันที
ขณะที่อีกฝ่าย  ขึ้นเวทีด่าได้อยู่ทุกวัน  ออกทีวีพูดชี้นำอยู่ทุกวัน
ต่างกันแต่ว่า  ฝ่ายหนึ่งด่าทักษิณ ด่ายิ่งลักษณ์ ด่าเสื้อแดง   ฝ่ายหนึ่งด่าศาล  ด่าองค์กรอิสระ  เลยโดน
ทั้งที่ความจริงแล้ว   ในระหว่างการประกันตัว  มันต้องห้ามทั้งสองฝ่าย  ไม่ใช่ด่าไปเหอะ ด่าใครด่าไป  ด่ากู กูถอนประกันเมิง

ดูคดีหมอเลี้ยบสิครับ
นพ.สุรพงษ์  สืบวงศ์ลี  อดีต รมว.ไอซีที  โดย ปปช. ชี้มูลว่าผิด 157  กรณีแก้ไขสัญญาชินคอร์ป
ไม่รู้ชี้มูลได้ไง  ด้วยการใช้มาตรา 157  แบบครอบจักรวาล
ก็การแก้ไขสัญญาน่ะ  ถ้าเอกชนเขาไม่ได้ประโยชน์  เขาจะขอแก้ทำไม
ประเด็นมันควรอยู่ที่ว่า  ราชการเสียหายไหม   ไม่ใช่ไปเล่นว่าทำให้เอกชนได้ประโยชน์
เรื่องนี้เล่นแง่อื่นไม่ได้  เลยเล่น 157  นี่แหละ  ง่ายดี
ต้องเล่นครับ  เพราะจะได้โยงกับเรื่องยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้าน  หากไม่เล่น  มันจะขัดกันว่าแล้วไปยึดเงินเขาได้ไง

ชินคอร์ปทำหนังสือขอแก้ไขสัญญามา  หมอเลี้ยบก็ปรึกษาอัยการสูงสุด  ปรึกษาเลขา ครม.(นายบวรศักดิ์  อุวรรณโน)
ใช้เวลาเดินเรื่อง  สอบถามกลับไปกลับมากันอยู่ 11 เดือน
11 เดือนครับ  ใช้เวลาอยู่ 11 เดือน  จนแน่ใจว่าทำได้  ราชการไม่เสียหาย
เลยอนุมัตแก้ไขสัญญา
มันเป็นเรื่องปกติ   ที่รัฐบาลจะลดผ่อนเงื่อนไขให้เอกชน    แต่ก็หาเรื่องเอาผิดกัน

หรือเรื่องนายนพดล  ปัทมะ  กรณีแถลงการณ์ร่วมไทย-เขมร   นี่ทั้ง ปปช. ทั้งศาลรัฐธรรมนูญก็หาเรื่องเอาผิดเขา
ไม่ผิด  ก็ใส่คำว่า "อาจ" เข้าไปให้มันผิด
แบบว่า  เอ็งไม่ได้ทำผิด  แต่มัน "อาจ" ผิด   ฉะนั้น เลยเอาผิด

ให้ยกตัวอย่างนี่  มันทุกเรื่องแหละครับ
ยกเว้นบางเรื่อง  บางเรื่องที่หนีไม่ออก  ไม่รู้จะออกรูไหน ก็ให้ผ่านไป  เช่นเรื่องเงินกู้ 3.5 แสนล้าน
มันถอดแบบมาจากไทยเข้มแข็ง 8 แสนล้าน  เลยต้องให้ผ่าน
แต่ก็มาเล่นทีหลัง  งอ ๆ แง ๆ ในเรื่องการดำเนินการตามแผนการกู้เงิน  จนวันนี้ก็ทำอะไรไม่ได้สักที

อย่างหลังสุด   ม็อบ กปปส. ที่สร้างความวุ่นวายไปหมด ไม่รู้เป้าหมายอะไร (ความจริงล้มรัฐบาลแล้วพวกตัวเองขึ้นแทนนั่นแหละ)
ศาลแพ่งทำพิลึก  ไม่สั่งยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน
แต่สั่งห้ามรัฐบาลไปหมด
แมวที่ไหนเห็นก็รู้ครับ  ว่ามันไม่เป็นธรรม  ผิดหลักนิติรัฐ  เป็นการใช้เทคนิคทางข้อกฎหมายเพื่อทำลายกฎหมาย
ศาลทำลายกฎหมายซะเอง   บ้านเมืองจะอยู่กันยังไงครับ

ขอยกตัวอย่างไกล ๆ ทักษิณ และยิ่งลักษณ์นะครับ   เพื่อจะได้เห็นภาพในมุมกว้างมุมไกล

ถ้าคุณรักจริงหวังแต่งดูหนังสักเรื่อง  เห็นว่าดารานำคนนี้น่าจะได้ออสการ์  แล้วไม่ได้
มันก็ไม่เป็นไรหรอกครับ   เพราะมันไม่ใช่เรื่องกระทบต่อสิทธิ
แต่ในเรื่องการเมือง  หากคุณรักจริงหวังแต่งเลือก นาย ก.  แล้วนาย ก. โดนความอยุติธรรมรังแก
โดนคนที่มีำอำนาจ  ใช้อำนาจนอกระบบมาล้ม  แล้วตั้งคนของตัวเองขึ้นมาแทน
มันไม่เหมือนเรื่องออสการ์นะครับ  แต่มันคือการไม่เห็นหัวคนเลือก  เป็นการก้าวล้ำสิทธิของบุคคล
ซึ่งก็คือการโดนกระทำ

คงพอเข้าใจนะครับ

หากอำนาจนอกระบบ   ห้ามคนไทยทำทัวร์
คุณรักจริงหวังแต่งคิดว่าคนไทยทีโดนห้ามโดนกลั่นแกล้งไม่ให้ใช้ทัวร์คนไทย
แต่ยอมปล่อยให้ใช้บริษัททัวร์ต่างชาติทำได้สบาย ๆ
คนไทยที่ใช้บริการทัวร์จะรู้สึกว่าโดนกระทำไหมครับ

มันก็เหมือนกันครับ   คนเสื้อแดงเขาเลือกนักการเมือง  เลือกพรรค  เพื่อให้ไปเป็นรัฐบาล ไปเป็นนายกฯ
แต่โดนความอยุติธรรมรังแก  ห้ามไม่ให้เป็น   ด้วยวิธีนอกระบบ  ด้วยการใช้ศาลเป็นเครื่องมือยัดผิดโยนโทษให้
เสื้อแดงเขาก็ย่อมรู้สึกว่าโดนกระทำ

ไม่เท่านั้นนะครับ
การที่กระบวนการยุติธรรมไม่ยอมเอาผิดอีกฝ่าย  มันก็คือการใช้อำนาจทางกฎหมายแบบเลือกข้าง
ทำให้รู้สึกว่าความเป็นธรรมไม่มี   ทำให้รู้ึสึกว่าได้รับความอยุติธรรม
อย่างนี้ก็ถือว่าโดนกระทำครับ

ไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องตาย  เรื่องเจ็บ   เรื่องยัดคุกให้เข็ดหลาบ  จะได้ไม่กล้าต่อต้าน

ทุกคนมีสิทธิ์คิด  มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น  จะมากจะน้อย  จะตื้นจะลึก   ก็แล้วแต่สติปัญญาของบุคคล
เราทำได้  คนอื่นก็ทำได้   อย่าเอาแต่ว่าคนอื่น

ถ้าอยากว่า  ก็ว่าพวกป่วนบอร์ด  ตั้งประเด็นและโพสต์งี่เง่าเหน็บแนมไปวัน ๆ ดีกว่าครับ

อย่างผมนี่    เห็นกระแดะปั๊บ  ผมโดดเข้าด่าทันที   เพราะรำคาญความบ้องตื้น  ที่มีแต่กระแดะแต่ไร้ปัญญา
ยกเว้นตอนขี้เกียจ
แต่หากเป็นการแสดงความคิดเห็นแบบมองต่างมุม  ก็ตอบมั่ง  ผ่านมั่ง  เพราะเคารพในความคิดเพื่อนร่วมสังคม

จบล่ะครับ
เมื่อยนิ้ว