เมื่อกาลเวลาล่วงเลยมา อะไรๆก็เปลี่ยนแปลงไปหมด (คนไทยเชื้อสายจีน)


  เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเป็นงานประจำปีของคนตระกูลแซ่ตั้ง (ตั้ง เซี๊ยะ จุ๊ย)จังหวัดราชบุรี ได้รับเกียรติจากเจ๊หงส์ และประธานพิธีเถ้าแก่เจ้าของร้านไกรศรินทร์ ขึ้นมาเปิดงาน ได้ฟังประวัติความเป็นมาของคนไทยเชื้อสายจีนก็ที่เรารู้ๆกัน คือมาแค่ เสื่อผืน หมอนอีกใบ มาตั้งรกรากถิ่นฐานในประเทศไทย
  ชาวจีนมีเอกลักษณ์ที่รู้ๆกันก็คือ ซื่อสัตย์ ประหยัด อดออม ขยันทำมาหากิน เก็บเล็กผสมน้อย หนักเอาเบาสู้ ค่อยๆตั้งตัวจนมีกิจการเป็นของตัวเอง เป็นใหญ่เป็นโตและเป็นเถ้าแก่อย่างที่เราเคยได้เห็นจนทุกวันนี้ และกระจายอยู่ในอีกหลายๆภูมิภาค ส่วนที่ในที่นี้คือ ภาคตะวันตก จังหวัดราชบุรีที่มีคนไทยเชื้อสายจีนมากมาย
  เป็นปกติครับทุกๆปีจะจัดงานสังสรรค์ให้คนไทยเชื้อสายจีนมาพบปะกัน ผู้คนก็จะมาร่วมสังสรรค์กัน เนืองแน่นไปหมด งานนี้จัดโต๊ะประมาณ30โต๊ะได้ครับ โต๊ะนึงประมาณ 8คน จัดเป็นโต๊ะจีนดั้งเดิม อาหารก็แบบจีนมีตั้งแต่ ขนมจีบ ฮะเก๋า แฮ่กึ้น กระเพาะปลา เป๋าฮื้อ กำเจียมตุ๋น ถ้าจำไม่ผิดและอีกมากมาย ผมว่าเด็กสมัยใหม่นี้คงจะไม่ค่อยรู้จักและไม่ค่อยได้กินสักเท่าไร คงจะรู้จักอาหารที่ห้างกัน อย่างผมเองก็เคยได้กินบ่อยๆ เพราะคุ้นเคยและอยู่ด้วยกันกับอาอึ้มอาแปะบ่อยๆ สถานที่จัดงานเป็นบ้านของเจ้าภาพครับ เป็นภัตตาคารอาหาร ไม่หรูเท่าที่ห้าง แต่หรูที่สุดของคนไทยเชื้อสายจีนสมัยนั้นที่สุดแล้วครับ แล้วก็จัดอยู่ที่เดียว เพราะมีชื่อเสียง และขึ้นชื่อของความอร่อยเรื่องอาหาร สถานที่สามารถจัดเป็นงานแต่ง เลี้ยงแขกได้ ติดพัดลมบ้านๆ ตึกเป็นตึกแถว คนที่จัดงานก็คนในบ้านช่วยๆกันครับ แต่ก็มีลูกจ้างบ้าง
  ถ้าเป็นสมัยนี้ คงจะเป็นโรงแรมหรูๆติดแอร์ มีพนักงานจัดเตรียมของให้เรียบร้อย เสร็จก็คงจ่ายแต่เงิน โต๊ะของผมนั่งกันแค่4คนคือผมอายุ19กับอาอึ้ม50กว่าๆซึ่งรู้จักกันเป็นคนชวนผมมา ถือว่าเป็นรุ่นที่ต่างกันมากทีเดียว ยังมีอาม่า70กว่าน่าจะได้และอาเฮียอีกคนประมาน40ซึ้งผมไม่รู้จักเลย แต่ก็คุยกันเหมือนรู้จักกันมานาน บางโต๊ะมีอายุมากหน่อยก็คุยกันเป็นภาษาจีน(แต้จิ๋ว) (เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างนึงของคนไทยเชื้อสายจีนครับ) เพราะคนไทยเชื้อสายจีนต่างก็เคยทำงานหนักมาด้วยกัน แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนคือ สมัยก่อนทุกๆคนจะรู้จักกันหมด ไม่ว่าจะตระกูลไหนๆ ทุกๆคนคุยกันเหมือนพี่น้อง เวลากินข้าวก็จะมากินด้วยกันหมด
   กาลเวลาเปลี่ยน อะไรๆก็เปลี่ยน ผมได้ยินจากอาอึ้มบอกว่า เมื่อโต๊ะนั้นไม่คุยกับโต๊ะนี้ คนที่เคยมาก็ไม่อยากมา พอไม่มาก็พากันไม่มา นานๆเข้าจากแค่โต๊ะสองโต๊ะก็กลายเป็นอีกหลายโต๊ะ เท่าที่ผมเห็นนะ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม จนบัดเดี๋ยวนี้ ผู้คนมา ก็ต่างคนต่างกิน รอจับฉลากแล้วก็กลับ งานยังไม่จบเลยครับ กลับกันไปเกือบครึ่งแต่ก็ยังมีอีกหลายๆโต๊ะที่คุยๆกันอยู่นะครับ เป็นปัญหาที่มีมาเนิ่นนานแต่ก็ยังไม่หายสักที นานวันก็ยิ่งบานปลาย อย่าว่าแต่คนไทยเชื้อสายจีนเลยนะครับ คนไทยในบ้านเราเองก็เป็นเหมือนกันนะครับ เมื่อก่อนเวลาทำกับข้าวบ้านผม พ่อแม่ผมก็จะทำเผื่อบ้านคนอื่นด้วย เวลาบ้านข้างทำอาหารก็จะทำมาเผื่อบ้านผมด้วย เป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน เวลานานๆเข้า มีการมีงาน ก็ห่างเหิน ต่างคนก็ต่างทำงานหาเงินเข้าบ้านตัวเอง
  สมัยก่อนต้นมะม่วงแถวบ้านอยากกิน แค่บอก สอยเอาไปได้เลย เดี๋ยวนี้ไม่มีให้เห็นแล้วครับ ถ้าสอย เผลอๆจะโดนด่าแถมลูกตะกั่วอีกดอก จนถึงตอนนี้แม้แต่จะออกไปทักทาย ยังไม่มีเลยครับ อันนี้ผมแค่ยกตัวอย่างบางบ้านนะครับ บ้านอีกหลายๆบ้านก็ยังมีอยู่ ผมขอซูฮกเลยครับ เวลามีอะไรลำบากก็คอยช่วยเหลือกัน เดี๋ยวนี้สิ คุณจะเป็นอะไรก็เรื่องของคุณ ไม่เกี่ยวกับบ้านของผมบ้านของฉัน ปัญหานั้นปัญหานี้เป็นของผมของฉันซะที่ไหน ปัญหาของคุณ คุณก็แก้ด้วยเองสิ
  เรื่องที่ผมเล่ามานี้เป็นประสบการณ์ที่ได้เจอมา หวังว่าเรื่องนี้จะได้นำเสนอท่าน ในบางแง่มุม ถ้าขาดตกบกพร่องก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่