[CR] Unseen Japan - พาเที่ยวจังหวัด Fukui : วัด Eiheiji

Eiheiji (永平寺・えいへいじ) วัดเซนเก่าแก่ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1244 แห่งนี้มีชื่อเสียงมายาวนานในเรื่องของการฝึกสมาธิแบบเซน ประกอบด้วยอาคารน้อยใหญ่รวมกันกว่า 70 หลัง (ไม่สามารถเข้าชมได้ทุกหลัง) และด้วยธรรมชาติแวดล้อมอันร่มรื่นบวกกับการเดินทางที่ไม่ยากลำบากนัก ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้น ๆ อีกแห่งหนึ่งของจังหวัด Fukui ครับ


เมื่อนั่งรถบัสเห็นป้ายหน้าวัดนี้ก็แสดงว่ามาถึงวัดแล้วครับ


รถบัสจะจอดบริเวณหน้าวัดเฉพาะสำหรับส่งคนเท่านั้นนะครับ ถ้าจะขึ้นรถกลับ Fukui หรือไปที่อื่นต่อ ต้องไปขึ้นที่ป้ายอื่นตามที่จะกล่าวถึงด้านล่างครับ


ต้นสนเก่าแก่ต้อนรับผู้มาเยือน





ธรรมชาติอันร่มรื่นในบริเวณทางเดินเข้าวัด
ในภาพด้านล่างสุด ถ้าข้ามสะพานไปแล้วเลี้ยวขวา จะเป็นห้องน้ำก่อนเข้าวัดครับ แต่ศาลเหล่านี้ไม่ใช่ห้องน้ำนะ


ประตู Kara-Mon (唐門・からもん) สัญลักษณ์ของวัด สำหรับต้อนรับพระบวชใหม่และตัวแทนจากราชสำนักเท่านั้น


สำหรับคนทั่วไปต้องเข้าออกทางประตูนี้ครับ ซื้อบัตรได้หลังจากเข้าประตูนี้ไปแล้ว ราคา 500 เยน จะซื้อจากเคาน์เตอร์หรือเครื่องขายตั๋วก็ได้


หลังจากซื้อตั๋วแล้วก็เตรียมเข้าสู่ตัววัด


เดินตามทางมาเรื่อย ๆ จะมาถึงจุดที่พระของวัดนี้ซึ่งมีชื่อเรียกโดยเฉพาะว่า Unsui-san (雲水さん・うんすいさん) จะมาอธิบายแผนผังวัดและข้อควรระวังต่าง ๆ ซึ่งหลวงพี่ก็จะอธิบายไปเรื่อย ๆ ครับ ถ้าไปถึงเอาตอนที่กำลังอธิบายอยู่ จะฟังต่อไปจนจบหรือจะรอรอบต่อไปก็ได้
อนึ่ง ที่นี่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปบรรดาหลวงพี่หลวงพ่อทั้งหลายนะครับ โปรดระวังด้วย


จุดนี้เป็นบริเวณที่เรียกว่า Sanshō-Kaku (傘松閣・さんしょうかく) หรือหอร่มสน โดยมีไฮไลต์อยู่ที่จิตรกรรมบนเพดาน 144 ภาพ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรูปพรรณไม้และนกต่าง ๆ


(ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต)

แต่จะมีภาพพิเศษอยู่ 5 ภาพ ได้แก่ภาพปลาคาร์พ 2 ภาพ ภาพเสือแบบจีน 2 ภาพ และภาพกระรอก 1 ภาพ ซึ่งว่ากันว่าถ้าใครหาเจอทั้งห้าภาพ คำอธิษฐานจะเป็นจริง ใครสนใจก็ลองดูครับ หาไม่ยาก ผมเองก็หาครบเหมือนกัน แต่รูปกระรอกจะยากหน่อย ต้องสังเกตจากพวงองุ่น


ออกมาสู่บริเวณระเบียงด้านนอกก็จะพบกับหอระฆังของวัด



บริเวณนี้เรียกว่า San-Mon (山門・さんもん) หรือประตูใหญ่ของวัด ซึ่งช่วงที่ผมไปเขาคลุมผ้าใบไว้อยู่ เลยไม่ได้ออกมาถ่ายรูปตัวประตูด้านนอก ได้แต่ถ่ายรูปบริเวณด้านในครับ อย่างสองภาพนี้ก็เป็นทวารบาลทั้งสองด้านของประตู


ถ้าเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเต็มที่น่าจะสวยกว่านี้ พอดีตอนที่ไปใบไม้มันร่วงเกือบหมดแล้ว


บันไดระเบียงวัด ขัดจนมันวับด้วยฝีมือหลวงพี่ทั้งหลาย
(ลืมบอกไปว่าที่นี่ต้องถอดรองเท้าใส่ถุงแล้วถือเข้าไปด้วยครับ)


บริเวณนี้เรียกว่า Daiku-In (大庫院・だいくいん) หรือโรงครัวของวัด (เข้าใจว่าบริเวณที่ใช้ประกอบอาหารอยู่ด้านหลัง)


ว่ากันว่าถ้าลูบท่อนไม้หน้าโรงครัวนี้ 3 ครั้ง ฝีมือทำอาหารจะพัฒนาขึ้นครับ
(ถ้าเดินขึ้นมาจากด้านล่างอาจมองไม่เห็นมุมนี้ ต้องมองกลับลงไปหรือเป็นตอนเดินลงถึงจะเห็นครับ)


ด้านบนสุดเป็นหอพระธรรมหรือที่เรียกว่า Hattō (法堂・はっとう) ซึ่งพระที่วัดนี้จะมาสวดมนต์ที่นี่ทุกเช้าครับ (ก่อนวัดเปิด)


ดูเหมือนจะเป็นธรรมมาสน์


Jōyō-Den (承陽殿・じょうようでん) หรือหอบูชาท่านผู้ก่อตั้งวัด (มารู้ทีหลังว่าเขาห้ามถ่ายรูปในนี้...ขอโทษด้วยครับ ใครไปก็อย่าไปเผลอถ่ายรูปนะครับ เดี๋ยวจะโดนหลวงพี่ดุเอา)


แต่ประตูตรงนี้ถ่ายรูปได้ครับ


ย้อนกลับมาที่หอพระพุทธหรือ Butsu-Den (仏殿・ぶつでん) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของวัดรวมถึงเป็นที่สวดมนต์ตอนกลางวันและตอนกลางคืนครับ จะสังเกตได้ว่าพระทุกรูปเวลาจะเดินผ่านบริเวณนี้จะต้องยกมือไหว้ก่อนทุกครั้ง


ประตู San-Mon ที่พูดถึงก่อนหน้านี้ ถ่ายจากด้านบน จะเห็นได้ว่ามีผ้าใบคลุมอยู่



อาคารตรงหน้าที่อยู่ด้านหลังต้นสนเรียกว่า Sōdō (僧堂・そうどう) หรือหอพระสงฆ์ พูดง่าย ๆ ก็เป็นเหมือนกุฏินั่นแหละครับ โดยพระทุกรูปจะอยู่รวมกันในพื้นที่เปิด และแต่ละรูปจะมีพื้นที่ส่วนตัวคนละประมาณหนึ่งเสื่อเท่านั้น ซึ่งจะต้องทั้งนั่งสมาธิ รับประทานอาหารและนอนบนพื้นที่ดังกล่าวครับ ผมเองไม่ได้ถ่ายรูปด้านในมาเพราะไม่แน่ใจว่าเขาห้ามถ่ายรูปหรือเปล่า ถ้าใครมีโอกาสได้ไปก็ลองไปดูกันนะครับ แล้วจะได้เห็นว่าพระที่นี่ท่านใช้ชีวิตสมถะจริง ๆ








ทิวทัศน์ในบริเวณวัดครับ ร่มรื่นมาก เดินเพลิน ๆ ดีครับ


กลับเข้ามาในตัวอาคารอีกครั้ง บริเวณนี้จะมีการเปิดวีดิทัศน์เกี่ยวกับการฝึกสมาธิแบบเซนให้ดูกันครับ และถ้าใครสนใจสามารถมาค้างคืนที่วัดเพื่อรับการฝึกแบบเดียวกับพระที่นี่ได้ (ต้องจองล่วงหน้า) หรือจะทดลองนั่งสมาธิเป็นเวลา 20 นาทีก็ได้ครับ


ดูเหมือนจะเป็นเจดีย์องค์เดียวในวัด


ตรงนี้เป็นหอสมบัติของวัดครับ สามารถเข้าชมได้ อยู่ก่อนทางออกจากตัววัด
(ต้องเข้าจากด้านใน ไม่ใช่เข้าจากประตูด้านนอกตรงนี้)


ออกมานอกวัดอีกครั้ง


ก่อนกลับอย่าลืมแวะย่านการค้าหน้าวัดด้วยนะครับ ยังไงก็ต้องเดินผ่านทางนี้เพื่อไปขึ้นรถบัสอยู่แล้ว แต่ตอนที่ผมไปพอดีนัดกับเพื่อนคนญี่ปุ่นไว้ ซึ่งเขาก็วนรถมาเจอผมตรงนี้พอดี (ผมเองเดินเที่ยวในวัดเพลินจนเกินเวลานัดไปนิดหน่อย) ก็เลยยังไม่ได้สำรวจว่าบริเวณนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง


(ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต)

ที่แน่ ๆ ไม่ควรพลาดขนม Dango (団子・だんご) ร้าน Sankō (山侊・さんこう) ครับ เขาว่าเป็นของขึ้นชื่อละแวกนี้
นอกนั้นก็มีร้านอาหารมังสวิรัติ โดยเฉพาะเต้าหู้ที่เป็นของขึ้นชื่อเช่นกันครับ


และสำหรับผู้ที่สนใจการสะสมภาพที่ระลึกจากศาสนสถานหรือ Goshi-in (ご朱印・ごしゅいん) ก็สามารถขอรับได้ในบริเวณเดียวกับเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วครับ โดยเป็นเคาน์เตอร์ที่อยู่ข้าง ๆ กัน ซึ่งสามารถทิ้งสมุดไว้และมารับคืนก่อนกลับได้ครับ (ราคา 300 เยน)

ส่วนตัวประทับใจกับที่นี่มาก เรียกว่าเป็นวัดญี่ปุ่นที่ชอบมากที่สุดในบรรดาทุกวัดที่เคยไปมาก็ว่าได้ เสียดายที่มีเวลาไม่มากนัก ถ้ามีโอกาสก็อยากอยู่ให้นานกว่านี้ คิดว่าถ้าใครมีโอกาสได้ไปที่นี่ก็น่าจะคิดเหมือนกันครับ
ชื่อสินค้า:   ประเทศญี่ปุ่น
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่