[CR] BANGKOK SHUTDOWN หนังฟอร์มยักษ์ที่ทุ่มทุนอย่างอลังการณ์งานสร้าง สุดท้ายฉายจริงกลายเป็นหนังต้นทุนต่ำเกรดบี

กระทู้รีวิว
ค่ายหนัง     บลูตะกายพิคเจอร์
ทุนสร้าง     500 ล้านเหรียญรูปี
ผู้เขียนบทและกำกับ  ไม่ประสงค์ออกนาม
ดารานำฝ่ายชาย  เทพเทือก  เมือกตะบัน ( รับบทพระเอกและเป็นผู้ช่วยผู้กำกับ)
ดารานำฝ่ายหญิง  ตั๊น  ภิรมย์ไม่สมประดี
ดาราสมทบ   โตโน่ โง่ตลอด, แตงโม โชว์ถ่อย,  เจ เจอตรีน, พงศ์พัฒน์  วชิระพยาบาล  นกสองหัว  และดาราตัวประกอบรับเชิญอีกมากมาย

หนังเรื่องนี้เปิดตัวด้วยการทุ่มทุนโปรโมทอย่างยิ่งใหญ่ ในวันแถลงข่าวมีสื่อมวลชนทั้งไทยและเทศต่างให้ความสนใจกันอย่างมากมาย  ประชาชนทั่วไปจับตามองด้วยความระทึกขวัญ  หลายคนแตกตื่นถึงกระแสความแรงของภาพยนตร์เรื่องนี้ ถึงกับเตรียมซื้อข้าวสารอาหารแห้งกักตุนเอาไว้ (โดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม)  โดยผู้ช่วยผู้กำกับและรับบทเป็นพระเอกของเรื่อง ได้ประกาศว่าหนังจะเข้าฉายวันแรกที่สี่แยกเธียเตอร์  20 แห่งทั่วกรุงเทพพร้อมกันในวันที่ 13 มกราคม 57

แต่ถึงวันหนังเปิดตัวจริงๆ  กลับหดโรงที่เข้าฉายเหลือเพียงแค่ 7 โรงจากที่คุยไว้ 20 แห่งทั่วกรุง ข่าววงในแจ้งว่า งบประมาณถูกตัดออกกะทันหัน เนื่องจากนายทุนเห็นว่าเป็นการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากเกินไป  อีกเหตุผลหนึ่งคือกลัวว่าถ้าโรงฉายเยอะ แต่คนดูโหรงเหรงจะยิ่งส่งภาพลบกับตัวหนัง

การดำเนินเนื้อเรื่องช่วงแรกๆค่อนข้างจืดชืดไม่สมราคาคุยที่ทำให้คนดูตั้งตารอชม  อาจเป็นเพราะหนังถูกตัดงบลงไปเยอะ ทำให้ตัวประกอบที่แสดงเป็นมวลมหาประชาชนวันที่เริ่มต้นชัตดาวน์ดูหรอมแหรม กระจัดกระจายเป็นหย่อมๆ  แม้จะพยายามใช้มุมกล้องและ CG ช่วยแต่ก็ไม่เนียนพอ  (ตอนหลังมีเอาเต๊นท์มากางและปล่อยให้พ่อค้าแม่ค้ามาเปิดท้ายขายของเพื่อให้ดูคึกคักขึ้น แต่ก็ไม่ค่อยได้ผล)

บทของหนังก็ดูโดดไปโดดมาไม่ต่อเนื่อง หาจุดร่วมกับอารมณ์คนดูไม่ได้ หลายๆฉากดูไม่สมจริงและไม่มีน้ำหนักให้ตัวหนังดูมีความน่าเชื่อถือ  ยิ่งกลางๆเรื่องจืดชืดน่าเบื่อมาก ชนิดชวนหลับเอาง่ายๆ  แอบได้ยินเสียงคนดูบ่นพึมพำเป็นเสียงเดียวกัน

"เมื่อไหร่แมร่มจะจบซะทีวะ....กุรำคาญ "

แต่ก็มีฉากฮาๆบางฉาก ที่สามารถเรียกเสียงหัวเราะให้กับคนดูได้ชนิดท้องแข็ง คือฉากเผารถตอนม็อบบุก บชน. กับวลีเด็ดของตัวประกอบที่มาขโมยซีนด้วยสำเนียงทองแดง

"ลูกพี่ ๆ  ผมเผารถมันแล้ว "

นอกจากนั้น ก็ยังมีฉากใหญ่ๆที่มีการทำสงครามกันกลางสี่แยก  ยิงกันดุเดือดเลือดพล่านด้วยอาวุธสงครามนานาชนิด  กระชากอารมณ์คนดูที่กำลังจะหลับให้ลุกขึ้นมาลุ้นระทึกไปกับฉากมือปืนป๊อบคอร์น  ที่มีข่าวว่าลงทุนใช้มืออาชีพโดยความร่วมมือของกองทัพเรือที่เอื้อเฟื้อนักแสดงจากหน่วยเลิฟซีน

อย่างไรก็ตาม นอกจากบทบู๊แล้ว  ยังมีฉากดรามาเรียกน้ำตาจากบรรดาแม่ยกได้อีกหลายฉาก  โดยเฉพาะฉากที่พระเอกของเรื่องต้องหลั่งน้ำตากลางเวทีด้วยความเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้งเมื่อรู้ว่างบประมาณใกล้หมดแล้ว หนำซ้ำตัวเองยังต้องตกเป็นผู้ต้องหากบฏตามด้วยคดีอีกหลายสิบคดี  ฉากนี้พระเอกทำได้ซึ้งพอสมควร ถึงแม้บางคนจะดูแล้วขำก็ตาม

แต่ฉากบางฉากที่ต้องรันทด อย่างตอนที่พระเอกตังหมด แล้วต้องเที่ยวเดินขอทานตามถนน ดูไม่ค่อยเนียน เพราะสีหน้าแววตาท่าทางดูดีอกดีใจอย่างออกนอกหน้าเมื่อมีสาวกนกหวีดมาบริจาคเงินกันอย่างมากมาย  (ความจริงตามบทพระเอกจะต้องหลั่งน้ำตาซาบซึ้งกับเงินที่บรรดาแม่ยกเอามาบริจาคใส่กระสอบ  แต่เหมือนดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่)

นอกจากนี้ยังมีฉากวาบหวามชวนสยิว เมื่อมีกระเทยควาย ดารารับเชิญดีกรีด๊อกเตอร์มาใส่ชุดนอนซีทรูสีชมพูบนเวที  ฉากนี้ถ้าใครใจไม่แข็งไม่ควรดูเด็ดขาด เพราะอาจถึงอาเจียนได้

แต่จุดเด่นของหนังก็มีอยู่บ้าง  ตรงที่คนดูไม่อาจคาดเดาเลยว่า หนังจะจบลงแบบไหน พระเอกจะชนะ หรือจะแพ้ หรือจะตายหงตายห่านเมื่อไหร่  รถถังจะออกมามั๊ย ถ้ารถถังมาแล้วเครื่องบินจะมาหรือเปล่า เหมือนผู้กำกับเองกำกับไปก็นึกเนื้อเรื่องไปวันต่อวัน ไม่รู้จะจบไงดี  วันก่อนยังด่าพวกรากหญ้าไร้การศึกษา ด่าโครงการประชานิยม  พอวันรุ่งขึ้นออกมาหลั่งน้ำตาสงสารชาวนาที่ไม่ได้เงินจากโครงการประชานิยม   เล่นเอาคนดูมึนตึ้บ โดยเฉพาะเหล่าดารารับเชิญพวกหมอ อาจารย์หมาลัยทั้งหลาย  ต่างพากันปรับตัวสาม....โร้ย....หกสิบองศา  กันแทบไม่ทัน

สุดท้าย หนังจบลงแบบดื้อๆ  ไฮไลท์ของเรื่องที่เป็นชื่อของหนัง  BANGKOK SHUTDOWN   กลับถูกพระเอกของเรื่องประกาศหยุดชัดดาวน์เอาง่ายๆ ชนิดกระชากอารมณ์กองเชียร์  ผมเห็นหลายๆคนเดินออกจากโรงตอนหนังจบพร้อมกับบ่นเบาๆกับเพื่อนที่มาด้วยว่า

"ตกลงทั้งเรื่องนี่มันชัดดาวน์กันตอนไหนวะ  ทั้งเรื่องแมร่มปิดสี่แยกไฟแดง 5-6 แห่งแล้วก็บอกว่าชัดดาวน์  ไอ้ซัด   กรูเห็นคนกรุงเทพเค้าก็ใช้ชีวิตกันตามปรกติ  แมร่ม หลอกกรูเสียตังมาดู เสียดายเงินชริบ"


บทสรุป   เป็นหนังที่ทุ่มทุนสร้างอย่างกับหนังฮอลลี่วู้ดฟอร์มยักษ์  แต่เอาเข้าจริง ทำออกมาได้แย่กว่าหนังต้นทุนต่ำอย่างเรื่องบ้านผีปอบ หรือ หอแต๋วแตก ซะอีก การแคสติ้งนักแสดงแย่มาก ไปเอาโจรหน้าดำประวัติชั่วมาเล่นบทคนดีมีคุณธรรม  ทำให้ตัวหนังขาดความน่าเชื่อถือตั้งแต่แรก  แถมดารานักแสดงก็แย่งซีนกันเองหลายฉาก เหมือนอยากแจ้งเกิด โดยเฉพาะหลวงปู่พระพุดธกักขฬะ  ที่พยายามเลียนแบบบทพระอาจารย์ธรรมโชติในหนังบางระจัน  แต่เล่นไปเล่นมา ดูเหมือนเณรแอ ย่างเด็กมากกว่า

ปล. ผู้กำกับยังไม่สรุปรายได้ของหนังว่าโกยเงินไปทั้งหมดเท่าไหร่  แต่แอบได้ยินมาว่า ลูกชายผู้กำกับมีเงินไปซื้อที่ดินแถวบ้านกว่า 200 ล้านบาท เลยคิดว่าหนังเรื่องนี้น่าจะไม่ขาดทุน
ชื่อสินค้า:   BANGKOK SHUTDOWN
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่