สุนัขเรา ชื่อ ซัมซุง อายุ 13 ปี 5 เดือน คาดว่าน่าจะเป็นพันธุ์ชิห์สุผสมปักกิ่ง ไม่แน่ใจ คนขายว่าอย่างนั้น
อุปนิสัยร่าเริง กินเก่ง ชอบออกกำลังกาย ชอบกินขนมหมา โดยเฉพาะเจอร์ไฮ
ของกินเล่น ชอบกินผลไม้ ขนมปัง ข้าวเหนียว ส่วนนมกินทุกเช้า ทานอาหารเม็ดมาตลอดชีวิต
กินอาหารยี่ห้อ Royal Canin, Avoderm, Science Diet และ Eukanuba สลับไปมา
เป็นน้องหมาที่มีหูข้างเดียว เนื่องจากเป็นเนื้องอกที่หู และมีกลิ่นตัวสาปอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเพิ่งอาบน้ำเสร็จก็ตาม

ซัมซุงเป็นโรคหัวใจ เราเลยอยากจะแชร์ประสบการณ์ของสุนัขเราให้เพื่อนๆฟัง
อาจจะยาว แต่เราว่าน่าจะมีประโยชน์กับน้องหมาตัวอื่นๆ
เผื่อมีน้องหมาที่บ้านเป็น แต่ยังไม่เคยตรวจเจอ ดูรูปซัมซุงเพลินๆประกอบการอ่าน เริ่มที่อาการ

-เดือนตุลาคม ปี 56 ซัมซุงไอแห้งๆเป็นระยะ ไม่หนักหน่วง 3-4 ชุดต่อวัน เนื่องจากอยู่ต่างจังหวัด
ไม่มีอุปกรณ์ คุณหมอจึงได้ฟังเสียงปอด วินิฉัยน่าจะปอดชื้น จ่ายยาคาวาม๊อค และ ยาละลายเสมหะ

-ปลายเดือนพฤศจิกายน ปี 56 ซัมซุงไอเหมือนเดิมไม่หาย พอดีซัมซุงมีนัดหมอตาที่กรุงเทพ ที่เกษตร
เนื่องด้วยรีบพามาแล้วรีบพากลับต่างจังหวัด เลยพาซัมซุงไปตรวจที่โรงพยาบาลแพทย์4 พบว่าปอดชื้น
คุณหมอสงสัยว่าซัมซุงอาจเป็นโรคหัวใจ วัดคลื่นหัวใจEKG พบว่าหัวใจเต้นไม่ปกติ หัวใจเต้นประมาณ 70 ครั้งต่อนาที
แต่บอกว่าน้องอาจจะหัวใจเต้นช้าเป็นปกติของน้อง คุณหมอแนะนำให้ Ecco หัวใจและตรวจให้ละเอียดอีกครั้ง
แต่เรารีบ จึงขอยารักษาอาการไอเบื้องต้นมาก่อน คุณหมอจ่ายยาฆ่าเชื้อปฎิชีวนะมาให้ ไม่ได้รักษาต่อเพราะไม่ใช่คนไข้ประจำ
กะพามารักษาที่เกษตร เนื่องจากตลอด 13 ปีกว่า รักษาที่นี่มาตลอด

- ต้นเดือนธันวาปี 56 ตัดสินใจพามาอยู่กรุงเทพ ยังมีอาการไอ ไม่หาย เราหาข้อมูลทางอินเตอร์เนต
สงสัยว่าซัมซุงอาจเป็นโรคหัวใจ บวกกับคำพูดของคุณหมอที่โรงพยาบาลแพทย์4
หาหมอที่ ม.เกษตรรอบที่ 1 เข้า เข้าอยุรกรรม เจอหมอเด็ก x-ray ปอด
วินิฉัยว่า น้ำท่วมปวด เนื่องจากขอบปอดมีสีขาว จ่ายยาคาวาม๊อค แก้ไอ ขยายหลอดลม
เราตื้อหมอขอนัดขึ้นหมอคลินิกโรคหัวใจ คิวยาวมาก ได้ประมาณกลางเดือนธันวาปี 56

- กลางเดือนธันวาปี 56 ยังมีอาการไอไม่หาย สังเกตเวลาไปเดินเล่นทุกตอนเย็น
หลังจากเดินเล่นเสร็จ มีอาการหอบ หายเหนื่อยยากใช้เวลานาน
ไปหาหมอคลินิกโรคหัวใจ คิวสุดท้าย 11.30 น
รอตั้งแต่ 10 โมง บ่ายแล้วยังไม่ได้ตรวจ ซัมซุงเป็นคิวสุดท้าย
ปรากฏว่า เมื่อถึงคิวซัมซุง อาจารย์หมอไปกินข้าวก่อนซะแล้ว เหลือหมอเด็กเป็นผู้ชายตรวจ
คุณหมอ ฟังเสียงหัวใจ ตรวจเครื่อง EKG ดูฟิล์ม X-ray บอกซัมซุงปกติ อีกสามเดือนนัดดูอาการ
โอ้แม่เจ้า เรากับแฟนเหมือนยกภูเขาออกจากอก

-ปลายเดือนมกราคมปี 56 เนื่องจากยาที่ไปหาหมอที่เกษตรรอบแรกหมด แต่ซัมซุงยังไม่หายไอ
ไอแห้งๆถี่ขึ้น พาไปเดินเล่น ระยะทางสั้นๆ มีอาการเหนื่อยหอบง่าย หายใจแรง
หาหมอที่ ม.เกษตรรอบที่ 3 เข้าอยุรกรรม เจอหมอเด็ก x-ray แต่ไม่ใช่หมอคนเดิม
ดูเก่งและคล่องแคล่ว หมอให้ X-ray แล้วยืนยัน น้องหมามีอาการหัวใจโต ต้องรักษาคลินิกโรคหัวใจโดยเฉพาะ
นัดขึ้นคลินิกโรคหัวใจเฉพาะทางอีกครั้ง ให้ CoQ10 มาทาน ส่วนยาที่เคยกินมา ไม่ได้ให้ผลอะไรกับการรักษา
แต่คิวนัดคลินิกโรคหัวใจยาวมาก

-ต้นเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากที่เกษตร คิวยาวมาก ซัมซุงไอเยอะมาก ร้อนใจ searchหาข้อมูลทางเนต
กลางคืนนอนไม่ได้ ลุกขึ้นมาหอบ ลิ้นสีม่วงเป็นครั้งคราว
จึงพาซัมซุงไปโรงพยาบาลสัตว์สุวรรณชาด เป็นวันจันทร์ ซึ่งตรงกับคลินิคโรคหัวใจพอดี
บอกเล่าอาการเบื้องต้นให้หมออายุรกรรม ว่าซัมซุงเป็นโรคหัวใจ ขอตรวจเข้าคลินิคโรคหัวใจ
ซึ่งความเป็นจริงต้องทำการนัดหมายคุณหมอก่อนเป็นอาทิตย์ แต่เราขอร้องกลัวซัมซุงตายก่อนได้รับการรักษา
และบอกว่าบ้านเราอยู่ไกลมากพามาแต่ละทีลำบากมาก โชคดีที่สุนัขที่นัดตรวจโรคหัวใจมาก่อนเวลานัด
จึงทำให้ซัมซุงเป็นคิวแทรกได้รับการตรวจ คุณหมอธนิกาได้ทำการตรวจอย่างละเอียดยิบ
ตรวจ EKG ความดันโลหิต และ Ecco หัวใจ พบว่า ซัมซุงเป็นโรคหัวใจ มีขนาดโตนิดหน่อย ไม่มีอาการรั่ว
มีปัญหาที่หัวใจห้องบนขวา สารสื่อประสาทหัวใจ ตัวที่บังคับการเต้นหัวใจทำงานผิดปกติ ทำให้หัวใจเต้นช้ามาก
ตอนไปที่สุวรรณชาด หัวใจซัมซุงเต้นประมาณ 50-60 ครั้ง ซึ่งช้ามากๆ พร้อมหยุดเต้นทุกเมื่อ
โอ้ พ่อกับแม่ซัมซุงช๊อคมาก หมอจ่ายยามาสามตัว 1 Vasotop 2 karsivan 3 Spinronolactone
และแนะนำให้กิน CoQ10 ที่หมอเกษตรจ่ายมาควบคู่กันได้

ข้อแนะนำคุณหมอที่สุวรรณชาด
1 งดอาหารที่มีโซเดียม เช่น ขนมสุนัข ลดการทำงานหนักของไต และน้ำท่วมปอด
2 ทานอาหารสูตรโรคหัวใจ
3 ห้ามออกกำลังกายหักโหม
4 ห้ามดีใจ ตกใจ หรือเครียดเกิน
5 กินน้ำให้เพียงพอต่อวัน โดยคำนวณจาก ปริมาณน้ำเป็น CC = น้ำหนักสุนัข x 50
6 ให้สังเกตลิ้นว่าสีชมพูปกติดีไหม หากเป็นสีม่วงถือว่าอาการไม่ดี

คุณหมออธิบายเพิ่มโรคหัวใจในสุนัข ไม่มียารักษาให้หายขาด ส่วนมากเจอในน้องหมาอายุมาก
ยาที่ให้เป็นยา ที่ทำให้น้องหมาสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข ประคองอาการไปเท่านั้น
เช่น
- ยาขับน้ำ ขับน้ำที่ปอด เพื่อให้หายใจรับออกซิเจนได้ดีขึ้น น้องหมาหายใจสะดวก
- Karsivan ยาบำรุงเลือด ต้องการไซด์แอฟแฟคให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น
- ยาปรับความดัน Ramipril ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ
- CoQ10 บำรุงหัวใจ
ของซัมซุงไม่ได้ใช้ยาตัวอื่น เนื่องจาก ไม่มีอาหารรั่วของหัวใจ หรืออาการอย่างอื่นๆ

ก่อนหน้านี้ซัมซุงอยู่กับยายที่ต่างจังหวัด จะได้กินเยอะมากมาก ยายเลี้ยงไม่อั้น
วันละหลายมื้อ เช่น เช้า-กินนม สาย-กินอาหารเม็ด บ่าย-กินผลไม้และขนมหมา เย็น-กินอาหารเม็ด ค่ำ-ขนมหมา
ต้องมาปรับเปลี่ยนอาหารการกินกันใหม่ แรกๆยากมาก เพราะก่อนหน้านี้กินทั้งวัน
-เช้า กินนม และ CoQ10
-บ่าย กินอาหารเปียกสูตรโรคหัวใจ ใช้ยี่ห้อง Royal Canin ผสมกับ Hill
ประมาณสองช้อนโต๊ะกันซัมซุงอาเจียน เนื่องจาก ถ้าไม่ให้มื้อนี้ ซัมซุงจะอาเจียนน้ำย่อยออกมา
พร้อมให้ Vitaminเสริม สำหรับสุนัขแก่ เว้นวัน กับวิตามินบำรุงตับ
fish oil 1 แคปซูล พวก Omega 3 กับ 6 มีส่วนบำรุงหัวใจ
- บ่าย3-4 ก่อนออกไปเดินเล่น ให้แตงกวากินเล่น 1 ลูกเล็ก
- ห้าโมงเย็น พาไปเดินเล่นประมาณ 200-300 เมตร หยุดแวะกินยอดหญ้า 4-5 ยอด (ของโปรดซัมซุง)
- เย็น 6 โมง-1 ทุ่ม กินอาหารเปียกสูตรโรคหัวใจ ใช้ยี่ห้อง Royal Canin ผสมกับ Hill ประมาณ 6 ช้อนโต๊ะ
บางวัน ผสมข้าวกล้อง /เนื้อปลาน้ำจืด/ไข่ขาว
-ก่อนนอน หากซัมซุงขอขนม ไม่ยอมนอน ให้น้ำนมข้าวโพดประมาณ 30-50 CC

สิ่งที่ได้หลังจากทานยาและปรับเปลี่ยนอาหาร
- อัตราการเต้นหัวใจซัมซุง ทรงตัวอยู่ที่ 70 กว่าครั้งต่อนาที หากตื่นเต้นวัดได้ประมาณ 90 ครั้งครั้งต่อนาที
ยังไม่พบว่าเต้นช้ากว่านี้
- ซัมซุงอ้อนวอนขอขนมหมาทั้งวัน ใจต้องแข็งพอควร
- อาการไอหายไปสิ้นเชิง
- น้องแทบไม่หอบ ใช้ชีวิตได้ปกติสุข
- นอนหลับยาวทั้งคืน
- กลิ่นเหม็นสาปซัมซุงที่มีมาทั้งชีวิตหายไป น้องไม่มีกลิ่นตัวเลย ทั้งๆที่ไม่อาบน้ำเกือบเดือน
อันนี้คิดว่าเนื่องจากปรับเปลี่ยนอาหาร
- น้องกินน้ำเก่งขึ้น ฉี่ถี่กว่าเดิม
- น้องร่าเริง แจ่มใส ไม่มีอาการเบื่ออาหาร หรือเป็นลม

- หลังจากไปหาหมอที่สุวรรณชาดสักพักใหญ่ ได้เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเกษตร คลีนิคโรคหัวใจอีกสองครั้ง
ซึ่งทำการนัดก่อนหน้าที่จะไปสุวรรณชาด ได้ทำการ EKG และ Ecco หัวใจ พบว่า อาจารย์หมอและหมอวินิฉัยไปในทิศทางเดียวกับสุวรรณชาด

เราอยากจะขอบคุณโรงพยาบาลสัตว์สุวรรณชาดจริงๆ บริการดีมาก คุณหมอตรวจละเอียด ไม่รีบเร่ง และรอยยิ้มของพนักงานทุกๆคน
เราไม่ได้ว่า ว่าโรงพยาบาลเกษตรไม่ดี เพราะตลอดชีวิตของซัมซุง รอดตายมาได้หลายรอบหลายหน
ก็เพราะโรงพยาบาลเกษตรนี่แหละ ที่ช่วยชีวิต เพียงแต่บางคราวที่อยุรกรรมเจอหมอเด็กที่ไม่มีประสบการณ์เพียงพอในการวินิจฉัยโรค
จึงโฟกัสไม่ตรงจุดกับโรคที่เป็น ทำให้เสียเวลาเป็นอย่างมาก และคิวคลินิคเฉพาะทางที่มากมายมหาศาลก็เป็อุปสรรคหนึ่งในการรักษา
ถ้าแก้ไขตรงสองจุดนี้ได้จะดีมาก ส่วนค่ารักษาพยาบาล ไม่หนีกันมากมาย

สุดท้ายนี้ อยากให้เพื่อนๆที่มีน้องหมาเป็นโรคหัวใจ ช่วยแชร์และแนะนำวิธีการเลี้ยงดูสุนัขโรคหัวใจ
เผื่อสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับเราหรือคนอื่นๆได้
แชร์ประสบการณ์น้องหมาเป็นโรคหัวใจ น้องหมาใครเป็นโรคหัวใจบ้าง ต้องการอยากให้แชร์เรื่องการดูแลสุนัขค่ะ
อุปนิสัยร่าเริง กินเก่ง ชอบออกกำลังกาย ชอบกินขนมหมา โดยเฉพาะเจอร์ไฮ
ของกินเล่น ชอบกินผลไม้ ขนมปัง ข้าวเหนียว ส่วนนมกินทุกเช้า ทานอาหารเม็ดมาตลอดชีวิต
กินอาหารยี่ห้อ Royal Canin, Avoderm, Science Diet และ Eukanuba สลับไปมา
เป็นน้องหมาที่มีหูข้างเดียว เนื่องจากเป็นเนื้องอกที่หู และมีกลิ่นตัวสาปอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเพิ่งอาบน้ำเสร็จก็ตาม
ซัมซุงเป็นโรคหัวใจ เราเลยอยากจะแชร์ประสบการณ์ของสุนัขเราให้เพื่อนๆฟัง
อาจจะยาว แต่เราว่าน่าจะมีประโยชน์กับน้องหมาตัวอื่นๆ
เผื่อมีน้องหมาที่บ้านเป็น แต่ยังไม่เคยตรวจเจอ ดูรูปซัมซุงเพลินๆประกอบการอ่าน เริ่มที่อาการ
-เดือนตุลาคม ปี 56 ซัมซุงไอแห้งๆเป็นระยะ ไม่หนักหน่วง 3-4 ชุดต่อวัน เนื่องจากอยู่ต่างจังหวัด
ไม่มีอุปกรณ์ คุณหมอจึงได้ฟังเสียงปอด วินิฉัยน่าจะปอดชื้น จ่ายยาคาวาม๊อค และ ยาละลายเสมหะ
-ปลายเดือนพฤศจิกายน ปี 56 ซัมซุงไอเหมือนเดิมไม่หาย พอดีซัมซุงมีนัดหมอตาที่กรุงเทพ ที่เกษตร
เนื่องด้วยรีบพามาแล้วรีบพากลับต่างจังหวัด เลยพาซัมซุงไปตรวจที่โรงพยาบาลแพทย์4 พบว่าปอดชื้น
คุณหมอสงสัยว่าซัมซุงอาจเป็นโรคหัวใจ วัดคลื่นหัวใจEKG พบว่าหัวใจเต้นไม่ปกติ หัวใจเต้นประมาณ 70 ครั้งต่อนาที
แต่บอกว่าน้องอาจจะหัวใจเต้นช้าเป็นปกติของน้อง คุณหมอแนะนำให้ Ecco หัวใจและตรวจให้ละเอียดอีกครั้ง
แต่เรารีบ จึงขอยารักษาอาการไอเบื้องต้นมาก่อน คุณหมอจ่ายยาฆ่าเชื้อปฎิชีวนะมาให้ ไม่ได้รักษาต่อเพราะไม่ใช่คนไข้ประจำ
กะพามารักษาที่เกษตร เนื่องจากตลอด 13 ปีกว่า รักษาที่นี่มาตลอด
- ต้นเดือนธันวาปี 56 ตัดสินใจพามาอยู่กรุงเทพ ยังมีอาการไอ ไม่หาย เราหาข้อมูลทางอินเตอร์เนต
สงสัยว่าซัมซุงอาจเป็นโรคหัวใจ บวกกับคำพูดของคุณหมอที่โรงพยาบาลแพทย์4
หาหมอที่ ม.เกษตรรอบที่ 1 เข้า เข้าอยุรกรรม เจอหมอเด็ก x-ray ปอด
วินิฉัยว่า น้ำท่วมปวด เนื่องจากขอบปอดมีสีขาว จ่ายยาคาวาม๊อค แก้ไอ ขยายหลอดลม
เราตื้อหมอขอนัดขึ้นหมอคลินิกโรคหัวใจ คิวยาวมาก ได้ประมาณกลางเดือนธันวาปี 56
- กลางเดือนธันวาปี 56 ยังมีอาการไอไม่หาย สังเกตเวลาไปเดินเล่นทุกตอนเย็น
หลังจากเดินเล่นเสร็จ มีอาการหอบ หายเหนื่อยยากใช้เวลานาน
ไปหาหมอคลินิกโรคหัวใจ คิวสุดท้าย 11.30 น
รอตั้งแต่ 10 โมง บ่ายแล้วยังไม่ได้ตรวจ ซัมซุงเป็นคิวสุดท้าย
ปรากฏว่า เมื่อถึงคิวซัมซุง อาจารย์หมอไปกินข้าวก่อนซะแล้ว เหลือหมอเด็กเป็นผู้ชายตรวจ
คุณหมอ ฟังเสียงหัวใจ ตรวจเครื่อง EKG ดูฟิล์ม X-ray บอกซัมซุงปกติ อีกสามเดือนนัดดูอาการ
โอ้แม่เจ้า เรากับแฟนเหมือนยกภูเขาออกจากอก
-ปลายเดือนมกราคมปี 56 เนื่องจากยาที่ไปหาหมอที่เกษตรรอบแรกหมด แต่ซัมซุงยังไม่หายไอ
ไอแห้งๆถี่ขึ้น พาไปเดินเล่น ระยะทางสั้นๆ มีอาการเหนื่อยหอบง่าย หายใจแรง
หาหมอที่ ม.เกษตรรอบที่ 3 เข้าอยุรกรรม เจอหมอเด็ก x-ray แต่ไม่ใช่หมอคนเดิม
ดูเก่งและคล่องแคล่ว หมอให้ X-ray แล้วยืนยัน น้องหมามีอาการหัวใจโต ต้องรักษาคลินิกโรคหัวใจโดยเฉพาะ
นัดขึ้นคลินิกโรคหัวใจเฉพาะทางอีกครั้ง ให้ CoQ10 มาทาน ส่วนยาที่เคยกินมา ไม่ได้ให้ผลอะไรกับการรักษา
แต่คิวนัดคลินิกโรคหัวใจยาวมาก
-ต้นเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากที่เกษตร คิวยาวมาก ซัมซุงไอเยอะมาก ร้อนใจ searchหาข้อมูลทางเนต
กลางคืนนอนไม่ได้ ลุกขึ้นมาหอบ ลิ้นสีม่วงเป็นครั้งคราว
จึงพาซัมซุงไปโรงพยาบาลสัตว์สุวรรณชาด เป็นวันจันทร์ ซึ่งตรงกับคลินิคโรคหัวใจพอดี
บอกเล่าอาการเบื้องต้นให้หมออายุรกรรม ว่าซัมซุงเป็นโรคหัวใจ ขอตรวจเข้าคลินิคโรคหัวใจ
ซึ่งความเป็นจริงต้องทำการนัดหมายคุณหมอก่อนเป็นอาทิตย์ แต่เราขอร้องกลัวซัมซุงตายก่อนได้รับการรักษา
และบอกว่าบ้านเราอยู่ไกลมากพามาแต่ละทีลำบากมาก โชคดีที่สุนัขที่นัดตรวจโรคหัวใจมาก่อนเวลานัด
จึงทำให้ซัมซุงเป็นคิวแทรกได้รับการตรวจ คุณหมอธนิกาได้ทำการตรวจอย่างละเอียดยิบ
ตรวจ EKG ความดันโลหิต และ Ecco หัวใจ พบว่า ซัมซุงเป็นโรคหัวใจ มีขนาดโตนิดหน่อย ไม่มีอาการรั่ว
มีปัญหาที่หัวใจห้องบนขวา สารสื่อประสาทหัวใจ ตัวที่บังคับการเต้นหัวใจทำงานผิดปกติ ทำให้หัวใจเต้นช้ามาก
ตอนไปที่สุวรรณชาด หัวใจซัมซุงเต้นประมาณ 50-60 ครั้ง ซึ่งช้ามากๆ พร้อมหยุดเต้นทุกเมื่อ
โอ้ พ่อกับแม่ซัมซุงช๊อคมาก หมอจ่ายยามาสามตัว 1 Vasotop 2 karsivan 3 Spinronolactone
และแนะนำให้กิน CoQ10 ที่หมอเกษตรจ่ายมาควบคู่กันได้
ข้อแนะนำคุณหมอที่สุวรรณชาด
1 งดอาหารที่มีโซเดียม เช่น ขนมสุนัข ลดการทำงานหนักของไต และน้ำท่วมปอด
2 ทานอาหารสูตรโรคหัวใจ
3 ห้ามออกกำลังกายหักโหม
4 ห้ามดีใจ ตกใจ หรือเครียดเกิน
5 กินน้ำให้เพียงพอต่อวัน โดยคำนวณจาก ปริมาณน้ำเป็น CC = น้ำหนักสุนัข x 50
6 ให้สังเกตลิ้นว่าสีชมพูปกติดีไหม หากเป็นสีม่วงถือว่าอาการไม่ดี
คุณหมออธิบายเพิ่มโรคหัวใจในสุนัข ไม่มียารักษาให้หายขาด ส่วนมากเจอในน้องหมาอายุมาก
ยาที่ให้เป็นยา ที่ทำให้น้องหมาสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข ประคองอาการไปเท่านั้น
เช่น
- ยาขับน้ำ ขับน้ำที่ปอด เพื่อให้หายใจรับออกซิเจนได้ดีขึ้น น้องหมาหายใจสะดวก
- Karsivan ยาบำรุงเลือด ต้องการไซด์แอฟแฟคให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น
- ยาปรับความดัน Ramipril ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ
- CoQ10 บำรุงหัวใจ
ของซัมซุงไม่ได้ใช้ยาตัวอื่น เนื่องจาก ไม่มีอาหารรั่วของหัวใจ หรืออาการอย่างอื่นๆ
ก่อนหน้านี้ซัมซุงอยู่กับยายที่ต่างจังหวัด จะได้กินเยอะมากมาก ยายเลี้ยงไม่อั้น
วันละหลายมื้อ เช่น เช้า-กินนม สาย-กินอาหารเม็ด บ่าย-กินผลไม้และขนมหมา เย็น-กินอาหารเม็ด ค่ำ-ขนมหมา
ต้องมาปรับเปลี่ยนอาหารการกินกันใหม่ แรกๆยากมาก เพราะก่อนหน้านี้กินทั้งวัน
-เช้า กินนม และ CoQ10
-บ่าย กินอาหารเปียกสูตรโรคหัวใจ ใช้ยี่ห้อง Royal Canin ผสมกับ Hill
ประมาณสองช้อนโต๊ะกันซัมซุงอาเจียน เนื่องจาก ถ้าไม่ให้มื้อนี้ ซัมซุงจะอาเจียนน้ำย่อยออกมา
พร้อมให้ Vitaminเสริม สำหรับสุนัขแก่ เว้นวัน กับวิตามินบำรุงตับ
fish oil 1 แคปซูล พวก Omega 3 กับ 6 มีส่วนบำรุงหัวใจ
- บ่าย3-4 ก่อนออกไปเดินเล่น ให้แตงกวากินเล่น 1 ลูกเล็ก
- ห้าโมงเย็น พาไปเดินเล่นประมาณ 200-300 เมตร หยุดแวะกินยอดหญ้า 4-5 ยอด (ของโปรดซัมซุง)
- เย็น 6 โมง-1 ทุ่ม กินอาหารเปียกสูตรโรคหัวใจ ใช้ยี่ห้อง Royal Canin ผสมกับ Hill ประมาณ 6 ช้อนโต๊ะ
บางวัน ผสมข้าวกล้อง /เนื้อปลาน้ำจืด/ไข่ขาว
-ก่อนนอน หากซัมซุงขอขนม ไม่ยอมนอน ให้น้ำนมข้าวโพดประมาณ 30-50 CC
สิ่งที่ได้หลังจากทานยาและปรับเปลี่ยนอาหาร
- อัตราการเต้นหัวใจซัมซุง ทรงตัวอยู่ที่ 70 กว่าครั้งต่อนาที หากตื่นเต้นวัดได้ประมาณ 90 ครั้งครั้งต่อนาที
ยังไม่พบว่าเต้นช้ากว่านี้
- ซัมซุงอ้อนวอนขอขนมหมาทั้งวัน ใจต้องแข็งพอควร
- อาการไอหายไปสิ้นเชิง
- น้องแทบไม่หอบ ใช้ชีวิตได้ปกติสุข
- นอนหลับยาวทั้งคืน
- กลิ่นเหม็นสาปซัมซุงที่มีมาทั้งชีวิตหายไป น้องไม่มีกลิ่นตัวเลย ทั้งๆที่ไม่อาบน้ำเกือบเดือน
อันนี้คิดว่าเนื่องจากปรับเปลี่ยนอาหาร
- น้องกินน้ำเก่งขึ้น ฉี่ถี่กว่าเดิม
- น้องร่าเริง แจ่มใส ไม่มีอาการเบื่ออาหาร หรือเป็นลม
- หลังจากไปหาหมอที่สุวรรณชาดสักพักใหญ่ ได้เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเกษตร คลีนิคโรคหัวใจอีกสองครั้ง
ซึ่งทำการนัดก่อนหน้าที่จะไปสุวรรณชาด ได้ทำการ EKG และ Ecco หัวใจ พบว่า อาจารย์หมอและหมอวินิฉัยไปในทิศทางเดียวกับสุวรรณชาด
เราอยากจะขอบคุณโรงพยาบาลสัตว์สุวรรณชาดจริงๆ บริการดีมาก คุณหมอตรวจละเอียด ไม่รีบเร่ง และรอยยิ้มของพนักงานทุกๆคน
เราไม่ได้ว่า ว่าโรงพยาบาลเกษตรไม่ดี เพราะตลอดชีวิตของซัมซุง รอดตายมาได้หลายรอบหลายหน
ก็เพราะโรงพยาบาลเกษตรนี่แหละ ที่ช่วยชีวิต เพียงแต่บางคราวที่อยุรกรรมเจอหมอเด็กที่ไม่มีประสบการณ์เพียงพอในการวินิจฉัยโรค
จึงโฟกัสไม่ตรงจุดกับโรคที่เป็น ทำให้เสียเวลาเป็นอย่างมาก และคิวคลินิคเฉพาะทางที่มากมายมหาศาลก็เป็อุปสรรคหนึ่งในการรักษา
ถ้าแก้ไขตรงสองจุดนี้ได้จะดีมาก ส่วนค่ารักษาพยาบาล ไม่หนีกันมากมาย
สุดท้ายนี้ อยากให้เพื่อนๆที่มีน้องหมาเป็นโรคหัวใจ ช่วยแชร์และแนะนำวิธีการเลี้ยงดูสุนัขโรคหัวใจ
เผื่อสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับเราหรือคนอื่นๆได้