แถลงการณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ที่ระบุว่า
การใช้กำลังเข้าบังคับไม่สามารถยุติวิกฤตความ ขัดแย้งทางการเมืองที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันได้
เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมยินดี และควรให้การสนับสนุน
เพื่อให้ทหารรักษาจุดยืนในการครองตนตามหลักการประชาธิปไตยไว้ให้มั่นคงก็จริง
แต่อาจจะยังไม่เพียงพอสำหรับกองทัพ ซึ่งถือเป็นองคาพยพหนึ่งของรัฐ และมีหน้าที่
ในการดูแลรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนในประเทศ
การเป็นกลางหรือวางเฉยในบางสถานการณ์ มิได้ส่งผลดีหรือเป็นคุณต่อประโยชน์ส่วนรวมเสมอไป
เพราะในด้านหนึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ามีกำลังพลของกองทัพเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์
ทางการเมืองในระยะที่ผ่านมา
ไม่ว่าจะเป็นการรับงาน "อารักขา" ผู้นำการชุมนุมประท้วง มีการพกพาอาวุธที่เป็นของราชการ ไม่ว่า
จะเป็นกรณีการตกเป็น ผู้ต้องหาในคดีลอบสังหารเป้าหมายที่มีบทบาทเคลื่อนไหวทางการเมือง ฯลฯ
ความไม่สอดคล้องกันระหว่างแถลงการณ์กับพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจริงเหล่านี้
จะต้องได้รับการสะสางให้โปร่งใส
และหากเหล่าทัพยืนยันว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นมิใช่จุดยืนของต้นสังกัด แต่เป็นเรื่องส่วนบุคคล
ของกำลังพลแต่ละนาย
ก็จะต้องเปิดทางสะดวกให้กับการดำเนินคดี เพื่อลดความระแวงสงสัยของสังคมลงมา
นอกจากนั้น การที่กองทัพมิได้แสดงตัวว่าพร้อมจะเป็น "หน่วยงานใต้บังคับบัญชา"
ของรัฐบาลตามภาระหน้าที่ที่กำหนดไว้ในกฎหมาย
ก็มีส่วนทำให้การแสดงออกของกลุ่มผู้ ต่อต้านรัฐบาลเป็นไปอย่างฮึกเหิม เพราะเมื่อวางเฉย
ต่อพฤติกรรมของการชุมนุมประท้วงที่หมิ่นเหม่ต่อกฎหมาย ในอีกด้านหนึ่งก็เป็นเสมือนการ
"ให้ท้าย" เสมือนเลือกข้างเอนเอียงไปด้านผู้ชุมนุม
คำประกาศว่าจะไม่รัฐประหาร ไม่ยึดอำนาจ ไปจนถึงการดูแลความปลอดภัยของประชาชนนั้น
พึงได้รับการตรวจสอบจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้นด้วย
และถ้าต้องการให้คนทั่วไปเกิดความเชื่อมั่น ก็จะต้องปฏิบัติตัวตามที่ให้สัญญากับสังคมไว้ด้วย
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU16VTVNalUxTUE9PQ==§ionid=
ผบ.ทบ. กร้าว ไม่สัญญา จะไม่มีปฏิวัติ ข่าวไทยรัฐออนไลน์
“ประยุทธ์” ไม่สัญญาไม่มีปฏิวัติ ชี้ทุกอย่างอยู่ที่สถานการณ์ โยน “สุเทพ-ยิ่งลักษณ์” หาช่องเจรจา
ระบุชัดกฎอัยการศึกใช้เมื่อเกิดจลาจล แค่คนไทยเลือดร้อนใจเร็ว และอย่าไปเติมเชื้อไฟ ลั่นไม่ยอมแบ่งแยก
ประเทศไทย เตือนตำรวจบ้านอย่าใช้ธงแดงสวนสนามแทนธงชาติ เตือนอย่าให้เห็นอีก...
<
<
<
เมื่อถามว่าปฏิวัติรัฐประหารเลิกคิดไปเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาพูด
กันทุกวัน ส่วนใครจะมองว่าสถานการณ์จะสิ้นสุดด้วยการปฏิวัติก็มองได้ อยากให้ทหารทำอะไรก็บอก
การปฏิวัติที่ผ่านมาเพราะมีเหตุการณ์รุนแรง ความไม่เป็นธรรม แต่ในวันนี้โลกเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน
ประชาชนก็เปลี่ยน พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ไปถึงตรงนั้นเพราะเป็นเรื่องที่อันตราย ตนคงไม่สัญญาว่าการ
ปฏิวัติจะมีหรือไม่มี แต่การดำเนินการดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องในทางนิตินัย ซึ่งการปฏิวัติทุกครั้งเพื่อให้
สถานการณ์ยุติ แล้วยุติได้หรือไม่ก็ต้องไปนั่งวิเคราะห์กัน ทุกสถานการณ์ต้องแก้ไขด้วยกฎหมาย หากแก้
ไม่ได้ก็ต้องใช้วิธีพิเศษ ส่วนจะเป็นวิธีพิเศษอย่างไรก็ต้องไปว่ากัน อย่ามาโจมตีทหาร
http://www.thairath.co.th/content/pol/406755
ถามกันจัง จะปฏิวัติไหม? เลยบอกกันไปเลย
ไม่ได้สัญญานะ
สะใจเลขาธิการ กปปส. ดี เพราะรอวันนี้ มาหลายเดือนแล้ว
คราวนี้ ก็แค่ รออีกหน่อย "เมื่อไหร่" เท่านั้นเอง ทหารก็ขนมาแล้ว
ว่าแต่ คนที่บอกว่า ต่อต้านปฏิวัติ เนี่ยะ จะออกมา มากเหมือน ต่อต้าน
พ.ร.บ. นิรโทษกรรมป่าว
กลัวจะเจอ มวลมหาประชาชน แห่แหน นำดอกไม้มาให้ ทหารเหมือนคราวที่แล้วน่ะสิ
ไม่ปฏิวัติไม่พอ บทบรรณาธิการ ข่าวสดออนไลน์ ...... ไม่ได้สัญญานะ !!!!!!!!!!!!
การใช้กำลังเข้าบังคับไม่สามารถยุติวิกฤตความ ขัดแย้งทางการเมืองที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันได้
เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมยินดี และควรให้การสนับสนุน
เพื่อให้ทหารรักษาจุดยืนในการครองตนตามหลักการประชาธิปไตยไว้ให้มั่นคงก็จริง
แต่อาจจะยังไม่เพียงพอสำหรับกองทัพ ซึ่งถือเป็นองคาพยพหนึ่งของรัฐ และมีหน้าที่
ในการดูแลรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนในประเทศ
การเป็นกลางหรือวางเฉยในบางสถานการณ์ มิได้ส่งผลดีหรือเป็นคุณต่อประโยชน์ส่วนรวมเสมอไป
เพราะในด้านหนึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ามีกำลังพลของกองทัพเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์
ทางการเมืองในระยะที่ผ่านมา
ไม่ว่าจะเป็นการรับงาน "อารักขา" ผู้นำการชุมนุมประท้วง มีการพกพาอาวุธที่เป็นของราชการ ไม่ว่า
จะเป็นกรณีการตกเป็น ผู้ต้องหาในคดีลอบสังหารเป้าหมายที่มีบทบาทเคลื่อนไหวทางการเมือง ฯลฯ
ความไม่สอดคล้องกันระหว่างแถลงการณ์กับพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจริงเหล่านี้
จะต้องได้รับการสะสางให้โปร่งใส
และหากเหล่าทัพยืนยันว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นมิใช่จุดยืนของต้นสังกัด แต่เป็นเรื่องส่วนบุคคล
ของกำลังพลแต่ละนาย
ก็จะต้องเปิดทางสะดวกให้กับการดำเนินคดี เพื่อลดความระแวงสงสัยของสังคมลงมา
นอกจากนั้น การที่กองทัพมิได้แสดงตัวว่าพร้อมจะเป็น "หน่วยงานใต้บังคับบัญชา"
ของรัฐบาลตามภาระหน้าที่ที่กำหนดไว้ในกฎหมาย
ก็มีส่วนทำให้การแสดงออกของกลุ่มผู้ ต่อต้านรัฐบาลเป็นไปอย่างฮึกเหิม เพราะเมื่อวางเฉย
ต่อพฤติกรรมของการชุมนุมประท้วงที่หมิ่นเหม่ต่อกฎหมาย ในอีกด้านหนึ่งก็เป็นเสมือนการ
"ให้ท้าย" เสมือนเลือกข้างเอนเอียงไปด้านผู้ชุมนุม
คำประกาศว่าจะไม่รัฐประหาร ไม่ยึดอำนาจ ไปจนถึงการดูแลความปลอดภัยของประชาชนนั้น
พึงได้รับการตรวจสอบจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้นด้วย
และถ้าต้องการให้คนทั่วไปเกิดความเชื่อมั่น ก็จะต้องปฏิบัติตัวตามที่ให้สัญญากับสังคมไว้ด้วย
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU16VTVNalUxTUE9PQ==§ionid=
ผบ.ทบ. กร้าว ไม่สัญญา จะไม่มีปฏิวัติ ข่าวไทยรัฐออนไลน์
“ประยุทธ์” ไม่สัญญาไม่มีปฏิวัติ ชี้ทุกอย่างอยู่ที่สถานการณ์ โยน “สุเทพ-ยิ่งลักษณ์” หาช่องเจรจา
ระบุชัดกฎอัยการศึกใช้เมื่อเกิดจลาจล แค่คนไทยเลือดร้อนใจเร็ว และอย่าไปเติมเชื้อไฟ ลั่นไม่ยอมแบ่งแยก
ประเทศไทย เตือนตำรวจบ้านอย่าใช้ธงแดงสวนสนามแทนธงชาติ เตือนอย่าให้เห็นอีก...
<
<
<
เมื่อถามว่าปฏิวัติรัฐประหารเลิกคิดไปเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาพูด
กันทุกวัน ส่วนใครจะมองว่าสถานการณ์จะสิ้นสุดด้วยการปฏิวัติก็มองได้ อยากให้ทหารทำอะไรก็บอก
การปฏิวัติที่ผ่านมาเพราะมีเหตุการณ์รุนแรง ความไม่เป็นธรรม แต่ในวันนี้โลกเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน
ประชาชนก็เปลี่ยน พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ไปถึงตรงนั้นเพราะเป็นเรื่องที่อันตราย ตนคงไม่สัญญาว่าการ
ปฏิวัติจะมีหรือไม่มี แต่การดำเนินการดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องในทางนิตินัย ซึ่งการปฏิวัติทุกครั้งเพื่อให้
สถานการณ์ยุติ แล้วยุติได้หรือไม่ก็ต้องไปนั่งวิเคราะห์กัน ทุกสถานการณ์ต้องแก้ไขด้วยกฎหมาย หากแก้
ไม่ได้ก็ต้องใช้วิธีพิเศษ ส่วนจะเป็นวิธีพิเศษอย่างไรก็ต้องไปว่ากัน อย่ามาโจมตีทหาร
http://www.thairath.co.th/content/pol/406755
ถามกันจัง จะปฏิวัติไหม? เลยบอกกันไปเลย ไม่ได้สัญญานะ
สะใจเลขาธิการ กปปส. ดี เพราะรอวันนี้ มาหลายเดือนแล้ว
คราวนี้ ก็แค่ รออีกหน่อย "เมื่อไหร่" เท่านั้นเอง ทหารก็ขนมาแล้ว
ว่าแต่ คนที่บอกว่า ต่อต้านปฏิวัติ เนี่ยะ จะออกมา มากเหมือน ต่อต้าน
พ.ร.บ. นิรโทษกรรมป่าว
กลัวจะเจอ มวลมหาประชาชน แห่แหน นำดอกไม้มาให้ ทหารเหมือนคราวที่แล้วน่ะสิ